สนับสนุนครับ ข้อมูลจาก
http://brightlives.th.88db.com/food/food_lard.htmน้ำมันพืช น้ำมันปาล์ม จัดเป็นไขมันชนิดไม่อิ่มตัว การผลิตต้องผ่านกรรมวิธีฟอกสีให้ดูสะอาด สดใส แวววาว
พร้อมกับแต่งกลิ่นไม่ให้เหมืนหืน ที่โฆษณาว่าไม่เป็นไขนั้น จริง ๆ แล้ว น้ำมันพืชจะไม่เป็นไขก็ต่อเมื่ออยู่ในอุณหภูมิต่ำกว่า
25 องศาฯ แต่อุณหภูมิในร่างกายคนเราอยู่ที่ประมาณ 37 องศาฯ ซึ่งเมื่อน้ำมันพืช น้ำมันปาล์มเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะกลายเป็นกาวเหนียว ๆ เข้าไปเกาะเคลือบผนังลำคอ ลำไส้ กระเพาะ ทำให้ผนังลำไส้เล็กไม่สามารถดูดซึมสารอาหารต่างๆ ไปหล่อเลี้ยงร่างกายได้ นำไปสู่โรคต่าง ๆ มากมาย ทั้งโรคอ้วน โรคคอเลสเตอรอลสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ โรคไต โรคภูมิแพ้ โรคเบาหวาน โรคไทรอยด์ รวมถึงทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ด้วย
ตรงข้ามกับน้ำมันหมู ที่เป็นไขมันอิ่มตัว แต่เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะไม่เป็นไข และละลายกับน้ำได้ ร่างกายจึงดูดซึมสารอาหารไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างเป็นปกติ คนสมัยก่อนจึงไม่มีปัญหาโรคภัยรุมเร้ามากมายอย่างในปัจจุบัน
ดังนั้น เราจึงควรคิดใหม่ทำใหม่กันอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงที่น้ำมันพืชกำลังขาดแคลน หันมาเคี่ยวน้ำมันหมูใช้เองกันดีกว่า ทั้งประหยัด ทั้งปลอดภัยกว่าน้ำมันพืชเป็นไหน ๆ วิธีทดสอบความเป็นไขของน้ำมันพืชและน้ำมันหมู
เอาน้ำมันพืชใช่ภาชนะ แล้วเอาไปตากแดดในอุณหภูมิประมาณ 30 -37 องศา ซึ่งใกล้เคียงกับร่างกายของเราสัก 10 นาที แล้วลองเช็ดน้ำมันออก จะพบว่าเป็นเมือกกาวซึ่งเช็ดออกยากมาก ล้างไม่มีทางออก ต้องใช้ "กรด" เท่านั้นถึงล้างออก! ตรงข้ามกับน้ำมันหมู น้ำมันมะพร้าว ตากแดดแล้วล้างออกง่าย ทีนี้ลองเลือกเอาเองว่า เราควรจะบริโภคน้ำมันแบบไหนดีกว่ากัน