เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 25 กรกฎาคม 2025, 06:31:41
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  ใครชอบเดินป่า-ผจญภัยบ้างครับ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ใครชอบเดินป่า-ผจญภัยบ้างครับ  (อ่าน 1856 ครั้ง)
salao
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 266



« เมื่อ: วันที่ 23 มกราคม 2010, 20:29:54 »

ผมชอบเที่ยวป่า แค้มป์ เต๊นท์ ชอบดูนกครับ
ใครมีประสบการณ์เดินป่า ลองเล่าให้ฟังกันบ้างนะครับ
IP : บันทึกการเข้า

ติดต่ออีเมล์ jchairit@gmail.com โทร 086-5283895 ติดต่อ วิภู
Line ID: wipoochairit
https://www.facebook.com/ChiangmaiJade
ap.41
ตอบแทนคุณแผ่นดิน
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19,009


ไม่มีเทพไม่มีโปร..มีแต่เราที่จะก้าวไปพร้อมกัน...


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 23 มกราคม 2010, 21:01:47 »

ผมก็ชอบนะครับ แต่ไม่ได้เดินมาหลายปีแล้ว สมัยก่อนไปประจำครับ สนุกได้อรรถรส การอยู่ตามป่าดีครับ
IP : บันทึกการเข้า

ละอ่อนโบราณ
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,468



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 23 มกราคม 2010, 21:25:07 »

ชอบครับ รู้สึกว่าเป็นอิสระ...อธิบายไม่ถูกครับ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

..............
oyoyo *^_^*
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,011



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 23 มกราคม 2010, 21:53:44 »

สมัยวัยรุ่นชอบเดินป่ามากครับ ที่ไหนยิ่งลำบากยิ่งชอบไปแต่ตอนนี้เริ่มแก่แล้วเลยหันมาเที่ยวทะเลแทนครับ
IP : บันทึกการเข้า

"มนุษย์ใช้เหตุผลทางความคิด
ในการตัดสินว่าอะไรถูกอะไรผิด
ขณะที่ธรรมชาติใช้ความจริงทางจิต
ในการตัดสินว่าอะไรเป็นบุญอะไรเป็นบาป"

วาทะดังตฤณ "ด้วยความเป็นห่วง"
salao
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 266



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 23 มกราคม 2010, 22:00:19 »

เจออะไรน่าสนใจบ้างครับ

เคยเขียนถึงป่าหลายเรื่อง เดี๋ยวเอาแบบที่โรแมนติกก่อนครับ

...

 ผมไม่เคยถามตัวเองเลยว่าความรักจำเป็นแค่ไหนสำหรับวัยหนุ่ม รู้เพียงแต่ว่าเมื่ออยู่ในสถานการณ์ใกล้เคียงที่ความรักสามารถจะเกิดและดำเนินต่อไปได้ ผมไม่เคยปฏิเสธมัน

 “ให้รักเดินทาง” ใครสักคนเคยบอกไว้อย่างนั้น

 เวลาในเชียงใหม่ที่ผมมาอยู่นับรวมกันได้สองเดือนกว่าแล้ว แต่ทุกอย่างก็ยังคงใหม่อยู่มาก ขนาดมหาวิทยาลัยที่ผมเดินทางไปเรียนทุกเช้า ก็ยังรู้สึกกว้างขวาง มีอีกหลายจุดที่ยังเร้นสายตา

 กรกฎาคมของที่นี่มีฝนตกในช่วงเย็นๆ เกือบทุกวัน ฝนตกปรอยๆ เป็นช่วงเวลาสั้นๆ

 ยามฝนตก เวลาอยู่คนเดียวก็ยิ่งเหงา ดังนั้น ทันทีที่มีเพื่อนชวนไปออกค่ายป่าชุมชนกับน้องนักศึกษาปริญญาตรี ผมรีบรับคำโดยไม่ต้องรอรายละเอียดอื่นๆ นั่นเพราะตัวเองรู้ตัวเองอยู่ว่า “ค่าย” สำหรับผม เป็นดุจสะพานที่สามารถข้ามห้วงยามแห่งความเหงาไปถึงอีกฟากซึ่งมีอีกคนรออยู่ โดยหวังใจให้เธอเป็นคนที่ได้รักและรับรักจากผม

 เป็นเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์โดยแท้

 มารู้ในรายละเอียดภายหลังที่รถสองแถวสีแดงนำพาคณะไปเมื่อวันเดินทาง ว่าจุดหมายปลายทางที่ชาวค่ายคณะนี้จะไปกันคือ “ป่าชุมชนบ้านทุ่งยาว” ต.ศรีบัวบาน อ.เมือง จ.ลำพูน ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเชียงใหม่ไปเพียงไม่เกินหนึ่งชั่วโมง แต่เป็นป่าชุมชนแห่งแรกของประเทศไทย และกินบริเวณกว้างกว่า 2000 ไร่ ของ 2 หมู่บ้าน

 เป็นป่าซึ่งเชื่อกันว่ามีอาถรรพณ์ หากใครเข้าไปรุกล้ำทำลาย

 ความที่ต้องออกเดินทางในเย็นวันศุกร์เนื่องจากหลายคนติดภาระการเรียน ทำให้คณะของเราไปถึงบ้านทุ่งยาวเกือบมืด และพอรับประทานอาหารเย็นเสร็จก็มืดสนิทแล้ว ดังนั้น เมื่อชาวบ้านนำเรื่องอาถรรพณ์ในป่ามาเล่าให้ฟัง โดยที่เราอยู่ห่างจากเขตป่าไม่ถึง 50 เมตร จึงคล้ายไม่ได้มีเพียงเรื่องเล่าจากปากของชาวบ้าน แต่เหมือนเรื่องราวกำลังดำเนินอยู่ในป่า หากเพียงเราย่างเท้าเข้าไปในขณะนั้น ก็จะพบมัน…

 “ เคยมีพระธุดงค์จากร้อยเอ็ดเข้าไปลองปักกลดอยู่ 2 คืน แต่พอกลับออกมาไม่นานก็มรณภาพ”

 “คนทรงบอกว่าในป่านี้มีของดีอยู่มากนัก”

 “ใครที่ลบหลู่ป่าเจอดีทุกคน”

 มีตัวอย่างของอาถรรพณ์ป่ามากมายหลายเรื่อง หลั่งไหลจากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าแห่งหมู่บ้าน พร้อมกับคำเตือนต่อชาวคณะที่มีกำหนดการเดินป่าในเช้ารุ่งขึ้น

 “อย่าพูดลามกในป่า จะเห็นป่าเหลืองทั้งป่า”

 “ระวังลอดเครือเขาหลง แล้วจะหลงไปไกลเป็น 5 กิโล ไม่พบทางออกของหมู่บ้าน”

 แต่ระหว่างที่ทุกคนกำลังล้อมวงเบียดชิดกันด้วยความตื่นใจกับเรื่องอาถรรพณ์ของป่า ภายใต้แสงเรืองของเปลวเทียน ผมกลับคล้ายเพิ่งพบใครที่อยู่อีกฟากของสะพานที่ผมสร้าง แล้วบางที รักอาจเริ่มเดินทางตั้งแต่เวลานั้น

 คืนแรกในค่ายป่าชุมชน เรา(ผมและเธอ)นอนไม่ไกลและเห็นกัน ที่นอนของคณะเป็นมุ้งสีฟ้า 6 หลัง ผูกเรียงกันสำหรับ 20 คน อากาศกลางคืนของที่นั่นหนาว ได้ยินเสียงฝนโปรยปรายกระทบหลังคา เสียงเธอยังหัวเราะคิกคักกับเพื่อนในมุ้ง ก่อนที่ผมจะหลับตา ใจยิ้ม เพราะพรุ่งนี้ตื่นมาก็จะพบเธอ

แรกเช้าในหมู่บ้านสดชื่น แสงทองสะท้อนผิวถนนที่ยังหมาดฝนเหลืองลออ แสงสะท้อนกลีบดอกไม้โปร่งแสงหลากสีริมรั้วชาวบ้าน ให้อิ่มชื่นบรรยากาศของการจ่ายตลาดยามเช้าเพื่อเป็นเสบียงเดินทาง กลุ่มที่ถูกแบ่งไว้แล้วเป็นสองกลุ่มส่งตัวแทนไปจ่ายตลาด ผมกับเธออยู่กันคนละกลุ่ม แต่เราต่างเป็นตัวแทนของกลุ่มเพื่อไปจ่ายตลาดด้วยกัน

“ดอกไม้เมืองเหนือนี่สวยทุกฤดูเลยนะครับน้องพิณ” เธอหันมายิ้ม แก้มขาวแต้มเรื่อชมพู สองมือว่างเปล่าเพราะผมอาสาถือของให้ทุกอย่าง ก็เธอตัวนิดเดียวนี่นะ

“พี่เพิ่งมาอยู่ได้ฤดูเดียวไม่ใช่หรือคะ” เธอยิ้มและเย้า จนหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นท่าเก้อคลำทางไปไม่ถูกของผม ก่อนจะค่อยอ่อนข้อให้ด้วยคำถาม

“พี่เกิดและโตที่ปักษ์ใต้มาตลอดเลยหรือ? “ ผมพยักหน้า และถามย้อนไปว่าเธอเองก็คงเกิดและโตที่เชียงใหม่เหมือนกัน เธอปฎิเสธ

“พิณเกิดที่กรุงเทพฯค่ะ จน 2 ขวบพ่อกับแม่จึงพาย้ายไปอยู่เชียงใหม่ เพราะคิดว่าจะดีกับพิณมากกว่า”

เดินคุยกันไปเรื่อย พร้อมๆ กับหาซื้อของที่ต้องการจนครบ ผมมองไกลออกไปที่ป่าบนภูเขา ป่าชุมชนที่เราต้องเดินทางไปสำรวจกันวันนี้ นึกไปถึงความลำบาก ความแข็งแกร่ง และความเสียสละที่จะเกิดขึ้น คิดง่ายๆ ว่าสูตรสำเร็จของความรักรออยู่ในป่า ผู้หญิงมักใจอ่อนกับคนที่ดีกับเธอ และความเหงาของผมก็จะละลาย

อาหารสุก และทุกคนพร้อม หลายๆ คนรวมทั้งน้องพิณเดินนำไปล่วงหน้า ผมรั้งท้ายอยู่กับชาวบ้านอีกคน ระหว่างทาง ชาวบ้านชี้ให้ดูเส้นทางต่างๆ ที่น่าสนใจของป่านี้ เส้นทางเผาถ่าน เส้นทางเก็บเห็ด เส้นทางจูงวัวขึ้นไปเลี้ยงเมื่อสมัยก่อน พร้อมกับเล่าถึงเส้นทางการต่อสู้ระหว่างชาวบ้านกับกลุ่มทุนที่จ้องจะฮุบป่าเป็นสมบัติ กระทั่งสัมปทานของรัฐที่จะเลื่อยไม้ทำหมอนรองรางรถไฟ โดยจะให้เงินแก่หมู่บ้านปีละแปดหมื่นบาท จนชาวบ้านต้องเก็บสถิติการใช้ทรัพยากรในป่า เปรียบเทียบเป็นระยะเวลา 1 ปี ปรากฏว่าได้มูลค่าของทุกคนรวมกันเกือบ 1 ล้านบาทโดยไม่ต้องตัดไม้สักต้น ที่สุดป่าจึงยังเป็นป่าชุมชนของหมู่บ้านจนทุกวันนี้

เมื่อเริ่มเดินเข้าไปในป่าลึก คณะของเราเริ่มทิ้งช่วงห่างกันเป็นกลุ่มเล็กๆ ใครที่แข็งแรงก็นำไกลออกไปกับคนนำทางที่อยู่ข้างหน้าสุด ตัวผมเองยังเดินอยู่ข้างหลัง โดยเฉพาะเมื่อต้องไต่ลงไปตามทางน้ำที่แห้งขอด กลุ่มข้างหน้าก็ยิ่งทิ้งช่วงห่างกลุ่มหลังสุดไปไกลลิบ เวลานั้น แม้แต่ชาวบ้านที่เดินรั้งท้ายมากับผมตลอดทางยังอดที่จะแซงกลุ่มท้ายๆ ไปตามความชำนาญทางไม่ได้ จนกระทั่งเหลือแต่ตัวผมที่ยังห่วงกลุ่มข้างหลัง กับใจหวังลึกๆ ว่าทำดีคิดชั่วก็ต้องได้ดี

แล้วบางอย่างก็ดลให้เกิดปัญหากับบางคนเข้าจริงๆ ใช่ เป็นปัญหาของน้องพิณ

อากาศในป่าเต็มไปด้วยออกซิเจนจากต้นไม้ ทำให้แทบทุกคนได้ความสดชื่นแลกกับความเหนื่อย แต่ช่วงชั่วโมงหลังๆ ของการเดินป่า น้องพิณเริ่มเหนื่อยกว่าใครอย่างเห็นได้ชัด เธอพักเป็นระยะถี่กว่ากลุ่มย่อยอื่นๆ จนที่สุดก็เหลือเพียงผม เธอ และเพื่อนหญิงท่าทางห้าวๆ ที่คอยจูงคอยดึงเธอผ่านจุดที่ลื่นและชัน

คนที่คุ้นชินกับความดิบของป่าใต้อย่างผม การเดินในป่าโปร่งภาคเหนือเป็นเรื่องที่สบายมาก เมื่อมาอยู่เป็นกลุ่มรั้งท้าย ผมอาสาเป็นลูกหาบให้เธอ หวังให้เธอเอาตัวรอดไปได้ง่ายๆ โดยมีเพื่อนห้าวคอยประคอง แต่ก็คงเป็นความคะนองและห้าวของเพศสภาพที่พิเศษนั้นเอง ทำให้ช่วงหนึ่งน้องพิณจึงถูกทิ้งท้ายไว้กับผม และเธอพยายามจะตามเพื่อนให้ทัน

“กาน..รอพิณด้วย..” เสียงเบาและขาดคำ ก่อนเธอจะทรุดลงพิงกับก้อนหินขนาดใหญ่ ผมรีบเข้าไปประคอง ขณะไม่มีใครเหลืออยู่ตรงนั้นเลย พิณหอบหายใจลึก ร้องไห้ และเหมือนเธอจะพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว แม้ผมอยากจะทำคะแนนให้ตัวเอง แต่เวลานั้นไม่ใช่เวลาที่จะคิดอย่างใดอื่นได้นอกจากช่วยชีวิตเธอ ผมถอดรองเท้าของเธอออก ปลดเข็มขัด ปลดกระดุมเสื้อเม็ดบน และพยายามพัดด้วยมือ เวลาทุกวินาทีเหมือนผ่านไปนับนาน

เวลานั้น ผมนึกถึงอาถรรพณ์ป่า อธิษฐานจิตขอสมาและขอให้เจ้าป่าช่วยรักษาชีวิตของน้องพิณเอาไว้ สักครู่ มองไกลออกไปก็เห็นชาวบ้านกับเพื่อนห้าวของเธอวิ่งกลับมา ชาวบ้านควักยาลมส่งมาให้เพื่อนเธอกวาดลิ้นให้ เพื่อนเธอเข้ามาสวมประคองแทนที่ผม แล้วควักเอาถุงพลาสติกหลังกางเกงยีนตัวเองมาไว้ในกำมือ

เธอที่น้องพิณเรียกว่ากานคลี่ถุงพลาสติกออกมา จัดการคล้องหูหิ้วเข้ากับหูของน้องพิณ ส่วนปากถุงจึงครอบทั้งปากและจมูก

“เฮ้ย! น้อง เอาถุงออกเดี๋ยวนี้” ผมยื่นมือไป ถูกสาวห้าวปัดมือผมออก

“ถุงนี้ช่วยชีวิตพิณได้พี่ พิณเป็นโรคไฮเปอร์ฯ ขาดคาร์บอนไดอ็อกไซด์” เธอบอกว่าน้องพิณมีโรคนี้เป็นโรคประจำตัวมานานแล้ว และการครอบถุงไว้นั้นเป็นวิธีที่จะช่วยเพิ่มคาร์บอนไดอ็อกไซด์ได้สะดวกที่สุด ซึ่งเธอต้องเตรียมถุงพลาสติกนั้นไว้สำหรับน้องพิณตลอดเวลา ถึงเวลานั้น น้องพิณเริ่มมีอาการดีขึ้น ถุงยังครอบปากและจมูกอยู่ แต่เธอหันมามองผมด้วยดวงตาบอกคำขอบคุณ

กลับออกมาจากป่า เพื่อนคนที่ชวนผมมาเพิ่งบอกให้ทราบว่ากานกับน้องพิณเป็นแฟนกัน เขาไม่รู้ว่าในป่าเกิดอะไรขึ้น เราบอกทุกคนกันเพียงว่าที่ออกมาช้าเพราะไปขุดหน่อไม้

“แล้วหน่อไม้อยู่ที่ไหนล่ะ ?”

“น้องพิณกินหมดแล้ว” ผมตอบพร้อมกับหันไปยิ้มให้คนที่ถูกอ้างว่ากินหน่อไม้ เธอไม่อยากให้ใครเป็นห่วง นอกจากคนที่รู้

รถกระบะมารับพวกเราจากราวป่ากลับไปยังหมู่บ้าน ผมนั่งบนขอบกระบะ กานเช่นกัน ส่วนน้องพิณเธอนั่งอยู่ที่กระบะด้านใน และเมื่อรถเคลื่อนไปไม่ไกล เธอพิงร่างแนบไว้กับหน้าขาของผม ดวงตาของกานลอยคว้างไปในราวป่า เพื่อนหันมายิ้มให้ขณะน้องพิณเธอหลับแนบขาของผม

ผมกับเพื่อน เราคุยกันเมื่อถึงที่พัก

“น้องมีแฟนเป็นทอม นายมีลุ้นนะเนี่ย ของเทียมสู้ของแท้ไม่ได้หรอก เราว่าน้องเขามีใจให้นายด้วยนะ ตอนที่เขาหลับบนรถ เราเห็นเขายิ้มด้วย ลูกไก่อยู่ในกำมือแล้วนะคราวนี้”

ผมยิ้มให้เพื่อน

“ลูกไก่ในกำมือของเรา สู้ถุงพลาสติกในกำมือทอมคนนั้นไม่ได้หรอก”

จะของเทียมหรือของแท้ บางทีต้องวัดกันที่ใจ ถึงออกจากป่ามาแล้ว ลูกผู้ชายก็ยังต้องรู้จักเสียสละ ผมรักการตัดสินใจของตัวเองวันนี้ และบอกเพื่อนแบบปลอบใจตัวเอง

“ไว้ค่ายหน้าอย่าลืมชวนกันอีกนะ เราว่าต้องมีคนสวยกว่าค่ายนี้แน่ๆ ” เพื่อนส่ายหน้าเหมือนระอา ผมหัวเราะ

ความเหงาหายไปแม้ไม่มีเธอ
IP : บันทึกการเข้า

ติดต่ออีเมล์ jchairit@gmail.com โทร 086-5283895 ติดต่อ วิภู
Line ID: wipoochairit
https://www.facebook.com/ChiangmaiJade
QingGE
สมาชิกลงทะเบียน
มัธยม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 751



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 23 มกราคม 2010, 23:49:31 »

cool,ค่ายหน้าขอไปด้วยเด้อ
IP : บันทึกการเข้า
focus
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,484


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 24 มกราคม 2010, 00:12:26 »

        สมัยเป็นเด็ก วัยรุ่น ไม่มีโอกาสเลย ไปเพียง 2ครั้ง  บนดอย ห้วยแก้ว(ชาวเขาเผ่าเย้า) เชียงราย ฝนตกเดินลัดป่า เจอตัวทากมากมาย และดูดเลือดเรา สนุกมาก ใช้เวลาเดิน ประมาณ 4ชม.
 ตัวเปียกปอน หนาวสั่น แต่สนุกในวัย    หิวข้าว ผ่านบ้านคน ก้แวะขอซื้อไก่ที่เขาเลี้ยงปล่อย โดยไล่จับใช้ก้อนหินไม้ข้วางไก่เอามาปิ้งกิน   นอน กินกับชาวเขาเผ่าเย้า 3คืน  ขากลับอาศัยรถ คนดอยกลับบ้าน
      แต่ปัจจุบัน อายุมากแล้ว เลยอาศัย ม้าเป็นพาหะนะ ขี่เข้าป่า แทนการเดิน  ใช้เวลาไปกลับ ประมาณ 4 ชม กำลังดี ได้อรรถรสอีกแบบหนึ่ง แต่ยังไม่เคยได้นอนค้าง


* 6.jpg (61.65 KB, 640x480 - ดู 104 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
focus
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,484


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 24 มกราคม 2010, 10:18:14 »

วันมิ๊ตติ้ง ที่จะถึงหากใครมีเรื่องเล่าสนุกๆ โดยเฉพาะการผจญภัย มาเล่าสู่กันฟังก็คงสนุกดี
ถือเป็นการแนะนำตัวเองด้วย อิอิอิ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!