เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 26 เมษายน 2024, 23:27:09
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  เรื่องล้านนา ภาษากำเมือง
| | |-+  ใครสนใจนน้ำอ้อย กระทิ ทำวันต่อวันค่ะ ติดต่อได้นะคะ โลละ130 บาท 086-0334450
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ใครสนใจนน้ำอ้อย กระทิ ทำวันต่อวันค่ะ ติดต่อได้นะคะ โลละ130 บาท 086-0334450  (อ่าน 2271 ครั้ง)
lady pink
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 12


« เมื่อ: วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2015, 18:17:10 »

 ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
apiwattano
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 369


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2015, 22:04:19 »

ต้องขออภัย
อย่าว่างั้นงี้เลยนะ
น้ำอ้อย กะทิ มันเกี่ยวข้องกับ ล้านนา
ภาษา วัฒนธรรมแบบห้องนี้เค้าคุยกันได้ไง?ฮืม
IP : บันทึกการเข้า
teetee2011
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 664


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2015, 00:11:56 »

ต้องขออภัย
อย่าว่างั้นงี้เลยนะ
น้ำอ้อย กะทิ มันเกี่ยวข้องกับ ล้านนา
ภาษา วัฒนธรรมแบบห้องนี้เค้าคุยกันได้ไง?ฮืม

  ครับ อย่างอี้ถ้าเอาจะเอาเข้ากั๋นกับจื่อห้องก็น่าจะได้อยู่  เหตุผลเพราะเต๊าตี๊เกยฮู้เกยหันเกยกิ๋น  น้ำอ้อยกะทิมีก่าเมืองเหนือเฮาภาคอื่นบ่าเกยหัน ( อาจมีแต่ผมบ่ปะก็ได้ )
ถือว่าเป๋นของกิ๋นลำล้านนา  เข้ากับจื่อห้องเรื่องล้านนา  แต่ไคร่ฮู้ว่าน้ำน้ำอ้อยกะทิแต่ละท้องถิ่นเปิ้นมีวิธีกรรมอย่างใดจึงฮ้องว่าน้ำอ้อยกะทิ  ส่วนตังบ้านผมก่อยผ่อของแต่ละท่านก่อนครับถึงเอามาเล่า
IP : บันทึกการเข้า
mana.
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 357


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2015, 10:55:24 »

ต้องขออภัย
อย่าว่างั้นงี้เลยนะ
น้ำอ้อย กะทิ มันเกี่ยวข้องกับ ล้านนา
ภาษา วัฒนธรรมแบบห้องนี้เค้าคุยกันได้ไง?ฮืม

  ครับ อย่างอี้ถ้าเอาจะเอาเข้ากั๋นกับจื่อห้องก็น่าจะได้อยู่  เหตุผลเพราะเต๊าตี๊เกยฮู้เกยหันเกยกิ๋น  น้ำอ้อยกะทิมีก่าเมืองเหนือเฮาภาคอื่นบ่าเกยหัน ( อาจมีแต่ผมบ่ปะก็ได้ )
ถือว่าเป๋นของกิ๋นลำล้านนา  เข้ากับจื่อห้องเรื่องล้านนา  แต่ไคร่ฮู้ว่าน้ำน้ำอ้อยกะทิแต่ละท้องถิ่นเปิ้นมีวิธีกรรมอย่างใดจึงฮ้องว่าน้ำอ้อยกะทิ  ส่วนตังบ้านผมก่อยผ่อของแต่ละท่านก่อนครับถึงเอามาเล่า

อู้ถึงเรื่องน้ำอ้อยกะทิ  มันก็น่าจะเกี่ยวกับภูมิปัญญาล้านนาอยู่เหมือนกั๋น  สมัยบ่าเดี่ยวเซาะหากิ๋นยากขนาด บ่มีคนแป๋ง เปิ้นมีสูตรเฉพาะของเปิ้น  อู้แล้วไค่อยากกิ๋นกับข้าวอุ่น ๆ รสชาดจะออกหวาน ๆ มัน ๆ ได้กลิ่นบ่าป้าว  จขกท. น่าจะเปิดอบรม-สอน วิธีการทำน้ำอ้อยกะทิหื้อคนในชุมชนของท่าน  รวมกลุ่มเป๋นสินค้า OTOP  เพราะว่านับวันจะหาคนผลิตยาก  แหมอย่าง อาหารดั้งเดิมตี่เริ่มหายไปคือ แผ่นน้ำหนัง  บ่าฮู้ว่าตางใดตี่เปิ้นผลิตแผ่นน้ำหนังผ่อง  จ่วยบอกเป๋นวิทยาทานจิ่มเต๊อะ.....
IP : บันทึกการเข้า
apiwattano
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 369


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2015, 13:14:13 »

ต้องขออภัย
อย่าว่างั้นงี้เลยนะ
น้ำอ้อย กะทิ มันเกี่ยวข้องกับ ล้านนา
ภาษา วัฒนธรรมแบบห้องนี้เค้าคุยกันได้ไง?ฮืม


เอาเป็นว่า เป็นวิถีชาวบ้านก็แล้วกัน
แบบทาง สปป.ลาว ซึ่งคล้ายคลึงกับทางล้านนาเรา

https://www.gotoknow.org/posts/160171

ลองเข้าไปปดูนะครับ
IP : บันทึกการเข้า
น้าผี
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 265



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2015, 17:17:53 »

มันคืออะหยังคับเหมือนน้าอ้อยสีน้ำตาลๆก้อนๆ ที่ขายทั่วไป ก่อครับบ่าเกยเหนกาว่ามันผ่านต๋ามาแต่บ่ารุจักนิ..
IP : บันทึกการเข้า

...ขอทานธรรมชาติ....คนนึง
คนแม่จัน
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,404

ทำเดี๋ยวนี้ให้ดีที่สุด....จบ


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2015, 18:03:44 »

เจ้าของกระทู้หายแส็บ
IP : บันทึกการเข้า
teetee2011
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 664


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2015, 08:25:05 »

มันคืออะหยังคับเหมือนน้าอ้อยสีน้ำตาลๆก้อนๆ ที่ขายทั่วไป ก่อครับบ่าเกยเหนกาว่ามันผ่านต๋ามาแต่บ่ารุจักนิ..
เขาเรียกน้ำอ้อยที่เป็นก้อน ๆ นั้นไม่ได้คลุกอะไร เช่น มะพร้าว, ถั่วลิสง (ที่คลุกแล้วหอมหวาน มะพร้าวบางก็เจ้าก็ซอยเป็นชิ้นเล็ก ๆ บางเจ้าก็ขูด) ในส่วนที่คลุกเขาทำเป็นก้อนแบน ๆ เรียกว่าแว่น  ส่วนที่เป็นกลม ๆ เรียกว่าก้อนสำหรับใช้ปรุงของหวานประเภทต่าง ๆ  บางส่วนที่เขาต้มใกล้จะศูฏพอดีร้อน ๆ เหนียว ๆ อยู่ในกระทะ เวลามีเด็ก ๆ อยู่ผู้ใหญ่จะตักนิดหน่อยแล้วเอาจุ่มลงในน้ำเย็น ๆ ก็จะเหนียวหนุบ ๆ เรียกว่าน้ำอ้อยโย้ สำหรับให้เด็ก ๆ กิน  ถ้าจะให้กินตอนหยอดเป็นแว่น ๆ นั้นนานเป็นชั่วโมงกว่าจะเย็นถึงจะกินได้เพราะยุคนั้นไม่มี เรย์ ไม่มี คุกกี้, แต่ถึงแม้ไม่มี ฮานามิ ก็มีเพื่อนนะยิงนกตกปลาไปตามเรื่อง ขนมอย่างอร่อยก็ขนมโก๋ ขนม อมที่เป็นสี ๆ และข้าวแต๋น(เด็กในยุค พ.ศ 2505 - 2514 นะครับ ) คงไม่ต้องบอกนะอายุเท่าไหร่
IP : บันทึกการเข้า
chate
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,023


« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2015, 02:46:22 »

มันคืออะหยังคับเหมือนน้าอ้อยสีน้ำตาลๆก้อนๆ ที่ขายทั่วไป ก่อครับบ่าเกยเหนกาว่ามันผ่านต๋ามาแต่บ่ารุจักนิ..
เขาเรียกน้ำอ้อยที่เป็นก้อน ๆ นั้นไม่ได้คลุกอะไร เช่น มะพร้าว, ถั่วลิสง (ที่คลุกแล้วหอมหวาน มะพร้าวบางก็เจ้าก็ซอยเป็นชิ้นเล็ก ๆ บางเจ้าก็ขูด) ในส่วนที่คลุกเขาทำเป็นก้อนแบน ๆ เรียกว่าแว่น  ส่วนที่เป็นกลม ๆ เรียกว่าก้อนสำหรับใช้ปรุงของหวานประเภทต่าง ๆ  บางส่วนที่เขาต้มใกล้จะศูฏพอดีร้อน ๆ เหนียว ๆ อยู่ในกระทะ เวลามีเด็ก ๆ อยู่ผู้ใหญ่จะตักนิดหน่อยแล้วเอาจุ่มลงในน้ำเย็น ๆ ก็จะเหนียวหนุบ ๆ เรียกว่าน้ำอ้อยโย้ สำหรับให้เด็ก ๆ กิน  ถ้าจะให้กินตอนหยอดเป็นแว่น ๆ นั้นนานเป็นชั่วโมงกว่าจะเย็นถึงจะกินได้เพราะยุคนั้นไม่มี เรย์ ไม่มี คุกกี้, แต่ถึงแม้ไม่มี ฮานามิ ก็มีเพื่อนนะยิงนกตกปลาไปตามเรื่อง ขนมอย่างอร่อยก็ขนมโก๋ ขนม อมที่เป็นสี ๆ และข้าวแต๋น(เด็กในยุค พ.ศ 2505 - 2514 นะครับ ) คงไม่ต้องบอกนะอายุเท่าไหร่
แก่อ่ะละ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
teetee2011
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 664


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2015, 09:59:28 »

มันคืออะหยังคับเหมือนน้าอ้อยสีน้ำตาลๆก้อนๆ ที่ขายทั่วไป ก่อครับบ่าเกยเหนกาว่ามันผ่านต๋ามาแต่บ่ารุจักนิ..
เขาเรียกน้ำอ้อยที่เป็นก้อน ๆ นั้นไม่ได้คลุกอะไร เช่น มะพร้าว, ถั่วลิสง (ที่คลุกแล้วหอมหวาน มะพร้าวบางก็เจ้าก็ซอยเป็นชิ้นเล็ก ๆ บางเจ้าก็ขูด) ในส่วนที่คลุกเขาทำเป็นก้อนแบน ๆ เรียกว่าแว่น  ส่วนที่เป็นกลม ๆ เรียกว่าก้อนสำหรับใช้ปรุงของหวานประเภทต่าง ๆ  บางส่วนที่เขาต้มใกล้จะศูฏพอดีร้อน ๆ เหนียว ๆ อยู่ในกระทะ เวลามีเด็ก ๆ อยู่ผู้ใหญ่จะตักนิดหน่อยแล้วเอาจุ่มลงในน้ำเย็น ๆ ก็จะเหนียวหนุบ ๆ เรียกว่าน้ำอ้อยโย้ สำหรับให้เด็ก ๆ กิน  ถ้าจะให้กินตอนหยอดเป็นแว่น ๆ นั้นนานเป็นชั่วโมงกว่าจะเย็นถึงจะกินได้เพราะยุคนั้นไม่มี เรย์ ไม่มี คุกกี้, แต่ถึงแม้ไม่มี ฮานามิ ก็มีเพื่อนนะยิงนกตกปลาไปตามเรื่อง ขนมอย่างอร่อยก็ขนมโก๋ ขนม อมที่เป็นสี ๆ และข้าวแต๋น(เด็กในยุค พ.ศ 2505 - 2514 นะครับ ) คงไม่ต้องบอกนะอายุเท่าไหร่
แก่อ่ะละ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
  บ่าหันแก่เลยครับครบ 5 รอบได้ปี๋ป๋ายบ่าดายลอ 
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!