เริม เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดจากเชื้อไวรัส
เริม Herpes simplex เชื้อไวรัสตัวนี้มีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่
ชนิดที่ 1 Herpes simplex type 1 (HSV-1) ซึ่งทำให้เกิด
เริมบริเวณริมฝีปาก หรือในปาก หรือบริเวณใดก็ได้เหนือสะดือ
ชนิดที่ 2 Herpes simplex type 2 (HSV-2) ซึ่งทำให้เกิด
เริมที่อวัยวะเพศทั้งชายและหญิง
เชื้อไวรัส
เริมทั้ง 2 ชนิดนี้ สามารถติดต่อกันได้ทางการสัมผัสโดยตรง เช่น การใช้แก้วน้ำร่วมกัน การจูบกัน การมีเพศสัมพันธ์ การสัมผัสของที่ผู้มีเชื้อ
เริมใช้ เช่น ผ้าเช็ดตัว ช้อนเป็นต้น สัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย โรคเริมพบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
โรคเริมที่เป็นครั้งแรก จะมีระยะฟักตัวประมาณ 3-7 วัน เมื่อคนนั้นได้รับเชื้อแล้ว เชื้อนี้จะทำการฝังตัวอยู่ในร่างกายไปตลอดกาล ผู้ติดเชื้อโรคเริมที่อวัยวะเพศหลายคนอาจไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อ เพราะมีอาการเพียงเล็กน้อย หรือในหลาย ๆ คนนั้นไม่มีอาการของโรคที่สามารถสังเกตเห็นได้เลย
อาการเริ่มแรกของ
เริมจะรู้สึกคันๆแสบๆบริเวณที่จะเกิดแผล แล้วจะมีผื่น กลายเป็นตุ่มน้ำใสขนาด 2-3 มิลลิเมตร ขึ้นอยู่กันเป็นกลุ่มโดยรอบจะเป็นผื่นแดง บางคนอาจจะมีอาการไข้ และปวดศรีษะนำมาก่อน
ต่อมาตุ่มใสน้ำของ
เริมนี้จะกลายเป็นสีเหลืองขุ่น แล้วแตกกลายเป็นสะเก็ด หายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์ เร็วสุด 3 วัน ลักษณะของตุ่มใสของ
เริมที่เกิดกันเป็นกลุ่มแบบนี้ชาวบ้านเรียกโรคนี้ว่า ขยุ้มตีนหมา นอกจากนี้ต่อมน้ำเหลืองในบริเวณใกล้เคียงมักจะโตและเจ็บด้วย
เมื่อหายแล้ว เชื้อไวรัส
เริมนี้จะหลบไปอยู่ที่ปมประสาท แล้วอาจโผล่ขึ้นมาใหม่ ทำให้โรคกำเริบได้บ่อยๆประมาณปีละ 1-4 ครั้ง ส่วนผู้ที่เป็นโรค
เริมกำเริบถี่มาก หรือเป็นแผล
เริมเรื้อรังเกิน 1 เดือน ควรตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวี เพราะอาจจะเป็นโรคเอดส์ได้
อาการแทรกซ้อน ส่วนใหญ่
เริมมักจะหายเอง แล้วอาจกำเริบเป็นครั้งคราว
ปัจจัยที่ทำให้เป็น
เริมซ้ำ ได้แก่ การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียดทางกายหรือจิตใจ วิตกกังวล ทำงานหนัก สุขภาพอ่อนแอ อากาศร้อน ภูมิคุ้มกันต่ำ ช่วงประจำเดือน
กรอกข้อมูลคนไข้เพื่อขอรับการรักษาที่คลินิคปฏิคมแพทย์แผนไทย
http://www.leejangmeng.com/บทความเพื่อสุขภาพ/เริม.html หรือ email
LeeJangMeng@gmail.com หรือ โทรฯติดต่อ 091-057-6797