วัดใกล้บ้าน พระไม่เคยบิณฑบาตร ต้องให้ชาวบ้านไปวางปิ่นโตตามบ้าน พอสิ้นปีก็ต้องจ่ายเงินให้คนวางปิ่นโต 300 บาท เงินค่าน้ำประปาหมู่บ้านก็อ้างว่าวัดยืม พอถึงเวลาเรียกประชุมชาวบ้าน ยกหนี้ให้วัดไปเฉยๆ เวลามีผ้าป่าหรือกฐิน รอบรวมเงินได้ ให้กรรมการเอาไปฝาก แล้วมาบอกชาวบ้านว่าเงินหายยอดไม่ครบ ตามจำนวน เป็นมาหลายต่อหลายครั้ง วันก่อนมีหลวงพ่อจากที่อื่นมาตั้ง ศูนย์ พุทธวัจนห่างจากวัดประมาณ 1 กม.ทั้งพ่อหลวงและเจ้าอาวาส ประชุมชาวบ้านให้คัดค้าน ไม่ให้ใส่บาตร ส่วนอบต.หมู่บ้านบอกกับชาวบ้านว่ามาบิณทบาตรนั้นผิด หลังจากนั้นก็ไปตามตำรวจมา และป่าไม้ สุดท้ายทำอะไรไม่ได้เพราะหลวงพ่อท่านมาอย่างถูกต้อง แต่พระในวัดที่มีอาการร้อน ฉ้อฉล รวมทั้งผู้บริหารหมู่บ้านด้วย เยี่ยงนี้จะร้องเรียนใครที่ไหนดีครับ ที่สำคัญไม่เคยสั่งสอนชาวบ้านให้รู้เรื่องศีล แต่ไปวัดทีไรพูดแต่เรื่องเงินๆทองๆ
ขอคอมเมนต์เฉพาะตรงนี้นะครับ ส่วนนี้เป็นวัฒนธรรมของชาวพุทธในภาคเหนือเรามีมานาน บางวัดก็ให้อาจ๋านวัด หรือ ภารโรงวัด ตอนเย็นเอาปินโตไปไว้ตามบ้านเป็นหมวด ๆ (เรียกว่าตกปินโต) ตอนเช้าไปรับเอาพร้อมข้าวอาหาร ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไป ส่วนค่าตอบแทนให้ภารโรงอย่างที่อ้างถึง บางแห่งก็ให้ข้าวเปลือกหลังคาละ 1 ต๋าง (คำว่า " ต๋าง " ไม่รู้ภาคกลางเรียกวาอะไร) ค่าตอบแทนนั้นมักให้ในช่วงนี้เรียกว่าเดือนสี่เป็ง เพราะชาวบ้านเก็บเกี่ยวข้าวในนาเรียบร้อยแล้วก็จะเอาข้าวเปลือก ข้าวสารไปถวายวัดให้พระเณรได้ฉันก่อนชาวบ้านถึงจะกินได้ เรียกว่าประเพณีตานข้าวใหม่หรือข้าวจี่ข้าวหลามหัวเผือกหัวมัน ส่วนเรื่องปินโตบางวัดให้พระเณรไปตกหรือวางไว้ตอนเย็นตอนเช้าก็ไปบิณฑบาตพร้อมรับปินโต ฉะนั้นเวลาเราขับรถเดินทางตอนเย็น 4-6 โมงเย็นบางแห่งจะเห็นเณรถือปินโตไป (ตก) ชาวบ้านก็จะรู้เลยพรุ่งนี้พระมาบิณฑบาตบ้านเรา ส่วนเรื่องไม่ขอคอมเมนต์นะครับ (ขอบคุณครับ ผมขะโยมฮ๊าด)