" บุญที่ทำแล้ว ได้ผลมากที่สุด "

[ร้อยป่า]

บุญที่ทำแล้วได้ผลมากที่สุด

 ลงทุนน้อยที่สุด  ไม่ต้องใช้เงินแม้แต่บาทเดียว

ถ้ามีใครมาถามเราว่าศาสนาพุทธ ถ้าจะทำบุญให้ได้ผลของบุญมากที่สุดและได้ผลเร็วมากที่สุดจะทำบุญวิธีไหน อย่างไร  มีแน่นอนครับ คำถามเหล่านี้สมัยที่พระพุทธเจ้ามีชีวิตอยู่ก็มีคนไปถามท่าน ท่านพูดเป็นลำดับว่า...
1. ทำทานแก่สัตว์เดรัจฉาน 100 ครั้ง
              - ผลบุญที่ได้รับยังน้อยกว่าทำทานกับคนไม่มีศีลแม้เพียงครั้งเดียว
2. ทำทานกับคนไม่มีศีล 100 ครั้ง
              - ผลบุญที่ได้รับยังน้อยกว่าทำทานกับผู้มีศีล 5 แม้เพียงครั้งเดียว
3. ให้ทานกับผู้มีศีล 5 มากถึง 100 ครั้ง
              - ผลบุญที่ได้รับยังน้อยกว่าให้ทานกับผู้มีศีล 8 แม้เพียงครั้งเดียว
4. ให้ทานกับผู้มีศีล 8 มากถึง 100 ครั้ง
              - ผลบุญที่ได้รับยังน้อยกว่าถวายทานกับผู้มีศีล 10 แม้เพียงครั้งเดียว
5. ถวายทานกับผู้มีศีล 10 มากถึง 100 ครั้ง
              - ผลบุญที่ได้รับยังน้อยกว่าถวายทานแด่สมมุติสงฆ์แม้เพียงครั้งเดียว
6. ถวายทานแด่สมมติสงฆ์ 100 ครั้ง
              - ผลบุญที่ได้รับยังน้อยกว่าถวายทานแก่พระโสดาบันแม้เพียงครั้งเดียว
7. ถวายทานแด่พระโสดาบัน 100 ครั้ง
              - ผลบุญที่ได้รับยังน้อยกว่าถวายทานแก่พระสกิทาคามี แม้เพียงครั้งเดียว
8. ถวายทานแด่พระสกิทาคามี 100 ครั้ง
             - ผลบุญที่ได้รับยังน้อยกว่าถวายทานพระอานาคามีแม้เพียงครั้งเดียว
9. ถวายทานแด่พระอนาคามี 100 ครั้ง
             - ผลบุญที่ได้รับยังน้อยกว่าถวายทานให้พระอรหันต์ แม้เพียงครั้งเดียว
10. ถวายทานแก่พระอรหันต์ 100 ครั้ง
             - ผลบุญที่ได้รับยังได้น้อยกว่าถวายทานแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า แม้เพียงครั้งเดียว
11. ถวายทานแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า 100 ครั้ง
             - ผลบุญที่ได้รับยังได้น้อยกว่าถวายทานแด่พระสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้เพียงครั้งเดียว
12. ถวายทานแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 100 ครั้ง
               - ผลบุญที่ได้รับยังได้น้อยกว่าการถวายสังฆทานที่มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน

      แม้จะถวายเพียงครั้งเดียว
13. ถวายสังฆทานที่มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน 100 ครั้ง
               - ผลบุญที่ได้รับยังได้บุญน้อยกว่าถวายวิหารทานครั้งเดียว
14. ถวายวิหารทาน 100 หลัง
               - ผลบุญที่ได้รับยังได้น้อยกว่าการให้ธรรมทานครั้งเดียว
15. การให้ธรรมทาน 100 ครั้ง
               - ผลบุญที่ได้รับยังได้บุญน้อยกว่าการให้อภัยทานครั้งเดียว
16. การให้อภัยทาน 100 ครั้ง
              - ผลบุญที่ได้รับยังน้อยกว่าการถือศีล 5 แม้เพียงครั้งเดียว
17. การถือศีล 5 มากถึง 100 ครั้ง
             - ผลบุญที่ได้รับยังน้อยกว่าถือศีล 8 แม้เพียงครั้งเดียว
18.การถือศีล 8 มากถึง 100 ครั้ง
            - ผลบุญที่ได้รับยังน้อยกว่าการถือศีล 10 ครั้งเดียว
              ( ถือศีล 10 คือบวชเป็นสามเณร)
19. การบวชเป็นสามเณร รักษาศีลไม่ด่างพร้อย 100 ปี
            - บุญยังน้อยกว่าผู้อุปสมบทเป็นพระ แม้บวชเพียงวันเดียว
20. พระพุทธเจ้าพูดลำดับท้ายที่สุดว่าว่า“แม้จะได้อุปสมบทเป็นภิกษุ รักษาศีลครบ 227 ข้อ ไม่      เคยขาด ไม่ด่างพร้อย 100 ปี บุญกุศลที่ได้รับยังน้อยกว่าผู้ที่ทำสมาธิให้จิตสงบ(ฌาน) แม้นานเพียงไก่กระพือปีก”และข้อสุดท้าย
21.“ผู้ใดเข้าฌาน นาน 100 ปีและไม่เสื่อม บุญยังได้รับน้อยกว่าผู้ที่มองเห็นความเป็นจริงว่า สรรพสิ่งทั้งหลายไม่เที่ยง มาจากการปรุงแต่ง เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แม้จะเห็นเพียงชั่วขณะจิตก็ตาม”   ขอให้อ่านทบทวนหลาย ๆ ครั้งครับ

ขอทำความเข้าใจให้ดี ข้อสุดท้ายนี้สำคัญมาก ไม่มีใครพูดถึงกัน หรือแทบไม่มีเลย นอกจากพระป่า พระเขา  ดูเป็นของต้อง ห้าม ศักดิ์สิทธิ์ คนอย่างเรา ท่านทำไม่ได้  ผิดแล้วครับ พระพุทธเจ้าที่เราเป็นลูกเป็นหลานท่านไม่ใจแคบเลย ท่านสอนเราเป็นลำดับ ต้น ๆ แห่งธรรมด้วยซ้ำเพียงแต่เรามองข้ามไป และไปทำส่วนที่ง่ายกว่า เหมือนเพื่อน ๆ บ้านท้ายสุด ธรรมะแท้ก็ห่างออกไปเรื่อย ๆ

หลวงพ่อใหญ่ หลวงปู่มั่น และ ครูอาจารย์ท่านหลวงตามหาบัว ท่านพร่ำสอนให้เรา ทำ ภาวนาให้มากๆ หมั่นภาวนา วัน ละ 5 นาที่ 10 นาที่ อย่าให้ขาด กำหนดจิตด้วยคำภาวนา อะไรก็ได้ เช่น พุทธโท รั้งจิตให้อยู่ในจุดเดียว  ทำให้เป็นนิสัย เป็นปกติ ต่อเนื่อง ทุกวัน ต่อไป จิตจะเติบโต จิตรจะขยัน จิตจะรับรู้ จิตจะแข็งแรง จิตจะพูดได้ จิตจะบอกเรา ขอให้ทำต่อเนื่องไม่ต้องหวังผล เพราะผลจะเกิดขึ้นเอง ตามหน้าที่ของมัน ใจและร่างการเราก็จะได้รับผลเอง

ขอต่อสักเล็กน้อย ให้ช่วยกันมองหน้าพระพุทธกันทุกวัน มองนาน ๆ นึกถึงความกรุณาของท่าน พยายามลำดับให้ดี ทำตาม เดินตาม ไปกันครับ ถนนแห่งธรรมมีพื้นที่รองรับท่าน พากันเดินนะครับ

ครูอาจารย์รอช่วยเราทุกระยะแห่งจิตร ทุกระยะทางของความดีงาม ก้าวแรกก็ห่างแล้วแห่งบาป ก้าวแรกก็เดินขึ้นขอบบุญแล้ว ยึดองค์พระรัตนตรัยให้มั่นตลอดชีวิต เชื้อพระพุทธ เชื้อพระธรรม เชื้อพระอริยะสงฆ์ ปฏิบัติตามที่ท่านชี้แนะ พร่ำสอน จิตรดวงนี้จะตั้งมั่น ไม่ล้มง่าย ไม่หักง่าย  ให้คิดแบบนี้ ทำแบบนี้ ผลของความดีจะก่อเกิดขึ้นเอง เหมือนพื้นดินว่างเปล่ายามแล้ง ไม่นานเมื่อฤดูฝนผ่านมาถึง พื้นดินได้รับน้ำ ได้รับอากาศที่ดี ได้ความพอดีของดิน ไม่นาน พื้นดินก็จะมีสิ่งมีชีวิตเช่นต้นไม้เล็ก ก่อเกิดขึ้นเช่นนั้น    ไม่ต้องกังวลนรก ไม่ต้องกังวนสวรรค์ ช่วยกันทำนะครับผลของธรรมรออยู่..

[amilia]

สาธุครับ

[nantong]

ไหว้สา พระธัมมวินัย  สายบุญ

ให้กราบพระพุทธเจ้า  ไม่ใช่ไปสะดุดทองคำ วัตถุ  หลวงปู่พุทธทาส ฝากไว้ให้คิด พิจารณา

[nantong]

Sunan_rao    :    บุญที่ทำแล้วได้ผลมากที่สุดลงทุนน้อยที่สุด  ไม่ต้องใช้เงินแม้แต่บาทเดียว

ถ้ามีใครมาถามเราว่าศาสนาพุทธ ถ้าจะทำบุญให้ได้ผลของบุญมากที่สุดและได้ผลเร็วมากที่สุดจะทำบุญวิธีไหน อย่างไร  มีแน่นอนครับ คำถามเหล่านี้สมัยที่พระพุทธเจ้ามีชีวิตอยู่ก็มีคนไปถามท่าน ท่านพูดเป็นลำดับว่า...
1. ทำทานแก่สัตว์เดรัจฉาน 100 ครั้ง
              - ผลบุญที่ได้รับยังน้อยกว่าทำทานกับคนไม่มีศีลแม้เพียงครั้งเดียว
2. ทำทานกับคนไม่มีศีล 100 ครั้ง
              - ผลบุญที่ได้รับยังน้อยกว่าทำทานกับผู้มีศีล 5 แม้เพียงครั้งเดียว
               

                      ฯลฯ


14. ถวายวิหารทาน 100 หลัง
               - ผลบุญที่ได้รับยังได้น้อยกว่าการให้ธรรมทานครั้งเดียว
15. การให้ธรรมทาน 100 ครั้ง
               - ผลบุญที่ได้รับยังได้บุญน้อยกว่าการให้อภัยทานครั้งเดียว


16. การให้อภัยทาน 100 ครั้ง
              - ผลบุญที่ได้รับยังน้อยกว่าการถือศีล 5 แม้เพียงครั้งเดียว


17. การถือศีล 5 มากถึง 100 ครั้ง
             - ผลบุญที่ได้รับยังน้อยกว่าถือศีล 8 แม้เพียงครั้งเดียว
18.การถือศีล 8 มากถึง 100 ครั้ง
            - ผลบุญที่ได้รับยังน้อยกว่าการถือศีล 10 ครั้งเดียว
              ( ถือศีล 10 คือบวชเป็นสามเณร)
19. การบวชเป็นสามเณร รักษาศีลไม่ด่างพร้อย 100 ปี
            - บุญยังน้อยกว่าผู้อุปสมบทเป็นพระ แม้บวชเพียงวันเดียว
20. พระพุทธเจ้าพูดลำดับท้ายที่สุดว่าว่า“แม้จะได้อุปสมบทเป็นภิกษุ รักษาศีลครบ 227 ข้อ ไม่      เคยขาด ไม่ด่างพร้อย 100 ปี บุญกุศลที่ได้รับยังน้อยกว่าผู้ที่ทำสมาธิให้จิตสงบ(ฌาน) แม้นานเพียงไก่กระพือปีก”และข้อสุดท้าย
21.“ผู้ใดเข้าฌาน นาน 100 ปีและไม่เสื่อม บุญยังได้รับน้อยกว่าผู้ที่มองเห็นความเป็นจริงว่า สรรพสิ่งทั้งหลายไม่เที่ยง มาจากการปรุงแต่ง เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แม้จะเห็นเพียงชั่วขณะจิตก็ตาม”   ขอให้อ่านทบทวนหลาย ๆ ครั้งครับ

ขอทำความเข้าใจให้ดี ข้อสุดท้ายนี้สำคัญมาก ไม่มีใครพูดถึงกัน หรือแทบไม่มีเลย นอกจากพระป่า พระเขา  ดูเป็นของต้อง ห้าม ศักดิ์สิทธิ์ คนอย่างเรา ท่านทำไม่ได้  ผิดแล้วครับ พระพุทธเจ้าที่เราเป็นลูกเป็นหลานท่านไม่ใจแคบเลย ท่านสอนเราเป็นลำดับ ต้น ๆ แห่งธรรมด้วยซ้ำเพียงแต่เรามองข้ามไป และไปทำส่วนที่ง่ายกว่า เหมือนเพื่อน ๆ บ้านท้ายสุด ธรรมะแท้ก็ห่างออกไปเรื่อย ๆ

หลวงพ่อใหญ่ หลวงปู่มั่น และ ครูอาจารย์ท่านหลวงตามหาบัว ท่านพร่ำสอนให้เรา ทำ ภาวนาให้มากๆ หมั่นภาวนา วัน ละ 5 นาที่ 10 นาที่ อย่าให้ขาด กำหนดจิตด้วยคำภาวนา อะไรก็ได้ เช่น พุทธโท รั้งจิตให้อยู่ในจุดเดียว  ทำให้เป็นนิสัย เป็นปกติ ต่อเนื่อง ทุกวัน ต่อไป จิตจะเติบโต จิตรจะขยัน จิตจะรับรู้ จิตจะแข็งแรง จิตจะพูดได้ จิตจะบอกเรา ขอให้ทำต่อเนื่องไม่ต้องหวังผล เพราะผลจะเกิดขึ้นเอง ตามหน้าที่ของมัน ใจและร่างการเราก็จะได้รับผลเอง

ขอต่อสักเล็กน้อย ให้ช่วยกันมองหน้าพระพุทธกันทุกวัน มองนาน ๆ นึกถึงความกรุณาของท่าน ฯลฯ

                                 @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@


ไหว้สา  พระธัมมวินัย สายบุญ

ผม ยังสงสัย อยู่ ว่า ธัมมทาน กับ อภัยทาน จะ เหมือน แตกต่าง สำคัญ ยังไงมั่ง ?


สาธุ

[nantong]

ไหว้สา  พระแก้วทั้งสาม พระปัจเจกพุทธา พระมาตาปิตุปุพพการี พระครุปิอาจาริโย เท้าสนังกุมารพรหมธัมมกถึก เจ้าบุญนายคุณ เจ้ากัมม์นายเวร ศัตรูหมู่มาร บุตรบริษัทบริวารญาติมิตรสายบุญในจักรวาลฮอดอนันตจักรวาล ทุกดวงจิตจงได้บุญกุศลในธัมมทานด้วย เทอญ  สาธุ ๆ ๆ  อนุโมทามิ

หนาน  ได้เข้ากูเกิล เสิร์ชหา อภัยทาน ธัมมทาน มีคนเขาเสวนาใน พันทิพ  PANTIP.COM : Y10123776 อภัยทาน

ในหนังสือ ที่สมเด็จญาณ ฯ ว่าถึงการทำบุญ ฯ  ผู้เสวนา เขาบอกว่า หนังสือปี 2552 เขามีแก้ไข ข้อความเดิม ว่า

การทำธัมมทาน  ชนะการให้ทั้งปวง    จากเดิม ที่กล่าว  ประมาณ ว่า การให้อภัยทานได้บุญกว่า ทานอื่น



ในหัวข้อเสวนานี้  ได้ข้อมูลมา ว่า..............

บาง คนเขาคิดเห็นว่า การให้อภัยทาน เข้าได้กับ สีลมัย  จึงใหญ่กว่าทานมัย   ซึ่ง ธัมมทาน อยู่ในข้อทานมัยนี้    

บางผู้ เข้าใจ ว่า อภัยทาน เป็นการทำเมตตาจิตอย่างหนึ่ง  ส่วนให้ธัมมะ  สามารถยังผลทั้งโลกนี้  ถึง โลกหน้า  สูงถึงการพ้นโลก ได้มัคคผลนิพพาน  อภัยทาน  ย่อม  ไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่า ธัมมทาน

บ้าง ก็อาจเอาตามพระพุทธเจ้า ที่ทรงมีการ ตรัสรับรองเป็น พระบาลี เอาไว้ เป็นต้น ว่า    สพฺพทานํ  ธมฺมทานํ  ชินาติ       ไม่เห็นมีตรัสเป็น พระบาลี รับรอง ในอภัยทาน ฯ

ไม่ได้มาเอาแพ้ เอาชนะ  เอาแท้  เอาว่า  แต่  อยากเสวนาหาเอาสาระ เอาตามธัมมะ แห่ง พระพุทธศาสดาเจ้า  มากว่า  การเอาธัมมะ  แห่ง  ข้าพเจ้า

ผิดถูกใดมี  ขอกราบสมาอภัยทาน ให้ หนานด้วยเถิด  

สาธุ ๆ ๆ    อนุโมทามิ