เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 18 เมษายน 2024, 12:16:17
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  " มหาปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร "
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน " มหาปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร "  (อ่าน 672 ครั้ง)
ร้อยป่า
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,864



« เมื่อ: วันที่ 04 กันยายน 2014, 14:00:53 »

มหาปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร



พระถังซัมจั๋ง เห้งเจีย โป้ยก่าย และม้าขาว รอนแรมเรื่อยมาจนถึง ภูเขาภู่โท่ซัว อันเป็นสำนักของพระโอเซ้า (พุทธศาสนาในนิกายเซ็น ไม่ยึดมั่นในศีล) อาจารย์เซ็นผู้อาศัยอยู่ในรังกาที่ทำด้วยหญ้าและกิ่งไม้

พระโอเซ้าร้องทักโป้ยก่ายเพราะคุ้นเคยกัน แต่ไม่รู้จักเห้งเจีย พระถังซัมจั๋งร้องถามว่า ทางไปไซทียังใกล้หรือไกล พระโอเซ้าก็ตอบว่า “ยังไกลอีกมากนัก จงพยายามเถิดหนทางไปนั้นไม่สู้ยากหรอก แต่มีอุปสรรคมากมาย เมื่อพบสานุศิษย์คนสุดท้ายแล้ว การเดินทางก็สามารถไปถึงไซทีแน่นอน” ซ้ำยังได้บอกมนต์พิเศษสำหรับภาวนา เมื่อมีอุปสรรค อันตราย คือข้อความใน “มหาปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร” มี ๕๔ วรรค ๓๗๐ ตัวอักษร ซึ่งมีใจความย่อดังนี้

ขันธ์ ๕ คือ ความว่าง ความว่างคือขันธ์ ๕ สิ่งทั้งปวงไม่เกิด ไม่ดับ ไม่สกปรก ไม่สะอาด ไม่พร่อง ไม่เต็ม ไม่มีอวิชชา ไม่ปราศจากอวิชชา ไม่มีชรามรณะ ไม่ปราศจากชรามรณะ ไม่มีการรู้ ไม่มีการไม่รู้ ไม่มีการบรรลุ ไม่มีการไม่บรรลุ อาศัยปัญญาอันยอดเยี่ยมนี้ พระพุทธเจ้าในอดีต ทั้งสิ้นได้แจ่มแจ้งเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อาศัยปัญญานี้จิตจะปราศจากความลังเล และไม่มีอะไรเป็นอุปสรรค จึงไม่หวั่นไหว ทุกข์ทั้งปวงจะดับหมด และนี่มิใช่ความสูญเปล่าเลย

พระถังซัมจั๋งท่องมนต์วิเศษนี้จนขึ้นใจ แล้วนมัสการลาพระโอเซ้า เซียนซือ เห้งเจียส่ายหน้าอย่างไม่สนใจ และรู้สึกไม่ชอบขี้หน้า พระโอเซ้า ขยับตะบองหมายตีหัว พระโอเซ้าจึงกระโดดขึ้นรังกา แล้วหายไปในหมอก

ครั้นเดินทางไม่นาน ถึงบ้านผู้เฒ่าแซ่อ้วง ตาเฒ่าซักถามว่า ท่านจะไปที่ใด พระถังซัมจั๋งบอกว่าเราจะเดินทางไปไซที ตาเฒ่าจึงแนะนำว่า “หากจะไปทิศตะวันตก จงออกเดินไปทางทิศตะวันออกเถิด แล้วจะถึง”

เห้งเจียหาเชื่อไม่ และยืนยันที่มุ่งหน้าสู่ทิศตะวันตก ส่วนโป้ยก่ายแสดงอาการปากยื่น ผึ่งหู อวดวิจารณ์ผู้เฒ่าอ้วง จนพระถังซัมจั๋งรำคาญ เห้งเจียจึงแนะนำให้ซ่อนปากไว้ในคอ และเอาใบหูรัดรวบไว้ที่ท้ายทอย ศิษย์และอาจารย์ได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี แล้วจึงอำลาตาเฒ่าเดินทางมุ่งสู่ป่าใหญ่

(พระโอเซ้าทักทายโป้ยก่าย เพราะคุ้นเคยกันนั้น เนื่องด้วยพระในนิกายเซ็น-พุทธนิกายที่ยึดถือการบรรลุธรรมอย่างฉับพลันเป็นสำคัญ จะไม่เคร่งครัดในเรื่องศีล แต่จะให้ความสำคัญในเรื่องปัญญา จึงย่อมรู้และ เข้าใจเรื่องศีลเช่นกัน แต่ไม่ให้ความสำคัญในเรื่องศีลมากเท่ากับการบรรลุถึงพุทธธรรมด้วยปัญญา

มนต์วิเศษที่พระโอเซ้ามอบให้แก่พระถังซัมจั๋งท่องให้ขึ้นใจคือ ว่างๆๆ ไม่มีๆๆ เห้งเจียจะส่ายหน้าอย่างไม่สนใจ เพราะเห้งเจีย ในขณะนี้ ยังเป็นมิจฉาปัญญาที่ยังไม่เข้าสู่เขตแดนโลกุตระ จะรู้สึกไม่ชอบคำว่า ว่างๆๆ ไม่มีๆๆ “สุญญตา” จึงไม่สนใจกับมนต์วิเศษที่อาจารย์โอเซ้าให้ไว้

การที่ท่านโอเซ้าบอกว่า ยังอีกไกลนักให้พยายามเถิด หนทางไปนั้นไม่สู้ยาก แต่มีอุปสรรคมากมาย มีความหมายว่า เพียงการเข้าถึงว่างๆๆ ไม่มีๆๆๆ หรือ “สุญญตา” แต่เพียงอย่างเดียวนับว่ายังไกลกับนิพพานนัก เพราะการเข้าถึงสุญญตาเป็นเพียงพริบตาเดียว ไม่ยั่งยืนถาวร ยังจำต้องให้ปัญญาเผชิญ เพื่อเรียนรู้กับกิเลสต่างๆอีกมาก อันจะทำให้ปัญญา ได้ซึมซาบอยู่กับสุญญตาทุกลมหายใจเข้าออก นั่นก็คือ การเกิดพุทธภาวะในใจ (นิพพาน) ไม่ใช่เกิดขึ้นเพียงชั่ววูบชั่วขณะเท่านั้น

ส่วนคำแนะนำของตาเฒ่าแซ่อ้วงที่ว่า “หากไปทิศตะวันตก จงเดินไปทางทิศตะวันออก”นั้น เป็นคำเตือนเพื่อบอกให้รู้ว่า ยิ่งอยากไปถึงนิพพานเท่าใด ยิ่งไปไม่ถึงนิพพานเท่านั้น เพราะพระอรหันต์ท่านหมดความอยาก หากยังมีความอยากมากเท่าใด ก็จักยิ่งห่างไกลนิพพานมากยิ่งขึ้นเท่านั้น

ลักษณะอาการที่โป้ยก่ายแสดงอาการปากยื่น ผึ่งหู เป็นลักษณะอาการของทุศีล ที่จะคอยพูดจาส่อเสียด สอดรู้สอดเห็น ฉะนั้นยามใด เมื่อให้หุบปาก เก็บหู ศีลก็ดูเรียบร้อยสมาธิก็จะมา)

IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 05 กันยายน 2014, 17:49:13 »

ไหว้สา  พระธัมมวินัย สายบุญ

สาธุ ๆ ๆ  อนุโมทามิ

พุทธมหายาน  ใช้ หัวข้อธัมมวินัย เป็น โจทย์  แล้วเอาเรื่องราว ที่ สมมุติขึ้นมา เป็น คำตอบ

พุทธหินยาน  ใช้ เรื่องราวในโลกสมมุติ เป็น โจทย์  แล้วได้พระธัมมวินัย ขึ้นมา เป็น คำตอบ

ทั้งสองแนวพุทธ เป็น การใช้โลกสมมุติ เพื่อ โลกกุตระ   ใช้โลกกุตระ เพื่อ โลกสมมุติ   หรือ  โลกหนุนธัมมะ ธัมมะหนุนโลก  มีความว่าง  อนัตตา  สุญญตา มีนิพพาน เป็น เป้าหมายสูงสุด

เถรวาท เอาเรื่องราว ชาดก ธัมมบท เตปิฏก มี พระวินัย พระสูตร พระอภิธัมมะ ใช้ภาษาบาลีเป็นตัวหลัก อิงเอาตามพระมหาเถระ ผู้ทันพุทธสมัย   

มหายาน แต่งเรื่องสมมุติขึ้นมาให้เข้าไปหา ไปสู่ โลกสมมุติ โลกวิมุตติ  อิงจาก พระบาลี  แปลงไปเป็น ภาษาสันสกฤต แล้วครูอาจารย์มหายานก็ออกไปสั่งสอนด้วยภาษาของตน  อาจมีปะปนกับทิฏฐิ ความคิดเห็นส่วนตัว จึงเรียก อาจาริยวาท ด้วยเหตุนี้

ลางเนื้อ  ชอบลางยา  อาหาร เป็นเหมือน  ยาหม้อใหญ่  แต่  ยาหม้อใหญ่  บางทีก็ไม่ใช่ อาหาร

พระพุทธศาสนธัมมวินัย ทั้งสองแนวใหญ่ ดังกล่าวนี้  มุ่ง ละชั่ว  ทำดี  เพื่อ ความพ้นโลก โพ้นทุกขภัย ไม่ต้องวนเกิดเวียนตาย เข้าหาความเป็น อนัตตา  สุญญตา  ความว่างเปล่า เป็น เป้าสูงสุด

ไม่ว่า จักเป็น เรื่องชาดก ธัมมบท ฝ่ายเถรวาท  หรือ การผูกเรื่อง แต่งราว สาวถึงธัมมวินัย  ตามถนัด ของ  ฝ่ายอาจาริยวาท  โลก คือ เรื่องสมมุติ กันทั้งคู่ ชาดก ก็เรื่องของ โลกสมมุติ ที่เคยเกิดขึ้นกับพระโพธิสัตว์จริง    นิยาย  นิทานธัมมวินัย ที่ครูอาจารย์อาจาริยวาทแต่งผูกไว้ ก็เรื่องโลกสมมุติ

เป็น  สมมุติโลก เหมือนกัน แต่ แตกต่างแนวกันไป  แต่  ไปสิ้นสุด  สบกัน ที่ ความว่าง  สุญญตา อนัตตา

ผิดถูกประการใด  ขอผู้รู้ได้ติติง

สาธุ ๆ ๆ อนุโมทามิ




 
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!