ลืมบอกแหมละ ว่านามสกุลเจ้าหลวงเจียงของคือ "จิตตางกูร"
ส่วนนามสกุลเจ้าหลวงพะเยาคือ "ศีติสาร"
ตึงสองนามสกุลเป๋นนามสกุลพระราชทานจากรัชกาลที่ 6
เจ้าหลวงเจียงของสืบเจื้อสายจากเจ้าหลวงน่าน
ส่วนเจ้าหลวงพะเยาสืบเจื้อสายจากหนานติ๊บจ๊าง เหมือนของเจียงฮาย เจียงแสน
เจ้าพะเยาคือศีติสาร สืบมาจากหนานทิพย์ช้าง--ถูกต้องแน่นอนครับ เพราะแม่ผมนามสกุล ศีติสาร-----ซึ่ง เชื้อสายนี้ก็เคยอพยพหนีพม่าไปอยู่ที่ลำปาง ก็ได้สมรส เกี่ยวพันกับ เชื้อเจ้าทาง ลำปาง เชียงใหม่ เชียงตุง
--ช่วงสงกรานต์จะมีงานรวมญาติ ศีติสาร ซึ่ง จะมารวมตัวกันที่พะเยา มีคนหนึ่งทำงานออกแบบที่อเมริกา เคยออกแบบโลโก้ให้โอลิมปิก มีบางส่วนอยู่ที่ตะพานหิน เป็นชาวนาแต่ร่ำรวยหน่อย (บางคนก็แต่งงานกับยากูซ่าที่ญี่ปุ่น) แตกออกเป็นหลายนามสกุล มีจันทร์เพ็ญ-- สิงหสิทธิ(จำไม่ได้) และก็มี มุกดาสนิท ด้วย โดยคุณ ยุทธนา มุกดาสนิท ก็เป็นญาติของตระกูลนี้ด้วย เพราะมีบรรพบุรุษเขาเป็นระดับท่านขุน และเคยย้ายมาอยู่พะเยา---ที่ กทม. ก็มีสังสรรค์กันทุกเดือน และ จัดเก็บแผนผังของตระกูลนี้เอาไว้ แม้แต่จดหมายราชการที่แต่งตั้งชื่อตระกูลนี้---ท่านเจ้าอาวาสวัดพระเจ้าตนหลวงองค์ก่อนก็มีเอกสารพวกนี้เยอะ เคยมี มติชนพมพ์หนังสือออกมา และพี่คนที่อยู่อเมริกาก็เขียนออกมา 1 เล่ม--ตระกูลสุริยะไชย ก็เป็นญาติกัน เพราะยาย เป็นพี่น้องกัน แล้วไปแต่งกับตระกูลนี้ คนโบราณมีลูกเยอะมาก ก็เลยเกี่ยวพันเป็นญาติกันเยอะ
--ในตัวเมืองพะเยาจะเป็นสังคมเล็กๆ ใครเป็นลูกหลานใคร--บ้านอยู่ตรงไหนจะรู้หมด
หลังๆมาคงไม่รู้จักกัน เพราะไปเรียนต่างบ้านต่างเมือง พะเยาเป็นเมืองที่น่าอยู่มาก (เมื่อก่อนนะ) ผมย้ายมาเชียงรายตั้งแต่ 4-5 ขวบ แต่ก็ไปเที่ยวหาญาติอยู่บ่อยๆ
---เรื่องของการอนุรักษ์ ของที่เป็นเครื่องราชอุปโภคของกษัตริย์์ ที่เคยมีคนขุดได้ที่อยุธยา (คนที่ครอบครองถึงกับเป็นบ้าไปเลย) แม้แต่คนที่ขุดกรุพระที่วัดสมอลม สุพรรณบุรี ก็ว่ายน้ำหนี หนีน้ำที่ล้นออกมาแต่กรุกลางเจดีย์ แต่คนที่ไปพบ พบว่าไม่มีน้าสักหยดเดียวและสองคนนั้นว่ายบกอยู่จนเนื้อตัวเป็นแผล และเป็นบ้าจนตายไป--ที่วัดนี้ ไม่ว่ากลางคืนหรือกลางวัน จะเฮี้ยนมาก เปิดประตูรถไม่ออกถ้าอยากมาลอง รนู้สึกเหมือมีคนโดขี่คอ หนักๆ และอยากร้องไห้ นั่นคือวิญญาณาณทั้งไทยและพม่า กำลังแกล้งท่าน และยังตามมาในรถของท่าน อันนี้ไปลองดูได้ตลอดเวลา---ทราบว่า มีการปลอมเอาของปลอมไว้ในพิพิธภัณฑ์ ของจริงไปอยู่แถวธนาคารยุโรป โดบคนมีอำนาจบังคับเอาไป อย่างเช่นหลวงพ่อศิลา เป็นหินหนักมา ยังโขมยเอาไปขายถึงอเมริกา ยามท่านกลับมาถึงเมืองไทย ท่านครับ ค้างตาวเป็นหมื่นๆแสนๆตัวไปรับท่านที่สนามบินดอนเมือง เพราะท่านเคยอยู่ในถ้ำค้างคาวมาก่อน
--รายการตีสิบ ผู้หญิงตายไปแล้ว3วัน ยังกดโทรศัพท์หาตำรวจได้เป็นสิบๆครั้ง----ล่าสุดแถวๆ แยกพงษ์เพชร ผู้หญิงคุมหน้าปรากฏตัวให้เห็นที่ร่านนวดไทย หมอนวดเห็นกันทุกคน กลางวันแสกๆ บางคนกลับไปไข้ขึ้นเลย และปรากฏตัวหลายครั้งด้วย แขกที่ร้านก็นึกว่าเป็นคนในร้าน--จนคนที่รู้จักกันโทรมาถามว่าจะทำยังไง--ก็เขาเป็นเจ้าที่ตรงนั้น และหมดนวดสาว(แก่)
ทำตัวไม่ดี จึงออกมาทักท้วงบ้าง---แสดงว่า เจ้าที่จะฮี้ยนมากกว่าวิญญาณทั้วไป
---มีคนเอาของมาเสนอขายเพื่อนพี่สาว ในราคาแพงมาก แต่ก็เป็นของประเภทยุคโบราณ เขาจึงซื้อไว้ เพื่อไม่ให้ตกไปต่างประเทศ
--พวกที่ตระเวณลักพระตามวัด บาปหนักหนาสาหัสสักเท่าไหร่ เพราะบรรพบุรุษสาปแช่งเอาไว้
--เคยได้ยินว่ามีการฆ่าไก่ตัวผู้สีขาว เพื่อเป็นดวงวิญญาณที่จะรักษาพระพุทธรุป ให้มีความศักดิ์สิทธิ์
---แม่ยายผม ลูกชายเป็นไข้ป่าตาย แกไปขอต่อพระให้ฟื้น รู้สึึกว่ามีร่างทรงทักมาว่า ถ้าฟื้นขึ้นมา ต้องเลิกเล่นการพนัน ลูกแกก็ฟื้น แต่กลายเป็นคนขาพิการไป แกก็หยุดเล่นไพ่ไม่ได้ อยู่ก็เป็นความดันตายที่ รพ. ใครอยากลองก็ที่ หลวงพ่อศรีสวรรค์ จ.นครสวรรค์
-
--ใครอยากถูกรางวัลที่1 บ้าง ที่ อ.นครไทย พิษณุโลก มีคนถูกรางวัลที่ื 1ทุกปี (3ปีซ้อน)แต่ละครั้ง บ้านที่ถูกจะห่างกันราว 200-400 เมตรเท่านั้น--แปลกแต่จริง