รบกวนผู้รู้กฎหมาย

[taratosman]

http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=597286.0
 โดนย้ายห้องคับ มันไม่มีใครเห็น กระทู้เงียบเดือนร้อนจริงๆคับ ใครพอมีความรู้ให้ปรึกษาได้บ้างคับ

[js23.nunui]

ขอเอาประสบการณ์แชร์ครับ คดีแบบนี้หากทวงส่วนต่างไม่ได้ ต้องฟ้องศาล และคดีความ มีอายุ 10 ปี นับตั้งแต่ศาลประทับรับฟ้อง จากนั้นจะมีหนังสือทวงตลอดหากเราไม่ดำเนินการชดใช้ ศาลก็จะออกหมายเรียกตามคำฟ้อง ถึงตอนนั้นศาลจะให้เจรจายินยอม หรือออมชอบ ผมใช้วิธีนี้ครับ จาก 100,000 จ่ายแค่ 10,000 บาทครับ หากอย่างไรหารือ สคบ. หรือทนายอาสา สำนักงานอัยการจังหวัดครับ ลองดูนะ

ขออนุญาตเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่จะซื้อรถมือสองผ่านบริษัทเงินทุน หรือไฟแนนท์ต่าง ๆ ท่านเคยสังเกตุหรือไม่ว่ารถบางคันขายเงินสด(สมมุตินะ) 320,000 บาท และสามารถนำเข้าบริษัท หรือไฟแนนท์ ได้350,000 บาท รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย ตัวเราก็หวังดีใจว่า ราคาเงินสดแค่ 320,000 บาท แต่เข้าได้ตั้ง 350,000 บาท หลายท่านคิดว่าเก็บเงินสดไว้ดีกว่า (ถ้ามี) หรือคิดว่าดีกว่าซื้อรถใหม่ต้องมีเงินดาวน์ ส่งรายเดือนก็พอ ๆ กัน  เลยตัดสินใจซื้อรถมือสอง แต่ขอให้ท่านคิดอย่างนี้ครับ
1. ระยะเวลาที่ส่งกีเดือน ๆ ละเท่าไหร่ เอายอดทั้งหมดลบเงินที่กู้
2. กรณีรถใหม่ หากท่านไม่สามารถส่งได้ก็ถูกยึด(สภาพเดิม ๆ) บริษัทก็จะนำไปขายต่อให้ลูกค้ารายอื่น หากขายได้ก็ถือว่าจบ
3. กรณีรถมือสอง โดยปกติ รถเหล่านี้จะไม่ขายต่อให้ใครเหมือนกับรถใหม่ แต่จะนำไปประมูลเป็นครั้ง ๆ ไป และในการประมูลแต่ละครั้ง ผู้ชนะประมูล ประมูลได้ในราคาที่พอดี หรือสูงกว่าที่บริษัท หรือไฟแนนท์ก็จบ แต่หากว่าผู้ชนะประมูลเสนอราคาต่ำกว่าราคาที่บริษัท หรือไฟแนนท์ ตั้งราคาไว้ ผู้ชนะการประมูลก็จะเรียกส่วนต่างจากผู้เช่าซื้อ หรือคนค้ำประกัน (ถ้ามี)  เช่นเดียวกับที่เจ้าของกระทู้ กำลังเจอครับ
(ความเห็นส่วนตัวครับ)

[taratosman]

ขอเอาประสบการณ์แชร์ครับ คดีแบบนี้หากทวงส่วนต่างไม่ได้ ต้องฟ้องศาล และคดีความ มีอายุ 10 ปี นับตั้งแต่ศาลประทับรับฟ้อง จากนั้นจะมีหนังสือทวงตลอดหากเราไม่ดำเนินการชดใช้ ศาลก็จะออกหมายเรียกตามคำฟ้อง ถึงตอนนั้นศาลจะให้เจรจายินยอม หรือออมชอบ ผมใช้วิธีนี้ครับ จาก 100,000 จ่ายแค่ 10,000 บาทครับ หากอย่างไรหารือ สคบ. หรือทนายอาสา สำนักงานอัยการจังหวัดครับ ลองดูนะ

ขออนุญาตเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่จะซื้อรถมือสองผ่านบริษัทเงินทุน หรือไฟแนนท์ต่าง ๆ ท่านเคยสังเกตุหรือไม่ว่ารถบางคันขายเงินสด(สมมุตินะ) 320,000 บาท และสามารถนำเข้าบริษัท หรือไฟแนนท์ ได้350,000 บาท รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย ตัวเราก็หวังดีใจว่า ราคาเงินสดแค่ 320,000 บาท แต่เข้าได้ตั้ง 350,000 บาท หลายท่านคิดว่าเก็บเงินสดไว้ดีกว่า (ถ้ามี) หรือคิดว่าดีกว่าซื้อรถใหม่ต้องมีเงินดาวน์ ส่งรายเดือนก็พอ ๆ กัน  เลยตัดสินใจซื้อรถมือสอง แต่ขอให้ท่านคิดอย่างนี้ครับ
1. ระยะเวลาที่ส่งกีเดือน ๆ ละเท่าไหร่ เอายอดทั้งหมดลบเงินที่กู้
2. กรณีรถใหม่ หากท่านไม่สามารถส่งได้ก็ถูกยึด(สภาพเดิม ๆ) บริษัทก็จะนำไปขายต่อให้ลูกค้ารายอื่น หากขายได้ก็ถือว่าจบ
3. กรณีรถมือสอง โดยปกติ รถเหล่านี้จะไม่ขายต่อให้ใครเหมือนกับรถใหม่ แต่จะนำไปประมูลเป็นครั้ง ๆ ไป และในการประมูลแต่ละครั้ง ผู้ชนะประมูล ประมูลได้ในราคาที่พอดี หรือสูงกว่าที่บริษัท หรือไฟแนนท์ก็จบ แต่หากว่าผู้ชนะประมูลเสนอราคาต่ำกว่าราคาที่บริษัท หรือไฟแนนท์ ตั้งราคาไว้ ผู้ชนะการประมูลก็จะเรียกส่วนต่างจากผู้เช่าซื้อ หรือคนค้ำประกัน (ถ้ามี)  เช่นเดียวกับที่เจ้าของกระทู้ กำลังเจอครับ
(ความเห็นส่วนตัวครับ)

ขอบพระคุณมากคับ  มีความรู้สึกดีขึ้นมาก ขอบคุณมากๆนะคับ ขอบคุณสังคมดีที่มีในเวป ขอบพระคุณคับ
รบก่วนอีกนิดคับ สคบ. หรือทนายอาสา สำนักงานอัยการจังหวัด ไปติดต่อที่ไหนคับ

[js23.nunui]

สคบ. คือสำนักงานคุมครองผู้บริโภค ลองไปติดต่อที่ศาลากลางจังหวัด ส่วนทนายอาสา ก็ไปที่สำนักงานอัยการจังหวัด ถ้าเชียงรายก็อยู่ตรงข้ามศาลจังหวัดเชียงราย

[taratosman]

สคบ. คือสำนักงานคุมครองผู้บริโภค ลองไปติดต่อที่ศาลากลางจังหวัด ส่วนทนายอาสา ก็ไปที่สำนักงานอัยการจังหวัด ถ้าเชียงรายก็อยู่ตรงข้ามศาลจังหวัดเชียงราย

ขอบพระคุณอีกครั้งคับ 

[۰•ฮักแม่จัน©®]

     กรุงศรีออโต้ น่าจะใช้บริการของอริญรดา  แต่ถ้าอยากสู้คดี ก๋แล้วแต่นะครับ  ถ้าพอมีเงินก็สู้ได้ครับ ทางบริษัทเค้าก็จะฟ้องเป็นค่าเสียหาย แค่คดีแบบนี้ ถ้าศาลตรวจสอบแล้ว ว่าคุณมีทรัพย์สิน ทางบริษัทเค้าจะไม่รับประนอมหนี้บนชั้นศาล เขาจะขอให้ศาลอนุมัติ อายัดทรัพย์สินของเราได้ ตามจำนวนเงินที่เป็นหนี้  บวกค่าทนายอีก 3,000  ค่าธรรมเนียมฤชาให้เป็นพับ อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเราจะต้องเป็นฝ่ายจ่ายให้กับบริษัทที่ฟ้องเรา 
      ลองปรึกษาทนายดูก่อนก็ได้นะครับ แล้วรีบโอนทรัพย์สินที่มีอยู่เป็นของคนอื่น แค่นี้ คุณก็จะไม่ต้องจ่ายเงินก้อนแล้ว  เวลาขึ้นศาลให้ทำตัวจนที่สุด ร้องไห้ให้ศาลฟัง ว่าไม่มีเงิน มีภาระต้องเลี้ยงดู ต้องใช้จ่าย ขอประนอมนี้ได้ต่ำสุดเดือนละ 500 ครับ

[br.9999]

ข้อแนะนำยังไงก็ไว้หูฟังหูเน้อ จริงมั่ง เท็จมั่ง
  กรณีแบบนี้ ถ้าสู้คดีก็ 1-3ปี ไม่มีใครชนะ มีแต่เสียกับเสียเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา คุยกันดีๆ ขอประนอมหนี้ดีที่สุด หรือขอต่อรองกันดู เช่น 7 หมื่น ขอต่อรองสัก 3หมื่น ก่อนเขาจะว่ายังไง ทางไฟแนนท์เขาก้อคงไม่อยากให้เรื่องถึงโรงถึงศาลเพราะใช้เวลานานมาก เสียเวลาเสียทั้งค่าทนาย จบคดีก้อได้เงินคืนไม่เต็มอยู่ดี

     อย่าเชื่อคำแนะจนเกินไปเน้อ กรณีหนี้สินแบบนี้มันไม่ใช่เงินกู้นอกระบบ อยู่ๆเขาจะมาเอาทรัพย์ หรือยึดทรัพย์สินของเราได้ หนี้ของไฟแนนท์มันเป็นหนี้ในระบบที่ถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าจะสู้ก็ต้องสู้ตามกฎหมาย เขาก็ทำตามกฎหมาย
  
   ปกติเท่าที่รู้ ถ้าเราไม่จ่ายค่างวด ติดต่อกันหลายเดือน(นี่คือความผิดของเรา ) ไฟแนนท์จะต้องให้มีจดหมายมาเตือน จนถึงส่งเจ้าหน้าที่ติดตามยึดรถ เขาคงไม่ให้เงินเขาสูญฟรีๆ  (จะมีค่าติดตามด้วย แล้วแต่ระยะเวลา) ถ้าเขายึดรถได้ ก้อต้องมาเคลียร์กัน จนสุดท้ายเขาขายรถไปยังไงมันก้อต้องขายถูกกว่าราคาปกติ หรือราคาที่ติดค้างอยู่แล้ว อย่างราคาประมูลแฟร์สุดๆแล้ว ถ้าราคาขายถูกกว่าราคาหนี้ที่เราค้างเขาอยู่ เขาก็จะเอามาลบกัน เหลือส่วนต่างเท่าไหร่ เขาก็ตามมาเก็บเอากับเราหรือคนค้ำ(ต้องมาเดือดร้อนกับเราด้วย) (ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือรถก็เหมือนกัน)

คุยประนอมหนี้ แรกๆ ทนายกับพนักงานของเขาก้อจะเรียกแพงๆเช่น 7หมืน เขาจะบอกพี่จ่ายมาุ5หมื่นจบเลย เราต่อไปเลยครับ 3หมื่น( แต่ถ้าเปนแสนจ่ายหมื่น...ยากครับ) บอกว่าจ่ายได้แค่นี้ ถ้าไม่ยอมก็ให้เขาดำเนินฟ้องเอง อีกประมาณ3-6เดือนจะมีหมายศาลมาหา นัดวันไปศาล เขาแค่เรียกเราไปคุยประนอมหนี้ เราก็ยืนแค่นั้น ถ้าเขายอมก็จบ ถ้าไม่ยอมเขาก็พาไปชั้นสองฟ้องศาล หรือเข้าสู่กระบวนการ ศาลเขาก้อจะสอบถามเหตุผลทั้งสองฝ่าย แล้วอีกสาม-หกเดือนนัดสืบพยานรอบแรก ช่วงที่อยู่ในกระบวนการนี้ เรายังคุยประนอมหนี้ได้อยู่ ถ้าตกลงกันได้เขาก็จะถอนเรื่องออกจากศาล แต่ต้องให้เขาทำหนังสือยืนยันด้วยนะครับ แต่ถ้าจะให้จบระบวนการของศาลก็แล้วแต่ละครับว่าศาลท่านจะให้เราจ่ายเท่าไหร่ก้อเท่านั้น บางทีเรารู้ว่าเราผิด เชื่อคนอื่นหัวหมอเกินไปก็เข้าตัวครับ อีกอย่างถ้าขึ้นศาลเราต้องมีทนายด้วย ว่าความเองไม่ได้


เคยโดนเรื่องประกันภัยรถยนต์ เขาเรียกมา 25000 +7%ภาษี คุยประนอมนี้ จ่ายแค่ 10000 จบครับ

[js23.nunui]

ข้อแนะนำยังไงก็ไว้หูฟังหูเน้อ จริงมั่ง เท็จมั่ง
  กรณีแบบนี้ ถ้าสู้คดีก็ 1-3ปี ไม่มีใครชนะ มีแต่เสียกับเสียเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา คุยกันดีๆ ขอประนอมหนี้ดีที่สุด หรือขอต่อรองกันดู เช่น 7 หมื่น ขอต่อรองสัก 3หมื่น ก่อนเขาจะว่ายังไง ทางไฟแนนท์เขาก้อคงไม่อยากให้เรื่องถึงโรงถึงศาลเพราะใช้เวลานานมาก เสียเวลาเสียทั้งค่าทนาย จบคดีก้อได้เงินคืนไม่เต็มอยู่ดี

     อย่าเชื่อคำแนะจนเกินไปเน้อ กรณีหนี้สินแบบนี้มันไม่ใช่เงินกู้นอกระบบ อยู่ๆเขาจะมาเอาทรัพย์ หรือยึดทรัพย์สินของเราได้ หนี้ของไฟแนนท์มันเป็นหนี้ในระบบที่ถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าจะสู้ก็ต้องสู้ตามกฎหมาย เขาก็ทำตามกฎหมาย
  
   ปกติเท่าที่รู้ ถ้าเราไม่จ่ายค่างวด ติดต่อกันหลายเดือน(นี่คือความผิดของเรา ) ไฟแนนท์จะต้องให้มีจดหมายมาเตือน จนถึงส่งเจ้าหน้าที่ติดตามยึดรถ เขาคงไม่ให้เงินเขาสูญฟรีๆ  (จะมีค่าติดตามด้วย แล้วแต่ระยะเวลา) ถ้าเขายึดรถได้ ก้อต้องมาเคลียร์กัน จนสุดท้ายเขาขายรถไปยังไงมันก้อต้องขายถูกกว่าราคาปกติ หรือราคาที่ติดค้างอยู่แล้ว อย่างราคาประมูลแฟร์สุดๆแล้ว ถ้าราคาขายถูกกว่าราคาหนี้ที่เราค้างเขาอยู่ เขาก็จะเอามาลบกัน เหลือส่วนต่างเท่าไหร่ เขาก็ตามมาเก็บเอากับเราอีกที (ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือรถก็เหมือนกัน)

คุยประนอมหนี้ แรกๆ ทนายกับพนักงานของเขาก้อจะเรียกแพงๆเช่น 7หมืน เขาจะบอกพี่จ่ายมาุ5หมื่นจบเลย เราต่อไปเลยครับ 3หมื่น( แต่ถ้าเปนแสนจ่ายหมื่น...ยากครับ) บอกว่าจ่ายได้แค่นี้ ถ้าไม่ยอมก็ให้เขาดำเนินฟ้องเอง อีกประมาณ3-6เดือนจะมีหมายศาลมาหา นัดวันไปศาล เขาแค่เรียกเราไปคุยประนอมหนี้ เราก็ยืนแค่นั้น ถ้าเขายอมก็จบ ถ้าไม่ยอมเขาก็พาไปชั้นสองฟ้องศาล หรือเข้าสู่กระบวนการ ศาลเขาก้อจะสอบถามเหตุผลทั้งสองฝ่าย แล้วอีกสามเดือนนัดสืบพยาน ช่วงที่อยู่ในกระบวนการนี้ เรายังคุยประนอมหนี้ได้อยู่ ถ้าตกลงกันได้เขาก็จะถอนเรื่องออกจากศาล แต่ต้องให้เขาทำหนังสือยืนยันด้วยนะครับ แต่ถ้าจะให้จบระบวนการของศาลก็แล้วแต่ละครับว่าศาลท่านจะให้เราจ่ายเท่าไหร่ก้อเท่านั้น บางทีเรารู้ว่าเราผิด เชื่อคนอื่นหัวหมอเกินไปก็เข้าตัวครัล


เคยโดนเรื่องประกันภัยรถยนต์ เขาเรียกมา 25000 +7%ภาษี คุยประนอมนี้ จ่ายแค่ 10000 จบครับ

***********************

ผมตอบในกระทู้แจ้งว่า "แชร์ประสบการณ์โดยตรง" เรียก 100,000 บาท จ่าย 10,000 บาท เรื่องจริง (จ่ายผ่านศาลด้วยจร้า) ขออภัยครับ เป็นกรณีส่วนตัว เครสอาจจะไม่เหมือนกันจร้า

[br.9999]

ครับ อาจจะเปนคนละเครสกัน อย่างกรณีนี้ จะมีค่าติดตามยึดรถมาบวกด้วย แล้วแต่คู่กรณีละครับ

ดูจากคำแนะนำบางท่านในนี้ เหมือนราดน้ำมันเข้ากองไฟ http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=597286.0
ผมไม่ใช่นักกฏหมายเน้อ แต่้ก้อเอาประสบการณ์ที่เคยเจอมาแนะนำเผื่อเปนประโยชน์บ้าง

[taratosman]

     กรุงศรีออโต้ น่าจะใช้บริการของอริญรดา  แต่ถ้าอยากสู้คดี ก๋แล้วแต่นะครับ  ถ้าพอมีเงินก็สู้ได้ครับ ทางบริษัทเค้าก็จะฟ้องเป็นค่าเสียหาย แค่คดีแบบนี้ ถ้าศาลตรวจสอบแล้ว ว่าคุณมีทรัพย์สิน ทางบริษัทเค้าจะไม่รับประนอมหนี้บนชั้นศาล เขาจะขอให้ศาลอนุมัติ อายัดทรัพย์สินของเราได้ ตามจำนวนเงินที่เป็นหนี้  บวกค่าทนายอีก 3,000  ค่าธรรมเนียมฤชาให้เป็นพับ อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเราจะต้องเป็นฝ่ายจ่ายให้กับบริษัทที่ฟ้องเรา 
      ลองปรึกษาทนายดูก่อนก็ได้นะครับ แล้วรีบโอนทรัพย์สินที่มีอยู่เป็นของคนอื่น แค่นี้ คุณก็จะไม่ต้องจ่ายเงินก้อนแล้ว  เวลาขึ้นศาลให้ทำตัวจนที่สุด ร้องไห้ให้ศาลฟัง ว่าไม่มีเงิน มีภาระต้องเลี้ยงดู ต้องใช้จ่าย ขอประนอมนี้ได้ต่ำสุดเดือนละ 500 ครับ

ข้อแนะนำยังไงก็ไว้หูฟังหูเน้อ จริงมั่ง เท็จมั่ง
  กรณีแบบนี้ ถ้าสู้คดีก็ 1-3ปี ไม่มีใครชนะ มีแต่เสียกับเสียเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา คุยกันดีๆ ขอประนอมหนี้ดีที่สุด หรือขอต่อรองกันดู เช่น 7 หมื่น ขอต่อรองสัก 3หมื่น ก่อนเขาจะว่ายังไง ทางไฟแนนท์เขาก้อคงไม่อยากให้เรื่องถึงโรงถึงศาลเพราะใช้เวลานานมาก เสียเวลาเสียทั้งค่าทนาย จบคดีก้อได้เงินคืนไม่เต็มอยู่ดี

     อย่าเชื่อคำแนะจนเกินไปเน้อ กรณีหนี้สินแบบนี้มันไม่ใช่เงินกู้นอกระบบ อยู่ๆเขาจะมาเอาทรัพย์ หรือยึดทรัพย์สินของเราได้ หนี้ของไฟแนนท์มันเป็นหนี้ในระบบที่ถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าจะสู้ก็ต้องสู้ตามกฎหมาย เขาก็ทำตามกฎหมาย
   
   ปกติเท่าที่รู้ ถ้าเราไม่จ่ายค่างวด ติดต่อกันหลายเดือน(นี่คือความผิดของเรา ) ไฟแนนท์จะต้องให้มีจดหมายมาเตือน จนถึงส่งเจ้าหน้าที่ติดตามยึดรถ เขาคงไม่ให้เงินเขาสูญฟรีๆ  (จะมีค่าติดตามด้วย แล้วแต่ระยะเวลา) ถ้าเขายึดรถได้ ก้อต้องมาเคลียร์กัน จนสุดท้ายเขาขายรถไปยังไงมันก้อต้องขายถูกกว่าราคาปกติ หรือราคาที่ติดค้างอยู่แล้ว อย่างราคาประมูลแฟร์สุดๆแล้ว ถ้าราคาขายถูกกว่าราคาหนี้ที่เราค้างเขาอยู่ เขาก็จะเอามาลบกัน เหลือส่วนต่างเท่าไหร่ เขาก็ตามมาเก็บเอากับเราหรือคนค้ำ(ต้องมาเดือดร้อนกับเราด้วย) (ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือรถก็เหมือนกัน)

คุยประนอมหนี้ แรกๆ ทนายกับพนักงานของเขาก้อจะเรียกแพงๆเช่น 7หมืน เขาจะบอกพี่จ่ายมาุ5หมื่นจบเลย เราต่อไปเลยครับ 3หมื่น( แต่ถ้าเปนแสนจ่ายหมื่น...ยากครับ) บอกว่าจ่ายได้แค่นี้ ถ้าไม่ยอมก็ให้เขาดำเนินฟ้องเอง อีกประมาณ3-6เดือนจะมีหมายศาลมาหา นัดวันไปศาล เขาแค่เรียกเราไปคุยประนอมหนี้ เราก็ยืนแค่นั้น ถ้าเขายอมก็จบ ถ้าไม่ยอมเขาก็พาไปชั้นสองฟ้องศาล หรือเข้าสู่กระบวนการ ศาลเขาก้อจะสอบถามเหตุผลทั้งสองฝ่าย แล้วอีกสาม-หกเดือนนัดสืบพยานรอบแรก ช่วงที่อยู่ในกระบวนการนี้ เรายังคุยประนอมหนี้ได้อยู่ ถ้าตกลงกันได้เขาก็จะถอนเรื่องออกจากศาล แต่ต้องให้เขาทำหนังสือยืนยันด้วยนะครับ แต่ถ้าจะให้จบระบวนการของศาลก็แล้วแต่ละครับว่าศาลท่านจะให้เราจ่ายเท่าไหร่ก้อเท่านั้น บางทีเรารู้ว่าเราผิด เชื่อคนอื่นหัวหมอเกินไปก็เข้าตัวครับ อีกอย่างถ้าขึ้นศาลเราต้องมีทนายด้วย ว่าความเองไม่ได้


เคยโดนเรื่องประกันภัยรถยนต์ เขาเรียกมา 25000 +7%ภาษี คุยประนอมนี้ จ่ายแค่ 10000 จบครับ

   ขอพระคุณคับผมจะลองคุยกันก่อน ลดได้เท่าไหรคับ ขอบคุณสังคมที่ดีคับ