คนเมือง / คนไทย

[SAWBWA]

แป๋งบ่ผิดไว้หื้อลูก  แป๋งถูกไว้หื้อหลาน  อดีตเป๋นตี้มาหังปัจจุบัน  ปัจจุบันเป๋นตี้ไปหังอนาคต   

[~KT 2 U~]

   เรื่องคนเมือง กับ คนไทยแหมละ

ตะก่อนก็จะฮ้องคนตางภาคกลาง ว่าคนไทย เพราะเปิ้นอู้ภาษาำไทย แล้วฮ้องตั๋วเก่าว่าเป๋นคนเมือง เพราะอู้กำเมือง

แต่บ่เด่วนี้ กำว่า " คนเมือง" ในความหมายคนคนภาคอื่นๆ จะเข้าใจ๋ว่าเป็น "คนที่อยู่ในตัวเมือง" บ้านเฮาก็คือ "ในเวียง" เวียง ก็คือเมืองนั่นเนาะ

เข้าใจ๋ว่าก๋านตี้ฮ้องคนตี้อยู่แต่ละตี้บ่ว่าจะเป๋น คนเมือง คนไทย คนใต้ คนลาว คาดว่าน่าจะเป๋นก๋านฮ้องจาก "เชื้อพันธุ์, ภาษา และ ภูมิภาคที่อยู่" ของคนนั้น บ่ดาย (เวลาอู้ จะได้บ่ต้องมีส่วนขยายหยังนัก อู้ปุ๊บฮู้ทันทีว่าคน คนนั้นเป๋นคนตี้ไหน อยู่ส่วนไหนของประเทศ)

ในความหมายของคนภาคเหนือ
" คนเมือง "  คือคนที่อาศัยอยู่ในภาคเหนือ ใช้ภาษาล้านนา (เป็นภาษาท้องถิ่น)
" คนไทย " คือคนที่อาศัยอยู่ภาคกลาง ใช้ภาษาไทย (เรียกภาษากลาง เพราะเป็นภาษาหลักของประเทศ)
" คนใต้ " (ออกเสียงว่า คนไต้)  คือคนที่อยู่ภาคใต้ ใช้ภาษา(อะไรอะ? + ยาวี)
" คนลาว "  คือคนที่อาศัยอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน (ใช้ภาษาอีสาน ไม่ใช่ภาษาลาว ฟังดู ภาษาอีสานกับภาษาลาวต่างกันเน้อ  แต่ว่าอยู่ติดลาว ก็เลยเรียก ลาวไปเลย)

ความจริงก๋านฮ้อง คนเมือง คนไทย อู้กั๋นแค่ในประเทศ เพื่อจะได้บ่งบอกว่า เขาอยู่ตี้ไหนบ่ดาย
บ่ใช่จะแบ่งแยกว่าเป๋นคนละชาติกั๋น

ขนาดอยู่ในหมู่บ้านเดวกั๋นก็ยังต้องมีคำสร้อยต่อท้ายจื่อเลย  อ้ายคำบ้านใต้,  อ้ายดีค้อก๋าง, อุ๊ยติ๊บบ้านใน (หันก่อ ยังต้องแบ่งเลย จะได้ฮู้ว่าคนใด)

ถ้าอยู่คนละหมู่บ้าน  ลุงก๋องบ้านปง,  น้าสมบ้านป๋างกอก

อยู่คนละอำเภอ ปี่หนานเมืองพาน, น้องหวานป่าแดด  (หั้น)

อยู่คนละจั๋งหวัด  บ่าวน่าน, สาวแม่ฮ่องสอน

อยู่คนละภูมิภาค  ก็อย่างตี้ว่ามาตางบนนั่นเนาะ
 
สุดท้ายแล้วอยู่ในประเทศไทย สัญชาติไทย เชื้อชาติไทย แต่ชาติพันธุ์เป๋นคนเมืองจ้าว อิอิ


บ่ซีเรียสเน้อ (อี้ลุ๊ใจ้กำฝรั่งก่อนเน้อ)  แบบว่าอยากบอกบ่ดายว่ากึ๊ดจะใดกับ กำว่า  "คนเมือง / คนไทย "

[wat]

เรื่องของเรื่องก็คือ มีคนเชียงรายที่รู้จักกันคนหนึ่ง เวลาแกไปธุระที่ไหน
แกก็จะบอกคนอื่นว่าแกเป็นคนไทย
แต่ทุกทีที่แกมีเรื่องทะเลาะกับคนสยามภาคกลาง แกก็มักจะบ่นให้ฟังเสมอว่า
"จังบ่าฮ่า ไทยดำ หั้นง่าว ใคร่เอาลูกกุยจดมันขนาด"
หรือไม่ก็
"ใคร่ตี๋คนไทยบ่าเฮ้ย!!!"

อ้าว พูดงี้ยังกับว่าตัวเองไม่ใช่ "คนไทย" ยังงั้นนิ

หรือว่าใน "จิตใต้สำนึกลึกๆ" ของคนล้านนาแล้ว เรายังแบ่งเขาแบ่งเราอยู่
คนเมืองก็คือคนเมือง คนไทยก็คือคนไทย
แม้หลักฐานราชการจะบอกว่าเชื้อชาติไทย สัญชาติไทย
แต่เราในใจเราลึกๆก็ยังตะขิดตะขวงกับคำว่า "ไทย" อยู่

คนแบบนี้เขาเรียกว่าคน สัปปะหลี้

[แก้ววอก]

ผมคนเมืองเต๋มร้อย อู้นักบ่าได้ครับจัดไค่ว่าขนาดหนัก แต่เดียวหมูตี่เขาผ่อหนังมานัก เขาอินกับหนัง
มันจะมาเถียงเอา

[ล้านนานิยม...นิยมล้านนา]

เปิงใจ๋กำอู้อ้ายบ่าวสองเมืองขนาดครับ เฮาคือคนไท บ่ไจ้ไทยสยาม

[~ Bullet for my Brother ~]

คนไทยโอ่ยจะต๋ายสกปรก(ไทยแท้ดั้งเดิมไทยตั๋วดำหนาครับ)เห็นแก่ตั๋วหัววอกแหม(ไทยทั่วไป)

คนเมืองสะอาดกว่าเป็นกั๋นเองกว่า นอบน้อม รักสงบ บ่อั้นจำนวนคนนักกว่า3จ.ภาตใต้แหม แยกดินแดนไปแล้ว

ผมเป็นคนเมืองอย่าเอาผมไปรวมกับคนไทยซกมก บ่คู่ควร

[RX_ALCHEMIST]

ความจริงแล้ว กำว่า คนเมือง เกิดขึ้นมาบ่เมินนี่เองหนา ประมาณต้นๆรัตนโกสินทร์ ยุคเก็บผักใส่ซ้าเก็บข้าใส่เมือง เลาะกำนี่มาได้ได ก่มาจากคนไทในล้านนาเองแหละ จุดประสงค์ในสมัยนั้น บ่ได้เอามาแยกคนไทแต่ละภาคแต่อย่างใด แต่เพื่อแยกคนไทหรือไตตี้มีวัฒนธรรมสูงกว่าออกจากกลุ่มชาติพันธุ์อื่นในแดนล้านนาสมัยนั้น เช่น ม้งแม้วกะเหรี่ยงลัวะขมุ อะหยังประมาณนี้ และเพื่อประโยชน์ในการกวาดต้อนผู้คนไทลื้อ ไทยวน ไทเขิน ไทใหญ่ ในเขตพม่าลาวจีนในปัจจุบัน หื้อเข้ามาอยู่ในเมืองหรือเวียง ปัญหาก่คือ แต่ละกลุ่มก่มีวัฒนธรรมอัตลักษณ์ต่างกันนักพ่องน้อยพ่องก่ะมี เพื่อเอาไจ๋หรือรวมไจ๋คนทุกหมู่ก่ะไจ้คำกล๋างๆบ่ได้ระบุว่าไทกลุ่มไหน จะสังเกตว่าคนไทยวน ไทลื้อ ไทเขิน ไทใหญ่ ตี้อื่น(นอกภาคเหนือของประเทศไทย) เปิ้นก่ะบ่ได้ฮ้องตั๋วเก่าว่าคนเมือง เพราะมันเป๋นกำตี้ถูกสร้างขึ้นมาทีหลังเป๋นการเฉพาะกิจ และตกมาถึงปัจจุบันด้วยความหมายตี้ยังคลุมเครืออยู่

ภาษา เป็นสิ่งสมมติ มีการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย ตามสภาพการณ์ ตามความนิยม บ่ดียึดติดนัก กำว่า คนเมือง ยังสมควรไจ้อยู่ก่อ หรือจะไจ้กำว่า คนเหนือ (บ่สร้างความขัดแย้งตวย ประมาณว่า คนเหนือ คนอีสาน คนภาคกลาง คนใต้) หรือจะฮ้องเฉพาะกลุ่มไปเลย (ไทยวน ไท....) ก่ะต้องวิพากษ์กั๋นต่อไป แต่กำว่าคนไทยตี้หมายถึงคนภาคกลางตะอั้นหื้อเลิกอู้จะอี้ได้แล้ว เพราะหมู่เฮาจาวเหนือก่ะคือ คนไท ตรงนี้หมู่เฮายอมฮับกั๋นแน่ๆ และเฮาก่ะเป๋นคนไทยตวย เพราะอยู่ในประเทศไทย มีบัตรประชาชน ตรงนี้ก่น่าจะเข้าไจ๋ตรงกั๋นตวย แต่ถ้าอยู่เจียงตุง เป๋นไทก่อ เป๋นก่า แต่เป๋นคนไทยก่อ บ่ไจ้ หรือแม้วเป๋นคนไทก่อ ก่ะบ่ไจ้ แต่เป๋นคนไทยก่อ เป๋นก่าถ้ามีบัตรประชาชน เข้าใจ๋ตรงกั๋นแม่นก่อ

[demonza]

ตามความเห็นของผม ในฐานะ อดีตครูภาษาไทยและเคยศึกษาเรื่องนี้มาก่อน
จากหลักฐานประวัติศาสตร์  เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา ลำปาง เคยเป็นราชอาณาจักรมาก่อน และคนที่อยู่ในแถบนี้ เรียกวาคนเมือง และมีชนเผ่าต่างๆอยู่ร่วม  และเคยตกในการปกครองของพม่าเกือบ200ปี เมื่อพระเจ้าตากตีเมืองเชียงใหม่จึงได้เมืองเชียงใหม่มาอยู่ในเขตรัฐสยาม

    คนสยาม  สยามแปลว่าดำนะครับ รัฐสยามไม่เคยมีมาก่อน มีแต่ชนเผ่า"ไท" แต่มีหลายราชอาณาจักร  เช่น สุโขทัย (พ่อขุนราม) นครพิงค์เชียงใหม่   อโยธยา   ศรีธรรมาโศกราช  ลังกาสุกะ(ปัตตานี)  ต่อมามีการรวมประเทศแล้วแบ่งเขต "รัฐ" กลายเป็นสยามและไทย ดังนั้น เจ้าของกระทู้อาจคิดถูก แต่ไม่ถูกทั้งหมด

    ที่ผมบอกว่าเจ้าของกระทู้คิดถูก คือ ผมเองเป็นคนกรุงเทพ  เคยสะกิดใจเรื่องนี้เช่นกันว่าทำไม คนเชียงราย จึงเรียก"โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์"ว่า "โรงบาลไทย" เคยมีคนเขียนเรื่องนี้ไว้ในวารสารศิลปวัฒนธรรม ปี51 ครับ ไว้ผมจะเอามาบอก
แต่เหตุผลที่ผมจำได้คือ คนเมืองมีความคิดว่า คนภาคกลางใช้ภาษาไทยภาคกลาง
พูดกลาง นั่นคือ ภาษาไทย ส่วนภาษาที่คนเมืองพูด นั้นคือคำเมือง นี่แค่เรื่องภาษา
ส่วนเรื่องส่วนราชการที่มาจากส่วนกลาง นั้นเรียกว่า"ไทย"หมดเพราะมาจากส่วนกลาง
เห็นได้ชัดเจน คือโรงบาลไทย ดังนั้นผมไม่แปลกใจที่คนเขาด่าตามที่โพสต์

[แก้ววอก]

ผมเป๋นฅนเมือง บ่หุมคนไทย (คนจ๋ำพวกอะไรทำไม)
ขอแสดงกิริยา อยู่นอกจอคอมฯ ด้วยก๋ารบืนปากใส่ บางกะทู้ตี่อ่านแล้วส้มต๋า
(การบืนปาก ของผมถ้านึกภาพบ่ออก หื้อผ่อเอาตี่ บางสิ่งของหมูเต๊อะ)
ขอส่งต๊ายกับกำว่า "เหอะเห๋อเม๊อะ"
ปล. หลวกขนาดก๊ะสู

[แก้ววอก]

ตามความเห็นของผม ในฐานะ อดีตครูภาษาไทยและเคยศึกษาเรื่องนี้มาก่อน
จากหลักฐานประวัติศาสตร์  เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา ลำปาง เคยเป็นราชอาณาจักรมาก่อน และคนที่อยู่ในแถบนี้ เรียกวาคนเมือง และมีชนเผ่าต่างๆอยู่ร่วม  และเคยตกในการปกครองของพม่าเกือบ200ปี เมื่อพระเจ้าตากตีเมืองเชียงใหม่จึงได้เมืองเชียงใหม่มาอยู่ในเขตรัฐสยาม

    คนสยาม  สยามแปลว่าดำนะครับ รัฐสยามไม่เคยมีมาก่อน มีแต่ชนเผ่า"ไท" แต่มีหลายราชอาณาจักร  เช่น สุโขทัย (พ่อขุนราม) นครพิงค์เชียงใหม่   อโยธยา   ศรีธรรมาโศกราช  ลังกาสุกะ(ปัตตานี)  ต่อมามีการรวมประเทศแล้วแบ่งเขต "รัฐ" กลายเป็นสยามและไทย ดังนั้น เจ้าของกระทู้อาจคิดถูก แต่ไม่ถูกทั้งหมด

    ที่ผมบอกว่าเจ้าของกระทู้คิดถูก คือ ผมเองเป็นคนกรุงเทพ  เคยสะกิดใจเรื่องนี้เช่นกันว่าทำไม คนเชียงราย จึงเรียก"โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์"ว่า "โรงบาลไทย" เคยมีคนเขียนเรื่องนี้ไว้ในวารสารศิลปวัฒนธรรม ปี51 ครับ ไว้ผมจะเอามาบอก
แต่เหตุผลที่ผมจำได้คือ คนเมืองมีความคิดว่า คนภาคกลางใช้ภาษาไทยภาคกลาง
พูดกลาง นั่นคือ ภาษาไทย ส่วนภาษาที่คนเมืองพูด นั้นคือคำเมือง นี่แค่เรื่องภาษา
ส่วนเรื่องส่วนราชการที่มาจากส่วนกลาง นั้นเรียกว่า"ไทย"หมดเพราะมาจากส่วนกลาง
เห็นได้ชัดเจน คือโรงบาลไทย ดังนั้นผมไม่แปลกใจที่คนเขาด่าตามที่โพสต์

ต้องขอพิมพเป๋นภาษาก๋างคับเดียวเขาอ่านบ่ฮู้เรื่อง

เป็นครู ภาษาไทยเหรอครับ ที่ว่าเคยศึกษาเรื่องนี้มาก่อน ประวัติศาสตร์ที่อ่านและเรียนรู้มา เขียนจากใครครับ
คนเมืองหรือคนไทยครับ  หรือจากนักวิชาการของคนไทยหรือคนเมืองครับ  คุณคิดว่าเขามีความใส่ใจแค่ไหนในการเขียนแคไหน
แล้วคุณ อ่านตัวอักษร ตั๋วเมือง เป็นไหม   แล้วตัวฝักขามของคุณละ
 บันทึกต่างๆ ที่ไม่ได้เขียนเป็นภาษากลางคุณเคยอ่านมั้ย  
พงศวดาร ประเทศไกล้เคียงพอเคยอ่านผ่านตามั้ยครับ เขียนตรงกับบ้านเรามั้ย  
ผมจะพูดให้ฟังนะ แบบกดแป้นพิมพ์แล้วก็พิมพ์แบบภาษาบ้านๆ (การศึกษาผมมันน้อย จะว่าผมโง่ก็ได้ เพราะคุณเป็นไทย ผมโดนคนไทยเยียดมาจนชินแล้วละมันไม่เป็นไรหรอก ทีต้องยอมรับว่าตัวเองโง่ เพราะจะได้เห็นความฉลาดของผู้อื่นไงว่าเขาฉลาดแค่ไหน มันเป็สูตรตายตัวอยู่ละ ผมอ่านเจอมาในหนังสือสามก๊กครับ)  ในตำราเรียนตอนผมเป็นเด็ก  เห็นมีแต่สอนเรื่อง อณาจักร สุโขทัย อยุธา ธนบุรี รัตนโกสินทร์  แล้วล้านนาละ มารู้อีกทีก็ตอนโตขึ้นมานีแหละ (มีแต่คนที่ใผ่ในเรื่องนี้เท่านั้น ที่เขาจะพอเข้าใจว่า ล้านนาคืออะไร  เพราะคนเมืองหลายคนโดนลงโปรแกรมไทยสยามมาตั้งแต่เด็ก บางคนลงโปรแกรม ล้านนา แล้วสเป๊กสมองไม่รองรับข้อมูล)
ปล .   ถ้าบอกว่าคำว่าคนเมือง พึ่งเรียกตัวเองมาไม่กี่ปี  ผมก็จะพยายามเรียกตัวเองว่า คนล้านนา (จะพูดกับคนไทยเท่านั้น) แต่ก็ยังจะพูดกับคนล้านนาว่าตัวเองเป็นคนเมืองอยู่เสมอ ในถานะที่เข้าใจกันง่ายๆ กับคนเมืองด้วยกัน
(คนเมืองคือคนที่มีบรรพบุรุษคือคนหลากเผ่าหลากกลุ่ม ที่เคยอยู่ในดินแดนล้านนา และที่เคยมี พญามังราย เป็นพระปฐมกษัตริย์ที่เคยยิ่งใหญ่ในแผ่นดินล้านนาแห่งนี้ พอเข้าใจสั้นๆอีกนิดมั้ยครับ)

[แก้ววอก]

ความจริงแล้ว กำว่า คนเมือง เกิดขึ้นมาบ่เมินนี่เองหนา ประมาณต้นๆรัตนโกสินทร์ ยุคเก็บผักใส่ซ้าเก็บข้าใส่เมือง เลาะกำนี่มาได้ได ก่มาจากคนไทในล้านนาเองแหละ จุดประสงค์ในสมัยนั้น บ่ได้เอามาแยกคนไทแต่ละภาคแต่อย่างใด แต่เพื่อแยกคนไทหรือไตตี้มีวัฒนธรรมสูงกว่าออกจากกลุ่มชาติพันธุ์อื่นในแดนล้านนาสมัยนั้น เช่น ม้งแม้วกะเหรี่ยงลัวะขมุ อะหยังประมาณนี้ และเพื่อประโยชน์ในการกวาดต้อนผู้คนไทลื้อ ไทยวน ไทเขิน ไทใหญ่ ในเขตพม่าลาวจีนในปัจจุบัน หื้อเข้ามาอยู่ในเมืองหรือเวียง ปัญหาก่คือ แต่ละกลุ่มก่มีวัฒนธรรมอัตลักษณ์ต่างกันนักพ่องน้อยพ่องก่ะมี เพื่อเอาไจ๋หรือรวมไจ๋คนทุกหมู่ก่ะไจ้คำกล๋างๆบ่ได้ระบุว่าไทกลุ่มไหน จะสังเกตว่าคนไทยวน ไทลื้อ ไทเขิน ไทใหญ่ ตี้อื่น(นอกภาคเหนือของประเทศไทย) เปิ้นก่ะบ่ได้ฮ้องตั๋วเก่าว่าคนเมือง เพราะมันเป๋นกำตี้ถูกสร้างขึ้นมาทีหลังเป๋นการเฉพาะกิจ และตกมาถึงปัจจุบันด้วยความหมายตี้ยังคลุมเครืออยู่

ภาษา เป็นสิ่งสมมติ มีการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย ตามสภาพการณ์ ตามความนิยม บ่ดียึดติดนัก กำว่า คนเมือง ยังสมควรไจ้อยู่ก่อ หรือจะไจ้กำว่า คนเหนือ (บ่สร้างความขัดแย้งตวย ประมาณว่า คนเหนือ คนอีสาน คนภาคกลาง คนใต้) หรือจะฮ้องเฉพาะกลุ่มไปเลย (ไทยวน ไท....) ก่ะต้องวิพากษ์กั๋นต่อไป แต่กำว่าคนไทยตี้หมายถึงคนภาคกลางตะอั้นหื้อเลิกอู้จะอี้ได้แล้ว เพราะหมู่เฮาจาวเหนือก่ะคือ คนไท ตรงนี้หมู่เฮายอมฮับกั๋นแน่ๆ และเฮาก่ะเป๋นคนไทยตวย เพราะอยู่ในประเทศไทย มีบัตรประชาชน ตรงนี้ก่น่าจะเข้าไจ๋ตรงกั๋นตวย แต่ถ้าอยู่เจียงตุง เป๋นไทก่อ เป๋นก่า แต่เป๋นคนไทยก่อ บ่ไจ้ หรือแม้วเป๋นคนไทก่อ ก่ะบ่ไจ้ แต่เป๋นคนไทยก่อ เป๋นก่าถ้ามีบัตรประชาชน เข้าใจ๋ตรงกั๋นแม่นก่อ

ตลกดี ขอตอบสั้นๆเน้อ

[RX_ALCHEMIST]

เปิงเลาะตอบสั้นๆ สติปัญญาก่ะมีตะอี้ ตลกมึงนั่นเน๊าะ อู้อะหยังบ่ออกเถียงบ่ได้ก่อู้ได้แต่ว่า ตลก  

คนตี้บอกว่าคนเมืองคือเจื้อชาติหนึ่ง หมายถึงเจื้อชาติอะหยัง บอกเจ่มได้ก่อ มันเป๋นกำอุปโลกขึ้นมาตะอั้นเพื่อไจ้ทางก๋านเมืองในยุคเก็บกวาดคนมาใส่เวียง เป๋นกำอู้รวมๆ เจื้อชาติมีแต่เจื้อชาติไท จะไทกลุ่มไหนก่ะว่ากั๋นไป เลาะคนหมู่นี่เองตี้มารวมกั๋นเป็นคนเมือง กำว่าคนเมืองจึงบ่ได้หมายถึงเจื้อชาติหนึ่งๆแต่อย่างใด

เลาะขอถามต่อแหมว่า ถ้ามีกำว่าคนเมืองแล้ว เลาะกำเมืองจะคือภาษาไทยวนตะอั้นหรือหมายถึงภาษาไทลื้อไทเขินไทใหญ่ตวยก่อ ตั๋วเมืองจะหมายถึงอักษรธรรมล้านนาตะอั้นหรือหมายถึงอักษรในล้านนาแบบอื่นตวยก่อ ขอถามหื้อชัดเจนเจ่มเต๊อะ แลกเปลี่ยนความเห็นหม่าดายประกอบกับกำว่าคนเมือง

ขอฝากตวยว่า สมัยก่อนบ่ได้มีเต้าอาณาจักรล้านนา แต่ยังมีอาณาจักรสุโขทัย อาณาจักรอยุธยา อาณาจักรล้านจ้าง อาณาจักรนครศรีธรรมราช อาณาจักรศรีวิจัย อาณาจักรขอม อาณาจักร....แหมหลายอาณาจักรบนแผ่นดินไทยปัจจุบัน ไกล๋ๆก่มี อาณาจักรโรมัน อาณาจักรกรีก อาณาจักรจีนหลายๆๆๆอาณาจักร อาณาจักรในอินเดียแหมหลายๆๆๆอาณาจักร อาณาจักร....ในโลกแหมหลายอาณาจักร ถ้าทุกคนกึ๊ดว่าอาณาจักรหนึ่งต้องคือเจื้อชาติหนึ่ง เลาะก่ะต้องกล๋ายเป๋นประเทศๆหนึ่ง กึ๊ดผิดแล้วคับ อาณาจักรต่างๆในสมัยโบราณก่เหมือนกับประเทศในโลกหม่าเดี่ยวนี่ตี้ประกอบด้วยหลายๆๆๆๆๆเจื้อชาติ หลากหลายวัฒนธรรม เจื้อชาติหนึ่งอาจมีหลายอาณาจักร และอาณาจักรหนึ่งก่มีหลายเชื้อชาติ เป๋นจะอี้มาแต่โบราณแล้ว ถ้ากึ๊ดคับแคบอย่างบางคนในเว็บนี่ โลกใบนี้ก่ะคงแตกเสี้ยงไปแล้วครับ

[แก้ววอก]

                 กำว่า ตลกของผม มันคือ ลูกก๋งตี่ปั้นจากเข้านึ่ง ไว้ยิงต๊กโตคับ ยิงไปแล้วโดนใส่ต๊กโตตั๋วลายมันตึง งายเงียกงายกาง ถ้ายิงบ่โดนไปติดใส่หลังคาบ้าน มันก็บ่สหน้องหลังคาเน้อ  บ่อยากใจ๊ ลูกก๋ง ดิน ลูกก๋งหิน มันอันตรายล้ำไป   (ยังมาอู้ในเวปใจ๊กำว่ามึงอี้หวะ สงสัยลูกก๋งข้าวนึ่งของผม จะไปโดนใส่ต๊อง เลยหันใส้หันปุ๋มหมด เน่าบึ้งๆ จะไดครับ กัดก๊ะ  ฮ่าๆๆ แต้ๆกะเป๋นคนสวก นิสัยน่อ   ธัมโม  สังโฆ เหี๋ยเต๊อะ)
ตี่เขียนสั้นๆเพราะ  มันเป็นภาษาสื่อความหมายครับ   (เป๋นงานศิลป์ของผมครับ)  เกยเสพงานศิลปะก่อครับ บางภาพผ่อแทบบ่ฮู้เรื่องเลย  แต่คนเขียนเปิ่นฮู้เรื่องอยู่ในใจครับ ถ้าเปิ่นบ่ได้ พรีเซนต์  มันตึงตั๋นผิง แล้วคุณหละ เป๋นไดผ่อง ต๋อนได้หั๋นงานศิลป์ของผม อยากได้ก่อ งานชิ้นนี้ ผมขายหื้อไปเลย ซาวบาท ถ้าถูกใจ๋ ปั๋นหื้อบ่าดายครับ เอาไว้ติดฝา ห้องนอน  ก่อนนอนจะได้เสพ งานศิลป์ ชิ้นนี้อย่างมีความสุข   

ผมเอาฮูปงานศิลป์ ของผมมา ลงหื้อตวยเน้อ
จื่อภาพ มันจื่อว่า “ลูกก๋งยิง ต๊กโต “  จะไปลือเอาไปใส่กรอบ เน้อครับ
 

               

[natta2533]

ก่อนะขออนุญาติใช้ภาษาไทยตอบละกั๋นน้อคับ
  ไอ้เรื่องนี้ได้อ่านกระทู้ข้างบนมาหลายกระทู้ละนะคับเรื่องที่ว่าคนเมืองนะเป็นคนไทยก็คงเถียงอะไรคุณไม่ได้เพราะเกิดมาผมก็ได้ยินได้รู้อยู่แค่นี้ละ  แต่ถ้าคนเป็นคนที่มีเชื้อสายเมืองอยู่นิดๆๆนะ ถ้าคุณเคยคิดอะไรที่มันสวนทางกับแนวคิดเรื่องนี้ดูคุณจะเห็นอะไรที่มันแปลกๆอีกเยอะนะ    ถ้าคุณอ่านตัวเมืองได้คงจะดีนะเพราะเชื่อแน่ว่าคนที่อ่านภาษาบรรพบุรุษนี้ได้และเคยอ่านเอกสารโบราณสักหน่อยเค้าไม่คิดอะไรอย่างนี้นะ เช่นที่คุณว่าภาษามันเป็นของที่เปลี่ยนตามกาลเวลาถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ได้สนใจศึกษามันก็ถูกของคุณแต่ถ้าคุณเคยได้เข้ามาคลุกคลีศึกษาประวัติแบบนอกกรอบที่ไม่ใช้เอาแต่อ่านเอกสารที่ส่วนกลางทำขึ้นคุณจะมีความคิดที่แปลกๆกับเรื่องที่คุณเคยรู้มากทีเดียว  ลองคิดดูสิครับเช่นถ้าคุณอ่านตัวเมืองออกคุณไปเชียงตุงก็อ่านภาษาเค้าออกผิดแต่เค้าไม่เรียกตัวเมืองนะเค้าเรียกภาษาเค้าว่าภาษาขืน   นะ เรื่องเชื้อชาติก็นะคุณเอ้ยเอาจริงๆถ้าคุณบอกว่าภูมิภาคนี้มีแต่ไทยมานานละขอบอกว่าคุณอาจรู้สึกแปลกถ้าบอกว่าส่วนมากแล้วเผ่าพันธุ์นี้ส่วนมากเรียกตัวเองว่า  ไต นะจ๊ะ   

[แก้ววอก]

เปิงเลาะตอบสั้นๆ สติปัญญาก่ะมีตะอี้ ตลกมึงนั่นเน๊าะ อู้อะหยังบ่ออกเถียงบ่ได้ก่อู้ได้แต่ว่า ตลก  

คนตี้บอกว่าคนเมืองคือเจื้อชาติหนึ่ง หมายถึงเจื้อชาติอะหยัง บอกเจ่มได้ก่อ มันเป๋นกำอุปโลกขึ้นมาตะอั้นเพื่อไจ้ทางก๋านเมืองในยุคเก็บกวาดคนมาใส่เวียง เป๋นกำอู้รวมๆ เจื้อชาติมีแต่เจื้อชาติไท จะไทกลุ่มไหนก่ะว่ากั๋นไป เลาะคนหมู่นี่เองตี้มารวมกั๋นเป็นคนเมือง กำว่าคนเมืองจึงบ่ได้หมายถึงเจื้อชาติหนึ่งๆแต่อย่างใด

เลาะขอถามต่อแหมว่า ถ้ามีกำว่าคนเมืองแล้ว เลาะกำเมืองจะคือภาษาไทยวนตะอั้นหรือหมายถึงภาษาไทลื้อไทเขินไทใหญ่ตวยก่อ ตั๋วเมืองจะหมายถึงอักษรธรรมล้านนาตะอั้นหรือหมายถึงอักษรในล้านนาแบบอื่นตวยก่อ ขอถามหื้อชัดเจนเจ่มเต๊อะ แลกเปลี่ยนความเห็นหม่าดายประกอบกับกำว่าคนเมือง

ขอฝากตวยว่า สมัยก่อนบ่ได้มีเต้าอาณาจักรล้านนา แต่ยังมีอาณาจักรสุโขทัย อาณาจักรอยุธยา อาณาจักรล้านจ้าง อาณาจักรนครศรีธรรมราช อาณาจักรศรีวิจัย อาณาจักรขอม อาณาจักร....แหมหลายอาณาจักรบนแผ่นดินไทยปัจจุบัน ไกล๋ๆก่มี อาณาจักรโรมัน อาณาจักรกรีก อาณาจักรจีนหลายๆๆๆอาณาจักร อาณาจักรในอินเดียแหมหลายๆๆๆอาณาจักร อาณาจักร....ในโลกแหมหลายอาณาจักร ถ้าทุกคนกึ๊ดว่าอาณาจักรหนึ่งต้องคือเจื้อชาติหนึ่ง เลาะก่ะต้องกล๋ายเป๋นประเทศๆหนึ่ง กึ๊ดผิดแล้วคับ อาณาจักรต่างๆในสมัยโบราณก่เหมือนกับประเทศในโลกหม่าเดี่ยวนี่ตี้ประกอบด้วยหลายๆๆๆๆๆเจื้อชาติ หลากหลายวัฒนธรรม เจื้อชาติหนึ่งอาจมีหลายอาณาจักร และอาณาจักรหนึ่งก่มีหลายเชื้อชาติ เป๋นจะอี้มาแต่โบราณแล้ว ถ้ากึ๊ดคับแคบอย่างบางคนในเว็บนี่ โลกใบนี้ก่ะคงแตกเสี้ยงไปแล้วครับ

มาหันไก่ปู้    จนดีเข้าต๋า    ลองสักกำกา    เอาไก่เฮาสู้
ไก่เขาจนดี    เจ้ามันอวดอู้    ของเฮาไก่อู     ง่าวฟ๊ะ
บ่มีเจิงจน       แต่มีพละ     ก๋ำลังใจ๋สู้     โทจน
น้ำทอดตกแล้ว      ปู้แก้วออกผล     กับไก่ปู้จน    ตี่เขาอวดอ้าง
โดนเดียไก่อู      หน้ามืดกระด้าง     เตียวบ่เป๋นตาง     เคะค๊ะ
ออกลายฮื้อหั๋น     ยะไปสะป๊ะ    ปั่นเป๊อะปั่นเม้อ      มืนเมา
หั๋นลายไก่เจี้ย    ไก่เจิงเก่งเขา      ตี่ว่าคอเลา    จักได้เผาต้ม
เจื้อมันบ่ดี      เปิงตางแก๋งส้ม      มีก่ากำลม     ฟู่ฟ๊ะ
น้ำเลี้ยงจ๊าดดี      บ่ำรุงสะป๊ะ       ข้าวขัดน้ำเผิ้ง    ปรุงยา
ของเฮาไก่อู       สีลายขาวสา       บ่เกยกิ๋นยา   อาหารจั้นแก้ว
เฮาเป๋นไก่อู       บ่ใสผ่องแผ้ว    บ่สมเลาแลว   องค์ก๊ะ
ตี่มาวันนี้      ใผ๋ว่าง่าวฟ๊ะ   เฮาตึงจักสู้   จนลอง
ถึงเขาเก่งแต้   เจิงจนสมอง   เฮาตึงจะลอง   เฮาตึงจะสู้
หื้อมันได้หัน   ไหนลาบไหนหลู้   ว่ายน้ำจนดู   ข้วางซัด
ตึงมีซักกำ   หมัดหล๋อนหมัดกั๊ด   โดนหมัดผีบ้า   เฮาแลนาย   

   


    

[RX_ALCHEMIST]

 

[แก้ววอก]

คุณ บิ๊ก อารมณ์เสียก๊ะ อากาศตางเวียงโกศัย แพร่ หนาวก่
เป๋นคนตี่เพศอ่อนช้อย หาแฟนยากก่ครับ อิๆ ดูแลสุขภาพดีๆหน่อยหนาครับ เป๋นห่วง
(เป๋นไดครับ ดีขึ้นมาก่อข้อความ  ฮะห่าหิ้ว)

[RX_ALCHEMIST]

Re: คนเมือง / คนไทย
« ตอบ #54 เมื่อ: วันที่ 29 พฤศจิกายน 2010, 13:46:50 »

ผมพอจะอ่านอักษรธรรมล้านนาได้ครับ ดนตรีพื้นเมืองก็เคยหัด ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นก็ศึกษา เพราะผมรักวัฒนธรรมของบรรพบุรุษ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า รักล้านนา ต้องมาแยกประเทศ หรือต่อต้านคนภาคอื่น หรือแบ่งแยกคนในชาติ การอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นมันก็เป็นหน้าที่ของคนในท้องถิ่นนั้นอยู่แล้ว ไม่ว่าคุณจะอยู่ท้องที่ใด แต่อย่าให้มันกลายเป็นความคิดหัวรุนแรงหรือความคิดสุดโต่ง มันไม่สร้างสรรค์อะไร มีแต่ทำให้คนอ่านเอือมระอากับประวัติศาสตร์บ้าเลือด และกรุณาอ่านความเห็นผมอีกที ผมใช้คำว่า “คนไท” ตลอดเลยนะครับ หรือก็คือ “คนไต” คำเดียวกันครับ ซึ่งผมเห็นว่าควรใช้คำนี้มากกว่าคำว่า “คนเมือง” อย่างไทลื้อไทเขินที่เชียงตุง ที่คุณกล่าวอ้าง เขาก็ไม่ได้เรียกตัวเองว่า “คนเมือง” อักษรของเขาก็ไม่ได้เรียก “ตั๋วเมือง” เพราะคำนี้เป็นคำอุปโลกเฉพาะกิจในอดีต ไม่ได้หมายถึงเชื้อชาติใดเชื้อชาติหนึ่งแต่อย่างใด แต่ก็ยังมีคนเอาคำนี้มาแบ่งแยกเอามาปลุกระดม ซึ่งเป็นการบิดเบือนความหมายที่แท้จริงของคำนี้

[RX_ALCHEMIST]

 

[ละอ่อนโบราณ]

 
ยิ้มไว้ใจสดชื่น อายุยืนไร้โรคา
รูปร่างงามโสภา เป็นเสน่ห์แก่ปวงชน