เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 25 เมษายน 2024, 05:58:36
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  กีฬา (ผู้ดูแล: bm farm, ⒷⒼ*, Krit_66, ©®*)
| | |-+  แด่ 'ตีโต้ บีลาโนบา' ผู้ชนะที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน แด่ 'ตีโต้ บีลาโนบา' ผู้ชนะที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ  (อ่าน 618 ครั้ง)
lannaboy
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 118



« เมื่อ: วันที่ 26 เมษายน 2014, 13:40:49 »




อำลาและอาลัยคือถ้อยคำที่ปรากฏออกมาเกือบทั่วทั้งโลกในวงการฟุตบอลไม่ว่าจะลีกไหน ประเทศใด เมื่อได้รับข่าวน่าสลดสำหรับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของตีโต้ บีลาโนบาอดีตกุนซือบาร์เซโลน่าด้วยวัยเพียง 45 ปี ด้วยโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนมานับไม่ถ้วนแล้ว ซึ่งก็คือ 'มะเร็ง' นั่นเอง

บีลาโนบา ต้องต่อสู้กับ 'โรคมะเร็งต่อมน้ำลาย' นี้มาตั้งแต่ปลายปี 2011 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มัจจุราชที่แฝงอยู่ในตัวเขาแสดงอาการออกมา แม้ว่าจะได้รับการผ่าตัดและดูแลอย่างดีจากต้นสังกัดอย่าง 'เจ้าบุญทุ่ม' แล้ว แต่เจ้าโรคร้ายก็ยังคงไม่หายไปไหน แสดงอาการซ้ำอีกครั้งในเดือนธันวาคม ปี 2012 ซึ่งเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดทันที ก่อนจะทำเคมีบำบัดนานเป็นเวลา 6 สัปดาห์ติดต่อกันเพื่อให้แน่ใจว่าอาการจะไม่ทรุดอีกครั้ง

แต่แล้วหลังจากเฝ้ารักษาตัวเองเป็นอย่างดี สุดท้าย บีลาโนบา ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อโรคร้ายที่กัดกินตัวเขาไปในวันที่ 25 เมษายน ปี 2014 จากอาการแทรกซ้อนและแม้ว่าจะเข้ารับการผ่าตัดแล้วก็ไม่สามารถยื้อชีวิตของเขาเอาไว้ได้ ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัว เพื่อนและแฟนบอลทุกคนต่อชายที่กล้าหาญที่สุดคนนึงผู้นี้

บีลาโนบา ต้องจากโลกนี้ไปในขณะที่กราฟชีวิตของเขากำลังพุ่งขึ้นสูงที่สุด จากน้ำพักน้ำแรงและหยาดเหงื่อที่เขาพยายามทุ่มเททำมาตลอดในสายงาน 'ฟุตบอล' นับตั้งแต่เป็นเยาวชนจนก้าวเข้าสู่บังเหียนโค้ช มันจึงเป็นเรื่องที่น่าเศร้ายิ่งนัก

ฟรานเชสก์ 'ตีโต้' บีลาโนบา อิ บาโญ เกิดเมื่อวันที่ 17 กันยายน ปี 1968 เข้าเป็นนักเตะเยาวชนของสโมสรบาร์เซโลน่าในตำแหน่งกองกลางด้วยความหวังอย่างยิ่งที่จะได้ลงเล่นให้กับทีมที่ยิ่งใหญ่แห่งแคว้นคาตาลัน แต่สุดท้ายก็ต้องย้ายออกไปในปี 1990 เพราะไม่สามารถเบียดขึ้นชุดใหญ่ได้ ย้ายซบทีมฟิกูเรสในดิวิชั่นสองของสเปน เป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญที่ช่วยให้ทีมจบอันดับสูงที่สุดตั้งแต่เคยทำมาได้คืออันดับที่ 3 และได้มีโอกาสเตะเพลย์ออฟเพื่อเลื่อนชั้น แต่สุดท้ายก็ต้องอกหักเมื่อแพ้ต่อคาดิซ เอฟซีไป 3-1

จากฟอร์มการเล่นที่เข้าตานี่เองที่ทำให้ บีลาโนบา มีโอกาสได้กลับมาสู่ลา ลีกาอีกครั้งในฐานะนักเตะอาชีพแบบเต็มตัวกับเซลต้า บีโก้ แต่ชีวิตก็ไม่เป็นอย่างที่ฝันเสมอไป เพราะตลอด 3 ฤดูกาลที่อยู่กับทีมนั้น บีลาโนบา ได้ลงเล่นไปเพียงแค่ 26 เกมและทำ 1 ประตูเท่านั้น ทำให้ต้องระเห็จกลับไปเล่นในดิวิชั่นสองอีกครั้งกับซีดี บาดาฆอซและมาญอร์ก้า ก่อนจะค้าแข้งให้กับยูอี เญด้าและอัลเช่ เอฟซี ประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2001 กับสโมสรยูดีเอ กราเมเน็ต

แม้ว่าช่วงการค้าแข้งของเขาจะไม่เปรี้ยงปร้างเป็นที่น่าจับตามอง แต่ก็มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ได้พูดกันทีหลัง เมื่อยามที่เล่นให้กับเญด้าในปี 1998 ศึกโคปา คาตาลุนญ่ากับบาร์เซโลน่า ซึ่งตอนนั้นโจเซ่ มูริญโญ่ที่เป็นผู้ช่วยของหลุยส์ ฟาน กัลลงทำหน้าที่คุมทีมระหว่างทัวร์นาเมนต์และเกมนั้นเองที่ ตีโต้ สามารถทำประตูได้และกลายเป็นนักเตะคนแรกที่ทำประตูทีมที่กุนซือแฮปปี้ วันลงคุมได้นั่นเอง

หลังจากแขวนสตั๊ด ตีโต้ ก็เริ่มเส้นทางการเป็นกุนซือของเขาในปี 2003 กับทีม พาลาฟรูเกลล์ ในดิวิชั่น 4 ของสเปน แต่ก็ไม่รุ่งเมื่อสโมสรต้องตกชั้นไป ถึงอย่างนั้นอนาคตของเขาก็ไม่มืดมนซะทีเดียว เพราะหลังจากที่แยกทางกับทีมเก่าและเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคกับทีมเทร์ราสซ่าเขาได้รับการทาบทามจากเป๊บ กวาร์ดิโอล่าให้เข้าไปเป็นผู้ช่วยกุนซือในทีมบาร์เซโลน่า บีซึ่งขณะนั้นโม่แข้งอยู่ในดิวิชั่น 4 ของสเปน

ในปี 2008 หลังจากช่วยกันพาทีมเลื่อนชั้นเข้ามาสู่ เซกุนด้า หรือ ดิวิชั่น 2 ของเมืองกระทิงแล้วนั้น ทั้งคู่ก็ได้รับสัญญาการว่าจ้างให้ขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่แทนที่ของแฟรงค์ ไรจ์การ์ดและโยฮัน นีสเก้นส์ ฤดูกาลแรกของเขากับกวาร์ดิโอล่าในคัมป์นูนั้นคือจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์โดยแท้จริง เมื่อพาทีมคว้าแชมป์ 6 รายการใหญ่และกลายเป็นสโมสรจากสเปนทีมแรกที่คว้าแชมป์ลีก บอลถ้วยในประเทศและแชมป์ฟุตบอลยุโรปมาครองได้ในฤดูกาลเดียวกัน

หลังจากเป็นผู้ช่วยให้กับกวาร์ดิโอล่าจนคว้าแชมป์มาได้อย่างมากมายนั้น 27 เมษายน ปี 2012 วันที่ บีลาโนบา เฝ้ารอในการที่จะประทับชื่อของเขาเองในวงการฟุตบอลที่คร่ำหวอดมาถึง 20 กว่าปีก็ได้มาถึง เมื่อกวาร์ดิโอล่าประกาศลงจากตำแหน่งกุนซือ 'เจ้าบุญทุ่ม' และส่งไม้ต่อให้กับ บีลาโนบา เป็นผู้สานต่อความสำเร็จที่ร่วมสร้างมาด้วยกัน





บีลาโนบา จรดปากกาเซ็นสัญญา 2 ปีในการคุมทีม ก่อนที่จะรังสรรค์ผลงานชิ้นโบว์แดง ทำทีมพ่ายเพียงแค่ 8 เกมจากทุกรายการที่ลงเล่นตลอดทั้วซีซั่น คว้าแชมป์สมัยลีกสมัยที่ 22 ให้กับทีม และยิงประตูถล่มทลายเกือบ 160 ลูกในทุกนัดที่ลงเตะ

เหมือนนี่จะเป็นสู่ยุคของตัวเขาเองกับทีมที่เขาขายวิญญาณให้มาตั้งแต่สมัยเป็นเยาวชน ยุคที่เขาจะสานต่อความสำเร็จที่สร้างมาด้วยสองมือของตัวเอง แต่ก็อย่างที่แฟนบอลทั่วทั้งโลกรับทราบกัน เขาป่วยและแม้ว่าจะพยายามกัดฟันสู้กับโรคร้ายในมือหนึ่งและอีกมือหนึ่งก็พยายามที่จะผลักดันสโมสรในฐานนะกุนซือต่อไป แต่แล้วอาการของเขาก็ทรุดลง ก่อนจะตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งกุนซือที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นแค่เพียงความฝันอันไกลโพ้นของเขาไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ในวันที่ 19 กรกฎาคม ปี 2013 ก่อนจะต้องมาจบชีวิตลงด้วยวัยเพียงแค่ 45 ปี จากสโมสร ผู้คน ภรรยาและลูก 2 คนอันเป็นที่รักของเขาไปอย่างไม่มีวันกลับ

ครั้งหนึ่ง กวาร์ดิโอล่า เคยเผยว่า เขารู้สึกขอบคุณ บีลาโนบา เหลือเกินกับการที่เขาปฏิเสธโอกาสที่จะได้เป็นกุนซือเต็มตัวกับสโมสรอื่นที่ยื่นข้อเสนอเข้ามาและเลือกที่จะยืนอยู่เคียงข้างเขาในฐานะผู้ช่วยอันปราญเปรืองแทน ส่วน บีลาโนบา เองก็มีศรัทธาในตัวของ กวาร์ดิโอล่า อยู่เสมอแม้ว่าจะโดนเสียงวิจารณ์มากมายแค่ไหนก็ตามได้ตอนแรกที่ได้รับโอกาสคุมทีมชุดใหญ่เพราะประสบการณ์น้อยนิดเหลือเกิน แต่เขาก็กล่าวว่า "กวาร์ดิโอล่าเป็นดั่งแม่ทัพของทีมนับตั้งแต่ตอนที่เขาเป็นนักเตะแล้ว" นี่เป็นสายใยของทั้งสองที่ช่วยสร้างประวัติศาสตร์ให้กับทีมบาร์เซโลน่าได้อย่างแท้จริง

วันที่ 25 เมษายนจะกลายเป็นวันที่ผู้คนจดจำชายที่ชื่อตีโต้ บีลาโนบาไปตลอด แม้ว่าช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ดั่งฝันของเขาจะแสนสั้นและต้องพ่ายแพ้ให้กับโรคร้าย

แต่สิ่งที่เขาทำและทุ่มเทให้กับ 'ฟุตบอล' และสโมสรบาร์เซโลน่าด้วยหัวใจทั้งหมดที่มีนั้นได้ชนะใจแฟนบอลทุกคนทั่วทั้งโลก

และมันจะยังคงเป็นเช่นนั้นทั้งจากนี้และตลอดไปครับ ...

Rest In Peace Tito Vilanova



Credit : http://www.soccersuck.com/boards/topic/1043110
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!