เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 21 กรกฎาคม 2025, 16:26:20
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  ผู้เขียนหนังสือแบบเรียนภาษาไทย“มานะ มานี ปิติ ชูใจ”ถึงแก่กรรมแล้วอย่างสงบด้วยวัย 84 ปี (ฉ 30+)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ผู้เขียนหนังสือแบบเรียนภาษาไทย“มานะ มานี ปิติ ชูใจ”ถึงแก่กรรมแล้วอย่างสงบด้วยวัย 84 ปี (ฉ 30+)  (อ่าน 1095 ครั้ง)
civilroom
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,113



« เมื่อ: วันที่ 16 เมษายน 2014, 19:29:06 »

กรุงเทพฯ 16 เม.ย.-“รัชนี ศรีไพรวรรณ” ผู้เขียนหนังสือแบบเรียนภาษาไทย “มานะ มานี ปิติ ชูใจ” ถึงแก่กรรมแล้วอย่างสงบ ด้วยวัย 84 ปี อุทิศร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ให้มหาวิทยาลัยมหิดล

“โหน่ง” วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ นักเขียน คอลัมน์นิสต์ และผู้บริหารนิตยสารอะเดย์ ทวิตข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัว @wongthanong ว่า “อาจารย์รัชนี ศรีไพรวรรณ ผู้เขียนมานะ มานี ปิติ ชูใจ ถึงแก่กรรมอย่างสงบเมื่อคืนนี้ ขอไว้อาลัยและแสดงความเสียใจกับครอบครัวอาจารย์ด้วยครับ”

นางพรพรรณ ศรีไพรวรรณ บุตรสาวอาจารย์รัชนี กล่าวว่า มารดาเสียชีวิตเมื่อคืนที่ผ่านมา (15 เม.ย.) ในเวลาประมาณ 22.00 น.ที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ด้วยภาวะเส้นเลือดอุดตัน จากก่อนหน้านี้มีโรคประจำตัวเป็นโรคแพ้ภูมิตนเอง ก็รักษามาอย่างต่อเนื่องจนอาการดีขึ้นร้อยละ 90 แต่ต่อมาเกิดล้มและกระดูกเชิงกรานร้าวก็รักษาและทานยา แต่สุดท้ายก็มาเสียชีวิตด้วยภาวะดังกล่าวอย่างสงบ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ยังไม่มีการจัดงานสวดพระอภิธรรมศพ เพราะมารดาอุทิศร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ให้มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งวันพรุ่งนี้ (17 เม.ย.) คณะเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยจะไปรับศพที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ส่วนญาติจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลเมื่อครบ 7 วัน และรอฌาปนกิจรวมกับอาจารย์ใหญ่ทั้งหลาย ซึ่งมหาวิทยาลัยจะแจ้งกำหนดกลับมาอีกครั้ง สำหรับมารดานั้น ปัจจุบันอายุ 84 ปี มีบุตร 2 คน คือ ตนและพี่ชาย

สำหรับประวัติของอาจารย์รัชนี เป็นผู้เขียนหนังสือ “มานะ มานี ปิติ ชูใจ” ซึ่งเป็นชุดแบบเรียนภาษาไทยระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 รวมทั้งสิ้น 12 เล่ม ซึ่งใช้ในการเรียนการสอนภาษาไทยระหว่างปี พ.ศ. 2521-2537 แบบเรียนเล่มดังกล่าวใช้รูปภาพประกอบกับเนื้อหา เขียนภาพประกอบ โดยเตรียม ชาชุมพร นักวาดการ์ตูนและนิยายภาพชื่อดังแห่งชัยพฤกษ์การ์ตูน, โอม รัชเวช และปฐม พัวพิมล ต่อมาแบบเรียนภาษาไทยชุดนี้ได้ถูกยกเลิกใช้ในการศึกษาเมื่อปี 2537
 
มานะ มานี ปิติ ชูใจ มีเรื่องราว ตัวละคร และการดำเนินเรื่องเหมือนชีวิตจริง สะท้อนสังคมชนบท ธรรมชาติ และมิตรภาพ เพื่อให้เรื่องสนุกสนาน น่าอ่าน และเพิ่มประสบการณ์ทางภาษา มีเรื่องราวแสดงบทบาทของตัวละครและเหตุการณ์ที่แสดงบุคลิกนิสัยและคุณธรรม แต่ละบทมีภาพประกอบ ท้ายของแต่ละบทมีแบบฝึกฝนความรู้.-สำนักข่าวไทย


* image.jpg (64.88 KB, 368x530 - ดู 360 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 16 เมษายน 2014, 22:34:51 โดย civilroom » IP : บันทึกการเข้า
w_2005
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 356


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 16 เมษายน 2014, 19:34:03 »

ขอไว้อาลัยครับ
IP : บันทึกการเข้า

aroon_na
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 473



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 16 เมษายน 2014, 19:40:26 »

มานี มานะ จะปะ กระทะ มะระ อะไร ฯลฯ T_T ร่วมไว้อาลัยครับ.
คิดถึงสมัยเป็นละอ่อนแหมเม่าะ..
IP : บันทึกการเข้า
เบียร์นุ่ม><”
Be used to Discouragement. But is never recede.
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,943



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 16 เมษายน 2014, 19:49:55 »

R.I.P ครับยังทันเรียนอยู่ เศร้า
IP : บันทึกการเข้า

บธ.บ ท่องเที่ยว
Line : beernoomm
~KT 2 U~
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,601


♥ แม่ค้าออนไลน์ ผู้ซึ่งเลี้ยงลูกอยู่บ้าน ♥


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 16 เมษายน 2014, 19:58:41 »

ขอขอบพระคุณสำหรับแบบเรียนที่ท่านได้สรรค์สร้างให้พวกเราได้เรียน ได้อ่านค่ะ
ขอดวงวิญญาณท่านจงสู่สุขติ
IP : บันทึกการเข้า

sacha
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 118


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 16 เมษายน 2014, 21:30:46 »

ชอบหนังสือภาษาไทยชุดนี้มาก....มานี มานะ ปิติ ชูใจ วีระ จันทร เพชร สมคิด ดวงแก้ว เจ้าโต เจ้าแก่ เจ้านิล สีเทา เจ้าจ๋อ...หลากหลายเหตุการณ์ ทั้งสนุก ตื่นเต้น เศร้า เสียใจ...จำได้ว่าเราเติบโตเรียนรู้ประสบการณ์และเลื่อนชั้นเรียนไปพร้อมๆกับตัวละครเหล่านี้..ตั้งแต่ ป.1 -6.....ขอบคุณ อ.รัชนี ที่ทำให้เกิดนิสัยรักการอ่านในวัยเด็ก และผูกพันกับหนังสือชุดนี้...ขอแสดงความเสียใจในการจากไปในครั้งนี้ด้วยค่ะ
IP : บันทึกการเข้า
civilroom
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,113



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 16 เมษายน 2014, 22:33:33 »

ตอนจบของหนังสือเรียนไทย..มานี ชูใจ มานะ ลองมาอ่านกันนะคับ...



 ในระหว่างที่พวกเรายกมือไหว้ และกล่าวสวัสดี เพื่อร่ำลาอาจารย์รัชนี หลังจากที่ได้พูดคุยอย่างอบอุ่นกับท่านมา ครึ่งค่อนวัน จู่ๆ อาจารย์ก็เดินมาส่งเราที่รถ ยื่นกระดาษสามแผ่นที่มีลายมือเขียนสวยเป็นระเบียบให้ พร้อมกับกล่าวว่า "นี่คือ 'มานะ มานี ปิติ ชูใจ' ตอนใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครได้อ่าน พวกหนูไม่อยากรู้เรื่องเพื่อนเก่าเลยเหรอ ว่าตอนนี้ พวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้าง?...

" หากมีคำพูดใดที่สามารถอธิบายความรู้สึกได้ดีกว่า 'ตื้นตัน' ฉันคงไม่ลังเลที่จะหยิบมาใช้ อธิบายความรู้สึกที่เกิดขึ้น พร้อมกันหรือยัง ที่จะอ่านเรื่องราวของ 'เพื่อนเก่า' ของเราแต่ละคนอีกครั้ง? แล้ว.....เราก็ได้ พบกัน (มานะ มานี พ.ศ. 2544) รัชนี ศรีไพวรรณ

แพทย์หญิงมานี รักเผ่าไทย ออกจากห้องคนไข้คนสุดท้าย เมื่อเวลา 16.55 น. พยาบาลที่รออยู่หน้าห้องรายงานว่า มีสุภาพสตรีคนหนึ่งมาคอยพบอยู่ที่ห้องพักร่วมสองชั่วโมงแล้ว มานีรู้สึกตื่นแต้นจนแทบระงับไม่ไหว เธอขอบใจ นางพยาบาลคนนั้น พลางถอดเสื้อคลุม และส่งเครื่องมือแพทย์ให้ แล้วรีบเข้าไปล้างมือในห้องน้ำที่อยู่ใกล้ที่สุด มานีรู้ดีว่า สุภาพสตรีคนนั้นคือชูใจ ชูใจเพื่อนรักที่ไม่ได้พบกันเลยตลอดเวลา 17 ปี แม้จะได้ส่งข่าวคราวโทรศัพท์ถึงกัน และได้ เห็นภาพถ่ายอยู่เสมอ ก็ไม่ดีใจเท่าจะได้พบกันในวันนี้ เมื่อเรียนจบชั้นประถมปีที่ 6 แล้ว พ่อของมานีก็ส่งเธอไปเรียน ต่อระดับมัธยมศึกษาที่กรุงเทพมหานครเช่นเดียวกับมานะ ส่วนชูใจเรียนต่อที่โรงเรียนประจำอำเภอ แล้วทั้งสองก็ไม่ได้ พบกันอีกเลย เพราะย่าของชูใจเสียชีวิต แม่ของชูใจมารับเธอไปอยู่ด้วยที่เพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย พ่อเลี้ยงของชูใจ เป็นประธานบริษัทเครื่องหนังที่ร่ำรวย เขาเป็นหมันจึงรักชูใจเหมือนลูกแท้ๆ ของเขา


ชูใจมีชีวิตที่สุขสมบูรณ์ เธอเรียน ด้านการออกแบบเครื่องหนัง และทำงานในบริษัทของพ่อเลี้ยงนั่นเอง และแต่งงานกับลูกชายรองประธานบริษัท ซึ่งทำงานอยู่ด้วยกัน วันนี้ชูใจมีโอกาสได้กลับมาประเทศไทย เพื่อไปร่วมฉลองพิธีการแต่งงานของปิติที่จังหวัดลำปาง ในอีกสองวันที่จะถึงนี้ ปิติเรียนสำเร็จจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้พบกับเจ้าสาวของเขาระหว่างเรียนด้วยกัน เจ้าสาวของปิติเป็นลูกสาวชาวสวนผู้มั่งคั่งของจังหวัดลำปาง เมื่อมานีผลักบังตาเข้าไป สุภาพสตรีที่นั่งกระวนกระวายอยู่ โผเข้ามากอด ทั้งสองกอดกันแน่นหัวเราะพลางร้องไห้พลางด้วยความดีใจสุดขีด "มานีจ๋า ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน" "ฉันก็เหมือนกันจ้ะ ชูใจ เธอน่าจะชวนปีเตอร์มาด้วย" มานีพูดถึงสามีของชูใจ ชูใจคลายวงแขนออก จ้องมองเพื่อนรัก ทั้งๆ ที่น้ำตายังนองหน้า "ปีเตอร์เหรอจ๊ะ เขาอยากมาจะแย่ แต่ตอนนี้ไม่ว่าง คราวหน้ามานีแต่งงาน ฉันพาเขามาด้วย แน่ๆ" มานีหัวเราะ ใช้ผ้าเช็ดหน0้าเช็ดน้ำตาให้ชูใจและตนเอง จูงเพื่อนไปนั่งที่เก้าอี้ "ฉันคงไม่มีวันนั้นหรอกจ๊ะ" "อะไรกัน? เธอน่ะทั้งสวย ทั้งดี จันทรเขาเล่าให้ฟังหมดแล้วล่ะ" "อ้าว ไปพบจันทรกับเพชรมาแล้วเหรอ นี่เธอ! มานานแล้วซี ไหนว่าจะนอนพักซักงีบ เครื่องลงเมื่อตีสี่ไม่ใช่เหรอ" "ใครจะไปงีบลงล่ะจ๊ะ หัวใจมันร่ำร้องอยากพบ เพื่อนๆ อากับอาสะใภ้ไปหาฉันที่โรงแรมเมื่อแปดโมง ฉันก็เลยมากับอา ไปบ้านอา ไปกราบคุณแม่ของเธอ คุณพ่อยัง ไม่กลับจากทำงาน ไปบ้านปิติเจอแต่แม่ของปิติเหมือนกัน แล้วก็ไปบ้านจันทรกับเพชร ร้านของเขาใหญ่โตดีนะ น้าของเขาก็มอบให้จันทรกับเพชรดูแลร้าน ลูกคนเล็กของเขาน่ารักนะ อีกสองคนไปโรงเรียนเลยยังไม่ได้พบ ถ้าฉัน ไม่มีทางจะมีลูกได้ ฉันจะขอลูกของจันทรไปเลี้ยง ไม่รู้เขาจะให้หรือเปล่า"ชูใจคุยจ้ออย่างมีความสุข" คงให้นะ เพราะ จันทรกับเพชรก็รัก และไว้ใจชูใจมาก


เออ....เสียดายครูไพลินกับคุณอาทวีปย้ายไปอยู่ที่อื่นเสียแล้ว เธอเลยไม่ได้พบ นึกถึงความหลังแล้วมีความสุขจัง ถ้าย่ายังอยู่ก็ดีนะ ยายของปิติก็เสียแล้ว พี่มานะอกหักแล้วยังหาใหม่ไม่ได้เหรอจ๊ะ ติดยศพันตรีแล้วไม่ใช่หรือ กลับมาเยี่ยมบ้านบ่อยไหม แล้วพี่เขาจะกลับลำปางกับเราไหมจ๊ะ มานีหัวเราะเบาๆ "พี่มานะ เขามีคนรักใหม่แล้ว แต่ไม่รู้จะแต่งงานกันเมื่อไหร่ อาจจะได้พาปีเตอร์มาเร็วๆ นี้ก็ได้นะ วันนี้วันศุกร์พี่มานะมาไม่ได้ พรุ่งนี้เขาจะมาแต่เช้า ไปกับเราด้วย" "พี่วีระซินะ น่าสงสาร คนดีๆ ไม่น่าจะเป็นอย่างนี้เลย" ชูใจรำพึงอย่างสลดใจ "เขามีภรรยาไม่ดีจ๊ะ เลยกลายเป็นคนขี้เมาหยำเป เสียสติ เลอะเลือน เพชรต้องดูแลลุงกับป้าแทน เพชรเป็นคนดีมาก ฐานะของเขาดีทีเดียว น้องๆ ได้เรียนสูงๆ ทุกคน" "ตอนเขากับจันทรแต่งงานกัน ไม่มีใครบอกฉันเลย" ชูใจตัดพ้อ "เขาไม่ยอมให้บอกจ๊ะ มีสตังค์แล้วจะพาลูกๆ ไปเยี่ยมเธอเอง" "ขอให้จริงเถอะ เธอก็เหมือนกัน บอกว่าจะไป จะไป ไม่เห็นไปสักที" ชูใจควักค้อน "เพิร์ธน่ะน่าอยู่น่าเที่ยวนะ ฉันไปเที่ยวมาหลายแห่งแล้ว ไม่ชอบใจเท่าเพิร์ธเลย ฉันชอบไปที่บุญที่วัดโพธิญาณกับแม่บ่อยๆ บางทีพ่อก็ไปด้วย พ่อเลี้ยงของฉันเป็นพุทธศาสนิกชนไปแล้วรู้ไหม" มานีหัวเราะชอบใจ "ชูใจยังใช้ภาษาไทยได้ดีอยู่นะ จากไปตั้งสิบกว่าปีแล้ว" "ฉันพูดภาษาไทยกับแม่เสมอ แต่เรื่อง เขียนนี่สิ ต้องขอบใจมานีที่เขียนจดหมายถึงฉันอยู่เรื่อยๆ ทำให้ฉันได้อ่านและเขียนภาษาไทย ไม่ลืมภาษาไทย พจนานุกรมที่เธอส่งไปให้น่ะ ฉันใช้อยู่เสมอเวลาเขียนจดหมายถึงเธอ ม่ายงั้นคงเหมือนกับโคลงโลกนิติที่ว่า อักขระห้า วันหนีเลยจ๊ะ" "ชูใจหิวไหมจ๊ะ" มานีถามด้วยความเป็นห่วง "ไม่หรอกจ๊ะ ก่อนมาหาเธอ จันทรเขาทำก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ให้ทาน อร่อยจังเลย ไม่ได้ทานนานแล้ว" "เย็นนี้เราก็จะไปทานข้าวที่บ้านจันทร เธอจะกลับไปค้างที่โรงแรมหรือเปล่า" "เรื่องอะไร? " ชูใจค้อน "ฉันเตรียมกระเป๋ามาแล้ว นอนกับเธอ พรุ่งนี้เราก็ไปลำปางกันเลย เพชรเขาจะขับรถพาไป แต่ทางโรงแรมเขาบริการเอง" "ปิติคงตื่นเต้นดีใจมากนะ นี่คงจะอยากมาหาพวกเราเต็มแก่ ถ้าไม่ติดว่าจะต้องเป็น เจ้าบ่าว" "ฉันโทรไปหาเขาแล้ว" ชูใจพูดยิ้มๆ "ดีใจมากเลย เสียงเอะอะโล้งเล้งตามเคย นี่เดี๋ยวคงโทรมาหาพวกเรา" "ถ้าเช่นนั้น เราไปบ้านจันทรกันดีกว่านะ" มานีพูดพลางลุกขึ้นหยิบกระเป๋าถือ "เดี๋ยวจะวานให้รถโรงพยาบาลไปส่ง ฉันไม่มีรถ ใช้แต่จักรยาน" "ไม่ต้องหรอกค่ะ ท่านรองผู้อำนวยการผู้แสนมัธยัสถ์ ฉันมีรถตู้ของโรงแรมมาส่งและคอย รับใช้อยู่ตลอดเวลา ตามคำสั่งของแด๊ด..เอ๊ย...ของพ่อ


พ่อจองโรงแรมให้และสั่งให้โรงแรมบริการทุกอย่าง ของฝากเธอ ก็อยู่ในรถ ฉันมีกระเป๋าถือเก๋ๆ ที่ฉันออกแบบเองมาฝากเธอด้วยล่ะ" "เฮ้อ...คนมีสตังค์ล่ะก็ เนรมิตอะไรได้ทุกอย่างนะ" มานีพูดยิ้มๆ "ชดเชยกับที่ฉันเคยลำบากเมื่อเล็กๆ ไงล่ะ แหม คิดถึงย่าจังเลย" ทั้งสองเดินเกี่ยวก้อยคุยกันไปยังที่ จอดรถ ซึ่งมีรถคันหรูของโรงแรมมีชื่อจอดอยู่ "เธอสั่งงานไว้เรียบร้อยแล้วหรือ จะพักร้อนตั้งอาทิตย์เชียวนะ เห็นจันทร บอกว่า เธอเป็นหมอที่เอาใจใส่ห่วงงานมาก แม้จะมีตำแหน่งเป็นถึงรองผู้อำนวยการแล้วก็ตาม คนทั้งอำเภอรักเธอ ชอบเธอมากนี่ เมื่อตอนโรคฉี่หนูระบาด เขาว่าเธอไม่ได้หลับได้นอนเลยนี่ใช่ไหมจ๊ะ" "จ๊ะ ตอนนั้นแย่หน่อย หมอ พยาบาล เหน็ดเหนื่อยกันทุกคน ตอนนี้ค่อยยังชั่ว ถ้าเธอมาตอนนั้น หรือปิติแต่งงานตอนนั้น ฉันคงลำบากใจ เหมือนกัน" เมื่อทั้งสองขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว รถคันงามก็ออกจากโรงพยาบาลมุ่งไปสู่ตัวเมือง มานีกับชูใจนั่งคุยไป ตลอดทาง สมกับความรักความคิดถึงที่มีต่อกัน มิตรภาพอันอบอุ่นเมื่อเยาว์วัยหวนกลับมาสู่หัวใจของคนทั้งสอง ชูใจมอง เพื่อนรัก แล้วพูดเบาๆ ว่า "แล้วเราก็ได้พบกันนะ มานี แต่อีกไม่กี่วันเราก็ต้องจากกัน" "แล้วเราก็จะได้พบกันอีก ไม่ใช่หรือชูใจ ตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ เราก็จะได้พบกันแน่นอน" "แน่นอนจ๊ะ มานี เราจะได้พบกัน" ชูใจตอบ พร้อมยิ้มอย่างเป็นสุข เมื่อนึกถึงเวลาแห่งความเบิกบานที่จะได้อยู่กับเพื่อนรักตลอดสัปดาห์นี้ แล้ว....เราก็ได้พบกัน


* image.jpg (72.46 KB, 450x328 - ดู 353 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 16 เมษายน 2014, 22:36:29 โดย civilroom » IP : บันทึกการเข้า
ช่างคนยอง พะเยา
สมาชิกลงทะเบียน
มัธยม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 968



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 17 เมษายน 2014, 06:43:35 »

ไว้อาลัยครับ ยังนึกถึงตอนเรียนอยู่เลย
http://www.thairath.co.th/content/416875
IP : บันทึกการเข้า

082-766-3992(Dtac) Line: anan_phayao
Ck 401
"....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,267


...งานหนักไม่เคยฆ่าคน...


« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 17 เมษายน 2014, 12:18:36 »

คุณูปการของท่านอาจารย์มีประโยชน์ต่อสังคมไทยมากครับ
ตายแล้ว ร่างกายยังมีประโยชน์ ต่อนักศึกษาแพทย์อีก
ผมเองได้รู้จัก มานี มานะ ครั้งแรก เมื่อเรียน ป.1(2519)คงเป็นรุ่นแรกเลยก็ว่าได้

ขอยกย่อง และแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของท่านอาจารย์ด้วยครับ ร้องไห้ ร้องไห้
IP : บันทึกการเข้า

"....คณะเรา ไม่ยอมให้ด้อยถอยลง ต่ำเราต้องค้ำชูให้สูงจรุงศรี....."
....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา  ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
aroon_na
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 473



« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 17 เมษายน 2014, 16:12:23 »

จำได้ว่ามีบทเรียนอยู่บทหนึ่งชื่อว่า"หน่อไม้ของแม่"เป็นเรื่องราวของตัวละครในหนังสือที่ชื่อว่าเพชร
ซึ่งแม่ของเพชรได้ขึ้นไปขุดหน่อไม้บนภูเขา แล้วถูกงูกัดเสียชีวิต แต่เพชรยังเก็บหน่อไม้กับตะกร้าของแม่
ไว้บนหัวนอนเพื่อระลึกถึงแม่...จำได้คร่าวๆประมาณนี้แหละครับ ในตอนนั้นเป็นบทเรียนที่อ่านแล้วซึ้ง สงสาร
ประทับใจ และให้ข้อคิดอีกหลายๆอย่าง อ่านไปน้ำตาก็ใหลไปด้วยยังถูกเพื่อนล้ออยู่เลยว่า"บ่าขี้ไห้"(555)
IP : บันทึกการเข้า
somchai.com
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 71


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 27 เมษายน 2014, 04:38:04 »

เพิ่งรู้ประวัติความเป็นมา
ขอไว้อาลัย
ขอสู่สุคติ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!