ผมว่าน่าจะได้มาจากทายาทของพ่อหมอหรือผู้มีอาคมสมัยก่อน (ความเห็นส่วนตัว)
คงเอามามอบให้ภิกษุรูปนี้ อาจารย์ของผมเคยบวชเป็นพระได้ปั๊บ (กระดาษสา) จากภิกษุรูปนี้มา
และภิกษุรูปนี้ก็ไม่น่าจะเป็นผู้ทำขึ้นมาเท่าที่ผมสอบถามจากอาจารย์นะครับ และผมก็ขอ
ถ่ายทอดมาจากอาจารย์ ยังมีอีกเยอะครับบางอย่างมีภาพไม่เหมาะสม online ไม่ได้นะครับ
ผมขอยุติก่อนนะครับ ต่อไปน่าจะเป็นเรือนยันต์เกี่ยวกับวิชาเทพบ้าง
ก็อย่างคาถาบาลีที่เกริ่นไว้ข้างต้น หากไม่ตกอยู่ในมือคนพาล ก็ไม่น่ามีผลอันใด ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
ขอบพระคุณที่ชี้แนะ
ผู้ดูแลกระทู้ก็ลบได้เลยนะครับ
มาดูรูปยันต์ที่เรียกว่า
ชาตรีมหายันต์ กันก่อนนะครับ
แบบนี้แนวศิลป์แบบโบราณแทรกด้วยแนวพุทธศาสน์เลยละ
ของเดิมเขียนด้วยภาษาขอม ภาพที่ปรากฎเป็นการเชียนขึ้นใหม่
โดยแปลเป็นภาษาล้านนาแล้ว
อธิบายความหมายได้ดังนี้
“ ชาตรีมหายันต์ ” เป็นของฝ่ายพระพุทธศาสนา บางท่านเข้าใจว่าเป็น “ ไสยศาสตร์ ” ซี่งเป็นของพวกพราหมณ์ อันประกอบด้วยเวทมนต์คาถาทางไสยเวทย์เนื้อแท้ก็คือยันต์ “ ชาตรีมหายันต์ ” เกิดจาก “ ธรรมปฏิบัติ ” คือ “ กรรม ” ทางฝ่ายพุทธศาสนาเรียกว่า “พุทธ” อยู่ข้างใน “ไสย” อยู่ข้างนอก คือ
“ เรือนนอก ” คือรูปยันต์ที่อยู่ภายนอกนั้นเป็นศิลป์อันหนึ่งเกี่ยวกับการวางรูปวางแบบที่บรรจุหัวใจแห่งพระธรรมในพระพุทธศาสนา
“ เรือนใน ” คือหัวใจอันเป็น “ ยอดของพระธรรม ” ในพระพุทธศาสนาบรรจุอยู่ ซึ่งเป็นยอดของ “ พระพุทธคาถา ” ที่ใช้ในทาง “ ชาตรี ”
“ พระพุทธคาถา ” ที่บรรจุไว้ใน “ ชาตรีมหายันต์ ” นี้เป็นยอดแห่งหัวใจพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น
เรือนยันต์ที่ซ้อนกันทั้งหมด ๔ ชั้น
ชั้นนอกสุดมีอักษรอยู่ ๔ มุม ตามรูปอักษร
อ่านว่า
“ ส ห ชา ตรี ” เป็นหัวใจของ
ตรีนิสิงเห คือเป็นพระคาถาเกี่ยวกับ อำนาจคือหัวใจแห่งพญาราชสีห์สามตัว อันได้แก่
อ อุ มะ รวมเรียกว่า
สหชาตรี ยันต์แบบนี้มักจะปรากฏในเสื้อยันต์ ผ้าประเจียดของพระอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญวิทยาคุณทางเวทมนต์คาถาทุกองค์
เรือนในถัดไป ตามรูปอักษร
อ่านว่า
“ จ ภ ก ส ” โบราณาจารย์ท่านให้ชื่อว่า
หัวใจกาสลัก สามารถป้องกันภูตผีปีศาจและอำนาจคุณไสยได้ ทางชาตรีหากบริกรรมครบ ๑๖ คาบจะเป็นคาถา
มหาอุตม์ เรือนในถัดไป ตามรูปอักษร
อ่านว่า
“ น ม พ ท ” เป็นคาถาสำหรับ
ปลุกธาตุ หมายถึงธาตุทั้งสี่คือ ดิน น้ำ ลม และไฟซึ่งเรียกว่า
มหาภูตรูป( ยังมีต่อ)