อยากไปร่วมฟังสวด มหาสันติงหลวง ไม่ทราบวัดในเมืองวัดไหนสวดบ้างครับ หรือสวดทุกวัด ปีที่แล้วไปร่วมฟังสวดที่วัดพระแก้ว แต่ปีนี้เข้าไปดูเว็บวัดพระแก้ว แต่ไม่เห็นกล่าวถึงการสวด มหาสันติงหลวง
ยืมบทความของอ้าย บ่าวสองเมือง(เจียงใหม่-น่าน) มาให้อ่านก่อนนะครับ
และสุดท้าย เป็นที่มาที่ไป และอานุภาพแห่งพระคาถาอุปปาตะสันติ หรือมหาสันติงหลวงมีดังนี้
ก า ร ส ว ด อุ ป ป า ต ะ สั น ติ ม ห า สั น ติ ง ห ล ว ง
“อุปปาตะสันติ” ทางเมืองเหนือเรียกว่า “มหาสันติงหลวง”
อุปปาตะสันติ แยกเป็น ๒ คำ คือ อุปปาตะ คำ ๑
และ สันติ คำ ๑ อุปปาตะ แปลว่า เคราะห์กรรม, เหตุร้าย, อันตราย
และแปลว่าสิ่งกระทบกระเทือน
อุปปาตะสันติ แปลว่า บทสวดเพื่อสงบเคราะห์กรรม
สวดเพื่อสงบเหตุร้าย และสวดเพื่อสงบสิ่งที่กระทบกระเทือน
• ป ร ะ วั ติ คั ม ภี ร์ อุ ป ป า ต ะ สั น ติ
คัมภีร์อุปปาตะสันติ เป็นวรรณกรรมภาษาบาลีของล้านนาไทย
จัดเข้าในหนังสือประเภท “เชียงใหม่คันถะ”
คือ คัมภีร์เชียงใหม่มีอายุประมาณ ๖๐๐ ปีเศษแล้ว
แต่งโดย พระมหามังคละสีลวังสะ
พระเถระนักปราชญ์ของชาวเชียงใหม่รูปหนึ่ง
ในสมัยของ พระเจ้าสิริธรรมจักกวัตติลกราชาธิราช (พระเจ้าติโลกราช)
รัชกาลที่ ๑๑ แห่งราชวงศ์มังรายระหว่าง พ.ศ.๑๙๘๕-๒๐๓๐
เป็นคาถาล้วนจำนวน ๒๗๑ คาถา
คัมภีร์นี้เป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย ในหมู่ชนชาวล้านนามาแต่โบราณกาล
ทั้งพระสงฆ์ สามเณร และชาวบ้าน
พากันสวดและฟังอุปปาตะสันติ
เพื่อกลับความร้ายให้กลายเป็นความดี
มีคำเล่าว่า สมัยที่ท่านพระมหามังคละสีลวังสะแต่งอุปปาตะสันตินั้น
ที่เชียงใหม่มีโจรผู้ร้ายและคนอันธพาลชุกชุมผิดปกติ
มีเหตุร้ายและสิ่งกระทบกระเทือนอยู่เสมอ
พระมหาเถระสีละวังสะจึงให้พระสงฆ์สามเณรและประชาชนพากันสวด
และฟังอุปปาตะสันติ เพื่อสงบเหตุร้ายทั้งมวลที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง
ต่อมาชาวพม่ามีความเลื่อมใส
นำคัมภีร์นี้เข้าไปในประเทศพม่า
ชาวพม่าทั้งพระสงฆ์และประชาชน
นับถือว่าพระคัมภีร์อุปปาตะสันตินี้มีความศักดิ์สิทธ์มาก
พากันนิยมท่อง นิยมสวด และนิยมฟังกันอย่างกว้างขวาง
แพร่หลายไปทั่วประเทศพม่าในสมัย ๕๐๐ ปีที่ล่วงแล้ว
ในงานพิธีสืบชะตา งานขึ้นบ้านใหม่เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม
กล่าวได้ว่าคัมภีร์อุปปาตะสันติเป็นคัมภีร์ของไทย
แต่ต้นฉบับได้จากเมืองไทยไปอยู่เมืองพม่าเสียนาน
จนแทบกล่าวได้ว่า
คนไทยในสมัยหลังๆ นี้ไม่มีใครรู้จัก
ไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อของคัมภีร์นี้
แต่บัดนี้เป็นที่โสมนัสยินดียิ่ง
ที่ เจ้าคุณธรรมคุณาภรณ์ (เช้า ฐิตปัญโญ) ป.ธ. ๙
วัดมหาโพธาราม ปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์
ท่านได้ชำระคัมภีร์นี้เป็นภาษาบาลีอักษรไทย
พื่อความสะดวกแก่ผู้อ่านที่ไม่สันทัดบาลี
โดยได้ต้นฉบับภาษาบาลีอักษรพม่าจากท่าน
พระอาจารย์ภัททันตะ ธัมมานันทมหาเถระ
อัครมหาบัณฑิตแห่งวัดท่ามะโอ จังหวัดลำปาง
นับว่าเป็นการนำคัมภีร์ของล้านนาไทยโบราณ
กลับคืนมาสู่เมืองไทยให้ชาวไทยในยุคปัจจุบันได้รู้จัก
ได้ศึกษา ได้สวด ได้ฟังให้เกิดประโยชน์ทางสันติ
เพื่อความสงบระงับจากภัยพิบัติทั้งปวง
และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชาวล้านนา ชาวไทย
ตลอดจนชาวโลกทั้งมวล
หลักฐานคัมภีร์ “อุปปาตะสันติ” ฉบับหนึ่งในล้านนาไทย
ซึ่งเขียนไว้ในสมุดข่อย หมึกจีน อาบน้ำชาด
ที่เรียกว่าประวัติย่อ ดังนี้...
ในปีจุลศักราช ๑๒๗๙ ปีดับไก๊ เดือน ๘
เหนือ เพ็ญ วันศุกร์ ปีกุน สัปตศก พ.ศ.๒๔๗๘
เจ้าภาพเขียนต้นฉบับนี้ คือ นายน้อยปิง มารวิชัย
บ้านประตูท่าแพเป็นประธานพร้อมทั้งภริยาลูกและญาติทุกคน
ได้จ้างคนเขียนธรรม ๕ ผูก คือมลชัย ๑ ผูก..อินทนิล ๑ ผูก..
สังยมาปริตตคลสูตร ๑ มังผูก..นัครฐาน ๑ ผูก...
อุปปาตสันติ ๑ ผูก รวม ๕ ผูก พร้อมทั้งสร้างบ่อน้ำถวาย
พระครูบาศรีวิชัย (ปฏิคาหก) ทานวัดศรีโสดา และถนนขึ้นดอยสุเทพ
ขอกุศลบุญเยี่ยงนี้ จงเป็นปัจจัยค้ำชูตัวแห่งผู้ข้า ฯ (นายน้อยปิง)
ทั้งหลายทุกคนตราบถึงนิพพานในอนาคตกาลโน้นเทอญ ฯ