‘หมายังต้องเห่า ไก่ยังต้องขัน เหมือนหมู่เฮานั้น ต้องอู้เมืองได้
ป้อแม่เป๋นเมือง เลี้ยงลูกเป๋นไทย ผีต๋ายตี้ไหน สอนสูเขามา
มันเสียจ้าดเกิด กึ๊ดเถิดขวัญต๋า เป๋นคนล้านนา บ่ใจ้น่าอาย
เปลี่ยนกำกึ๊ดใหม่ ก่อนจะสูญหาย ก่อนจะวอดวาย สิ้นสายเผ่าพงศ์’
ไผกั๋วลูกอู้กำเมือง แล้วใหญ่มาอู้ไทยบ่ชัด มาๆนั่งลง ข้าเจ้าจะเล่าหื้อฟัง งานนี้ข้าเจ้าขอพลีชีพ จัดเต๋มไปเลย ไผมีลูกจะเอาไปสอนลูกสอนหลานก็ได้ ข้าเจ้าจะสอนวิธีคิดและก๋ารใจ๊ชีวิตไปโตยก๋ายๆ
มันเป๋นจะใดล้ำเหลือนิ..คนเมืองยุคใหม่ ข้าเจ้าเป๋นดีรำคาญ กำกึ๊ดหน้าแข้งหัวเข่าจะอี้ไปเอามาจากไหน จะใดบ่กึ๊ดหื้อลึกซึ้ง มองก๋ารไปไก๋ๆ ขนาดป้อแม่ยังกึ๊ดได้เต้าอี้ แล้วลูกจะไปหล็วกได้จะใดเจ้า (ถ้ากำอู้ผิดหูไผก็ขออโหสิก๋รรมโตย ข้าเจ้าอู้ในสิ่งตี้ข้าเจ้ากึ๊ดและมันคือความจริง คนตี้บ่ยอมฮับความจริง ชีวิตบ่มีวันก้าวหน้าเจ้า เพราะจุ..หลอกตั๋วเก่าไปวันๆ)(ขอบคุณ ข้อมูลจาก สมาคมคนเมืองครับ)
ข้าเจ้าเป๋นคนเมืองคนนึ่งเจ้า ป้อก็เมือง แม่ก็เมือง โคตรเหง้าก็เมืองตึงหมดปอตกปอเสี้ยง ป้อก็อู้เมือง แม่ก็อู้เมือง ไผๆรอบตั๋วก็อู้เมือง เฮียนโฮงเฮียนในหมู่บ้าน จบมัธยมตี้อำเภอ แล้วถึงมาเฮียนต่อในเวียงเจียงใหม่ รอบตั๋วไผตึงบ่อู้ไทยซักคน ป๋ายบ่าปอ มีเปื้อนคนไทยมาเฮียนเจียงใหม่ หมู่ข้าเจ้าบ่ยอมอู้ไทย ตึงวันนี้มันอู้เมืองค่องแค็ด
เรื่องมันบ่จบเต้าอี้เจ้า ข้าเจ้าเฮียนจบปริญญาตรีมาปุ๊บ เปิ้นเริ่มมีครูอัตราจ้าง ข้าเจ้าก็ลองไปสอนผ่อ โคะ บ่ค่อยอาละ ข้าเจ้าเลยตัดสินใจ๋มาเซาะยะก๋ารในกรุงเทพฯ ได้งานเป๋นครูสอนอยู่โรงเรียนเอกชนใกล้ๆม.รังสิต สอนไปสอนมา บ่อาละ(แหมละ) เขาเอาเปรียบเฮาขนาดเนาะ ข้าเจ้าเลยไปสอบบรรจุเข้าฮับราชก๋าร ตึงวันนี้ข้าเจ้าเป๋นครูสอนวิชาภาษาไทยโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี และบ่เกยมีไผมาบอกว่า”ข้าเจ้าอู้ไทยสาบเมือง” หรือ “อู้ไทยบ่ชัด” มีแต่คนบอกว่าข้าเจ้าอู้มี ร , ล ชัดแจ๋ว ตึงวันนี้ข้าเจ้าสอนวิชาภาษาไทย ม.๒ และ ม.๔ พร้อมทั้งสอนวิชาก๋ารเขียนควบไปโตย งานอดิเรกของข้าเจ้า นั่งเล่นเฟส เป็นเจ้าของเว็บไซต์
www.pasasiam.com เป๋นเว็บไซต์เผยแพร่ความฮู้ภาษาไทย (ยอดวิวสี่ล้านป๋าย เฉพาะเดือนนี้หกแสนป๋ายละเจ้า) และเป๋นนักเขียนนวนิยาย นามปากก๋า “น้ำฟ้า” (ตรวจสอบได้เจ้าว่าแต๊ก่อ)
ก๋ารตี้ข้าเจ้าเป๋นคนเมือง เฮียนโฮงเฮียนบ้านน้อก..บ้านนอก เป๋นคนเมื้อง..คนเมืองแล้วมาสอนภาษาไทยหื้อคนไทยได้เนี่ย มันชัดเจนแล้วเจ้าว่า “บ่จ๋ำเป๋นตี้จะต้องบังคับลูกหื้ออู้ไทย ทั้งๆตี้เฮาเป๋นคนเมือง เพราะสุดท้ายแล้ว จะอู้ไทยชัดบ่ชัด มันอยู่ตี้คน สมัยนี้มีสื่อนัก เข้าถึงง่าย ทุกสื่อล้วนอู้ไทย ละอ่อนจะเฮียนฮู้และมีทักษะไปเตื้อหน้อยๆ จ๋นชำนาญได้เอง”
ถ้าบางคนบอกว่า “ก๋ารอู้เมืองมันเชย” ขอร้องเต๊อะ บ่เชยเน้อเจ้า ตะก่อนข้าเจ้าหันละอ่อนคนเมือง พอไปเข้ามหาลัย เปื้อนคนไทยนัก สลิดอู้ไทยไปเหีย ข้าเจ้าอนาถใจ๋และอายต๋าง ถ้าคุณอู้ไทยกับคนไทยข้าเจ้าบ่ว่า นี่ไปกาดหลวง แม่ก๊าถาม “เอาอะหยังดีเจ้า” ดันตอบ “ซื้อขนมจีนค่ะ” ข้าเจ้าไค่ฮาก ข้าเจ้ามาอยู่ภาคก๋าง ไผฮู้ว่าเป๋นคนเหนือเปิ้นก็ขอย เปิ้นว่าบ้านเฮาเป๋นเมืองในฝัน คนงาม ประเพณี บรรยากาศงาม กำอู้ก็รื่นหู ดูดี เชิด เริดจะต๋าย ไผมากึ๊ดง่าวๆ อายก๋ารเป๋นคนเมือง
ก๋ารตี้เฮาเป๋นคนเมืองแล้วอู้เมือง สืบสานวัฒนธรรมป๋าเวณีคนเมืองมันเป๋นกุศลเจ้า ความกตัญญูต่อถิ่นเกิดนั้นจะเกื้อหนุนหื้อเฮาได้ดีไปหน้า ไปตางใดบ่อับบ่จ๋น คนตี้ลืมกำพืด ลืมบรรพบุรุษป้อแม่จู๋งหัว ยะหยังก็ติดขัดบ่เจริญ เมื่อท่านสอนลูกหื้อหลงใหลวัฒนธรรมสมัยใหม่ตี้หลั่งไหลเข้ามา ลูกก็จะติดหรู ฮักสบาย พานบ่ฮู้จักตุ๊ก แต่งเนื้อแต่งตั๋วเปิดเผย เมินไปท่านจะเสียดาย ว่าฮีตป๋าเวณีเฮา เป๋นสิ่งตี้จ้วยกล่อมเกลานิสัย หื้อมีความดี ความงาม ความสง่าสมเป๋นเจื๊อจ้าดล้านนานคร (ขอบคุณ ข้อมูลจาก สมาคมคนเมืองครับ)