เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 03 กันยายน 2025, 18:50:00
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลท่องเที่ยว-โพสรูป
| |-+  กิจกรรมท่องเที่ยว/โปรแกรมทัวร์/รถเช่า (ผู้ดูแล: ⒷⒼ*, JAMES ..., ~อั่ย มู๋อ้วน*)
| | |-+  สิบสอง เชียงรุ้ง เชียงตุง สิบสองปันนา ลาวใต้ กับเรา จตุรพรทัวร์
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน สิบสอง เชียงรุ้ง เชียงตุง สิบสองปันนา ลาวใต้ กับเรา จตุรพรทัวร์  (อ่าน 6469 ครั้ง)
i3nas
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: วันที่ 19 ธันวาคม 2010, 04:38:57 »



เที่ยวเมืองจีน มนฑลยูนนาน เริ่มที่เชียงของ จ.เชียงราย เชียงรุ่งหรืสิบสองปันนา คุนหมิง ทางรถยนต์ เพียงท่านละ 15,500บาท จองได้แล้ววันนี้

เชียงของ หลวงพระบาง3คืน4วัน โดยเรือสำราญ เพียงท่านละ 6,500 บาท  เดือนธันวาคม วันที่ 31-3ม.ค54  รับสมัครตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป รับจำนวนจำกัด

ร่วมสำรวจและย้อนรอยอดีต กับดินแดนแดนอันศักดิ์สิทธิ์ เมืองแสนหวี สี่ป้อ ล่าเสี้ยว เดือน พฤศจิกายน53นี้ จองด่วน เพียงท่านละ 27,500 บาทเท่านั้น รายละเอียดติดตามได้จากโปรแกรมในเวปของเรา  

ช่วงนี้โปรแกรมแม่สาย เชียงตุง เมืองลา ประเทศพม่า ลดราคาพิเศษเพียงท่านละ 4,800 บาท เดินทาง ธ.ค.นี้ ด่วนรับจำกัด

ช่วงโปรโมชั่นนี้ขอเสนอ โปรแกรมเที่ยวเมืองเชียงรุ่งหรือสิบสองปันนาไปรถกลับรถ ในราคาที่พิเศษสุดๆ ท่านละ8,500บาท ออกเดินทางธันวาคม 4-7,10-13,30-2 ม.ค54 จองด่วนจำนวนจำกัด

ติดต่อ นัด 081-0346382
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 ธันวาคม 2010, 04:50:25 โดย i3nas » IP : บันทึกการเข้า
i3nas
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 19 ธันวาคม 2010, 04:47:23 »

เชียงของ - หลวงพระบาง ไปเรือ กลับเรือ 3คืน4วัน
 เดินทาง 24-27 ธ.ค. ท่านละ 6,500 บาท
ตื่นเต้น เเละเพลิดเพลินกับ โปรแกรมท่องเที่ยวหลวงพระบาง 4 วัน 3 คืน ไปเรือ กลับเรือ 17-20 ธ.ค.ปิดรับจองแล้ว


 โปรแกรมท่องเที่ยวหลวงพระบาง 4 วัน 3 คืน

 วันที่ 1      เชียงของ – หลวงพระบาง
เช้า              07.00 น. คณะพร้อมกันและรับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารบ้านพักข้าราชการครูเชียงของ เสร็จแล้วลงเรือเล็กที่ท่าเรือ อ.เชียงของ เพื่อข้ามไปยังเมืองห้วยทราย จากนั้นพาท่านลงเรือใหญ่ที่ท่าเรือห้วยทราย
-                  นั่งเรือ จากเมืองห้วยทราย ล่องลำน้ำโขง ลงใต้ ก็จะเข้าสู่บ้านปากทา จุดเชื่อมบรรจบ ระหว่าง ลำน้ำโขง และน้ำทาที่ไหลลงจากเมือง หลวงน้ำทา จุดนี้ ชาวเรือเรียกว่า บ้านท่าด่าน เพราะมีจุดตรวจเช็คเรือ ที่แล่นขึ้น-ลง ในลำน้ำโขงตอนบน ของประเทศลาว
เที่ยง            เดินทางถึงด่านตรวจเมืองปากแบง และเที่ยวชมธรรมชาติของเมืองพร้อมรับประทานอาหารกลางวันและของว่างในเรือ
เย็น             เดินทางถึง เมืองหลวงพระบาง เข้าพักที่โรงแรมเมืองชัว ในเมืองหลวงพระบาง
ค่ำ               รับประทานอาหารเย็น พักผ่อนตามอัธยาศัย หลังอาหารเชิญท่านอิสระที่ตลาดค่ำ ( Night market ) เป็นถนนคนเดินตอนเย็นตั้งแต่เวลา 5โมงเย็น ถึงประมาณ 4 ทุ่ม ก็จะมีชาวลาวสูง ลาวเทิ่ง ลาวม้ง แม้แต่ชาวหลวงพระบางเองก็จะนำสินค้าพื้นเมืองไม่ว่าจะเป็นผ้าปัก ผ้าทอมือ ผ้านุ่ง ผ้าซิ้นเครื่องเงิน เครื่องไม้ สินค้ามากมายถูกวางอยู่บนถนนและริมทางเดินตั้งแต่หน้าพระราชวังจนสุดหัวถนน
วันที่2 :      เที่ยวชมเมืองหลวงพระบาง
เช้า              06.00 น.    เชิญท่านร่วม ตักบาตรข้าวเหนียว   ในทุกๆ เช้าพระสงฆ์ และ สามเณรจากวัดต่างๆ จะเดินออกบิณฑบาตรเป็นแถวอย่างมีระเบียบนับร้อยๆรูป โดยการตักบาตรนี้จะรับแต่ข้าวเหนียวสีขาวเท่านั้น ส่วนกับข้าวไม่ต้องใส่ในบาตร ( ชาวบ้านจะนำไปถวายที่วัดเอง ) ทำบุญใส่บาตรพระสงฆ์ เสร็จแล้วนั่งรถไปเที่ยวชมตลาดเช้า
-                 รับประทานอาหารเช้า
-                 เที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวตามโปรแกรมประกอบด้วย
-                   วัดวิชุน เจ้าชีวิตวิชุนราชโปรด สร้างขึ้นเมื่อปี ค . ศ .1503 เป็นวัดที่มีความแปลกจากวัดอื่นๆ ในหลวงพระบาง ตรงพระเจดีย์พระประทุมหรือพระธาตุดอกบัวใหญ่ พระธาตุเจดีย์ดีรูปโค้งที่คนลาวเรียกกันว่า พระธาตุหมากโมตามลักษณะที่คล้ายแตงโมผ่าครึ่งที่พระนางพันตีนเชียง พระอัครมเหสีโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1514 ช่วงปี ค.ศ.1914 พระธาตุหมากโมได้พังทลายลงบางส่วน เจ้ามหาชีวิตสว่างวงศ์ และชาวหลวงพระบางจึงร่วมกันบูรณะพระธาตุแห่งนี้ จากการซ่อมแซมครั้งนั้นได้พบวัตถุมีค่ามากมาย อาทิเช่น พระพุทธรูปทองคำ เงิน และทองสำริด พระพุทธรูปแกะสลักทองคำจากแก้ว และ อัญมณี รวมทั้งวัตถุทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และ ศิลปะวัฒนธรรมในช่วงศตวรรษที่ 15 และ 16 อีกเป็นจำนวนมาก
-               วัดเชียงทอง ( wat xieng thong ) ซึ่งเป็นวัดหลวงคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง สร้างในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ก่อนหน้าที่จะย้ายเมืองหลวงไปนครเวียงจันทน์ วัดนี้ได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้ามหาชีวิตมหาสว่างวงค์ และเจ้าหมาชีวิตศรีสว่างวัฒนา กษัตริย์องค์สุดท้ายของลาว ชมพระอุโบสถ หรือ สิม ที่มีหลังคา อ่อนโค้งและลาดต่ำซ้อนกันอยู่ 3 ชั้น เกือบจรดฐาน ชมช่อฟ้าหรือพุทธสีมา 17 ช่อ ชมผนังด้านหลังอุโบสถที่ใช้กระจกสีตัดต่อกันเป็นรูปต้นทอง ชมหอพระไตรปิฏก ที่นำกระจกมาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ เล่าเรื่องนิทานพื้นบ้านบนพื้นสีชมพู ชมวิหารพระม่าน ด้านหลังอุโบสถที่ในวันขึ้นปีใหม่ลาวจะอัญเชิญให้ประชาชนสรงน้ำและกราบไหว้ นำท่านกราบพระธาตุศรีสว่างวงค์ ซึ่งเป็นที่เก็บอัฐิของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงค์
-             พระราชวังเจ้าชีวิต ( Royal Palace Museum ) สร้างขึ้นปี ค.ศ.1904 ก่อนที่เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงค์จะขึ้นครองราชย์สมบัติ 1 ปี ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส เป็นอาคารชั้นเดียวยกพื้นสูงแบบฝรั่งเศส แต่มีการผสมผสานระหว่างความเป็นฝรั่งเศสและลาวหลังคายอดปราสาทเป็นศิลปะลาวล้านช้างที่นี้จึงถูกเปรียบเปรยว่าเป็นลักษณะของฝรั่งสวมชฎา เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงค์ประทับอยู่ที่นี้จนสิ้นพระชนม์ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจึงถูกเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์วังเจ้ามหาชีวิตแทน ภายในประกอบด้วยห้องฟันธรรม จัดแสดงธรรม ไม้แกะสลักสกุลช่างหลวงพระบางและพระพุทธรูปสำริดสกุลช่างลาวโบราณช่างศตวรรษที่ 17-19 ห้องที่สองด้านขวามือเป็นห้องพิธีหรือห้องรับแขกมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับวิถีชีวิตชาวลาวโดยช่างฝีมือชาวฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1930 ห้องที่สามเป็นห้องท้องพระโรงประดับกระจกสีบนพื้นสีทอง เป็นห้องที่เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงค์วัฒนาเตรียมไว้เพื่อทำพิธีราชาภิเษกแต่เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองเสียก่อน ปัจจุบันเป็นที่จัดแสดงราชบัลลังก์ไม้แกะสลักหุ้มทองและเครื่องสูงทั้ง 5 ส่วนด้านหลังเป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิต เครื่องใช้ไม้สอยเป็นแบบฝรั่งเรียบง่ายไม่หรูหราเตียงพระบรรทมเป็น ไม้สักฝีมือช่างไทยในสยามในสมัยนั้น ภายนอกอาคารพระราชวังมีหอพระบางซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบาง พระคู่บ้านคู่เมือง เป็นพระพุทธรูปศิลปะขอมสมัยหลัง “บายน” ปางประทานอภัย หรือปางห้ามสมุทร หล่อขึ้นจากทองคำถึง 90% นอกจากนี้ยังมีอนุสาวรีย์เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ผู้พระราชทานรัฐธรรมนูญอยู่ด้วย
เที่ยง           รับประทานอาหารกลางวัน
-                  เดินทางออกนอกเมืองประมาณ 45 นาที ไปน้ำตกกวางสี เป็นน้ำตกที่สวยงามมากเป็นน้ำตกหินปูนสูงราว 70 เมตร มี 2 ชั้น บางช่วงมีสายน้ำไหลตามผาคล้ายกับม่าน เนื่องจากเป็นน้ำตกหินปูนจึงทำให้น้ำของน้ำตกแห่งนี้ใสและมีสีเขียวมรกต
-                  ช่วงบ่าย ไปเที่ยวผานมเป็นชุมชนไทลื้อที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านเล่าว่าเจ้ามหาชีวิตแห่งล้านนาได้สู่ขอเจ้านางผมหอม ธิดาของกษัตริย์เมืองเชียงรุ้ง (สิบสองปันนา) มาเป็นพระชายา มีบริวารบ่าวไพร่ติดตามรับใช้เป็นข้าราชการในราชสำนักสืบต่อกันมา 10 ชั่วอายุคน จนมีจำนวนคนเพิ่มขึ้น เจ้ามหาชีวิตจึงมีรับสั่งให้ออกมาตั้งบ้านเรือนนอกราชวัง โดยแห่งแรกอยู่ที่บ้านเวียงนาคำและบ้านนาอ้อมดอยบริเวณเชิงเขาภูว่าวนอกเมืองหลวงพระบาง และต่อมาได้อพยพมาอยู่ที่บ้านผานมแห่งนี้ ปัจจุบันมีประชากรราว 200 หลังคาเรือน หญิงชาวไทลื้อที่เคยทอผ้าถวายเจ้ามหาชีวิตมาก่อน ทำให้บ้านผานมมีชื่อเสียงในเรื่องความประณีตและสวยงามมากจึงมีการตั้งศูนย์หัตถกรรมสินค้ารวมทั้งมีการสาธิตการทอผ้าด้วยทั้งแบบย่ามและกระเป๋าเสื้อต่างๆ
-                  ขึ้นสู่ยอดเขาภูสี นมัสการพระธาตุพูสี ยอดเขาพูสีมีความสูงประมาณ 150 เมตร ทางขึ้นเป็นบันไดจำนวน 328 ขั้น ตลอดสองขางทางร่มรื่นไปด้วยดอกจำปา หรือ ลั่นทม ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติลาวที่จะออกดอกบานสะพรั่งในช่วงฤดูร้อน เชื่อแต่เดิมว่าบริเวณนี้เป็นเขตป่าศักดิ์สิทธิ์ ต่อมามีฤษีขึ้นไปอาศัยอยู่ชาวบ้านจึงเรียกว่าภูฤษี หรือ ภูสีมา สามารถมองเห็นเมืองหลวงพระบางจากบนยอดเขาซึ่งนับว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่ง
เย็น             รับประทานอาหารเย็น และคืนนี้ มีกิจกรรมจากทางทีมนำเที่ยว และเราจะพาท่านที่สนใจสัมผัสบรรยากาศร้านบันเทิงของหลวงพระบาง ยามราตรีพักโรงแรม ชนะแก้ว
วันที่ 3 :      หลวงพระบาง – ปากแบง
เช้า              07.00 น. : รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
-                  เตรียมตัวเดินทางจาก หลวงพระบางโดยเรือสู่ เมืองปากแบง
-                  บ้านซ่างไห ที่มีประวัติ การต้มเหล้ามานานกว่า 600 ปี ชุมชนริมแม่น้ำโขงแห่งนี้ มีอาชีพหลักในการต้มเหล้าว่ากันว่าเหล้าขาวของที่นี่รสชาติดีมาก
-                  พาท่านล่องเรือแม่น้ำโขง สู่ถ้ำติ่ง ถ้ำติ่งเป็นถ้ำที่เกิดจากธรรมชาติ ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านปากอูในภูเขาลูกใหญ่ที่ตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำโขง ช่วงที่แม่น้ำอูไหลลงสู่แม่น้ำโขง ชาวบ้านเรียกกันว่า ผานางแอ่น ถ้ำติ่งประกอบด้วยถ้ำ 2 แห่งได้แก่ ถ้ำติ่งเทิ่ง ( ถ้ำติ่งบน ) และถ้ำติ่งลุ่ม ( ถ้ำติ่งล่าง ) ในสมัยโบราณใช้เป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิณญาณผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง แต่เมื่อศาสนาพุทธเข้ามาแทนที่ ถ้ำติ่งจึงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ทางพุทธศาสนาของผู้แก่เฒ่า บอกว่าเจ้ามหาชีวิตแห่งหลวงพระบางต่างไปสักการะพระพุทธรูปในถ้ำเป็นประเพณีที่ขาดไม่ได้โดยช่วงปีใหม่หลังเสร็จงานบุญที่หลวงพระบางแล้วประมาณ 2 – 3 วันพระองค์จะนำข้าราชบริพารชั้นผู้ใหญ่พระสงฆ์และประชาชนขึ้นไปสรงน้ำพระพุทธรูปที่ถ้ำติ่งบนก่อนจึงลงมาทำพิธีที่ถ้ำติ่งล่างภายในถ้ำมีการค้นพบพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15และ19 จำนวนหลายพันองค์ และมีบางส่วนที่สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 17และ20 ส่วนใหญ่ทำจากไม้บางส่วนทำจากหิน และโลหะนอกจากนี้ยังมีการพบพระพุทธรูปที่ทำจากเงินและทองคำบุแต่ถูกลอกเอาเงินและทองคำออกไปหมดเหลือไว้แต่ดินเผาที่เป็นแกนกลาง
-                  ชมวิถีชีวิตของชาวลาวสองฝั่งแม่น้ำโขง และ รับประทานอาหารกลางวันบนเรือ
-                  ชมการร่อน ทองคำในแม่น้ำโขง
-                  เดินทางถึง เมืองปากแบง เข้าที่พักโรงแรม วีระศักดิ์

เย็น             รับประทานอาหารเย็น พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 4 : ปากแบง – ห้วยทราย – เชียงของ
เช้า              07.00 น. เที่ยวชมตลาดเช้า
08.00 น. : รับประทานอาหารเช้า
-                  เดินทางออกจาก ปากแบง
-                  รับประทานอาหารกลางวันบนเรือ บริการพิเศษให้แก่ท่านด้วย ภาพยนตร์ หรือ การร้องคาราโอเกะท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ สองฝั่งโขง
เย็น             เดินทางถึง ห้วยทราย และข้ามกลับเข้า อ.เชียงของ
 
 - เพียงท่านละ  6,500 บาท   (รับ35 ท่านขึ้นไป)
 - รถกลับรถ เพิ่มคนละ 1,000 บาท
บริการรวม
1. บริการที่พักโรงแรม  3  คืน                       5. ไกด์ – สต๊าฟ
2. บริการอาหารทุกมื้อตามโปรแกรม               6. บริการเครื่องดื่ม-อาหารว่าง – ผ้าเย็น ทุกวัน
3. บริการเข้าชมสถานที่ตามโปรแกรม        7. บริการทำประกันวงเงินท่านละ 1,000,000  บาท
4. ค่าเช่ารถ-และเรือไปกลับ ห้วยทราย-หลวงพระบาง               
หมายเหตุ    โปรแกรมการเดินทางอาจจะปรับเปลี่ยนได้ แล้วแต่ความเหมาะสม ทั้งนี้จะรักษาผลประโยชน์ของท่านเป็นสำคัญ
IP : บันทึกการเข้า
i3nas
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 19 ธันวาคม 2010, 04:52:03 »



แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก-เมืองเชียงตุง -เมืองลา 3วัน  เดินทาง,4-6ธ.ค.,10-12ธ.ค.,31-2ม.ค.

เพียงท่านละ ท่านละ 4,800 บาท

“เมืองแห่งสามจอม เจ็ดเชียง เก้าหนอง สิบสองประตู” เมืองเชียงตุงและอดีตลาสเวกัสจีนตอนใต้ “เมืองลา” แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก-เชียงตุง-เมืองลา 2 คืน 3 วัน กำหนดการเดินทางปี53(เดือนธันวาคม4-6,10-12,31-2ม.ค54)เปิดจองแล้ว

“เมืองแห่งสามจอม เจ็ดเชียง เก้าหนอง สิบสองประตู”
เมืองเชียงตุงและอดีตลาสเวกัสจีนตอนใต้ “เมืองลา”
แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก-เชียงตุง-เมืองลา 2 คืน 3 วัน
ไปรถกลับรถ โดยรถตู้หรือบัสปรับอากาศ VIP
                
สะพานมิตรภาพไทย-พม่า      >>>>>>>>>  เมืองเชียงตุง          >>>>>>>>>>>>>    เมืองลา

 
                เมืองเชียงตุง-เมืองลาประเทศพม่า เป็นประเทศที่เกี่ยวข้องกับไทยมาช้านาน ทั้งอารยธรรม-เชื้อชาติ-ศาสนา ที่ใกล้เคียงกันแทบจะแยกออกจากกันไม่ได้ และเป็นเมืองของรัฐฉานและว้า หากท่านเป็นผู้หนึ่งที่ต้องการย้อนอดีตวิถีชีวิตไปอีก 30-40 ปี สภาพความเป็นอยู่แบบที่เรียบง่ายของท้องถิ่น ทั้งชื่นชมกับธรรมชาติที่สวยงาม วัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมของพี่น้องชาวไทยใหญ่ ไทยลื้อ ไทยเขินและชาวพม่าและสัมผัสอดีต เมืองคาสิโน.(เมืองลา) หรือที่เรียกว่า small las ve gas of south east asia เมืองที่ไม่ยอมหลับนอน ซึ่งปัจจุบันนี้ได้ปิดบ่อนลงไปแล้ว เหลือแต่ตึกและอาคารไว้เป็นอนุสร เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่จะนำท่านไปสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้                            
 

กำหนดการเดินทาง     สามารถเดินทางได้ทุกวัน
วันที่ หนึ่ง       ท่าขี้เหล็ก เชียงตุง เมืองลา
07.00 น          พบกันที่จุดนัดพบ ไปที่ด่านพรมแดนแม่สาย ทำเอกสารหลักฐานต่างๆเรียบร้อยแล้วออกเดินทางข้ามสะพานมิตรภาพไทย-พม่า สู่ท่าขี้เหล็กมุ่งหน้าสู่เชียงตุง ระยะทางโดยประมาณ 170 กม.โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.5 ชั่วโมง ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์บริเวณสองข้างทาง ซึ่งยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่มาก ถนนที่วิ่งเรียบไปกับแม่น้ำ ท่าเล่หรือแม่น้ำเลน ที่ไหลเชี่ยวน้ำใส ซึ่งจะมองเห็นโขดหินที่โผล่ตัวจากน้ำอย่างสวยงาม และยิ่งเข้าใกล้เชียงตุงมากเท่าใดก็จะมองเห็นชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นชาวไทยใหญ่และไทยเขิน
กลางวัน           รับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารในเมืองเชียงตุงร้านโลกตา
บ่าย                 หลังจากรับประทานอาหารเสร็จนำท่านไปชมและนมัสการพระยืนที่ใหญ่ที่สุดของเมืองเชียงตุง และชมต้นยางใหญ่ขนาด 10 คนโอบ อายุประมาณ 252กว่าปีซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเชียงตุงหรือที่ชาวเมืองเรียกกันว่าต้นหมายเมืองคือไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนถ้ากลับเมืองไม่ถูกให้จำต้นยางนี้ไว้เพราะสูงโดดเด่นเห็นได้ง่ายที่ ,วัดจอมคำ ,พอได้เวลาอันสมควรก็ออกเดินทางต่อไปยังเมืองลา ระยะทางประมาณ 90 กม. (2.5 ชั่วโมง)เมืองลาเป็นเมืองปกครองตนเองหรือเขตปกครองเขตพิเศษที่ 4 ปกครองโดยชาวไทยใหญ่ ซึ่งส่วนมากเป็นคนจีนเข้ามาลงทุนค้าขาย และการขนส่งสินค้าจากจีนเข้ามาทางนี้ไปยังเมืองเชียงตุงและเมืองไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ่อนคาสิโน ระหว่างทางท่านจะมองเห็นชาวเขาเผ่าต่างๆโดยเฉพาะชาวไทลื้อหรือไทยเขินที่จะมีอยู่มาก จะสังเกตได้จากการแต่งตัวและการปลูกบ้านที่ดูแปลกตาโดยเสาบ้านจะไม่ฝังลงดินจะวางกับก้อนหินหรือซีเมนต์ กับวิถีการดำรงชีวิตที่เรียบง่ายดูไม่วุ่นวาย พอถึงเมืองลาจะต้องแวะนมัสการรพระนอนที่ใหญ่ที่สุดและเข้าโรงแรมปาไหล่หรือเทียบเท่า
ค่ำ                                นำท่านไปทานอาหารค่ำและท่องเมืองยามราตรีซึ่งเมื่อก่อนเราสามารถที่จะลองเสี่ยงโชคที่คาสิโนใกล้ๆโรงแรมที่พักมีมากถึง 17 แห่ง แต่ในขณะนี้ได้เปิดบ่อนแห่งใหม่ห่างจากเมืองประมาณ 10 ก.ม.แต่ก็พอเสี่ยงโชคได้บ้างที่บ่อนลูกเต๋าหล่นหรือบ่อประชาชน ได้เวลาพอสมควรกลับโรงแรมที่พักและพักผ่อนอิสระตามอัธยาศัย(ใครที่เมื่อยเรามีบริการหมอนวดถึงห้องพัก)
    
              

วันที่ สอง       เมืองลา-เชียงตุง
เช้า                              นำท่านไปชมตลาดเช้าเมืองลา ซึ่งที่นี่มีสินค้าให้เลือกซื้อมากมายในบรรยากาศแบบไทยใหญ่และจีนสิบสองปันนา ที่น่าสนใจไม่น้อยเห็นจะเป็นสินค้าที่ได้จากป่า ในบริเวณตลาดนี้ยังรวมไปถึงที่ขายของโต้รุ่ง,บ่อนลูกเต๋าหล่น ,ที่ขายผลไม้ต่างๆ พอได้เวลาสมควรพาท่านมารับประทานอาหารเช้าแบบบุ๊ปเฟ่ เป็นอาหารจีน เสร็จแล้วพาท่านไปถ่ายรูปบริเวณหลัก กม.1 ชายแดนจีน-พม่า(ติดกับสิบสองปันนาของจีน)แวะนมัสการพระเจดีย์ภูเขาทองหรือที่เรียกกันว่าวัด จินตะ เจดีย์มิตรภาพ จีน-พม่า ที่สวยงามมากที่ข้างในจะมีการจำลองสถานที่ท่องเที่ยวของแต่ละมนฑลแต่ละรัฐของพม่ามาแสดงไว้เสมือนว่าเราได้ไปเที่ยวทั่วประเทศพม่า,พิพิธภัณฑ์ต่อต้านยาเสพติด,ชมโรงงานหยกที่มีการผลิตและจำหน่ายมากที่สุด ถ่ายรูปกับจระเข้ใหญ่ ไปดูหมีและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากดีหมีที่เขาเลี้ยงไว้เพื่อเอาดีมีหลายสิบตัว

กลางวัน                      ทานอาหารกลางวัน และเดินทางกลับมาที่เชียงตุง บ่ายๆมาถึงเชียงตุงชมรอบๆบริเวณหนองตุง ซึ่งเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่อยู่ใจกลางเมืองเชียงตุง และที่นี่จะมีร้านน้ำชาเกิดขึ้นมากมายหลายร้านเป็นที่พบปะสังสรรค์ของคนทั่วไปโดยเฉพาะคนหนุ่มสาว เพราะได้บรรยากาศที่เงียบสงบ,ไหว้พระวัดมหาเมี๊ยะมณี ซึ่งเป็นวัดเจ้าหลวงคู่เมืองเชียงตุง เข้าที่พักโรงแรมนิวเชียงตุงหรือเทียบเท่า
 ค่ำ                   หลังอาหารค่ำกลับเข้าที่พักและอิสระตามอัธยาศัย
วันที่สาม           เชียงตุง-ท่าขี้เหล็ก-แม่สาย
เช้า                              นำท่านไปทานอาหารเช้าและไปชมตลาดเช้าเมืองเชียงตุงมีของกินและของใช้มากมายและชนเผ่าที่มาจ่ายตลาดหลายเผ่า จากนั้นชมอาคารกงศุลไทยสมัย จอมพลผิน ชุณหะวัณ ชมประตูเมืองเก่าที่ยังคงเหลืออยู่ ชมที่บรรจุอัฐิของเจ้าผู้ครองนคร
กลางวัน          รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารในเมืองเชียงตุงหรือเมืองท่าเดื่อ
บ่าย                ออกเดินทางกลับท่าขี้เหล็ก
เย็น                  ถึงท่าขี้เหล็ก แวะชมพระธาตุชเวดากององค์จำลอง ,และเดินช็อปปิ้งบริเวณตลาดท่าขี้เหล็กเป็นของฝากกลับบ้าน ส่วนใหญ่สินค้ามาจากประเทศจีน ได้เวลาพอสมควรเดินทางกลับสู่แม่สายประเทศไทยโดยสวัสดีภาพ
  
                ตลาดเช้าเมืองลา                              วัดจินตะ                      พระธาตุชเวดากององค์จำลอง
 
 
อัตราค่าบริการ              
    ท่านละ 4,900  บาท  พักเดี่ยวเพิ่ม 1,500 บาท
กรุณาโทรสอบถามราคาอีกครั้งเพราะขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่เดินทาง
ราคานี้รวม
1.         ค่าโรงแรม2คืนพักห้องละ2-3 ท่าน
2.         อาหาร7มื้อตามโปรแกรม
3.         ไกด์นำเที่ยว
4.         ค่าเอกสารผ่านแดนไทย-พม่า
5.         ค่าเช่ารถตู้/บัสนำเที่ยว
6.         ประกันอุบัติเหตุวงเงิน1,000,000 บาท
เอกสารที่ต้องเตรียม
1.          รูปถ่าย 1-2 นิ้ว จำนวน 3 ใบ
2.         สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน3ฉบับ และวันเดินทางอย่าลืมนำตัวจริงไปด้วย(เด็กใช้สำเนาสูติบัตรแทนบัตรประชาชน)
            เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปีถ้าพักกับผู้ปกครอง(ไม่เสริมเตียง) ลด 1,000 บาท
หมายเหตุ.        เอกสารต้องส่งถึงล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน
สิ่งที่ควรเตรียมไป        สัมภาระส่วนตัวเช่น เสื้อกันหนาว,รองเท้าผ้าใบ,หมวก,ยารักษาโรค,ไฟฉาย, อื่นๆ
IP : บันทึกการเข้า
i3nas
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 19 ธันวาคม 2010, 04:59:02 »

สัมผัสที่ดินแดนอารยธรรม ที่สิบสองปันนา  ออกเดินทางธันวาคม 4-7,10-13,30-2 ม.ค54 จองด่วนจำนวนจำกัด
เริ่มเดินทางจากเชียงของ ไปยัง ดินเเดนอารยธรรม สิบสองปันนา
เพียงท่านละ 8500 บาท

เชียงของ-หลวงน้ำทา-บ่อเต็น-บ่อหาน-เมืองเชียงรุ่ง(สิบสองปันนา) 3คืน 4วัน

ไปรถกลับรถ  โดยรถบัสหรือรถตู้ปรับอากาศ
                   สมัยก่อนการเดินทางต้องใช้ทางเรือโดยนั่งเรือจากสามเหลี่ยมทองคำทางน้ำโขงต้องเรือขาขึ้น ถึง3 วัน ขาล่อง ถึง2 วัน เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไป เป็นการเดินทางโดยรถยนต์ที่สะดวกรวดเร็วแลปลอดภัย ท่านจะได้สัมผัสกับธรรมชาติ ป่าเขา ชนเผ่าต่างๆ เที่ยวเมืองเชียงตุง ดินแดนถิ่นประวัติศาสตร์สมัยพระไชยเชษฐาที่สร้างเมืองต่างๆมากมายเช่น  เมืองเชียงตุง เชียงรุ่ง เชียงแสน เชียงของ เชียงทอง(หลวงพระบาง)แล้วก็ได้เปลี่ยนแปลงการปกครองจนถึงทุกวันนี้ เมืองที่เจริญที่สุดในปัจจุบันนี้คือ เมืองเชียงรุ่ง(สิบสองปันนา)มณฑลยูนนานของจีน



วันที่หนึ่ง        เชียงของ-หลวงน้ำทา-เมืองล้า-เชียงรุ่ง

08.00 น.           พบกัน ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองห้วยทราย จากนั้นขึ้นรถตู้หรือบัส เดินทางมุ่งสู่ด่านบ่อเต็น เส้นทางนี้ได้รับการลงทุนและก่อสร้าง สามประเทศได้แก่ ไทย-ลาว-จีน ส่วนความรับผิดชอบของไทยและลาว บ.ของไทยเป็นรับเหมาสร้างถนน ระหว่างทางเชิญชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางที่สวยงาม ป่าไม่ที่อุดมสมบูรณ์
กลางวัน                    รับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหาร เฮือนลาว ในเมืองหลวงน้ำทา หลังอาหารเดินทางไปที่ด่านชายแดนของลาว ทำพิธีการตรวจคนเข้าเมืองจากด่านบ่อเต็นของลาวไปยังด่านบ่อหานของจีนเขตเชียงรุ่ง หรือสิบสองปันนา เสร็จแล้วออกเดินทางผ่าน อ.เมืองล้า และอำเภอต่างๆ ถนนเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่สวยงามมาก ถนนแต่เดิมนั้นคตเคี้ยวไปมา ใช้เวลามาก แต่ปัจจุบันนี้ ได้ทำถนนให้เป็นทางด่วน เจาะภูเขาเป็นอุโมงค์ ใช้เวลาประมาณ3ชั่วโมงถึงเชียงรุ่ง จากด่านบ่อหานไปจนถึงเชียงรุ่งมีอุโมงค์มากถึง ยี่สิบกว่าอุโมงค์ บางอุโมงค์มีระยะทางถึง4กิโลเมตร ทิวทัศน์สองข้างทางส่วนใหญ่จะเป็นป่าที่ยังคงธรรมชาติอยู่มากและต้นยางที่ปลูกกันมากสลับกับการเพาะปลูกพืชผักผลไม้
เย็น              ถึงเมืองเชียงรุ่งหรือสิบสองปันนา ไปรับประทานอาหารที่แสนอร่อย หลังจากนั้นเข้าโรงแรม Gloden Phoenix Hotel 3 ดาวหรือเทียบเท่า (ห้องละ2ท่าน) และอิสระตามอัธยาศัย
วันที่สอง         สวนป่าเขตร้อน-วัดหลวงเมืองลื้อ

เช้า               รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นเดินทางไปที่สวนป่าเขตร้อน ที่มีฝูงนกยูงที่ได้ยินเสียงนกหวีดก็พากันบินมากินอาหาร พอเสร็จแล้วก็พากันบินกลับรัง ชมการแสดงของสัตว์แสนรู้เช่น หมี เสือ สิงโต ลิง ฯลฯ ชมการแดงของชนเผ่าต่างๆเช่นเผ่า อาข่า ไทลื้อ ชื่นชมกับธรรมชาติภายในสวนที่ยังคงอนุรักษ์ธรรมชาติได้ดีเยี่ยม
กลางวัน         นำท่านไปทานอาหารที่ภัตตาคารที่มีชื่อและอร่อย
บ่าย              พาเที่ยวชมวัดหลวงเมืองลื้อ ที่ตั้งอยู่เชิงดอยนอกเมืองออกไป อยู่ในโซนที่เรียกว่า สิบสองปันนาเมืองใหม่ เป็นวัดที่มีการสร้างโดยศิลปะแบบไทยผสมผสานเข้ากันกับของไทลื้อสิบสองปันนา อยู่เชิงเขาสายงามมาก มีรูปปั้นยักษ์วัดแจ้ง ยักษ์วัดโพธิ์อยู่หน้าวัดด้วย ภายในวิหารมีภาพวาดคล้ายของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จากนั้นไปร้านขายมีดไทลื้อที่น่าใช้ยิ่งนัก ไปโรงงานยาของรัฐบาลมีการแช่เท้าฟรีพร้อมการบรรยายสรรพคุณยาของชนไทลื้อชนิดต่างๆโดยเฉพาะบัวหิมะ
เย็น              นัดหมายเวลาทานอาหารค่ำ  และพาไปชมการแสดงแฟนตาซีหรือโชว์วัฒนธรรมที่อลังการมากด้วยระบบ แสง สี เสียง ที่มีชื่อว่า พารานาสี  ได้เวลากลับโรงแรม Gloden Phoenix Hotel 3 ดาวหรือเทียบเท่า
วันที่สาม            ตลาดเช้า-ล่องเรือแม่น้ำโขง-กาหลั่นป้า

เช้า               รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นเที่ยวชมตลาดเช้าที่เมืองเชียงรุ่ง เป็นตลาดที่ใหญ่แห่งหนึ่งของเมือง ที่คนพื้นเมืองไทลื้อและคนจีนมาค้าขายจับจ่ายสินค้ากันมากมาย จากนั้นพาทุกท่านล่องเรือแม่น้ำโขงเป็นเรือสำราญขนาดใหญ่ ชมวิวทิวทัศน์ของสองฝั่งแม่น้ำโขง ภายในเรือมีห้องวีไอพีพร้อมคาราโอเกะ ห้องติดแอร์ มีการชนไก่อีกด้วย และนั่งรถไปเมืองกาหลั่นป้า
กลางวัน          รับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารโคมแดง อิ่มแล้วนำท่านเดินทางไปชมสวนศูนย์วัฒนะธรรมกลั่นป้า มีวัด สุทธาวาสมหาราชฐาน สวยงามมากเป็นสถาปัตย์ไทลื้อผสมล้านนา มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์ใหญ่ ชมบ้านไทลื้อที่ไม่เอาเสาบ้านฝังดินโดยตั้งไว้บนก้อนหินหรือปูนซีเมนต์ จากนั้นไปชมโรงงานหยกของคนพิการ
จากนั้นไปโรงน้ำชาของรัฐบาลมีชาให้ชิมฟรีพร้อมกับการเลือกซื้อชาที่มีคุณภาพ ชมสวนสมุนไพรจีนหรือสมุนไพรพื้นเมืองของไทลื้อ  เดินเที่ยวห้างสรรพสินค้ามีสินค้าจีนมากมาย
เย็น              รับประทานอาหารเย็น เสร็จแล้วไปเดินเที่ยวบริเวณตลาดถนนคนเดินที่อยู่ใกล้กับที่พัก ได้เวลากลับโรงแรม Gloden Phoenix Hotel 3 ดาวหรือเทียบเท่าห้องละ2ท่าน
วันที่สี่           เชียงรุ่ง-หลวงน้ำทา-เชียงของ

เช้า               หลังจากรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วนำกระเป๋าขึ้นรถ ออกเดินทางสู่ด่านบ่อหาน ทำพิธีตรวจคนเข้าเมืองสู่ประเทศลาวเพื่อเดินทางกลับประเทศไทย
กลางวัน          รับประทานอาหารที่ ร้านอาหารในเมืองหลวงน้ำทา จากนั้นเดินทางกลับสู่เมืองห้วยทราย
เย็น              ถึงห้วยทราย ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ลาว ไทย ถึงท่าเรือ อ.เชียงของประเทศไทยโดยสวัสดีภาพปลอดภัยและประทับใจ

********************************************************
หมายเหตุ           รายการนี้อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมแล้วแต่เวลา
IP : บันทึกการเข้า
i3nas
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 19 ธันวาคม 2010, 13:06:31 »

สอบถามได้จ๊ะ  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
goodlannagirl
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 30 ธันวาคม 2010, 16:42:17 »

เฮาไปอู้กำเมืองกับหมู่เขาจะอู้กันอู้เรื่องก้อ นะ  รูดซิบปาก เจ้าว่าจะปาคนตี๋บ้านไปเอ๋วผ่อละ  ใคร๋อยากไปอยู่้เจ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 30 ธันวาคม 2010, 16:47:03 โดย goodlannagirl » IP : บันทึกการเข้า
WEBMASTER
เจ้าสำนักใหญ่
Administrator
แฟนพันธ์แท้
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,542

บุคคลทั่วไป


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 30 ธันวาคม 2010, 18:52:51 »

ถ้าไม่มีหนังสือเดินทาง ไปได้หรือเปล่าครับ  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ :  https://www.facebook.com/crfocus
i3nas
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 01 มกราคม 2011, 13:03:09 »

เฮาไปอู้กำเมืองกับหมู่เขาจะอู้กันอู้เรื่องก้อ นะ  รูดซิบปาก เจ้าว่าจะปาคนตี๋บ้านไปเอ๋วผ่อละ  ใคร๋อยากไปอยู่้เจ้า

เชิญเจ้าอ้าย มาแอ่วกัน เรื่องอู้นี่ส่วนใหญ่เขาจะอู้ภาษาไทขึน คือ ภาษาไทใหญ่ กลุ่ม หนึง
คำพูดมันก่อจะคล้าย กึ่งคำเมือง กึ่งลาว อันนี้เชียงตุงนา ถ้าเมืองลาจะอู้ภาษาจีนนะเจ้า ก็หาข้าวกินได่อะเจ้า ถ้าอ้ายสนใจทริปไปเชียงตุง เมืองลานะเจ้า

ถ้าจะไปแอ่ว ลาวใต้อย่าง น้ำตกตาดฟาน ไร่ชา ปากเซ ตาดผาส้วม คอนพะเพ็ง หลี่ผี ปราสาทวัดพูจำปาสัก ตาดผาส้วม ตาดเยือง มีรูปมาด้วยลองดูนะ ทริปนี้ถ้าสนใจสอบถามราคาได้จ้า ไม่แพง

เดียวอัพรูปหื้อนะเจ้า

IP : บันทึกการเข้า
i3nas
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 01 มกราคม 2011, 13:07:55 »

ถ้าไม่มีหนังสือเดินทาง ไปได้หรือเปล่าครับ  ยิงฟันยิ้ม

ไม่ได้คะเพราะว่าเข้าเมืองจีน ทั้ง เชียงตุง สิบสองปันนา และเมืองลา ต้องใช้พาสปอสต์กะวีซ่า เจ้า
แต่ว่าวีซ่าสามารถทำหน้าด่านได่แต่ว่าจะช้า 4-5 ชม ทางที่ดีติดต่อทางบริษัททัวร์้เราเลยดี แล้วเราจะจัดการให้ หรือว่าจะทำที่เมืองไทยเองเลยแล้วแต่ความสะดวกของท่าน คะ

ถ้าสอบถามเพิ่มเติมโทรมาำได้เจ้า 081-0346382 นัสเจ้า 
IP : บันทึกการเข้า
i3nas
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 05 มกราคม 2011, 12:58:20 »

วันนี้มีภาพมาฝากหลังจากเบี้ยวมาหลายวันแล้วนะคะ
 
ยิ้มกว้างๆ วันนี้มีข่าวใหม่คะ สำหรับท่านที่สนใจไปทริป เชียงตุง ไม่ต้องมีพาสปอสต์(passport)ได้คะ เนื่องจากว่า ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วที่ผ่านมา ด่านของทางฝั่งพม่าซึ่งติดกับจีนถูกปิดไป แต่ท่านที่อยากไป เมืองลา สิบสองปันนา มิต้องเสียจัยน๊า เที่ยวได้อยู่จ้า ยังไงสอบถามทางเราเรื่อยๆ จะเเจ้งอีกทีจ้า

ดังนั้นจึงเป็นโอกาสดี สำหรับท่านที่ไม่มี พาสปอสต์(passport) สามารถ เที่ยว เชียงตุงไ้ด้แต่อาจจะมีค่าวีซ่าเพิ่มนิดหน่อย ยังไงสอบถามทางจตุรพรทัวร์ นัส 081-0346382 ได้เรื่อยๆจ้า

นี่คือแผนที่ เพื่อเข้าใจได้ง่ายๆ

ธรรมชาติ และ ทิวทัศน์

รูปภาพรวม ของแต่ละที่จ้า

IP : บันทึกการเข้า
joycutree
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 97


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2011, 01:08:38 »

ตอนนี้รับสมัครstaffมั้ยคะ
IP : บันทึกการเข้า
i3nas
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2011, 16:02:56 »

ตอนนี้รับสมัครstaffมั้ยคะ

ต้องติดต่อที่ จตุรพรทัวร์ จ้า ^^
IP : บันทึกการเข้า
....คนหน้าแหลม....
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,535


..........................


« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2011, 16:07:44 »

ขอเก็บตังค์ก่อนนะ
อยากไปอีกจริงๆ
ฝากความคิดถึงสาวลื้อที่เชียงรุ้ง ที่ชื่อสิริวรรณา ด้วย
ไม่รู้เขียนถูกป่าว  ยิงฟันยิ้ม


* new_year_parade_jinghong_china_5.jpg (34.98 KB, 189x283 - ดู 2050 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2011, 16:12:23 โดย ซาลาเปา » IP : บันทึกการเข้า
i3nas
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2011, 16:12:10 »

ขอเก็บตังค์ก่อนนะ
อยากไปอีกจริงๆ
ฝากความคิดถึงสาวลื้อที่เชียงรุ้ง ที่ชื่อสิริวรรณา ด้วย
ไม่รู้เขียนถูกป่าว  ยิงฟันยิ้ม

ยินดีจ้า ^^ คุณซาลาเปา ว่างๆมาแอ่วที่จตุรพรทัวร์ก็ได้จ้า คนกันเอง
ยินดีต้อนฮับทุกเมื่อเเขกบ้านมาเยือนเจ้า
IP : บันทึกการเข้า
meecombat
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 97


« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2011, 21:26:37 »

ผมอยากไปด้วยครับ แต่โปรแกรมแบบ ขับรถตามกันเอารถไปเอง อะครับ
คาราวานทัวร์นะครับ (ผมเคยดูในเว็บพอจะเข้าใจเกี่ยวกับการนำรถไปนะครับ แล้วก็พาสปอร์ต พอเข้าใจครับ)
ไม่ทราบว่ามีมั้ยครับ ถ้ามีแนะนำด้วยนะครับ
ขอบคุณอย่างสูงเลยครับ
IP : บันทึกการเข้า
ⒷⒼ*
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,368

นิพพานคือนิรันดร์


« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2011, 22:57:40 »

น่าสนใจครับ  มีจัดทริปทั้งปีไหมครับ  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
tateto
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2011, 12:14:29 »

เอารูปมาลงเยอะ ๆ ก็ดีนะครับ ทำให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น แต่ชอบรายการทัวร์ของบริษัทมาก ขอชมว่าจัดได้ดี เดี่ยวจะขอใช้บริการบ้าง
IP : บันทึกการเข้า
demichelis
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2011, 14:33:31 »

น่าสนใจคับ
IP : บันทึกการเข้า
i3nas
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2011, 14:46:33 »

ไม่ได้เข้ามาอัพกระทู้เลย เพิ่งมีโอกาศได้เช็คเมล ค่า
เดียวจะตอบคำถามทุกท่านค่า ขอบคุนค่า ^^
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!