เชียงราย - สลด 2 เด็กนักเรียนเชียงรายโชคร้าย รายแรกเป็นนักเรียนหญิง ป.5 ป่วยเป็นมะเร็งกระดูก อีกรายป่วยเป็นกล้ามเนื้อหด พบ 1 ใน 100 ขณะที่ผู้ปกครองต้องรับจ้างหาเงินดูแลตลอด วอนผู้มีจิตเมตตาช่วย
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายอรรณพ จูจันทร์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) เชียงราย เขต 4 ได้นำคณะกรรมการตรวจเยี่ยมบ้านนักเรียน นำโดย ดร.ศักดิ์สิทธิ์ ขัตติยาสุวรรณ ผู้เชี่ยวชาญ สำนักส่งเสริมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.),นายโสภณ โสมดี ผู้เชี่ยวชาญ สพฐ.นายศักดิ์สิน ช่องดารากุล, นายสิทธิพร กีรติวัฒนกุล, นางวิไลวรรณ ใจแก้ว พร้อม ผอ.กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา และเจ้าหน้าที่ ได้ไปเยี่ยมบ้านนักเรียน ด.ช.ภาสกร ใจทิศ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านใหม่โชคชัย ที่เจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งในกระดูกจนต้องตัดขาขวาทิ้ง ถึงสองครั้ง และ ด.ช.เจริญศักดิ์ ประวัง ซึ่งเคยเรียนโรงเรียนเดี่ยวกัน ที่เจ็บป่วยด้วยโรคประหลาด แพทย์ผู้รักษาลงความเห็นว่าเป็นโรคกล้ามเนื้อหดตัว พบในผู้ป่วย 1 ใน 100 ของเด็กทั้งหมด
โดยคณะที่ของรองผู้อำนวยการ สพท.เชียงราย เขต 4 ได้มอบของเยี่ยมบ้านจาก นายเสน่ห์ ขาวโต รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และเงินช่วยเหลือเบื้องต้นด้วย ส่วนผู้มีจิตกุศลต้องการบริจาคช่วยเหลือนักเรียนทั้ง 2 รายติดต่อได้ที่ สพท.เชียงราย เขต 4 โทร.053-796139
นายมานพ วรรณสาร ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านใหม่โชคชัย กล่าวว่า กรณีของ ด.ช.ภาสกร และ ด.ช.เจริญศักดิ์ นั้น หลายหน่วยงานได้ให้การช่วยเหลือผ่านทาง สพท.เชียงราย เขต 4 โรงเรียนและครอบครัวอย่างต่อเนื่อง เพราะลำพังภาครัฐคงมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ แต่ปัจจุบันพบว่าผู้ปกครองของเด็กทั้ง 2 คนก็มีปัญหาเรื่องฐานะต้องออกไปทำงานรับจ้าง ดังนั้นบางช่วงทางโรงเรียน เพื่อนบ้าน ครู นักเรียน ต่างก็ช่วยรับภาระส่งเด็กไปโรงพยาบาล
นางสายพิณ อินพรม แม่เด็กชาย ด.ช.ภาสกร ใจทิศ กล่าวว่ารู้สึกปลาบปลื้มใจที่มีคณะไปเยี่ยม เพราะนับตั้งแต่หย่าร้างกับสามี ก็มาพบกับปัญหาลูกชายเจ็บป่วย จึงต้องทำงานรับจ้างหาเลี้ยงลูกไปวันๆ ต้องขอความชาวเหลือจากครู องค์การบริหารส่วนตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อนบ้าน ฯลฯ
ด้าน ด.ช.ภาสกร กล่าวว่าที่ผ่านมาได้ผ่าตัดรักษาไปแล้ว 2 ครั้ง และครั้งล่าสุดพึ่งผ่าตัดได้เพียงประมาณ 10 วัน สัปดาห์หน้าแผลก็คงจะหายซึ่งเป็นความหวังให้ตนสามารถกลับไปเรียนได้ต่อไป
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000177445