เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 เมษายน 2024, 03:20:14
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  งานบ้านงานครัว คลีนิค ถามหมอ เรื่องสุขภาพ (ผู้ดูแล: แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-., ©®*)
| | |-+  สมุนไพรใกล้ตา วันนี้ขอเสนอ.....
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน สมุนไพรใกล้ตา วันนี้ขอเสนอ.....  (อ่าน 1172 ครั้ง)
กมล ช.
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,784


Id line : Kamol_2529


« เมื่อ: วันที่ 16 ธันวาคม 2013, 13:02:59 »

     มะพร้าว ผลไม้พื้นๆแต่มีคุณประโยชน์มากมาย
อยากมีสุขภาพดี ผิวพรรณดีดูสดใส ไร้โรคภัย อย่ามองข้าม มะพร้าวนะค่ะ มาดูคุณประโยชน์ถึง 60 ประการเลยทีเดียว

1. ประโยชน์น้ำมะพร้าว จะช่วยทำให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง ขาวนวลขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่
2. น้ำมะพร้าวมะส่วนสำคัญอย่างมากต่อการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น กระชับ ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้เป็นอย่างดี
3. น้ำมะพร้าว มีส่วนช่วยกระตุ้นการเจริญโตและการแบ่งเซลล์ได้เป็นอย่างดี
4. ในเนื้อและน้ำมันมะพร้าวอ่อนมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับร่างกายอย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น วิตามินซี วิตามินบี กรดอะมิโน ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุโพแทสเซียม ธาตุเหล็ก และยังมีไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมได้ภายใน 5 นาที
5. น้ำมะพร้าว ประโยชน์ใช้เป็นเครื่องดื่มจากธรรมชาติที่ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและไม่มีอันตรายใดๆ ต่อร่างกาย (ยกเว้นผู้ที่เป็นโรคเบาหวานและโรคไต)
6. น้ำมะพร้าวเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็นจึงช่วยดับร้อนในร่างกายได้เป็นอย่างดี
7. น้ำมะพร้าวอ่อนมีคุณสมบัติเป็นธาตุเย็น ช่วยล้างพิษขับพิษของเสียออกจากร่างกาย หรือช่วยดีท็อกซ์นั่นเอง
8. เนื้อมะพร้าว ช่วยบำรุงร่างกาย
9. ช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ในช่วงที่ร่างกายมีความเป็นกรดสูง เพราะน้ำมะพร้าวมีความเป็นด่าง ทำให้กลไกการทำงานของระบบต่างๆภายในร่างกายเป็นปกติส่งผลให้มีสุขภาพดีและแข็งแรง
10. ดอกมะพร้าว ช่วยบำรุงโลหิต
11. น้ำมะพร้าว ใช้เป็นเครื่องดื่มธรรมชาติที่ให้เกลือแร่ได้เป็นอย่างดีจึงเหมาะสำหรับนักกีฬา เนื่องจากอุดมไปด้วย ธาตุโพแทสเซียม
12. น้ำมะพร้าว,เนื้อมะพร้าว,ดอก ช่วยแก้กระหายน้ำ
13. น้ำมะพร้าว ลดบวม ช่วยแก้อาการบวมน้ำ
14. น้ำมะพร้าวมีคุณสมบัติปลอดเชื้อโรค จึงนำไปใช้ฉีดเข้าเส้นเลือดได้ สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการขาดน้ำหรือปริมาณเลือดลดแบบผิดปกติได้
15. น้ำมะพร้าวอ่อน ช่วยป้องกันหรือชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ภาวะความจำเสื่อมในสตรีวัยทอง เนื่องจากมีปริมาณของฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง
16. น้ำมะพร้าวอ่อน ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ และช่วยรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจ
17. ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ด้วยการใช้มะพร้าวแก่ขูดเอาเนื้อมาคั่วให้เหลือง โรยเกลือเล็กน้อย ใส่ภาชนะปิดให้แน่น แล้วนำมารับประทานครั้งละ 1 ช้อนแกง เช้า กลางวัน เย็น ประมาณ 10 วันจะช่วยทำให้ระดับน้ำตาลลดลงเรื่อยๆช่วยเบาทำอาการปวดหัวปวดศีรษะได้
18. เปลือกหุ้มรากของมะพร้าว นำมาใช้รักษาโรคคอตีบได้
19. น้ำมะพร้าวอ่อน ช่วยแก้อาการตาอักเสบ ด้วยการใช้น้ำมะพร้าวอ่อน 1 ถ้วย นำมาผสมกับน้ำตาลทรายแดงไว้ดื่มเช้าและเย็น อาการอักเสบก็จะค่อยๆหายไปเอง
20. เนื้อมะพร้าว ช่วยแก้อาการระคายเคืองตา ด้วยการใช้เนื้อมะพร้าวอ่อนสดๆ แปะที่ดวงตา อาการจะค่อยๆทุเลาลง
21. น้ำมะพร้าวอ่อน,เนื้อมะพร้าว ช่วยลดอาการไข้สูง ตัวร้อน เพราะมีฤทธิ์เป็นยาเย็นจึงช่วยทุเลาอาการไข้ได้
22. น้ำมะพร้าวอ่อน ใช้รักษาคนไข้ที่มีภาวะความเป็นกรดในเลือดสูง
23. น้ำ ,รากมะพร้าว ช่วยแก้ไข้ทับระดู ด้วยเอาจั่นมะพร้าว ที่ยังมีกาบหุ้มอยู่นำมาต้มน้ำดื่ม เช้า กลางวัน เย็น อาการจะค่อยดีขึ้น
24. ช่วยแก้อาการร้อนใน ด้วยการดื่มน้ำมะพร้าวอ่อนในช่วงเช้า และช่วงบ่าย (รับประทานเนื้อด้วย)
25. ช่วยแก้อาการไอ ด้วยการดื่มน้ำมะพร้าวห้าว
26. ช่วยแก้อาการปากเปื่อย ปากเป็นแผล ด้วยการอมน้ำกะทิสดๆ จากมะพร้าวแก่ประมาณ 5-10 นาที ประมาณ 3 วันแผลจะหายเร็วขึ้น
27. ใช้แก้อาการเจ็บฟัน ด้วยการใช้เปลือกต้นสดนำไปเผาไฟให้เป็นเถ้าแล้วนำมาสีฟัน
28. ดอกมะพร้าว ใช้เป็นยาแก้อาการเจ็บปากเจ็บคอ
29. รากใช้อมบ้วนปากแก้อาการเจ็บคอ
30. ช่วยแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน ด้วยการใช้มะนาว 1 ซีกบีบผสมกับน้ำมะพร้าวอ่อนแล้วดื่ม


* มะพร้าว.jpg (8.43 KB, 259x194 - ดู 212 ครั้ง.)

* มะพร้าว2.jpg (43.21 KB, 200x150 - ดู 213 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

รักษาคำพูดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดไม่ต้องวางมัดจำถ้าบอกว่าเอายังไงก็เก็บไว้ให้
กมล ช.
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,784


Id line : Kamol_2529


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 16 ธันวาคม 2013, 18:56:12 »

        คราวนี้เป็น น้ำนมราชสีห์ครับ
  สรรพคุณของน้ำนมราชสีห์

1.   สรรพคุณน้ำนมราชสีห์ ทั้งต้นใช้เป็นยาบำรุงกำลัง (ทั้งต้น)[1]
2.   ต้นนำมาต้มใช้เป็นยาเย็น (ต้น)[1] ทั้งต้นมีรสฉุนเปรี้ยว และเย็นจัด มีสรรพคุณช่วยดับร้อน แก้พิษ แก้ชื้น (ทั้งต้น)[2]
3.   ช่วยแก้ธาตุพิการ (ต้น)[1]
4.   ช่วยแก้กษัย (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[10]
5.   ยางสดใช้ทารักษาโรคปากนกกระจอกได้ (ยาง,ทั้งต้น)[1]
6.   ทั้ง ต้นใช้เป็นส่วนประกอบของยารักษาโรคตานขโมย (ผอม พุงโร ก้นปอด) โดยนำมาใช้ต้มอาบ หรือจะใช้ต้นสดประมาณ 30 กรัม นำมาตุ๋นกับหมูประมาณ 120 กรัม รับประทาน (ต้น,ทั้งต้น)[1],[2]
7.   ทั้งต้นใช้เป็นยาสงบประสาทและช่วยทำให้นอนหลับได้สนิท (ทั้งต้น)[4]
8.   ยาวขาว ใช้เป็นยาเกี่ยวกับประสาทความรู้สึก (ยาง)[4]
9.   ในอินเดียมีการใช้น้ำยางขาวมาหยอดตา เพื่อใช้รักษาเยื่อตาอักเสบ เป็นแผลที่กระจกตา (ยาง)[4]
10.   ช่วยแก้อาการปวดฟัน (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[6]
11.   ช่วยแก้ไข้มาลาเรีย (ต้น)[1]
12.   ช่วยแก้ไข้ทำมะลา (มีอาการไข้ หมดสติ และตายโดยไม่ทราบสาเหตุ) ด้วยการใช้รากน้ำนมราชสีห์ผสมกับรากทับทิม รากส่องฟ้าดง และเดือยไก่ป่า ใช้ฝนกับน้ำกินและทา (ราก)[3],[14]
13.   ช่วยลดไข้ ใช้เป็นยากินระหว่างที่เป็นไข้ (ราก)[3],[4]
14.   รากและต้นสด มีสรรพคุณช่วยแก้อาการไอ (ต้น,ทั้งต้น,ราก)[3],[14]
15.   ช่วยแก้หืด แก้หืดไอ หายใจขัดเนื่องจากหืด (ต้น,ทั้งต้น)[1],[3],[4],[14] แก้หืดหอบ (ต้น)[1]
16.   น้ำต้มกั


* 530546_610893295642577_1599660368_n.jpg (49.84 KB, 526x394 - ดู 195 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

รักษาคำพูดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดไม่ต้องวางมัดจำถ้าบอกว่าเอายังไงก็เก็บไว้ให้
chate
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,023


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 17 ธันวาคม 2013, 11:09:58 »

ดีๆๆเอามาลงแห๋ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
กมล ช.
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,784


Id line : Kamol_2529


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 18 ธันวาคม 2013, 19:35:55 »

       กระชายดำ (ปฏิรูปเอง)

หลายวันมานี้ “108 เคล็ดกิน” ได้ยินแต่ชื่อ “ถั่งเช่า” ตอนแรกก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร เพราะไม่ได้เปิดฟังคลิปปริศนาอันโด่งดัง พอมาเสิร์ชหาข้อมูลจึงได้ถึงบางอ้อว่า เจ้าถั่งเช่าก็คือสมุนไพรจีนชนิดหนึ่ง ที่มีสรรพคุณในการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศนั่นเอง

อ่านมาถึงขั้นนี้แล้ว หลายๆ คน (โดยเฉพาะคุณผู้ชาย) อาจจะทำตาโต แล้วถามกันใหญ่ว่าจะหาถั่งเช่าได้ที่ไหน ขอบอกเลยว่าถั่งเช่านี่พบในแถบที่ราบสูงทิเบต และเนื่องจากว่าหาได้ยากจึงมีราคาสูงลิบลิ่ว ที่สำคัญ ในเมืองไทยนั้นไม่มี ถึงจะมีนำเข้ามาขายก็ราคาสูงมากกก..

แต่ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปนัก เพราะ “108 เคล็ดกิน” อยากจะบอกว่า สมุนไพรไทยๆ ของเราก็ออกฤทธิ์ที่ดีไม่ต่างกัน มีสมุนไพรหลากหลายอย่างที่มีสรรพคุณช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ อย่างแรกก็คือ กระชายดำ ที่มีสรรพคุณช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ เนื่องจากกระชายดำมีฤทธิ์ทำให้โลหิตไหลเวียนได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ กระชายดำยังช่วยบำรุงกำลัง กระตุ้นประสาท ทำให้กระชุ่มกระชวย แก้ปวดเมือน เหนื่อยหอบ แก้ใจสั่นหวิว ขับปัสสาวะ และยังเป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยชะลอความแก่อีกด้วย

มาต่อกันด้วยสมุนไพรอีกชนิดหนึ่ง กวาวเครือ ที่เป็นสมุนไพรยอดฮิตอยู่ในช่วงหนึ่ง โดยกวาวเครือนั้นจะแบ่งออกเป็น 4 ชนิด ตำรายาหัวกวาวเครือของหลวงอนุสารสุนทร คือ กวาวเครือขาว กวาวเครือแดง กวาวเครือดำ และกวาวเครือมอ

สรรพคุณของกวาวเครือนั้น ต้องถือว่าเป็นยาอายุวัฒนะสำหรับผู้สูงอายุทั้งหญิงและชาย ช่วยให้มีความกระชุ่มกระชวย ทำให้ผิวหนังดูมีน้ำมีนวล ช่วยเสริมอก กระตุ้นเต้านมให้ขยายตัว โดยเฉพาะในกวาวเครือขาว ช่วยบำรุงโลหิต บำรุงประสาทและสมอง

แต่กวาวเครือนั้นก็ยังมีข้อห้ามในการใช้เป็นยาอยู่เช่นกัน โดยแพทย์พื้นบ้านจะแนะนำว่า ในคนหนุ่มสาวห้ามกินกวาวเครือ และไม่ควรกินกวาวเครือมากหรือต่อเนื่องกันนานเกินไป เพราะจะทำให้เต้านมโตเกินไป เต้านมแข็งเป็นก้อน จนอาจกลายเป็นมะเร็งได้ ส่วนในผู้ชายถ้ากินมากเกินไปจากทำให้เยื่อหุ้มอัณฑะหนาตัวขึ้น และนำไปสู่การเป็นมะเร็งที่อัณฑะได้ นอกจากนี้ ยังมีข้อควรระวังคือ กวาวเครือทุกชนิดจะมีพิษทำให้เบื่อเมาได้ โดยเฉพาะในกวาวเครือแดงจะมีพิษมากที่สุด ซึ่งการนำมาทำเป็นยาจะต้องนำมาผสมกับสมุนไพรชนิดอื่นร่วมด้วย

ล่าสุด ยังมีการวิจัยพบอีกว่า เมล็ดหมามุ่ย ก็มีฤทธิ์ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้เช่นกัน โดยการนำเมล็ดหมามุ่ยมาคั่วแล้วบดให้ละเอียด ชงผสมกับน้ำดื่มในช่วงเวลาเย็น แต่ก็ยังมีข้อสังเกตว่า เมล็ดหมามุ่ยที่มีสารเพิ่มสมรรถภาพทางเพศนั้นเป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์จาก ประเทศจีนและอินเดีย ส่วนหมามุ่ยในประเทศไทยนั้นเป็นคนละสปีชีส์กัน ฉะนั้นยังต้องศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน และระวังว่าอาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นหรือไม่

สำหรับสมุนไพรที่ช่วยเรื่องสมรรถภาพทางเพศนั้น ใครใคร่จะทดลองกินก็ควรจะศึกษาข้อมูลการใช้ วิธีการกิน และผลข้างเคียงอื่นๆ ด้วย แต่ที่ดีที่สุดก็คือ การทำสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ จะได้มีชีวิตอยู่ทำอะไรต่อมิอะไรได้อีกเยอะ


* กระชายดำ.jpg (23.21 KB, 500x337 - ดู 173 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

รักษาคำพูดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดไม่ต้องวางมัดจำถ้าบอกว่าเอายังไงก็เก็บไว้ให้
กมล ช.
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,784


Id line : Kamol_2529


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 18 ธันวาคม 2013, 19:39:54 »

     มะขามป้อม   เป็นสมุนไพรพระเอกของฤดูหนาวอีกชนิดหนึ่งที่ถูกกล่าวขวัญมาก ผู้เขียนเคยไปเดินป่าเก็บลูกมะขามป้อมกินสดๆ แรกๆ กัดเข้าไปทั้งฝาดทั้งขมและก็เปรี้ยว เรียกว่าหลับตาปี๋เลยทีเดียว แต่พอสักครู่เคี้ยวไปเคี้ยวมาทำไมรู้สึกว่าหวานได้ ที่สำคัญชุ่มคอจริงๆ จึงนำเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับมะขามป้อมมาฝาก

มะขามป้อม
ชื่อวิทยาศาสตร์ Phyllanthus emblica Linn. วงศ์ EUPHORBIACEAE
ชื่ออื่น กำทวด (ราชบุรี) สันยาส่า มั่งลู่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) กันโตด (เขมร-จันทบุรี) อิ่ว อำใบเหล็ก (จีน)
ลักษณะ มะขามป้อมเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดสูงประมาณ 7-15 เมตร ลำต้นมีเปลือกเรียบเกลี้ยง ลอกออกเป็นแผ่นๆ
ใบ ใบเดี่ยวเรียงชิดติดกันคล้ายขนนก ปลายใบยาวรี สีเขียวแก่ ยาวประมาณ 1 ซม.
ดอก ออกดอกเป็นช่อหรือเป็นกระจุก ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียแยกกันอยู่บนต้นเดียวกัน หนึ่งดอกมีกลีบดอกประมาณ 5-6 กลีบ มีสีเหลืองอมเขียว
ผล รูปร่างกลม ผิวเกลี้ยง เนื้อหนา รสฝาด มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. เปลือกแบ่งเป็นสันความยาว 6 ซม. ภายในเนื้อมีเมล็ดสีน้ำตาลอยู่ 6 เมล็ด
ส่วนที่ใช้ ใบ เปลือกลำต้น ผล ปมที่ก้าน ราก
สรรพคุณทางยาสมุนไพรใช้ตามตำราโบราณ
รากแห้งของมะขามป้อม ใช้ต้มดื่มแก้ร้อนใน แก้ท้องเสีย แก้โรคเรื้อน ลดความดันโลหิต
รากสดมะขามป้อม นำมาพอกแผลเมื่อโดนตะขาบกัด สามารถแก้พิษได้
เปลือกลำต้นมะขามป้อม ใช้เปลือกแห้งบดเป็นผง โรยบาดแผลหรือนำมาต้มดื่มแก้โรคบิดและฟกซ้ำ
ปมก้าน ใช้เป็นน้ำยาบ้วนปากแก้ปวดฟัน โดยนำปมก้าน 10-30 อัน มาต้มกับน้ำแล้วใช้อมหรือดื่มแก้ปวดท้องน้อย กระเพาะอาหาร แก้ปวดเมื่อยกระดูก แก้ไอ แก้ตานซางในเด็ก
ผลมะขามป้อมสด ใช้รับประทานเป็นผลไม้แก้กระหายน้ำได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังเป็นยาบำรุง แก้หวัด แก้ไอ ละลายเสมหะ ขับปัสสาวะ เป็นยาระบาย รักษาคอตีบ รักษาเลือกออกตามไรฟัน หรือจะนำมาตำให้ละเอียดผสมกับน้ำผึ้ง รับประทานเป็นยาถ่ายพยาธิ
ผลมะขามป้อมแห้ง นำมาบดชงน้ำร้อนแบบชาดื่มแก้ท้องเสีย โรคหนองในบำรุงธาตุ รักษาโรคบิด ใช้ล้างตา แก้ตาแดง เยื่อบุตาอักเสบ แก้ตกเลือด ใช้เป็นยาล้างตาหรือจะผสมกับน้ำสนิมเหล็กแก้โรคดีซ่าน โลหิตจาง
เมล็ด นำมาเผาไฟจนเป็นเถ้าผสมกับน้ำมันพืช ทาแก้คัน หืด หรือตำเป็นผงชงน้ำร้อนดื่มรักษาโรคเบาหวาน หอบหืด หลอดลมอักเสบ รักษาโรคตา แก้คลื่นไส้ อาเจียน

คุณค่าทางอาหาร
มะขามป้อมมีรสชาติถึง 5 รสด้วยกันคือ เปรี้ยว หวาน เผ็ดร้อน ขม ฝาด ถือได้ว่าทุกส่วนของมะขามป้อมมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายเราทั้งสิ้น ในมะขามป้อม 1 ผลมีวิตามินซีสูงมาก นับว่าเป็นยาอายุวัฒนะขนานหนึ่ง ทางที่ดีเราควรหันมาบริโภคมะขามป้อมเป็นยาบำรุงและบำบัดโรค
มะขามป้อมเป็นส่วนผสมของสูตรยาตรีผลาตามตำรับยาไทยโบราณ ซึ่งประกอบด้วยสมอไทย สมอพิเภก และมะขามป้อม เพื่อล้างพิษออกจากระบบต่างๆของร่างกายโดยเฉพาะระบบทางเดินอาหาร ระบบเลือด และระบบน้ำเหลือง
ในมะขามป้อมนั้นมีแคลเซียมสูงมาก ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง และยังมีวิตามินซีช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย


* มะขามป้อม.jpg (33.25 KB, 403x403 - ดู 175 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

รักษาคำพูดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดไม่ต้องวางมัดจำถ้าบอกว่าเอายังไงก็เก็บไว้ให้
กมล ช.
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,784


Id line : Kamol_2529


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 19 ธันวาคม 2013, 16:13:18 »

"กระเทียม" เป็นพืชสมุนไพรและเป็นเครื่องเทศชนิดหนึ่งที่ใช้สำหรับปรุงอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทยหรืออาหารฝรั่ง ส่วนใหญ่แล้วก็มักมีกระเทียมเป็นส่วนประกอบของอาหารทั้งนั้น ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มรสชาติให้อร่อยขึ้นแล้ว ยังมีคุณค่าต่อร่างกายอีกมาก วันนี้กระปุกดอทคอมก็ขอมาเผยประโยชน์ของกระเทียมให้ได้ทราบกัน
1. มีสารที่ช่วยต้านมะเร็งได้
ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าเครื่องเทศกลิ่นแรงนี้ นอกจากจะช่วยลดระดับไขมัน, คอลเลสเตอรอล และน้ำตาลในเลือดได้แล้ว ทั้งนี้กำมะถันที่ผสมอยู่ในกระเทียม ยังสามารถยับยั้งการเกิดของสารก่อมะเร็งที่ชื่อ ไนโตรซามีน (Nitrosamine) ในร่างกาย ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็งได้ นอกจากนั้น ซีลีเนียม (Selenium) ที่พบในกระเทียมมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และลดอันตรายจากการเกิดอนุมูลอิสระ ที่เป็นสาเหตุให้เกิดเซลล์มะเร็งที่อวัยวะต่าง ๆ ได้อีกด้วย
2. สามารถป้องกันโรคหัวใจ
สรรพคุณอันน่าทึ่งของกระเทียม นอกจากช่วยต้านโรคมะเร็งได้แล้ว ยังสามารถป้องกันโรคหัวใจที่หลาย ๆ คนต่างหวาดกลัวได้เป็นอย่างดี รวมทั้งช่วยลดความดันโลหิต, การอุดตันของเส้นเลือด, ลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตัน และกล้ามเนื้อหัวใจหยุดทำงานเฉียบพลัน
3. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
ประโยชน์ของกระเทียมไม่ได้มีแค่ยับยั้งและป้องกันโรคต่าง ๆ ได้เท่านั้น กระเทียมยังช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายให้ดีขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากนี้แล้วพบว่ากระเทียมมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรค, เชื้อไวรัส, เชื้อรา รวมทั้งบรรเทาและลดอาการภูมิแพ้ได้เป็นอย่างมาก
คราวนี้เมื่อเพื่อน ๆ ได้ทราบถึงสรรพคุณของกระเทียมไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าคงเปลี่ยนใจให้คนที่ไม่ชอบทานกระเทียม หันมาบริโภคเครื่องเทศที่อุดมไปด้วยประโยชน์ชนิดนี้กันมากขึ้นนะครับ
IP : บันทึกการเข้า

รักษาคำพูดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดไม่ต้องวางมัดจำถ้าบอกว่าเอายังไงก็เก็บไว้ให้
yuizee
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 129



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 23 ธันวาคม 2013, 17:14:30 »

กระทู้นี้ดีมากๆๆเลยคร๊ ได้รู้เรื่องสมุนไพรด้วย ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

วงดนตรี "สมายด์ มิวสิค"
รับงานทางด้านเครื่องเสียง เวที นักร้อง นักเต้น
สนใจติดต่อ 0827789461 ยุ้ย
Addmobile
สวัสดีครับ
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,735


จริงจังจริงแต่จริงใจ


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 23 ธันวาคม 2013, 17:37:57 »

ได้ความรู้ครับโดยเฉพาะน้ำนมราชสีห์เห็นทั่วไปไม่นึกว่าจะมีประโยชน์มากขนาดนี้ ครับ;D
IP : บันทึกการเข้า
Mangpor^ 0 ^
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 884


อดีตคือการเรียนรู้ ปัจจุบันคือทำสิ่งที่ดีที่สุด


« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 24 ธันวาคม 2013, 19:05:52 »

กระทู้นี้ดีมากๆๆเลยคร๊ ได้รู้เรื่องสมุนไพรด้วย ยิ้ม
+1
IP : บันทึกการเข้า
กมล ช.
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,784


Id line : Kamol_2529


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 25 ธันวาคม 2013, 07:39:31 »

            ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่เข้ามาอ่านดูนะครับ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ :Dวันนี้เสนอของง่ายๆใกล้ตัวครับในบ้านทุกคนน่าจะมีนั่นคือ...ขิง... ยาอายุวัฒนะ

ขิงเป็นพืชล้มลุก มีเหง้าใต้ดิน เปลือกนอกสีน้ำตาลแกมเหลือง เนื้อในสีนวลมีกลิ่นหอมเฉพาะ แทงหน่อหรือลำต้นเทียมขึ้นเป็นกอประกอบด้วยกาบหรือโคนใบหุ้มซ้อนกัน ใบ เป็นชนิดใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกันเป็นสองแถว ดอก สีขาว ออกรวมกันเป็นช่อรูปเห็ดหรือกระบองโบราณ แทงขึ้นมาจากเหง้า ชูก้านสูงขึ้นมา ทุกๆ ดอกที่กาบสีเขียวปนแดงรูปโค้งๆ ห่อรองรับ
ประโยชน์ของขิงนั้นมีมากมายกว่านั้นแต่จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย
- เหง้า : รสหวานเผ็ดร้อน ขับลม แก้ท้องอืด จุกเสียด แน่นเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียน แก้หอบไอ ขับเสมหะ แก้บิด เจริญอากาศธาตุ สารสำคัญในน้ำมันหอมระเหย จะออกฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ ใช้เหง้าแก่ทุบหรือบดเป็นผง ชงน้ำดื่ม แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน แก้จุกเสียด แน่นเฟ้อ เหง้าสด ตำคั้นเอาน้ำผสมกับน้ำมะนาว เติมเกลือเล็กน้อย จิบแก้ไอ ขับเสมหะ
- ต้น : รสเผ็ดร้อน ขับลมให้ผายเรอ แก้จุกเสียด แก้ท้องร่วง
– ใบ : รสเผ็ดร้อน บำรุงกำเดา แก้ฟกช้ำ แก้นิ่ว แก้ขัดปัสสาวะ แก้โรคตา ฆ่าพยาธิ
- ดอก : รสเผ็ดร้อน แก้โรคประสาทซึ่งทำให้ใจขุ่นมัว ช่วยย่อยอาหาร แก้ขัดปัสสาวะ
- ราก : รสหวานเผ็ดร้อนขม แก้แน่น เจริญอาหาร แก้ลม แก้เสมหะ แก้บิด
- ผล : รสหวานเผ็ด บำรุงน้ำนม แก้ไข้ แก้คอแห้ง เจ็บคอ แก้ตาฟาง เป็นยาอายุวัฒนะ
- แก่น : ฝนทำยาแก้คัน
*** เพียงแค่นำเหง้าขิงขนาดเท่าหัวแม่มือมาอังไฟให้อุ่นจัด แล้วนำไปบดให้ละเอียด จากนั้นก็นำมาทาให้ทั่วหนังศีรษะ น้ำมันในขิงจะช่วยให้เส้นผมแข็งแรงและยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการงอกใหม่ของ เส้นผมอีกด้วย


ขิง สรรพคุณเหนือยาแก้ปวด ขจัดกล้ามเนื้อเจ็บปวดได้ดี.....

ศาสตราจารย์ แพทริค โอคอนเนอร์ หัวหน้าคณะนักวิจัย กล่าวว่าขิงใช้กันเป็นสมุนไพรประจำบ้าน รักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ตั้งแต่ไอ ไปจนถึงท้องเสีย มานานนับหลายร้อยปีแล้ว และในการศึกษาวิจัยหนนี้ยังได้พบว่า มันยังช่วยขจัดกล้ามเนื้อเจ็บปวดได้ดีเป็นพิเศษอีกด้วย
ผลจากการวิจัยทำ ให้เชื่อว่า มันมีสรรพคุณเหนือยาแก้ปวดหลายขนาน หลายคนซึ่งได้รับความปวดเมื่อยแบบนี้มาแล้ว ย่อมยินดีต้อนรับทุกสิ่งซึ่งช่วยบำบัดให้คลายลง
ในผลการศึกษาพบ ว่า มันช่วยลดความปวดเมื่อยที่เกิดจากการออกกำลังลงได้ถึงร้อยละ 25 เป็นที่รู้กันว่ามันมีสารเคมีที่มีสรรพคุณเหมือนกับยาแก้อักเสบพวกที่ไม่ เข้าสเตียรอยด์ เช่น ยาแอสไพริน
ที่ มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ขิง เปี่ยมไปด้วยวิตามินเอ โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม มีฤทธิ์อุ่น สามารถขับเหงื่อ ไล่ความเย็น ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยให้เจริญอาหาร และทำให้ร่างกายอบอุ่น แก้หวัด แก้ไอ และขับเสมหะ โดยนิยมใช้ขิงแก่(อายุ11-12เดือนจะดีที่สุด)มากกว่าขิงอ่อน เนื่องจากมีเส้นใยอาหารมากกว่า

ส่วนผสม
- ขิงสด 15 กรัม (ขนาด 1″x1.5″ 5 ชิ้น )
- น้ำเชื่อม 15 กรัม ( 1 ช้อนคาว )
- น้ำเปล่า 240 กรัม ( 16 ช้อนคาว )

วิธีทำ
นำขิงมาปอกเปลือกล้างให้สะอาด หั่นเป็นแว่นใส่หม้อใส่น้ำ ตั้งไฟต้ม จนเดือดสักครู่ยกลง กรองเอาขิงออก ใส่น้ำเชื่อม ชิมรสตามชอบ หรืออีกวิธีหนึ่ง ใช้เหง้าขิงแก่ฝนกับน้ำมะนาว ใช้กวาดคอ หรือใช้เหง้าขิงสด ตำผสมน้ำเล็กน้อย คั้นเอาน้ำและใส่เกลือนิดหน่อยใช้จิบบ่อยๆ


ประโยชน์ที่ร่างกายได้รับ....

คุณค่าทางอาหาร : พรั่งพร้อมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น แคลเซียมบำรุงกระดูกและฟัน และยังมีสารเบต้า-แคโรทีน ซึ่งช่วยต้านโรคมะเร็งอีกด้วย

คุณค่าทางยา : แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม และขับเสมหะแก้อาการคลื่นใส้ อาเจียน เมารถเมาเรือ ช่วยเจริญอาหาร กินข้าวได้ นอกจากนั้นยังลดการจับตัวของลิ่มเลือด ช่วยย่อยอาหารโดยเพิ่มการหลั่งน้ำดีและน้ำย่อยต่างๆต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร


* images.jpg (12.25 KB, 192x262 - ดู 126 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

รักษาคำพูดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดไม่ต้องวางมัดจำถ้าบอกว่าเอายังไงก็เก็บไว้ให้
กมล ช.
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,784


Id line : Kamol_2529


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 25 ธันวาคม 2013, 07:41:14 »

ผักบุ้งไทย

เป็นผักพื้นบ้านอีกชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณโดดเด่นแก้พิษถอนพิษ หมอพื้นบ้านหลายท่านแนะนำให้ใช้น้ำต้มผักบุ้งดื่มเพื่อล้างสารพิษจากยาฆ่าแมลง หรือในตำรับยาอบและอาบสำหรับรับบำบัดผู้ติดยาเสพติดก็จะมีผักบุ้งเป็นตัวยาหลัก

ผักบุ้งมีหลายชนิด แต่บ้านเราทั่วไปนิยมบริโภคผักบุ้งจีนเพราะมีสีเขียวอวบ น่ารับประทานและรสชาติค่อนข้างจะหวานกว่าเล็กน้อย แต่ผักบุ้งบ้านเรารสชาติค่อนข้างเฝื่อน นิยมรับประทานแกล้มส้มตำมะละกอ หรือลวกจิ้มน้ำพริก

สรรพคุณตามตำรายาระบุว่า รากผักบุ้งมีรสจืดเฝื่อน แก้ถอนพิษผิดสำแดง ส่วนลำต้นและใบ มีรสเย็นถอนพิษเบื่อเมา นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณเป็นยาฆ่าเชื้อ สามารถรักษาแผลเป็นหนองได้ และลดอาการคันจากพิษแมลงกัดต่อยได้ด้วย

ในแต่ละมื้อมีผักบุ้งไทยสัก 1 กำมือ รับประทานแกล้มน้ำพริกเป็นประจำทุกวัน ถ้าไม่รับประทานสดก็อาจต้ม แล้วนำน้ำต้มนั้นอย่าทิ้งเด็ดขาด ใช้ดื่มล้างพิษได้ ถ้ารับประทานผักบุ้งทุกวันก็ช่วยลดสารพิษในร่างกายได้แล้วจะในรูปผักสดหรือ ต้มดื่มน้ำก็ใช้ได้ประโยชน์ทั้งสองทาง


* 1533858_614489111949662_699886862_n.jpg (21.64 KB, 403x263 - ดู 125 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

รักษาคำพูดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดไม่ต้องวางมัดจำถ้าบอกว่าเอายังไงก็เก็บไว้ให้
กมล ช.
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,784


Id line : Kamol_2529


« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 25 ธันวาคม 2013, 07:46:39 »

    น้ำคะน้า ดื่มเพื่อดวงตาสวยใส

สูตรน้ำคะน้า บำรุงสายตา ต้านมะเร็ง ผักคู่ครัวอย่างผักคะน้ามีเบต้าแคโรทีนสูง อุดมไปด้วยวิตามินเอ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินซี
น้ำคะน้าเปี่ยมไปด้วยการดูแลสายตา ช่วต้านมะเร็ง บำรุงกระดูก และแก้กระหายน้ำ วันนี้เรามีสูตรแสนอร่อยชัวร์ ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียวของผักมาให้ทดลองทำเพื่อสุขภาพกัน

ประโยชน์ที่ร่างกายได้รับ

คุณค่าทางอาหาร : ให้วิตามินเอสูงมากช่วยบำรุงสายตา คะน้าเป็นแหล่ง เบต้า-แคโรทีน ซึ่งช่วยต้านการก่อมะเร็งรองลงมามีแคลเซียมบำรุงกระดูกและฟัน และมีวิตามินซีช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน ช่วยให้เนื้อเยื่อของเราทำงานได้ดี

คุณค่าทางยา:: ป้องกันโรคโลหิตจาง ลดอุณหภูมิในร่างกาย แก้กระหายน้ำ
ส่วนผสม
- ใบคะน้า 40 กรัม (2 ใบ )
- น้ำเชื่อม 30 กรัม ( 2 ช้อนคาว )
- น้ำมะนาว 10 กรัม ( 2 ช้อนกาแฟ )
- เกลือป่นเสริมไอโอดีน 1 กรัม (1/5 ช้อนกาแฟ )
- น้ำเปล่าต้มสุก 200 กรัม (14 ช้อนคาว)

วิธีทำ
นำใบคะน้าล้างให้สะอาด หั่นใส่เครื่องปั่นเติมน้ำต้มสุกครึ่งหนึ่งปั่นจนละเอียด นำมากรอง จากนั้นเติมน้ำส่วนที่เหลือลงไปเติมน้ำเชื่อม น้ำมะนาว เกลือ ชิมรสตามชอบ


* 1484123_612789808786259_1996947216_n.jpg (23.06 KB, 400x497 - ดู 127 ครั้ง.)

* 1472973_612789508786289_1541610041_n.jpg (17.22 KB, 220x335 - ดู 125 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

รักษาคำพูดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดไม่ต้องวางมัดจำถ้าบอกว่าเอายังไงก็เก็บไว้ให้
chate
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,023


« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 25 ธันวาคม 2013, 10:48:00 »

มาติดตาม... ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
กมล ช.
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,784


Id line : Kamol_2529


« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 25 ธันวาคม 2013, 16:43:56 »

มาติดตาม... ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
ขอบคุณครับ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า

รักษาคำพูดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดไม่ต้องวางมัดจำถ้าบอกว่าเอายังไงก็เก็บไว้ให้
กมล ช.
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,784


Id line : Kamol_2529


« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 25 ธันวาคม 2013, 19:02:12 »

      มะละกอ....สารอาหารในเนื้อมะละกอสุก ( 100 กรัม)
•ไขมัน 0.1 กรัม
ต้นมะละกอ ที่มีลูกดก
ต้นมะละกอ ที่มีลูกดก
•โปรตีน 0.5 กรัม
•แคลเซียม 24 มิลลิกรัม
•ฟอสฟอรัส 22 มิลลิกรัม
•โซเดียม 4 มิลลิกรัม
•ไนอะซิน 0.4 มิลลิกรัม
•เหล็ก 0.6 มิลลิกรัม
•ไรโบฟลาวิน 0.04 มิลลิกรัม
•ไทอะมีน 0.04 มิลลิกรัม
•กรดแอสคอร์บิก (วิตามันซี) 70 มิลลิลกรัม


มะละกอยังอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ รวมถึง เอนไซม์ หลายชนิดที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ เช่น เอนไซม์ Papain ช่วยย่อยโปรตีน มีฤทธิ์ในการต่อต้านการเกิดของมะเร็งเม็ดเลือดขาว ช่วยบำรุงอวัยวะภายในต่างๆ เป็นต้น

เนื้อมะละกอสุก
วิตามินเอและวิตามินซี
มะละกอจัดเป็นผลไม้ที่มีแคโรทีนอยด์หรือวิตามินเอสูง ซึ่งวิตามินเอนี้จะช่ยกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวที่เสียแล้ว ให้หลุดออกไป ทั้งยังเป็นตัวนำอาหารมาสู่เซลล์ผิว ช่วยกำจัดและพาของเสียออกทางรูขุมขนของเราอีกด้วย


* 1535542_615838441814729_1689339432_n.jpg (16.05 KB, 403x358 - ดู 121 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

รักษาคำพูดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดไม่ต้องวางมัดจำถ้าบอกว่าเอายังไงก็เก็บไว้ให้
supanee.csd
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 111


« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 26 ธันวาคม 2013, 09:32:53 »

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ จะได้เลือกใช้กินดื่ม
ความไม่รู้ทำให้เรามองข้ามพืชผักใกล้ตาใกล้ตัว
ฤดูนี้คงยังไม่สายที่จะเริ่มปลูกผักสวนครัวกินเองปลอดภัย 100%
IP : บันทึกการเข้า
กมล ช.
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,784


Id line : Kamol_2529


« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 26 ธันวาคม 2013, 15:27:43 »

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ จะได้เลือกใช้กินดื่ม
ความไม่รู้ทำให้เรามองข้ามพืชผักใกล้ตาใกล้ตัว
ฤดูนี้คงยังไม่สายที่จะเริ่มปลูกผักสวนครัวกินเองปลอดภัย 100%
ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า

รักษาคำพูดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดไม่ต้องวางมัดจำถ้าบอกว่าเอายังไงก็เก็บไว้ให้
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!