ออสติน
ชั้นประถม

ออฟไลน์
กระทู้: 400
วัชชิระ ลาพิงค์
|
 |
« เมื่อ: วันที่ 09 ธันวาคม 2013, 11:17:39 » |
|
ใครพอทราบข่าว ยิงกันตายที่แม่จัน บ้างคับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 09 ธันวาคม 2013, 11:44:27 โดย ออสติน »
|
IP :
บันทึกการเข้า
|
วัชชิระ ลาพิงค์ 0866566342 455-2-10760-3 กสิกรไทย วัชชิระ ลาพิงค์
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
pavena
ชั้นประถม

ออฟไลน์
กระทู้: 120
|
 |
« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 09 ธันวาคม 2013, 20:42:34 » |
|
ผู้ตายเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ประกันฯ หรือป่าวครับ ได้ข่าวมาแว่วๆเหมือนกัน
ได้ยินข่าวเหมือนกัน สามีเป็นตำรวจจราจรค่ะ ส่วนภรรยาทำงานที่ไทยประกันชีวิต ผู้ชายเป็นคนขรึมส่วนผู้หญิงพูดจาอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มตลอดเวลาเลยค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
dekdee2516
มัธยม
 
ออฟไลน์
กระทู้: 674
|
 |
« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 10 ธันวาคม 2013, 06:32:37 » |
|
ผมเคยแสดงความเห็นแล้วว่าไม่ควรมีปืนในบ้าน เพราะตำรวจบอกว่าจากสถิติการยิงกัน 10 ครั้ง เป็นการยิงขโมยแค่ 1 ครั้งเท่านั้น นอกนั้น ยิงเมีย ลั่นโดนตัวเอง จ่อขมับตัวเอง ลูกเอาไปเล่นตาย ยิงเพื่อนบ้าน ยิงเพื่อนในวงเหล้า มีปืนไม่ดีเลย
ปืนเถื่อน ได้มาง่ายมาก ราคาถูกมาก ยิงกันบ่อยมาก ปืนสวัสดิการ ได้มาง่ายกว่าปืนประชาชน ราคาถูก ยิงกันบ่อย ปืนประชาชน ได้มายากมาก ราคาแพงมาก ยิงกันน้อยกว่า ***ได้มาง่าย ปัญหาเยอะ
|
|
|
|
intongwon
ชั้นประถม

ออฟไลน์
กระทู้: 210

|
 |
« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 10 ธันวาคม 2013, 07:51:54 » |
|
แฟนผมเล่าให้ฟังนะครับ พอดีแฟน ทำงานกับพี่ที่โดนยิง แต่ผมไม่รู้จะเล่ายังไง รู้แต่โดนยิง ที่หน้าบ้าน หลังจากไปงานเลี้ยงมาด้วยกัน แล้วลากศพเข้าไปในบ้าน แต่ตอนที่ทะเลาะกัน มีคนถ่ายคลิปไว้ ไม่แน่อาจจะได้เห็นคลิปก็ได้นะครับ ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
ขอแก้นิดหนึ่ง ยิงในบ้าน หน้าห้องนอน แล้วเอาศพเข้าห้องนอน ลูกแย่งปืนได้หลังจากแม่ตาย แล้วหนีออกมา ไม่งั้นคงมีทั้งศพพ่อและแม่อยู่ด้วยกัน ส่วนอื่นไม่ขอเล่าแค่นี้ก็กระทบต่อจิตรใจหลานมากพอแล้ว เสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้นมาก จากญาติคนหนึ่ง
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 10 ธันวาคม 2013, 08:13:00 โดย intongwon »
|
IP :
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
intongwon
ชั้นประถม

ออฟไลน์
กระทู้: 210

|
 |
« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 10 ธันวาคม 2013, 09:06:35 » |
|
ร.ต.อ.คลุ้มคลั่งยิงหัวภรรยาดับอนาถ
ลากศพไปไว้บนเตียงนอน คาดเหตุจากหึงหวง โดยได้ไปดื่มสุราจนเมาและควบคุมสติไม่ได้ บวกกับอาการทางประสาทที่เป็นก่อนหน้า
วันที่ 9 ธ.ค.2556 พ.ต.ท.วิเชียร วรรณสุข พนักงานสอบสวน (สบ.3) สภ.แม่จัน จ.เชียงราย รับแจ้งมีเหตุคนคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงคนตาย ที่บ้านเลขที่ 470 ม.4 ต.แม่จัน อ.แม่จัน จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.วีระวุธ ชัยชนะมงคล ผกก.สภ.แม่จัน พ.ต.ท.ประทีป เสียงดัง สว.สส. พ.ต.ท.ยุทธกร ธรรมวงค์ สวป. นำกำลังรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านคอนกรีตชั้นเดียวขนาดใหญ่ มีรั้วรอบขอบชิด เบื้องต้นพบว่ามีชายคลุ้มคลั่ง ยืนถืออาวุธปืนหลบซ่อนตัวภายในบ้าน ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่ได้ ทราบชื่อภายหลังว่า ร.ต.ต.ทรงเกียรติ วรรณสอน อายุ 54 ปี ตำแหน่งรองสารวัตรจราจร สภ.แม่จัน ยืนถืออาวุธปืนออโตเมติค ขนาด 9 ม.ม.ยี่ห้อซีแซด ส่ายปลายกระบอกปืนไปมา เจ้าหน้าที่สั่งปิดล้อมรอบบ้าน ห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้ พยายามเจรจาเกลี้ยกล่อมผู้ก่อเหตุให้วางอาวุธเพื่อมอบตัว แต่ไม่เป็นผล ร.ต.ต.ทรงเกียรติ ได้ตระโกนโวยวาย คลุ้มคลั่งหนักกว่าเดิม พยายามจะยิงปืนข่มขู่ ฝ่ายเจ้าหน้าที่ได้ถอยห่างออกมา เกรงจะมีการปะทะกันขึ้น จนเวลาผ่านไปราว 5 ชั่วโมง ผู้ก่อเหตุมีอาการอ่อนล้า จึงตัดสินใจบุกชาร์จเข้ารวบตัวไว้ได้ โดย ร.ต.ต.ทรงเกียรติ มีบาดแผลถูกมีดบาดร่างกายหลายแห่ง ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในบ้าน บริเวณห้องโถงมีร่องรอยการต่อสู้ มีรอยชักลากศพไปยังห้องนอน บนเตียงนอนพบศพนางมนทิชา วรรณสอน อายุ 47 ปี ภรรยาคนร้าย มีตำแหน่งเป็นผู้จัดการระดับภาค บริษัทประกันชีวิตชื่อดังของภาคเหนือ สภาพศพถูกยิงที่ศีรษะ 1 นัด กระสุนทะลวงกระโหลกฉีกขาด เลือดปนมันสมองเหม็นคาวคละคลุ้ง มีผ้าห่มคลุมร่างเอาไว้ นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย คือ น.ส.กุลสตรี วรรณสอน อายุ 18 ปี บุตรสาวผู้ตาย ได้รับบาดเจ็บถูกคมมีดบาดที่มือ นำส่งรักษา รพ.แม่จัน จากการสอบสวนปากคำ น.ส.กุลสตรี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ พบเห็นบิดากับมารดามีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันรุนแรง โดยบิดาได้ชักอาวุธปืนออกมาเพื่อทำร้ายมารดา แต่มีการแย่งปืนกันขึ้น จากนั้นได้เสียงปืนดังขึ้นมา 1 นัด ตนเห็นมารดาถูกยิงก็พยายามเข้าไปช่วย ด้วยการวิ่งไปหยิบมีดในครัวออกมาเพื่อหยุดบิดา ทำให้ถูกมีดบาดทั้งสองฝ่าย ขณะนั้นกลัวบิดาจะยิงตน จึงวิ่งหนีเอาตัวรอดออกมานอกบ้านได้ แล้วรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบเหตุทันที พ.ต.อ.วีระวุธ ชัยชนะมงคล ผกก.สภ.แม่จัน เปิดเผยว่า สาเหตุการยิงคาดมาจากเรื่องความหึงหวง เนื่องจากผู้ตาย เป็นบุคคลที่ขยันทำมาหากิน ไต่เต้าจากการขายประกันชีวิตระดับล่าง จนมาเป็นถึงผู้จัดการระดับภาค มีฐานะ มีการเงิน มีตำแหน่งทรงเกียรติ ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับสามี ที่เพิ่งได้รับการเลื่อนยศเป็นนายตำรวจสัญญาบัตร เคยลงหนังสือคู่สร้างคู่สมมาแล้ว แต่ภายหลัง ร.ต.ต.ทรงเกียรติ ประสบอุบัติเหตุรถชน ต้องผ่าตัดทำให้มีอาการทางประสาท ซึ่งคืนก่อนเกิดเหตุทราบว่า ร.ต.ต.ทรงเกียรติ ไปดื่มสุรามา ทำให้ควบคุมสติไม่ได้ ประกอบตามแนวทางสืบสวนทราบว่า ทั้งสองมีปัญหาหึงหวงมาแล้วหลายครั้ง ทำให้มีปากเสียงกันขึ้นในช่วงยามวิกาล จนลงเอยด้วยเหตุการณ์สูญเสียขึ้นมา ซึ่งได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฏหมาย ไม่มียกเว้นหรือช่วยเหลือใดๆ
ข่าวจาก...นสพ.สยามรัฐ
แก้ข่าวหน่อย รู้สึกนักข่าวจะใส่ไข่มากไป ผู้ต้องหาไม่ได้ตะโกนโวยวาย และไม่มีอาวุธปืนอยู่ในมือ เพราะหลานได้แย่งออกมาตั้งแต่แม่ตายแล้ว และมอบให้กับตำรวจไปแล้วก่อนที่หลานจะไปรักษาตัวที่โรงบาล ที่ต้องกล่อมเพราะล๊อคประตูขังตัวเองอยู่ในห้องนอนกลัวจะฆ่าตัวตาย ได้แต่ร้องให้เสียใจอย่างเดียวไม่มีอาการจะต่อสู้เลย คนที่เข้าถึงห้องนอนคนแรกก็คือญาติของผู้ต้องหาเอง จากญาติคนหนึ่ง
|
|
|
|
|
|