ผมว่าคุณมีอคติอะไรกับเมืองไทยหรือป่าวครับ?
สมัยผมเด็กๆ ผมก็เคยได้เรียนประวัติของชาวล้านนา
ไม่มีใครเขาห้ามหรอกครับที่จะสอนประวัติศาสตร์ล้านนา
ตอนที่ผมเรียนเขาก็เล่าประวัติศาสตร์ล้านนา
สมัยก่อนอาจจะไม่เหมือนสมัยนี้น่ะครับ
ตอนนี้ความรู้มีอยู่ทั่วไปในอากาศ
แค่เสียบปลั๊กแต่เน็ต ความรู้ก็มาแล้ว
คนเขาก็สามารถร่ำเรียนได้
คุณไม่ต้องน้อยใจไปหรอกครับ
ประวัติศาสตร์ล้านนาได้ถูกจารึกไว้เรียบร้อยแล้ว
แล้วก็เรื่องสอนลูกให้พูดไทยน่ะ (มันไม่บัดซบหรอกน่ะ)
เด็วนี้ยิ่งรู้หลายภาษา ยิ่งดี
ยิ่งรู้ภาษาอังกฤษ ก็ยิ่งดี
รู้ภาษาจีน ก็ยิ่งดี
รู้ภาษาหลายภาษาก็ยิ่งดี ไม่ใช่หรอครับ
หรือใครว่าไม่จริง
ผมว่าผมพิมพ์ตัวหนังสือให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายๆแล้วนะ
ขออำไพครับ ที่ใช้ตัวอักษรสื่อความหมายให้แก่ผู้อ่านได้ไม่ดี
จนทำให้ผู้อ่านเข้าใจประเด็นผิดไป
จริงครับ ที่ลูกหลานรู้หลายๆภาษาน่ะดี
ผมเองก็รู้หลายภาษา ทั้งภาษาตะวันออกและภาษาตะวันตก
แต่ประเด็นของเรื่องในกระทู้นี้คือ
คนที่สอนลูกพูดไทย จำนวนหนึ่ง (เยอะด้วย) มักจะไม่สอนลูกพูดเมือง
ทำให้ลูกหลานพูดคำเมืองไม่เป็น พูดได้แต่ภาษาไทย
ถ้าลูกหลานพูดได้ทั้งคำเมืองและคำไทยจะไม่ว่าเลย
การที่ลูกหลานพูดได้แต่ภาษาไทย มันไม่ใช่แค่เรื่องการสื่อสารเท่านั้น
แต่ในบางกรณีก็ทำให้เขาดูแปลกแยกในหมู่เครือญาติในชุมชน
(บางส่วนนะครับ ส่วนที่เข้ากันได้ก็มี อย่าเหมารวม)
ทำให้ความสัมพันธ์ห่างเหินไปก็มีผมรู้จักกับมนุษย์หลายคนที่ "พ่อก็เมือง แม่ก็เมือง ลูกอู้เมืองบ่จ้าง"
โดยเฉพาะที่นครเชียงใหม่เนี่ย เพียบเลย ยังไม่นับที่เสาไห้ สระบุรี และที่คูบัว ราชบุรี นะครับ
ผมจะยกตัวอย่างคนหนึ่งที่สนิทกัน
ผมรู้จักกับน้องนักศึกษาคนหนึ่ง พ่อเขาเป็นคนแม่สรวย แต่มาทำธุรกิจที่เชียงใหม่
พ่อแม่พูดคำเมืองได้ แต่พ่อเขาสอนให้น้องคนนี้พูดแต่ภาษาไทย
จนน้องเขาพูดคำเมืองไม่ได้ (มาหัดเอาตอนโตคงจะยาก)
น้องคนนี้เขาบ่นให้ผมฟังเสมอว่า เวลาไปเยี่ยมญาติฝั่งพ่อหรือแม่
เขามักจะรู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยว ไม่กล้าพูดคุยกับญาติๆ
แถมบางครั้งก็ฟังที่พวกเขาพูดไม่รู้เรื่อง
อย่างไรก็ตาม โชคยังดีที่น้องคนนี้เขาอยู่ในเมืองใหญ่ เขาไม่จำเป็นต้องยึดติดเครือญาติเหมือนคนชนบท
เขาสามารถไปมีสังคมใหม่ๆได้ เช่น กลุ่มเพื่อนโรงเรียนเก่า กลุ่มเพื่อนที่มหาวิทยาลัย
กลุ่มเพื่อนที่ชมรม กลุ่มเพื่อนใน facebook เป็นต้น
น้องเขาบอกว่าที่นั่น น้องเขารู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากกว่า
เรื่องภาษานี่ก็แล้วแต่คนอ่ะเนาะ จะพูดภาษาไหนมันก็ไม่ผิดกฎหมายนิ
ตราบใดที่เขายังเป็นคนดีมีศีลธรรมส่วนเรื่อง "อคติ"
ผมไม่ได้มีอคติกับประเทศไทย (เมืองไทย) หรอกครับ แต่มีอคติกับ "คนไทยบางกลุ่ม" เท่านั้น
เช่น นักการเมืองบางกลุ่ม ดาราบางคน นายทุนบางจำพวก เป็นต้น
ส่วนเรื่องประวัติศาสตร์ล้านนา
"สมัยก่อน" ที่คุณว่า คงจะนานมาแล้ว ซึ่งผมเองก็เกิดไม่ทัน
ผมจะพูดถึงช่วงที่ผมเกิดทันแล้วกัน
ผมว่าการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ช่วงนี้ก็ดีครับ
แต่ถ้าหวังจะให้คนมาสนใจเยอะๆ เราคงเหนื่อยหน่อย
เพราะไม่ใช่ความรู้กระแสหลักที่อยู่ในห้องเรียน
แต่บางทีการอยู่นอกห้องเรียนแบบนี้ก็อาจจะเป็นผลดีมากกว่า....... อุๆ