เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 25 เมษายน 2024, 15:07:53
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  มารอความตายกันเถอะครับ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน มารอความตายกันเถอะครับ  (อ่าน 723 ครั้ง)
ใบโพธิ์
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19


« เมื่อ: วันที่ 07 พฤศจิกายน 2013, 14:59:25 »

อย่าพึ่งตีความหมายของผมผิดละครับ ผมไม่ได้ชวนมาตายกันนะครับ ผมกำลังหมายถึงการระลึกนึกถึงความตายหรือมรณานุสติ เป็นหนึ่งในสิบอนุสติที่เราควรระลึกนึกถึง คนเรามักจะกลัวในหลายสิ่งทีี่ีี่ยังมาไม่ถึง เรียกรวมๆว่าอนาคตนั้นละครับ มันตั้งอยู่บนความไม่แน่นอน ควบคุมไม่ได้ เพราะอย่างนั้นเราถึงกลัวว่ามันจะนำความทุกข์มาให้ และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในอนาคตคือ ความตาย คนทั่วไปไม่มีใครชอบที่จะพูด หรือได้ยินได้ฟัง การพูดถึงความตายถูกแปรความหมายผิดจากความเป็นจริงว่าไม่เป็นมงคล พยายามคิดค้นหลากหลายวิธีเพื่อหลีกเลี่ยงหรือยืดเวลาที่จะต้องตายออกไป ทำให้การเข้าใจในเรื่องของความตายยิ่งน่ากลัวขึ้นหากเราเข้าใจว่าการเกิดเป็นเรื่องธรรมดา ย่อมจะเข้าใจในสิ่งเดียวกันว่าความตายก็เช่นกัน เป็นเรื่องธรรมดา ทั้งตัวเราและคนอื่นๆ ทั้งคนที่รักและเกลียด คนที่รู้จัก ไม่รู้จัก รวยและจน เป็นความยุติธรรมกับทุกชีวิต และยำ้เตือนว่าทุกชีวิตมีความเสมอภาคกัน การระลึกนึกถึงความตายเสมือนเตรียมตัว เตรียมพร้อมในสิ่งที่ต้องเกิด ซึ่งเราไม่รู้ว่าเมื่อใด แต่การเตรียมตัวไว้ก่อนย่อมได้เปรียบเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้เตรียมตัวเลย การระลึกนึกถึงความตายบ่อยๆ จะทำให้เราเข้าใจว่า มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เหมือนเรารอคอยเพื่อนคนหนึ่งที่เขาจะแวะมาแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าเมื่อใด และรูปแบบใดเท่านั้น การระลึกนึกถึงความตายเสมอๆจะทำให้เราเข้าใจความเป็นจริงว่า สิ่งต่างๆที่เราเพียรหา เพียรสร้าง ไขว่คว้ามา ทั้งคนรักคนห่วงใย สุดท้ายก็ต้องปล่อยทิ้งไว้เป็นสมบัติของผู้อื่นต่อไป สิ่งที่จะติดตัวไปคือกรรมอันเรากระทำไว้ การเข้าใจแบบนี้จะทำให้ความทะยานอยากของเราตั้งอยู่บนความพอดี เท่าที่จำเป็น ไม่เบียดเบียนผู้อื่น เกรงกลัวต่อบาปกรรม ดำรงตนตามคำสอนของพระพุทธองค์ เช่นนี้แล้วอยู่ก็มีความสบายใจ ทุกข์ก็น้อย และเมื่อความตายมาเยือนย่อมมีสติอยู่ไม่ตระหนกตกใจ ตายไปก็พบความสุขอันประณีตสวยงามกว่า เป็นสหายในภพภูมิเทวดา แต่กลับผู้ที่ไม่มีความละอายเกรงกลัวต่อบาปกรรม กระทำทุกอย่างไม่เลือกทาง เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน เงินทอง ชื่อเสียง การงาน ไม่มีความละอายเกรงกลัวต่อบาป อย่าว่าแต่นึกเลยครับ เพราะเขาเหล่านั้นลืมไปแล้วว่าจะต้องตาย ปล่อยเขาไว้เถอะครับ ช่วยตัวเองก่อนดีกว่า

ร่วมพูดคุย อ่านบทความหรือปรึกษาปัญหาชีวิตได้ครับ

 https://www.facebook.com/profile.php?id=100006650192350&ref=tn_tnmn
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 07 พฤศจิกายน 2013, 23:57:22 โดย ใบโพธิ์ » IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 07 พฤศจิกายน 2013, 23:00:41 »

ใบโพธิ์
อย่าพึ่งตีความหมายของผมผิดละครับ ผมไม่ได้ชวนมาตายกันนะครับ ผมกำลังหมายถึงการระลึกนึกถึงความตายหรือมรณานุสติ เป็นหนึ่งในสิบอนุสติที่เราควรระลึกนึกถึง คนเรามักจะกลัวในหลายสิ่งทีี่ีี่ยังมาไม่ถึง เรียกรวมๆว่าอนาต  ฯลฯ


 ฯลฯ คนที่รู้จัก ไม่รู้จัก รวยและจน เป็นความยุติธรรมกับทุกชีวิต และ   ยำ้เตือน ว่า ฯลฯ

>>>>> กราบเรียน อาจารย์ใบโพธิ์ ใบแห่งการตรัสรู้ชอบ ที่ เคารพ
ผม ขออนุญาต  แนะ นำ การพิมพ์ สระอำ ที่มี วรรณยุกต์   ดั่งเช่น คำว่า ยำ้เตือน ว่า 
อาจารย์ ควร จัดอันดับการพิมพ์  คือ
  
พิมพ์ อักษร      ย  แล้ว ตามด้วย       ไม้โท        แล้วค่อยกดสระ  อำ ตาม

       ย   ้    ำ      ทำเหตุ อย่างที่ว่า แล้ว ผล ที่ได้ จะ    =  ย้ำ

   แต่ หากท่าน ทำ แบบ     ย  ตามด้วย  ำ   ้  ก็จะได้    =  ยำ้

ขอ เล่าให้ทราบ ว่า ผม สายตามันแย่ อีกทั้ง เครื่องมือ ก็เป็น โนตบุ้ค ขนาดอักษร จึง ย่อส่วนเล็กตามอุปกรณ์ จึงอ่านบทความ ของ ท่าน ไม่ถนัดนัก

ด้วย อาจารย์พิมพ์ติดต่อกัน ในขนาดอักษร มาตรฐาน

อันหลังนี้  กลายเป็น ผมรำวง  ไม่ดี  โทษปี่  โทษกลอง  ของ ผมเองนะ  กรุณา อย่าได้ถือสา

หนาน ขอ กราบ ธัมมทาน ที่ นำมา แบ่งปัน     สาธุ ๆ ๆ อนุโมทามิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 07 พฤศจิกายน 2013, 23:26:36 โดย nantong » IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
ใบโพธิ์
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 07 พฤศจิกายน 2013, 23:25:28 »

ขอบคุณคุณหนานธงที่ช่วยแนะนำครับ
 เนื่องด้วยผมต้องเดินทางบ่อย ไม่ได้พกโน๊ตบุ๊คเหมือนก่อน
และด้วยขนาดจอและปุ่มที่จำกัดของแท็บเล็ต อาจมีคำที่ผิดหรือตกหล่น
ต้องขออภัยด้วยครับ

IP : บันทึกการเข้า
ใบโพธิ์
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 07 พฤศจิกายน 2013, 23:56:09 »

(พระพุทธ)
กราบลงใต้...เงาพระบาท
พระโลกนาทจอมศาสดา
พระองค์ผู้เสด็จมา เพื่อส่องหล้ายามมืดมน
ตรัสสอนวิถีมรรค การปฏิบัติเพื่อหลุดพ้น
ขนข้ามวิญญูชนให้ผ่านพ้นห่วงวัฏฏะ
......................................................
(พระธรรม)
ผ่านถึง.....กึ่งพุทธกาล
ธรรมขับขานยังยลยิน
เงี่ยโสต สดับยิน เสียงพระธรรมดังกังวาล
บอกทางผู้ทนทุกข์ ให้พบสุขเกษมศานต์
ถึงสุดแห่งนิพพาน ด้วยพระธรรมศาสดา
......................................................
(พระสงฆ์)
เดินตาม......บาทแห่งองค์ พระผู้ทรงธรรมคุณ
ศีลส่งเกื้อนำหนุน จริยวัตรอันงดงาม
เพียรละซึ่งกิเลส ตัดต้นเหตุแห่งรูปนาม
สงฆ์ผู้ก้าวย่างข้าม การเกิดดับแห่งภพภูมิ
กราบลง ด้วยศัทธา
อริยสงฆ์เลอค่า ในแดนดิน
ประกาศทั่วโลกสิ้น ให้แซ่ซ้องสัจธรรม

ไม่ว่าเราจะตกอยู่ในสภาพใด หรือที่ไหน มีหลายสิ่งที่ไม่มีใครสามารถนำไปจากเราได้ หนึ่งในนั้นคือ ความรู้ ความเข้าใจ ความเชื่อและ...ศัทธา
IP : บันทึกการเข้า
jirapraserd
magdafVE
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 693


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 10 พฤศจิกายน 2013, 07:57:47 »

ความตายเป็นความจริงอีกข้อหนึ่งที่ต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การระลึกถึงความตาย เป็นสมถะกรรมฐาน เพื่อข่มกิเลสอีกวิธีหนึ่ง

อำนาจของความโลภ ความโกรธ ความหลง มันลากเราให้ลืม ทำให้เรา
หลงโลก ลืมนึกถึงความตาย มารู้อีกทีก็ใกล้จะตายแล้ว ก็จะไปตรงกับคำว่า
ประมาท ในศาสนาพุทธ

คนส่วนมากทำใจยอมรับความจริงในข้อนี้ไม่ได้ ว่าคนเราเกิดมาแล้วต้องตาย
ความตายไม่มีการเรียงลำดับ ลูกอาจจะตายก่อนพ่อแม่

ความตายมันเป็นเรื่องเล็ก แต่เรื่องที่ต่อจากตายไปแล้ว เราจะไปไหน
ก็ต้องไปสู่ที่ชอบ ที่ชอบ จิตดวงสุดท้ายชอบอะไรก็จะไปเป็นแบบนั้น
จิตดวงสุดท้ายยังมีห่วง มีความโลภ ก็กลายเป็นเปรต

พระพุทธองค์ท่านกล่าวไว้ว่า คนส่วนมากตายแล้วไปอบายภูมิ
เพราะว่าคนส่วนมาก ถูกความโลภ ความโกรธ ความหลง ครอบงำตลอดชีวิต

คนที่ฝึกปฏิบัติภาวนาในศาสนาพุทธ จะได้ตัวสติมา เพื่อเอามาใช้ในเวลา
ที่จะตายนี่แหละ ถ้าฝึกแล้วไม่ได้ตัวสติ ก็เสียเวลาปล่าว ๆ ตัวสติเป็นสิ่งสำคัญจะช่วย
เหลือเราในวินาทีสุดท้าย ให้รอดจากอบายภูมิ ก็คือ ภพของเปรต อสูรกาย สัตว์นรก
สัตว์เดรฉาน

แล้วคนที่ไม่เคยฝึก และไม่เคยสนใจ และไม่เคยศึกษาว่าศาสนาพุทธสอนถึงเรื่องอะไร
ก็จะไปสู่ที่ชอบ ที่ชอบ แล้วจะเหลืออะไร ความน่ากลัวมันอยู่ตรงจุดนี้
ฉะนั้นเราต้องมี ความเชื่อ มีความศรัทธา ทำบุญ ทำทาน ถือศีล เพื่อให้คุณงาม
ความดีที่สั่งสมมาช่วยเหลือ เกื้อกุล ให้ละลึกถึงก่อนที่จะตาย ถ้าพลาดจากตรงนี้
ก็ต้องใช้วิธีการภาวนาให้เกิดสติ ช่วยเหลืออีกชั้นหนึ่ง

เมื่อยังมีชีวิตอยู่ก็อย่าประมาท เพราะความโลภ ความโกรธ ความหลง มันผูกเราไว้
 
IP : บันทึกการเข้า

nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 10 พฤศจิกายน 2013, 20:17:10 »

ไหว้สา
สาธุ ๆ ๆ อนุโมทามิ  ใน  ธัมมทาน ของ ท่าน อาจารย์ ทั้ง สอง ครับ
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
ใบโพธิ์
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 11 พฤศจิกายน 2013, 20:08:37 »

เป็นดังที่คุณjirapraserd ได้แสดงความเห็นไว้ครับ
ผมขอเพิ่มเติมอีกหน่อยว่า การเจริญมรณานุสสตินั้น หากเพียงแค่ระลึกนึกถึงเป็นอารมณ์แห่งจิต ก็จะเป็นสมถะ แต่หากยกขึ้นมาพิจารณาก็จะเป็นไปเพื่อวิปัสสนาที่เรียกว่า สักกายทิฏฐิ ที่มีความยึดมั่นว่าร่างกายนี้เป็นเราเป็นของเรา  ทั้งการยกร่างกายขึ้นมาพิจารณาเป็นหนึ่งในสติปัฎฐานสี่ หากนำมาพิจารณาผู้ปฏิบัติธรรมย่อมเห็นความเกี่ยวเนื่องเอง
นำสิ่งนั้นๆ ขึ้นมาพิจารณาให้เข้าใจในเหตุและผล เพื่อการละได้ซึ่งสังโยชน์
การปฏิบัติธรรมจริงนั้น เป็นไปด้วยความโปร่งโล่งสบาย ยิ่งปฏิบัติถูกทางย่อมเห็นผลไม่มากก็น้อย
ผู้ปฏิบัติย่อมรู้และเข้าใจสภาวะนั้นเองครับ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!