เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 15 กันยายน 2025, 03:58:25
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ห้องนั่งเล่น
| | |-+  ครั้งหนึ่งเมื่อฉันอยู่ที่เชียงราย>>>>เพิ่มบท 4.3 อัพเดตคร๊าฟ^_^
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 พิมพ์
ผู้เขียน ครั้งหนึ่งเมื่อฉันอยู่ที่เชียงราย>>>>เพิ่มบท 4.3 อัพเดตคร๊าฟ^_^  (อ่าน 1856 ครั้ง)
Nongzumo
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


« เมื่อ: วันที่ 27 ตุลาคม 2013, 10:25:05 »

ก่อนอื่นอยากจะบอกตั้งคำถามว่า"ผิดไหมที่ฉันหลงรักเชียงรายจนหมดใจ???" วันนี้ฉันก็เลยจะมาแชร์ประสบการณ์ ความประทับใจที่เกิดขึ้นในเชียงราย เริ่มต้นเลยน่ะครับ...เมื่อฉันยังเด็กๆที่เกิดและเติบโตในภูมิภาคที่ราบสูงหรือที่คนรู้จักกันดีคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน) ก็ใช้ชีวิตในวิถีชีวิตคนอีสานเฉกเช่นคนอีสานทั่วไป แต่แล้ววันนึงได้มีคนทำนายบอกว่าชีวิตฉันจะได้ไปอยู่ที่ภาคเหนือ โดยที่ฉันเองก็ไม่รู้จะไปอยู่ได้ไงเพราะก็คงจะเรียนมหาลัยวิทยาลัยชื่อดังของอีสาน อีกทั้งยังใกล้บ้านฉันอีกด้วย ฉันเองก็เลยไม่ค่อยเชื่อ แต่แล้ววันเกิดโชคชะตาได้พลิกผัน เมื่อฉันได้มาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเชียงราย  รู้สึกว่าชีวิตฉันตลอดสี่ปีจะอยู่ยังไง จากเด็กอีสานแต่ฉันจะต้องไปอยู่เหนือสุดของอีสาน จากวัฒนธรรมถิ่นอีสานต้องไปอยู่ท่ามกลางวัฒนธรรมล้านนา อาหารการกินล่ะ อีกอย่างไกลจากบ้าน ไกลจากครอบครัว ชีวิตฉันจะอยู่ได้ยังไงเนี่ยๆๆ แต่วันแรกที่ได้มาสัมผัสแผ่นดินเชียงราย ความรู้สึกแรกคือ อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เป็นเมืองที่เงียบสงบ มองไปที่ไหนก็ดูเขียวขจีแวดล้อมด้วยภูเขา ฉันยังจำถึงวันนั้นได้เลยว่า ฉันได้ไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลแม่จัน น้าพยาบาลนั้นคงนึกกว่าฉันเป็นคนเหนือมั้ง ทั้งๆๆที่ฉันก็ออกจะผิวสองสี(เหนือตรงไหนเนี่ย) น้าแกเลยจัดเต็มคำเมืองใส่ฉัน สรุปคือฉันฟังไม่ออก ฉันเองก็เลยบอกว่า ขอเป็นภาษากลางได้มั๊ยครับ สรุปว่าน้าพยาบาลหัวเราะและมองด้วยความเอ็นดู พูดสองภาษาให้ฉันฟังทั้งอู้คำเมืองกับภาษากลางง(แอบสงสารน่ะ) ฉันยังจำภาพเหล่านั้นได้อยู่ยังอยู่ในความทรงจำของฉันตลอดไป
   จากวันนั้นจนถึงวันนี้ฉันก็ได้จบปริญญาใบแรกตามที่หวัง จากวันแรกจนถึงวันสุดท้าย เตรียมเก็บของกลับบ้าน ฉันจำได้ว่าวันนั้นทำไมรู้สึกหดหู้อ้างว้างอย่างบอกไม่ถูก สรุปคือก่อนขึ้นรถน้ำตาแตกยังก่ะท่อน้ำประปาตก น้ำตาแห่งความอาวรณ์ ความผูกพันที่มาแต่ไหนก็ไม่รู้ มันอาบแก้มทั้งสองข้างจนคนรอบๆๆตัวฉันคงจะตกอกตกใจว่าสงสัยอกหักแน่นอน(แต่ความจริงไม่ใช่เลย) ยิ้ม ยิ้มกว้างๆ ยิ้มเท่ห์ ยิ้ม ยิ้มกว้างๆ ยิ้มเท่ห์
ต่อ.....ฉันมองดูบรรยากาศข้างทางที่รถทัวร์ผ่าน แต่ก็อดหวนนึกถึงอดีตที่ฉันยังจำได้ดี ในวันแรกฉันเองก็วิตกมากมายว่าฉันจะอยู่ได้หรือไม่ แต่บัดนี้กาลเวลาได้พิสูจน์แล้วฉันคิดไม่ผิดที่ได้มาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ฉันประมวลภาพต่างๆที่เกิดขึ้นในห้วงชีวิตของฉัน ราวกับเปรียบเสมือนว่าเหตุการณ์เหล่านั้เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง จนกระทั่งฉันเองได้หลับไหลจากความเมื่อยล้าซึ่งเป็นผลมาจากการร้องไห้ รอยน้ำตาก็ไหลลงมาอาบแก้มทั้งสอง
ปล ยังไม่จบน่ะครับ และอยากถามพี่ว่าจะให้เขียนเป็นเนื้อเรื่องยาวต่อกันไปเลยหรือว่าแบ่งเป็นพาทๆๆ


ขอบคุณที่เสียสละมาอ่านน่ะครับ กับความเวิ่นเว้อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 26 พฤศจิกายน 2013, 21:55:24 โดย Nongzumo » IP : บันทึกการเข้า
ไข่ตุ๋น ละมุนละไม
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 181



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 27 ตุลาคม 2013, 10:33:05 »

 ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

ไข่ตุ๋น ละมุนละไม
kongkeat_99
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,144


เหนือยก็พัก


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 27 ตุลาคม 2013, 10:40:32 »

โปรดติดตามตอนต่อไป
coming soon
IP : บันทึกการเข้า

ก้าวต่อไป
น้าวัยทองฯ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,910



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 27 ตุลาคม 2013, 10:46:54 »

เชียงรายที่รัก

IP : บันทึกการเข้า

jibjibja
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 41


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 27 ตุลาคม 2013, 11:01:05 »

   ในเชียงรายมีประชากรพี่น้องอีสานที่อพยพใหญ่เข้ามาในเชียงรายช่วงปี 2507-2509 ตอนนี้อยู่ทั่วเชียงราย น่าจะมีประชากรสัก 3-4 แสนคน ยังรักษาวัฒนธรรมของตนเอง มีความขยัน อดออม ตรงไปตรงมา เป็นแบบอย่างให้คนเมือง ที่รักสบายได้ดี ผมมีโอกาสได้สัมผัสมาหลายอำเภอ อบอุ่นมากที่ำได้ทำงานด้วย สำหรับท่านฯถ้ามีโอกาสช่วยพัฒนาเชียงราย ก็ฝากด้วยนะครับ  ขอให้โชคดีครับ....
IP : บันทึกการเข้า
bookskil
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,195



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 27 ตุลาคม 2013, 11:03:29 »

ผมก็พลัดถิ่นมาอยู่เชียงราย นานแล้ว  และก็คงอยู่ไปอีกนานนนนน
IP : บันทึกการเข้า

( นวพล  ก่อสร้าง )  รับสร้างบ้าน ต่อเติม ซ่อมแซม ปรึกษาได้ครับ
ติดต่อได้ที่เบอร์   0823921783  ช่างวัช
PHAN2002
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 143


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 28 ตุลาคม 2013, 10:16:37 »

เวิ่นเว้อ, พอกะเทิน  แปลว่าอะหยังถ้าเป็นภาษาเหนือ
IP : บันทึกการเข้า
tung 7737
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,801



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 28 ตุลาคม 2013, 20:20:31 »

ก่อนอื่นอยากจะบอกตั้งคำถามว่า"ผิดไหมที่ฉันหลงรักเชียงรายจนหมดใจ???" วันนี้ฉันก็เลยจะมาแชร์ประสบการณ์ ความประทับใจที่เกิดขึ้นในเชียงราย เริ่มต้นเลยน่ะครับ...เมื่อฉันยังเด็กๆที่เกิดและเติบโตในภูมิภาคที่ราบสูงหรือที่คนรู้จักกันดีคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน) ก็ใช้ชีวิตในวิถีชีวิตคนอีสานเฉกเช่นคนอีสานทั่วไป แต่แล้ววันนึงได้มีคนทำนายบอกว่าชีวิตฉันจะได้ไปอยู่ที่ภาคเหนือ โดยที่ฉันเองก็ไม่รู้จะไปอยู่ได้ไงเพราะก็คงจะเรียนมหาลัยวิทยาลัยชื่อดังของอีสาน อีกทั้งยังใกล้บ้านฉันอีกด้วย ฉันเองก็เลยไม่ค่อยเชื่อ แต่แล้ววันเกิดโชคชะตาได้พลิกผัน เมื่อฉันได้มาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเชียงราย  รู้สึกว่าชีวิตฉันตลอดสี่ปีจะอยู่ยังไง จากเด็กอีสานแต่ฉันจะต้องไปอยู่เหนือสุดของอีสาน จากวัฒนธรรมถิ่นอีสานต้องไปอยู่ท่ามกลางวัฒนธรรมล้านนา อาหารการกินล่ะ อีกอย่างไกลจากบ้าน ไกลจากครอบครัว ชีวิตฉันจะอยู่ได้ยังไงเนี่ยๆๆ แต่วันแรกที่ได้มาสัมผัสแผ่นดินเชียงราย ความรู้สึกแรกคือ อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เป็นเมืองที่เงียบสงบ มองไปที่ไหนก็ดูเขียวขจีแวดล้อมด้วยภูเขา ฉันยังจำถึงวันนั้นได้เลยว่า ฉันได้ไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลแม่จัน น้าพยาบาลนั้นคงนึกกว่าฉันเป็นคนเหนือมั้ง ทั้งๆๆที่ฉันก็ออกจะผิวสองสี(เหนือตรงไหนเนี่ย) น้าแกเลยจัดเต็มคำเมืองใส่ฉัน สรุปคือฉันฟังไม่ออก ฉันเองก็เลยบอกว่า ขอเป็นภาษากลางได้มั๊ยครับ สรุปว่าน้าพยาบาลหัวเราะและมองด้วยความเอ็นดู พูดสองภาษาให้ฉันฟังทั้งอู้คำเมืองกับภาษากลางง(แอบสงสารน่ะ) ฉันยังจำภาพเหล่านั้นได้อยู่ยังอยู่ในความทรงจำของฉันตลอดไป
   จากวันนั้นจนถึงวันนี้ฉันก็ได้จบปริญญาใบแรกตามที่หวัง จากวันแรกจนถึงวันสุดท้าย เตรียมเก็บของกลับบ้าน ฉันจำได้ว่าวันนั้นทำไมรู้สึกหดหู้อ้างว้างอย่างบอกไม่ถูก สรุปคือก่อนขึ้นรถน้ำตาแตกยังก่ะท่อน้ำประปาตก น้ำตาแห่งความอาวรณ์ ความผูกพันที่มาแต่ไหนก็ไม่รู้ มันอาบแก้มทั้งสองข้างจนคนรอบๆๆตัวฉันคงจะตกอกตกใจว่าสงสัยอกหักแน่นอน(แต่ความจริงไม่ใช่เลย) ยิ้ม ยิ้มกว้างๆ ยิ้มเท่ห์ ยิ้ม ยิ้มกว้างๆ ยิ้มเท่ห์
ต่อ.....ฉันมองดูบรรยากาศข้างทางที่รถทัวร์ผ่าน แต่ก็อดหวนนึกถึงอดีตที่ฉันยังจำได้ดี ในวันแรกฉันเองก็วิตกมากมายว่าฉันจะอยู่ได้หรือไม่ แต่บัดนี้กาลเวลาได้พิสูจน์แล้วฉันคิดไม่ผิดที่ได้มาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ฉันประมวลภาพต่างๆที่เกิดขึ้นในห้วงชีวิตของฉัน ราวกับเปรียบเสมือนว่าเหตุการณ์เหล่านั้เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง จนกระทั่งฉันเองได้หลับไหลจากความเมื่อยล้าซึ่งเป็นผลมาจากการร้องไห้ รอยน้ำตาก็ไหลลงมาอาบแก้มทั้งสอง
ปล ยังไม่จบน่ะครับ และอยากถามพี่ว่าจะให้เขียนเป็นเนื้อเรื่องยาวต่อกันไปเลยหรือว่าแบ่งเป็นพาทๆๆ


ขอบคุณที่เสียสละมาอ่านน่ะครับ กับความเวิ่นเว้อ
ต่อเลยน้อง
IP : บันทึกการเข้า

ทำดี ขยัน อดทน ความจนอยู่ได้ไม่นาน
คนขาย น่ะ ..ไม่รีบ แต่คนชื้อ น่ะ..รีบๆหน่อยนะ
sing-ya-dong
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 118



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 28 ตุลาคม 2013, 20:55:02 »

เอามาเป๋นต่อนๆ เลยบ่าหล้าเหยยย 
IP : บันทึกการเข้า
Nongzumo
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 30 ตุลาคม 2013, 23:55:47 »

 ยิ้มเท่ห์ ;)บท 1

     ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยน่ะครับที่ได้หายไปหลายวันเนื่องจากว่าติดธุระด่วนมากๆๆๆ หลังจากที่ได้เกริ่นไปแล้วเบื้องต้นน่ะครับ และมีคนบอกว่าให้แบ่งเป็นตอนๆจะได้อ่านง่ายกว่า โดยบทนี้ก็จะกล่าวถึงชีวิตช่วงแรกๆๆของการมาเชียงรายครั้งแรก เข้าเรื่องต่อเลยน่ะครับ
       จากที่ได้กล่าวไปแล้วบางส่วน ขอย้อนกลับไปถึงวันแรกที่ได้ทราบข่าวว่าตัวเองจะติดมหาวิทยาลัยที่จังหวัดเชียงราย ฉันก็ต้องมาสอบสัมภาษณ์ ก็รู้สึกกลัวอยู่ไม่น้อย  กลัวเพราะว่าฉันจะต้องมาสัมภาษณ์เอง ซึ่งเป็นการเดินทางมาภาคเหนือครั้งแรกและเป็นการเดินทางที่ไกลที่สุด (ซึ่งที่บ้านก็จะปล่อยให้เราทำอะไรด้วยตัวเองเพราะคงมองว่าจะเป็นการช่วยเหลือตัวเองได้ และอีกอย่างคือไม่มีใครว่างครับ ) ดังนั้นในทริปนี้จึงเป็นการฉายเดี่ยวเหินฟ้าเข้าสู่จังหวัดเหนือสุด  แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามก็ยังโชคดีอยู่บ้างที่ทริปนี้มีเพื่อนที่สนิทมาด้วย เลยลุล่วงไปด้วยดีและไม่เหงาด้วย อีกทั้งทั้งคู่ต่างก็ไม่เคยมาภาคเหนือเลย  ในเย็นวันหนึ่งของเดือน พค เราทั้งคู่จึงมุ่งหน้าสู่เชียงรายโดยรถทัวร์จากขอนแก่นประมาณสิบสองชั่วโมงนิดหน่อย  ตกใจ ซึ่งถ้าถามว่าในตอนนั้นคิดอย่างไร เราก็ตื่นเต้นมาพอสมควร  ทราบมาเพียงแต่ว่าเชียงรายเป็นจังหวัดที่อยู่เหนือสุดสยามและเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญมีแหล่งท่องเที่ยวต่างๆๆมากกมายเช่นพระธาตุดอยตุง  จึงไม่แปลกเลยเลยว่าคืนนั้นเราเองก็นอนไม่หลับ เช้าวันถัดมา รถทัวร์คันงามได้มาจอดที่ขนส่งเก่าตรงไนท์บราซ่า (ก่อนหน้านั้น ขนส่งใหม่ยังสร้างไม่เสร็จ) เราก็เหมือนคนต่างถิ่น มาโผล่ที่ภาคเหนือ ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ รู้แต่ว่าจะต้องต่อรถโดยสารเพื่อไปให้ทันสอบสัมภาษณ์  แต่หลังจากที่เราเคอะเขินอยู่ ก็มีน้าผู้หญิงเจ้าของรถมาถามเราว่าจะไปที่ไหน สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือแกใจดีมากๆๆและแกก็อู้คำเมืองกับฉัน แกก็บอกให้ฉันรีบขึ้นรถ  ซึ่งรถจะออกในไม่กี่นาที ฉันก็มองสองข้างทางตลอดเวลา ยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้ดีเลยว่า ครั้งแรกที่มาถึงเชียงราย ตัวเองรู้สึกอบอุ่น รู้สึกผูกพันกับที่นี่อย่างบอกไม่ถูกราวกับว่าที่นี่เราเคยผูกพันกันมาแต่นานแสนนาน……ไม่ได้โม้น่ะครับ
   หลังจากการสัมภาษณืเสร็จไปได้ด้วยดี  คราวนี้ก็มาถึงคราวที่ครอบครัวมาส่งพร้อมกับสัมภาระมากมายเต็มคันรถ  ฉันเองก็คิดในใจว่าฉันต้องมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ไม่ต่ำกว่าสี่ปีแน่ๆๆ ฉันจะอยู่ได้มั๊ย เนี่ยๆ แต่ฉันบอกกลับตัวเองว่าฉันต้องอยู่ให้ได้และฉันชอบบรรยากาศที่นี่มากๆๆ  มองไปทางไหนก็เจอภูเขา ที่ปกคลุมไปด้วยหมอกในยามเช้า อากาศก็บริสุทธิ์ แต่ก็อย่างว่า แม่ฉันก็เป็นห่วงอยู่ไม่น้อยกับการที่ลูกจะต้องจากออ้อมอกแม่ มาอยู่ต่างถิ่นต่างเมือง คงอดห่วงไม่ได้ว่าลูกจะอยู่ยังไง กินยังไง นอนยังไง  แถมก็ไกลบ้านมากๆๆ ก่อนแม่จะกลับฉันก็เห็นแม่น้ำตาคลอเบ้า ฉันเองก็น้ำตาซึมอยู่ไม่น้อย ฉันส่งแม่และไหว้แม่ รอดูจนรถแม่เคลื่อนไปตามถนนจนพ้นสายตา สิ่งแรกที่ทำหลังจากไปส่งเอกสารสำหรับนักศึกษาใหม่ หลายๆๆคนคงจะคิดว่าฉันก็คงมาจัดข้าวของ เครื่องใช้เข้าหอ แต่เปล่าเรย ฉันนอนร้องไห้!!! น้ำตาซึมหมอนจนกระทั่งหลับไป  ตื่นมาอีกทีก็ตอนค่ำก็แอบเหงาๆๆ คืนแรกของชีวิตในเชียงรายก็ผ่านไปพร้อมกับความเมื่อยล้าทั้งจากการเดินทางและร้องไห้ คิดถึงบ้าน  ชีวิตได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในเชียงรายโดยที่ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะพบเจออะไรในสี่ปี ในวันนี้ฉันยังจำภาพเหตุการณ์เหล่านั้นได้ดีราวกับว่ามันเพิ่งผ่านไปไม่นาน และยังอดขำกับตัวเองไม่ได้555

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 02 พฤศจิกายน 2013, 10:04:38 โดย Nongzumo » IP : บันทึกการเข้า
Once Again
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,752



« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 31 ตุลาคม 2013, 11:56:07 »

ติดตามอยู่ครับ เล่าต่อเลย  ยิ้มเท่ห์
IP : บันทึกการเข้า

มีเพื่อนดีๆสัก 2 -3 คน ดีกว่ามีเพื่อนเลวเป็น 10
TopNKPT
ความหมายของการเดินทาง ละเอียดอ่อนกว่าที่หลายคนเข้าใจ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 527


สวัสดี


« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 31 ตุลาคม 2013, 20:02:15 »

รอติดตามชีวิต และความทรงจำของคนไกลบ้านเหมือนกันครับ
IP : บันทึกการเข้า

รับขนของทั้งในและต่างจังหวัดครับ
0874025334
Facebook : RW Service
Nongzumo
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 02 พฤศจิกายน 2013, 10:28:57 »

บทที่ 2.....ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
      หลังจากคืนแรกได้ผ่านพ้นไป ฉันตื่นมาพร้อมกับอากาศที่บริสุทธิ์พร้อมกับความเหนื่อยล้าจากเมื่อคืน เช้านี้ฉันก็ยังอดคิดถึงบ้านไม่ได้ ฉันได้โทรไปหาแม่แล้ว แม่เองก็ได้ถึงบ้านเรียบร้อยอย่างปลอดภัย หลังจากตื่นมาซักพัก ฉันเองก็ต้องรีบหอบร่างของตัวเองเพื่อที่จะอาบน้ำและก็แต่งตัวไปเข้าร่วมกิจกรรมของเฟรชชี่(เด็กปีหนึ่งที่เข้ามาใหม่จะเรียกกันว่า เฟรชชี่ ครับ) เป็นกิจกรรมรับน้อง ลืมบอกเลยครับว่าเพื่อนร่วมห้องของฉันมาจากคนละจังหวัด มีทั้งหมด 4 ครับ  กิจกรรมก็จะเป็นการอบรม แนะนำแนวทางในการเรียนและการปรับตัว มีการแยกหิจกรรมต่างๆๆตามที่เราชอบเพื่อที่จะให้เราได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ ต่างคณะ ต่างสาขา ต้องยอมรับตรงๆๆเลยว่า ฉันเองก็ยังไม่รู้จักใครเรย แต่เพื่อนๆๆก็มาทักทายกัน แต่ฉันเองก็คิดว่าจริงๆๆฉันเป็นคนที่พูดเก่งมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ยิ้มแย้มแจ่มใส ตลกและดูรั่วๆๆ แต่ฉันมีข้อเสียอย่างนึงคือ ฉันไม่ค่อยคุยกับคนแปลกหน้า และถ้าฉันไม่ยิ้มฉันจะกลายเป็นคนที่ดูหยิ่งมากๆๆ บางครั้งเพื่อนมาสารภาพบอกกับฉันว่า เห็นฉันครั้งแรก ฉันดูหยิ่งมากๆๆๆ ไม่พูดกับใครเลย ทุกคนไม่กล้ามาทัก (อันนี้เพื่อนบอกมา555) แต่พอเราอยู่กันไปจนเพื่อนบอกว่าฉันน่ะดูตลกมากๆๆๆๆๆๆ   คนละคนกับที่ตอนเห็นครั้งแรก
     จากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน ฉันยังคงตื่นเต้นกับการเป็นเฟรชชี่ ได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ๆๆ แต่พวกเราก็แอบเครียดกับการเรียน แต่สิ่งหนึ่งก็คือ ฉันปรับตัวได้แล้วแหระครับกับการเป็นคนเชียงราย แต่ต้องยอมรับว่าช่วงแรกๆๆตอนเย็นๆๆกับช่วงฝนตก ฉันจะรู้สึกคิดถึงบ้านเป็นพิเศษ(ใครเป็นเหมือนกันบ้าง)  ต้องยอมรับว่าช่วงปีหนึ่งที่เราเรียน พวกเราจะต้องทำกิจกรรมรับน้องของมหาวิทยาลัย รวมทั้งของสาขา ก็หนักพอสมควร อีกทั้งก็เรียนอีกต่างหาก แต่พอฉันมาย้อนคิดดูอีกที ทำให้คิดถึงภาพเก่าๆๆๆ ฉันมีโอกาศทำได้กิจกรรมนั้นได้แค่ครั้งเดียวในชีวิต ดังนั้นน้องๆๆที่มาอ่านเรื่องของฉัน ฉันอยากจะบอกว่าจงสรุกและเต็มที่กับมัน พอเรามามองย้อนกลับไปในอีดต เราจะได้ไม่เสียดายในภายหลัง และมันก็จะเป็นความทรงจำที่ดีที่จะอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป
    นับจากวันเป็นเดือน กลายมาเป็นหนึ่งปีแล้ว ฉันเองก็จะขึ้นปีสอง ปีสามตามลำดับ ฉันรู้สึกรักและคิดถึงเชียงรายตลอดเวลาที่ฉันกลับบ้าน ฉันๆด้เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ วิถีชีวิตใหม่ๆๆรวมถึงได้พบเจอเพื่อนจากหลายๆๆๆที่หลายจังหวัด  ฉันเองก็ได้ลองชิมอาหารเหนือ ฉันยังจำได้ว่าอาหารเหนือที่ฉันชิมครั้งแรกคือ น้ำพริกหนุ่กับแคปหมู ฉันเริ่มคุ้นชินกับอาหารเหนือ ฉันเริ่มมีความสุขกับทุกๆๆวันที่อยู่ในเชียงราย และรั้วมหาวิทยาลัย จนฉันเองก็รู้สึกว่าแป็ปเดียวแล้วเหรือเนี่ยที่ฉันอยู่ปีสามจะขึ้นปีสี่แระ เหลืออีกแค่ปีเดียวก็จะจบแล้วแต่ฉันเองก็คงเหลือเวลาอยู่ที่เชียงรายอีกแค่ปีเดียวเท่านั้นเองเหรอ
IP : บันทึกการเข้า
azkarenz
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 21


เหนื่อยก็พัก หนักก็วาง


« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 02 พฤศจิกายน 2013, 14:05:24 »

 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม เยี่ยม เลย ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

เหงามากี่ปี  คนที่ดีๆไปไหน โหม๊ดดด  T^T
@@beem@@
สักวัน ผมจะเป็นนายก !!
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,170



« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 03 พฤศจิกายน 2013, 20:13:13 »

บทที่ 2.....ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
      หลังจากคืนแรกได้ผ่านพ้นไป ฉันตื่นมาพร้อมกับอากาศที่บริสุทธิ์พร้อมกับความเหนื่อยล้าจากเมื่อคืน เช้านี้ฉันก็ยังอดคิดถึงบ้านไม่ได้ ฉันได้โทรไปหาแม่แล้ว แม่เองก็ได้ถึงบ้านเรียบร้อยอย่างปลอดภัย หลังจากตื่นมาซักพัก ฉันเองก็ต้องรีบหอบร่างของตัวเองเพื่อที่จะอาบน้ำและก็แต่งตัวไปเข้าร่วมกิจกรรมของเฟรชชี่(เด็กปีหนึ่งที่เข้ามาใหม่จะเรียกกันว่า เฟรชชี่ ครับ) เป็นกิจกรรมรับน้อง ลืมบอกเลยครับว่าเพื่อนร่วมห้องของฉันมาจากคนละจังหวัด มีทั้งหมด 4 ครับ  กิจกรรมก็จะเป็นการอบรม แนะนำแนวทางในการเรียนและการปรับตัว มีการแยกหิจกรรมต่างๆๆตามที่เราชอบเพื่อที่จะให้เราได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ ต่างคณะ ต่างสาขา ต้องยอมรับตรงๆๆเลยว่า ฉันเองก็ยังไม่รู้จักใครเรย แต่เพื่อนๆๆก็มาทักทายกัน แต่ฉันเองก็คิดว่าจริงๆๆฉันเป็นคนที่พูดเก่งมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ยิ้มแย้มแจ่มใส ตลกและดูรั่วๆๆ แต่ฉันมีข้อเสียอย่างนึงคือ ฉันไม่ค่อยคุยกับคนแปลกหน้า และถ้าฉันไม่ยิ้มฉันจะกลายเป็นคนที่ดูหยิ่งมากๆๆ บางครั้งเพื่อนมาสารภาพบอกกับฉันว่า เห็นฉันครั้งแรก ฉันดูหยิ่งมากๆๆๆ ไม่พูดกับใครเลย ทุกคนไม่กล้ามาทัก (อันนี้เพื่อนบอกมา555) แต่พอเราอยู่กันไปจนเพื่อนบอกว่าฉันน่ะดูตลกมากๆๆๆๆๆๆ   คนละคนกับที่ตอนเห็นครั้งแรก
     จากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน ฉันยังคงตื่นเต้นกับการเป็นเฟรชชี่ ได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ๆๆ แต่พวกเราก็แอบเครียดกับการเรียน แต่สิ่งหนึ่งก็คือ ฉันปรับตัวได้แล้วแหระครับกับการเป็นคนเชียงราย แต่ต้องยอมรับว่าช่วงแรกๆๆตอนเย็นๆๆกับช่วงฝนตก ฉันจะรู้สึกคิดถึงบ้านเป็นพิเศษ(ใครเป็นเหมือนกันบ้าง)  ต้องยอมรับว่าช่วงปีหนึ่งที่เราเรียน พวกเราจะต้องทำกิจกรรมรับน้องของมหาวิทยาลัย รวมทั้งของสาขา ก็หนักพอสมควร อีกทั้งก็เรียนอีกต่างหาก แต่พอฉันมาย้อนคิดดูอีกที ทำให้คิดถึงภาพเก่าๆๆๆ ฉันมีโอกาศทำได้กิจกรรมนั้นได้แค่ครั้งเดียวในชีวิต ดังนั้นน้องๆๆที่มาอ่านเรื่องของฉัน ฉันอยากจะบอกว่าจงสรุกและเต็มที่กับมัน พอเรามามองย้อนกลับไปในอีดต เราจะได้ไม่เสียดายในภายหลัง และมันก็จะเป็นความทรงจำที่ดีที่จะอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป
    นับจากวันเป็นเดือน กลายมาเป็นหนึ่งปีแล้ว ฉันเองก็จะขึ้นปีสอง ปีสามตามลำดับ ฉันรู้สึกรักและคิดถึงเชียงรายตลอดเวลาที่ฉันกลับบ้าน ฉันๆด้เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ วิถีชีวิตใหม่ๆๆรวมถึงได้พบเจอเพื่อนจากหลายๆๆๆที่หลายจังหวัด  ฉันเองก็ได้ลองชิมอาหารเหนือ ฉันยังจำได้ว่าอาหารเหนือที่ฉันชิมครั้งแรกคือ น้ำพริกหนุ่กับแคปหมู ฉันเริ่มคุ้นชินกับอาหารเหนือ ฉันเริ่มมีความสุขกับทุกๆๆวันที่อยู่ในเชียงราย และรั้วมหาวิทยาลัย จนฉันเองก็รู้สึกว่าแป็ปเดียวแล้วเหรือเนี่ยที่ฉันอยู่ปีสามจะขึ้นปีสี่แระ เหลืออีกแค่ปีเดียวก็จะจบแล้วแต่ฉันเองก็คงเหลือเวลาอยู่ที่เชียงรายอีกแค่ปีเดียวเท่านั้นเองเหรอ


ตีพิมพ์เลยคับท่าน ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม 
IP : บันทึกการเข้า
Nongzumo
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 07 พฤศจิกายน 2013, 19:33:04 »

ขอโทษที่หายไปนานน่ะครับ เพราะผมไม่สบายมาหลายวัน เลยไม่มีโอกาศได้เขียนเรื่องราวต่อเลย
บทที่ 3 ใจหาย

จากวันแรกที่มาถึงที่นี่ หลังจากจบปีที่สาม ฉันเองก็ต้องเตรียมแพ็คกระเป๋าไปฝึกงานที่นิคมแห่งหนึ่งในจังหวัดหนึ่งทางภาคตะวันออก พอมาถึงที่นี่ฉันกลับได้ใช้ภาษาอีสาน 5555เพราะว่าคนอีสานมาทำงานที่นี่เยอะมากๆๆๆ ฉันเองก็ตื่นเต้นในฐานะที่เปนนักศึกษาฝึกงาน ด้วยความที่ฉันช่างคุย ร่าเริง ฉันจึงสนิทกับพี่ๆที่โรงงานหลายๆๆคน รวมถึงพี่ที่ดูแลฉัน แกก็เห็นฉันเป็นน้องอีกคนนึง เผลอแป็บเดียวฉันก็ฝึกงานครบตามหลักสูตรตามที่มหาวิทยาลัยกำหนดแล้ว  ก็ถึงเวลาที่ฉันต้องหอบของกลับไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยให้จบ ฉันจำบรรยากาศได้ดีว่า วันที่ฉันขึ้นรถถกลับมาที่เชียงราย ฉันรู้สึกอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่เพราะฝึกงานเสร็จหรอกครับ แต่เพราะฉันจะได้กลับเชียงรายไง 555 มันเป็นความรู้สึกเดียวกับที่ฉันกลับบ้านและนั่งรถทัวร์กลับมามหาวิทยาลัยในช่วงเปิดเทอม เช้าวันถัดมา รถทัวร์แล่นมาถึงเขตอำเภอพาน ฉันก็สะดุ้งตื่น นั่งมองข้างทางที่ฉันคุ้นเคยเวลานั่งรถทัวร์กลับ  มองเห็นหมอกในยามเช้า มองเห็นขุนเขาเขียวขจี เห็นทุ่งนาตามสองข้างทาง ฉันเองจำได้ว่ารู้สึกอบอุ่นทุกครั้ง  ฉันมักจะคิดถึงเชียงรายเสมอเวลาที่ต้องจากเชียงรายไปนาน
   วันแรกของการเปิดเทอม บัดนี้ฉันเองก้อยู่ปีที่สี่ ซึ่งเป็นรุ่นที่แก่ในมหาวิทยาลัย แต่ก็ยังมีคนแก่กว่าพวกเราอีก แต่โดยรวมเราถือว่าปีสี่คือรุ่นพร้อมจะจบ  ฉันนั่งมองดูตัวเองจากเด็กใสๆๆบัดนี้ได้กลายมาเป็นผู้ใหญ่ ปีหน้าฉันเองก็จะเปลี่ยนจากชุดนักศึกษาเป็นชุดของคนทำงาน ปัจจุบันนี้ฉันเองก็ยังเก็บชุดนักศึกษาของฉันไว้ทุกตัว และมองเพื่อนๆๆหญิงของฉันจากเด็กผู้หญิงผมสั้นๆๆ บัดนี้หลายๆๆคนสวยสะพรั่ง สวยแบบก้าวกระโดด ไม่ต้องบอกน่ะครับว่าเค้าไปทำทำอะไรมา 555 ในฐานะที่ฉันเรียนในคณะเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ นอกจากพวกเราต้องเรียนแล้ว แต่พวกเรามีสิ่งหนึ่งที่ต้องรับผิดชอบในการทำโปรเจคก่อนพวกเราจะจบ ปอ ตรี เป็นการนำความรู้ทั้งหมดที่เราเรียนมาตั้งแต่ปีหนึ่งมาใช้ในการทำ อย่าถามว่าความรู้ยังมีอยู่มั๊ย ขอบอกว่าลืมไปตามกาลเวลาครับ ทำให้ต้องฟื้นฟูครั้งใหญ่  จำได้เสมอว่าหลายครั้งท้อมากๆๆ จนแทบอย่าจะร้องไห้ แต่อาจารย์ที่ปรึกษาท่านบอกว่า “ อาจารย์ก็เคยทำโปรเจคมาก่อน อย่าเครียด ถ้าเราเหนื่อยก็พักก่อน แต่ให้เราสู้ๆๆ อีกไม่นานเราก็จะได้ใส่ชุดครุยแล้ว พอมองย้อนกลับมา เราก็จะภูมิใจ อีกอย่างในชีวิตของการเรียนปอตรี เราก็มีโอกาสทำมันได้แค่ครั้งเดียว เพราะฉะนั้นจงสู้ๆ ๆๆ” ขอบคุณน่ะครับอาจารย์ มันก็จริงอย่างที่อาจารย์ว่า ในตอนนี้ฉันเองก็ลองมองย้อนกลับไปวันวาน ฉันก็ยังจดจำภาพเหล่านั้นได้ดี มันก็เป็นความทรงจำที่เราเคยเหนื่อยและผ่านมันมาได้  พอนับๆๆดู ฉันเองรู้สึกว่าการอยู่ปีสี่เวลาได้ผ่านไปเร็วมากๆๆๆ เผลอแป็บเดียวอีกไม่กี่เดือนก็จะจบแล้ว เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก แต่ฉันเชื่อว่าเพราะฉันมีความสุขที่ได้ตื่นมาทุกๆๆเช้า ฉันมีความสุขที่ได้มาอยู่ชายคาแดนล้านลาน เวียงเจียงฮาย ดีใจที่เจอกับธรรมชาติที่สวยงามและอากาศที่ดี  ใช้ชีวิตด้วยความสงบแลละเรียบง่าย ส่วนฉันเองก็จะจบปีสี่แล้วพร้อมๆๆกับวันเวลาที่มาเรียนที่นี่ตลอดเวลาสี่ปีก็กำลังจะหมดไป ฉันยังจดจำภาพเหล่านั้นๆได้ดี ไม่ใช่เพราะฉันความจำดีหรอก แต่เป็นเพราะฉันได้บันทึกช่วงเวลาที่เกิดขึ้นในปีสุดท้ายของเชียงราย พอมาเปิดอ่านดูก็มีความสุขทุกครั้ง อดอมยิ้มไม่ได้  จนถึงวันสอบปลายภาคของเทอมสองผ่านไป แอบใจหายน่ะเพราะเป็นการสอบครั้งสุดท้ายในปอ ตรีของฉันที่จะได้มีโอกาสมานั่งสอบแบบนี้  แต่ถึงจะสอบเส็ดแต่งานหนักที่ยังรอฉันอยู่คือ การปั่นเล่มโปรเจคต่อ แต่สุดท้ายฉันก็ผ่านไปได้ด้วยดี ยังจำได้แม่นเลยว่าหลังจาการสอบโปรเจคจบไปแล้ว ฉันน้ำตาร่วงแทบเป็นสาย เผลอๆๆอาจารย์แกอาจจะตกใจ แต่ฉันก็รู้สึกว่าภาระในการทำโปรเจคลุล่วงไปได้ด้วย ดี รู้สึกโล่งมากกกก ฉันทำสำเร็จแล้ว ฉันเชื่อว่าถ้าเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด ความสำเร็จก็จะตามมา  เฉกเช่นคำว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 07 พฤศจิกายน 2013, 19:48:26 โดย Nongzumo » IP : บันทึกการเข้า
blue dragon
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 924


..แดดสุดท้าย..


« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 07 พฤศจิกายน 2013, 21:30:51 »

เรื่องราวสนุกดีครับ
รอให้มาเขียนต่อนะครับ รออ่านอยู่
IP : บันทึกการเข้า

กั๋นว่าจะมัด บ่ต้องมัดด้วยป๋อ กำปากกำคอ มัดกั๋นก็ได้
https://www.facebook.com/skyline.blue.9
KATAI-ZAA
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330


How about you...


« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 07 พฤศจิกายน 2013, 22:15:48 »

สนุกดีค่ะ เราก็เคยพลัดถิ่นไปเรียนที่ไกล ไปคนเดียวครั้งแรกเหมือนกัน ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

แกง เขียว หวาน...
PHAN2002
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 143


« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 11 พฤศจิกายน 2013, 08:31:24 »

รออ่านบทที่ 4
IP : บันทึกการเข้า
Dragon20
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 539



« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 11 พฤศจิกายน 2013, 13:34:55 »

โปรดติดตามต่อไป  ยิ้มเท่ห์
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!