โรงไฟฟ้าถ่านหินที่จะสร้างโดย TNDT ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ของพม่า ห่างจากอำเภอแม่สายเรา
เป็นมาย่างไร จะสร้างจริงๆเมื่อไหร่ แล้ว พวกเราชาวแม่สาย จะได้รับ มลพิษจากถ่านหินที่ใช้กับโรงไฟฟ้ามากน้อยเพียงไร กระแสลม ที่จะพัดกลุ่มควันที่เกิดจากการเผาไหม้นั้นมาทางแม่สายเราหรือไม่
พวกเราชาวแม่สาย เตรียมความพร้อมจะรับ มลพิษเหล่านี้หรือยัง
http://www.tndt.co.th/investor_th.htmlhttp://www.tndt.co.th/news_14_th.htmlhttp://www.irplus.in.th/Listed/TNDT/frame_news_detail.asp?newsid=3212783&lang=T&title=1&subtitle=1TNDT บวกกว่า 5% หลังจ่อเซ็นงานในพม่าQ3นี้ ด้านกูรูแนะทยอยขาย
ผู้สื่อข่าวรายงาน ความเคลื่อนไหว ราคาหุ้น บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) หรือ
TNDT ในช่วงเช้าวันนี้ว่า เพิ่มขึ้นกว่า 5% หลังบริษัทจะเซ็นสัญญาสร้างโรงไฟฟ้าที่พม่าภายใน
Q3 พร้อมมีแผนแตกพาร์ ต่อจากเซ็นงานสร้างโรงไฟฟ้าที่พม่า
นายอภิสิทธิ์ ลิมป์ธำรงกุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เกีย
รตินาคิน จำกัด เปิดเผยว่า ราคาหุ้นมีแนวรับที่ 11.20 บาท แนวต้าน 12 บาท แนะนำ ทยอยขาย
ณ เวลา 10.21 น. ราคาหุ้นอยู่ที่ 11.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือ 6.31% มูลค่า
การซื้อขาย 5.17 ล้านบาท
Update/TNDTคาดหุ้นบวกแรง รับข่าวจ่อเซ็นสัญญาสร้างโรงไฟฟ้าที่พม่า ภายใน Q3/56 -มี
แผนแตกพาร์
TNDTคาดหุ้นบวกแรง รับข่าวจ่อเซ็นสัญญาสร้างโรงไฟฟ้าที่พม่า ภายใน Q3 พร้อม
มีแผนแตกพาร์ ต่อจากเซ็นงานสร้างโรงไฟฟ้าที่พม่า หลังดีมานด์หุ้นมีมากขึ้น มั่นใจรายได้-กำ
ไรโตเข้าเป้า 10% ระบุครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก หลังปรับขึ้นค่าบริการให้สอดคล้องกับต้นทุน
นางสาวชมเดือน ศตวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน)
หรือ TNDT เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ถึงกรณีที่ราคาหุ้น TNDT ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง
ในวันนี้ ว่าอาจจะเป็นการเข้ามาเก็งกำไรของนักลงทุน เรื่องความคืบหน้าของการเข้าลงทุนใน
เหมืองถ่านหินและโรงไฟฟ้าที่ประเทศพม่า ซึ่งใกล้จะได้ข้อยุติลง โดยเบื้องต้นคาดว่าน่าจะมี
การเซ็นสัญญาได้ภายในไตรมาส 3 นี้
' ปัจจุบันเหลือเพียงรายละเอียดด้านกฎหมายต่างๆ กับรัฐบาลพม่าในส่วนของการ
สร้างโรงไฟฟ้าเท่านั้น และหากมีการเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างโรงไฟ
ฟ้าขนาด 20 เมกกะวัตต์ ได้แล้วเสร็จภายในเวลา 1 ปีครึ่ง ซึ่งโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะขายจำหน่าย
ไฟฟ้าให้กับรัฐบาลพม่า' นางสาวชมเดือน กล่าว
ในส่วนของมูลค่าการลงทุน หรือ รายได้ที่จะเข้ามาจากโครงการในพม่านั้น ต้องรอให้
มีการเซ็นสัญญาต่างๆ เรียบร้อยก่อนจึงจะสามารถแจ้งได้ แต่เชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยหนุนผล
ประกอบการของบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างมั่นคงได้ในอนาคต
สำหรับสัดส่วนงานในต่างประเทศปีนี้ จะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ราว 10% จากปีก่อนที่อยู่ที่ 5%
ที่เหลือเป็นงานในประเทศ
นางสาวชมเดือน กล่าวต่อว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาการแตกพาร์ เพื่อเพิ่มสภาพ
คล่องของหุ้น หลังมีนักลงทุนสนใจลงทุนหุ้น TNDT เป็นจำนวนมาก แต่ไม่สามารถเข้าซื้อได้
เพราะมีจำนวนหุ้นในตลาดน้อย ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ถือครองหุ้นในสัดส่วนที่มาก
' เรื่องแตกพาร์นั้นจำเป็นต้องทำ เพราะนักลงทุนหลายรายให้ความสนใจแต่ไม่
สามารถซื้อได้ สภาพคล่องมันน้อย ซึ่งผู้ถือหุ้นหลักๆ ก็ไม่มีแผนจะขายออกอยู่แล้ว ฉะนั้นการแตก
พาร์จึงเป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุด แต่ในส่วนของรายละเอียดนั้นก็อยู่ระหว่างการศึกษา ซึ่งคาดว่า
จะเป็นเร็วๆ นี้ อาจจะเป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกับการเซ็นสัญญาโรงไฟฟ้าที่พม่าก็เป็นได้ แต่ยังให้ราย
ละเอียดมากไม่ได้' นางสาวชมเดือน ระบุ
ทั้งนี้ จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free float) ณ วันที่ 12 มี.ค.56 อยู่ที่ 1,341 ราย
คิดเป็น 35.61% โดยผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 1 คือ นางสาวชมเดือน ศตวุฒิ จำนวน 43.83%
อันดับ 2 คือ นายเกริกเกียรติ ศตวุฒิ 4.27% และอันดับ 3 คือนายเจริญ วัฏฏะสิงห์ จำนวน
4.15%
บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 1 บาท/หุ้น หรือคิดเป็นทุนจดทะ
เบียน 100 ล้านบาท ณ วันที่ 29 ก.ค. 2556 มีค่า P/E อยู่ที่ 14.21 เท่า
ด้านแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง นางสาวชมเดือน คาดว่าจะดีกว่าครึ่งปี
แรก เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบปัญหาเรื่องการขาดแคลนวัตถุดิบและ
แรงงาน ทำให้มาร์จิ้นไม่ดีมาก
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้แก้ไขปัญหาดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้ว ประกอบกับจะเริ่มรับ
รู้รายได้จากงานบริการทดสอบและตรวจสอบด้านความปลอดภัยทางวิศวกรรมด้วยเทคนิคไม่
ทำลาย ในราคาใหม่ที่ได้ปรับเพิ่มขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนค่าแรง ดังนั้น ในปีนี้บริษัทฯ จึง
มั่นใจว่างรายได้และกำไรสุทธิจะเติบโตในระดับ 10%
ปัจจุบัน มีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog)ประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับ
รู้รายได้ในปีนี้ และยังไม่รวมงานที่จะได้เพิ่มเข้ามาอีก จากการเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อ
เนื่อง
ราคาหุ้น TNDT ปิดตลาดที่ 11.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือ 6.31% มูลค่าการ
ซื้อขาย 51.78 ล้านบาท