เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 มีนาคม 2024, 04:22:19
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  บอร์ดกลุ่มชมรม
| |-+  ชมรมคนรักรถ
| | |-+  ขอคำแนะนำชุดอุปกรณ์ล้างรถหน่อยครับ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ขอคำแนะนำชุดอุปกรณ์ล้างรถหน่อยครับ  (อ่าน 1353 ครั้ง)
beeringz
สมาชิกลงทะเบียน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 441



« เมื่อ: วันที่ 04 กรกฎาคม 2013, 20:14:03 »

ขอคำแนะนำชุดอุปกรณ์ล้างรถหน่อยครับ เพิ่งจะออกรถเป็นคันแรก
จะล้างร้านบ่อยๆก็คงไม่ไหว รถสีดำเห็นรอยโคลนง่ายอยู่ด้วย
มีงบประมาณ1000 บาท
จะใช้แชมพูล้างรถแบบไหนดี
ฟองน้ำล้างรถแล้วก็ผ้าเช็ดแห้ง
แนะนำร้านด้วยก็ดีครับ pmก็ได้ ไม่ค่อยรู้จักในเมือง เป็นคนลำปางมาพักอยู่ที่ อ.พานครับ
IP : บันทึกการเข้า
beeringz
สมาชิกลงทะเบียน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 441



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 05 กรกฎาคม 2013, 07:30:24 »

 ยิ้มเท่ห์
IP : บันทึกการเข้า
กบฏ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,025



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 05 กรกฎาคม 2013, 09:17:20 »

ขอยืมบทความจากทาง อ.จู๊ด แห่งร้าน Bwash มาให้อ่านหน่อยครับ...

สำหรับคนที่อยากล้างรถง่ายๆ ไม่ได้ขายของนะครับ สอบถามกันเอาเอง



ทุกวันนี้ มีลูกค้าสนใจสอบถามเรื่องเคลือบแก้วเยอะมาก ผมเคยเขียนไว้ในเว็บ เชียงรายโฟกัสหลายครั้ง เลยถือโอกาสรวบรวมมาไว้ที่นี่


เคลือบแก้ว คือเทคโนโลยีการปกป้องสีรถ ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทในเมืองไทย (และทั่วโลก) เมื่อไม่นานมานี้ โดยการใช้ของเหลวที่มีส่วนประกอบของ
คว๊อทซ์, ซิลิก้า ,คริสตัล ที่เป็นองค์ประกอบของแก้ว (หรือกระจก) มาเคลือบสีรถ (Coating) ซึ่ง
เมื่อเคลือบแล้ว จะด้วยวิธีการพ่น หรือทาก็แล้วแต่ น้ำยาจะแข็งและใสเป็นแก้ว จึงเรียกว่า เคลือบแก้วหรือ Hard Coating


ราคาหลักหมื่น ถึง หลักแสนบาทตัวอย่างhttp://www.crystalsealed.com/index2.html#  กดที่แทบ  CTS PACKAGE



จะเคลือบรถ เป็นหมื่นเป็นแสน ไม่อยากรู้จักน้ำยาหรือ?ปัจจุบัน มีการโฆษณาเคลือบแก้วกันเต็มไปหมด แต่ที่น่าข้องใจคือ น้ำยาแต่ละยี่ห้อ ทำมาจากอะไร,
 ผลิตมาจากไหน หลายยี่ห้อแอบอ้างว่ามาจากญี่ปุ่น มาจากเกาหลี มาจากเยอรมัน แต่พอค้นหาจริงๆ กลับพบว่า ในประเทศเหล่านั้น ไม่มีน้ำยายี่ห้อดังกล่าว !
 เท่าที่ผมลองสืบดูที่มาที่ไป ที่พอจะหาอ้างอิงได้ จากประเทศผู้ผลิต
 เช่น  C Quartz (ของ Carpro เกาหลี)  , Seeker (ของเยอรมัน) อันนี้ก็ยังไม่รู้ว่ามีเคลือบแก้วรึเปล่า , GTECHNIQ (ของอังกฤษ)
นอกนั้น ผมยังหาต้นตอไม่เจอว่าน้ำยามาจากไหน โดยเฉพาะของญี่ปุ่นที่มักอ้างถึงกันอยู่บ่อยๆ
ท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมก็ช่วยๆกัน update หน่อยนะครับ


เนื่องจากกระแสเคลือบแก้วมาแรงมาก ประกอบกับการไม่รู้ข้อมูลทั้งส่วนของลูกค้าและผู้ประกอบการ

ปัจจุบันจึงเป็นกระแส ที่พบเห็นได้ทั่้วไปตามร้านล้างรถ ผมเคยขับรถไปต่างจังหวัด และเห็นป้ายติดไว้ว่า เคลือบแก้ว เริ่มต้น 150 บาท  


เมื่องานพ่อขุนฯ ที่ผ่านมา ก็เห็นว่ามีน้ำยาเคลือบแก้วขาย "กระปุก" ละไม่กี่ร้อยบาท !

ผมมั่นใจว่า น้ำยาเหล่านี้ ปล่อยไว้ให้เซ็ตตัว หรือแห้ง จะไม่แข็งตัวเป็น "แก้ว" หรือ "กระจก"  เหมือนน้ำยา Hard Coating ที่ผมกล่าวข้างต้นแน่นอน
 เพราะมันคือน้ำยาเคลือบรถประเภท แว๊กซ์ ทั่วๆไปนั่นเอง



ยังมีการเคลือบแก้วอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งมักเรียกกันว่า Soft Coating


คือการขัดรถจนเงาใส เหมือนกระจก แล้วใช้น้ำยา "ประเภทแว็กซ์" แต่อาจจะติดทนกว่าแว็กซ์ทั่วไป เคลือบทับความใสของผิวรถเพื่อปกป้องไว้ให้อยู่นาน
 เมื่อมองเผินๆ รถจะมีความเงาใส มากกว่าเคลือบแว็กซ์ธรรมดา จึงอาจจะเรียกกันว่า "เคลือบแก้ว" ขอให้เข้าใจว่า มันไม่ใช่แก้วจริงๆ เหมือนแบบแรก
 แต่เห็นเรียกกันว่า "เคลือบแก้ว" เหมือนกัน แต่เป็นแบบ ซอฟท์โค้ท ซึ่งแน่นอนว่าความแข็งและการปกป้องผิวรถ สู้แบบฮาร์ทโค้ท ไม่ได้แน่


การปกป้องรถก็ไม่ต่างจากการเคลือบแว็กซ์ดีๆทั่วไป แต่อาจจะติดทนทานกว่า สวยงามกว่า เงางามกว่า  เพราะมีการขัดเตรียมผิวที่ดีก่อนเคลือบ


สิ่งที่สำคัญกว่าการเคลือบ


ลองนึกดู สมมุติว่า ท่านได้โลชั่นวิเศษมาหนึ่งขวด มีคุณสมบัติที่ปกป้องผิวของคุณได้อย่างดีเยี่ยม ก่อนทาโลชั่นขวดนั้น ท่านจะทำอะไร?


แน่นอน ท่านจะต้องล้าง ทำความสะอาด บำรุงผิวของท่านให้สะอาดที่สุด  ก่อนทาโลชั่นปกป้องผิว


การเคลือบรถก็เช่นกัน ต่อให้น้ำยาเคลือบ (ทั้งแบบซอฟท์ และแบบฮา์ร์ท ) วิเศษแค่ไหนก็ตาม สิ่งที่สำคัญกว่าคือ "การเตรียมผิว"
ซึ่งคนส่วนใหญ่ มักไม่ให้ความสำคัญ เพราะถ้าเราเตรียมผิวไม่สะอาด หรือเตรียมผิวไม่ดีพอ น้ำยาขวดละหลายพัน หลายหมื่น
ก็อาจจะติดอยู่กับรถท่านไม่ได้นานไปกว่าแว็กซ์ทั่วๆไป


** แว็กซ์เคลือบสีรถทั่วไป จะติดอยู่กับรถประมาณ 1-2 เดือน โดยเฉลี่ยล้างรถทุกสัปดาห์


กล่าวโดยสรุปเกี่ยวกับเคลือบแก้ว


จะเคลือบรถเป็นหมื่นเป็นแสนสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณา


    ให้ความสำคัญกับการเตรียมผิวให้มาก (การเคลือบสีรถด้วยแว๊กซ์ทั่วๆไป ก็เช่นกัน)
    ถามขั้นตอนการทำงาน(การเตรียมผิว / การเคลือบ) ให้แน่ชัดว่า เขาจะทำอะไร/อย่างไรกับรถของเราบ้าง
    ดูน้ำยาที่จะมาเคลือบบนรถเรา ว่ามันคือน้ำยาอะไร มีที่มาที่ไปจากไหน บริษัทมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ โดยเฉพาะถ้าอ้างอิงว่าน้ำยามาจากต่างประเทศ
ให้หาข้อมูลดูว่าที่ประเทศเหล่านั้น มีน้ำยายี่ห้อนั้นๆ อยู่จริงหรือไม่
    ความทนทานของน้ำยาที่จะเคลือบ / ระยะเวลารับประกันผลงาน



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 06 กรกฎาคม 2013, 18:01:20 โดย ฺB Wash Car Detailing » IP : บันทึกการเข้า

จากสูงสุด สู่สามัญ
กบฏ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,025



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 05 กรกฎาคม 2013, 09:18:27 »

สาระน่ารู้ : วิธีการล้างรถ และเคลือบสี ด้วยตนเอง

สำหรับคนเมืองแล้วดูเหมือนว่ารถจะกลายเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต หลายคนใช้เวลาหลายชั่วโมงต่อวันอยู่ในรถ เด็กบางคนแทบจะเรียกได้ว่าโตบนรถเลยทีเดียว
เมื่อใช้รถเราก็ต้องรู้จักดูแลเพื่อให้สามารถใช้งานได้นานๆ ก็รถแต่ละคันราคาไม่น้อยนี่ครับ แต่คุณรู้มั๊ยว่ารถก็ไม่ต่างจากคน นอกจากการบำรุงรักษาภายในแล้ว  
การดูแลรักษาภายนอกก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน แค่การดูแลเครื่องยนต์อย่างเดียว อาจไม่เพียงพอ หากจะพูดให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
คงต้องขอเปรียบเทียบกับคุณผู้หญิงที่ต้องการการถนอมผิว อาบน้ำ ทาครีมบำรุง ก็เจอกับแดดร้อน มลพิษ ฝุ่น ควัน มาทั้งวัน ไม่ดูแลให้ดีก็คงแย่เหมือนกัน
 รถยนต์ก็เช่นกันครับ ดังนั้นหากว่าเราจะหันมาใส่ใจกับเจ้าเพื่อนมีล้อให้มากกว่าเดิมอีกนิดหน่อยก็คงเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย
ลองมาดูกันดีกว่าครับว่าควรดูแลอย่างไรให้ผิวรถสวย สะอาดใส ไร้ริ้วรอย

 ที่มา http://www.carlack68ratanathibet.com/news/detail_news.php?id=457

 
   

   

[ดูภาพทั้งหมดในหมวด]

หัวข้อ

    เริ่มจากล้างรถเรื่องง่ายๆที่ง่ายจนคาดไม่ถึง
    ล้างแทบแย่แต่ถ้าเช็ดไม่ดีก็จบกัน
    สิ่งเล็กน้อยมี่ไม่ควรมองข้าม
    เคลือบสีรถด้วยตนเอง

เริ่มจากล้างรถเรื่องง่ายๆที่ง่ายจนคาดไม่ถึง

เริ่มจาก... ล้างรถ เรื่องง่ายๆ ที่ง่ายจนคาดไม่ถึง:

เคล็ดลับง่าย ๆ ของการล้างรถให้สะอาด ไม่เกิดรอย และไม่ทำลายสีรถ

1. เริ่มจากฉีดน้ำครับ ฉีดน้ำให้แรงที่สุด เพื่อให้คราบฝุ่น ขี้ดิน และสิ่งสกปรกต่างๆ หลุดออกจากตัวรถให้มากที่สุด

2. โดยปกติแล้ว การล้างรถด้วยน้ำเปล่าอย่างเดียวก็สะอาดเพียงพอแล้ว แต่อาจต้องใช้แรงในการขัดถูมากหน่อย
ถ้าอยากให้ล้างง่ายขึ้น สะอาดใสปิ๊ง ก็ให้ใช้แชมพูล้างรถร่วมด้วยครับ

3. รถก็เหมือนบ้าน เวลาทำความสะอาดต้องเริ่มจากด้านบนก่อน แล้วค่อยๆ ล้างจากส่วนบน ลงล่างนะครับ

4. แนะนำให้ใช้ผ้านุ่ม ๆ เช่น ผ้าสำลี ในการล้างรถครับ ไม่ควรใช้ฟองน้ำล้างรถ เพราะเม็ดทรายหรือฝุ่น จะติดอยู่ในรูพรุนของฟองน้ำ
เมื่อถูไปกับผิวสีรถ จะทำให้เกิดรอยขีดข่วน และถ้าทำได้ควรจะนำผ้าไปแช่น้ำไว้ก่อน ยิ่งถ้าใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มด้วยจะดีมากเลยครับ
และในขณะที่ล้างรถก็ต้องหมั่นซักและขยี้ผ้าบ่อยๆ ด้วยครับ

5. โดยทั่วไปส่วนบนของรถจะมีฝุ่นน้อย ในขณะที่ด้านล่างจะสกปรกและมีฝุ่นมาก จึงขอแนะนำให้แยกใช้ผ้า 3 ผืน
ผืนแรกใช้สำหรับล้างส่วนบน หลังคา ฝากระโปรงหน้า ฝากระโปรงหลัง และกระจกรถ
ผืนที่สองใช้ล้างด้านล่างของตัวรถ ตั้งแต่ขอบกระจก ด้านล่างลงมา
ผืนสุดท้าย ใช้สำหรับทำความสะอาดล้อ และส่วนอื่นที่สกปรกมาก ถ้ามีผ้าผืนเดียว
ก็แนะนำให้ซักผ้าบ่อยๆ นะครับ เพื่อเอาเศษฝุ่น โคลน ออกจากผ้า รถจะได้สะอาดครับ

6. ฉีดน้ำไล่แชมพูออกให้หมด ใช้ผ้าแห้งนุ่มเช็ดรถให้แห้งทันที จะได้ไม่มีฝุ่นเกาะ และไม่เกิดคราบน้ำบนผิวสีรถ

หมายเหตุ: ถ้าล้างเองคนเดียวที่บ้าน แนะนำให้ทำการล้างล้อก่อนนะครับ เพราะถ้าเราล้างตัวรถก่อน แล้วมาล้างล้อทีหลัง จะทำให้คราบน้ำ
คราบแชมพูแห้ง และทำให้เกิดปัญหาคราบน้ำได้ครับ

การใช้น้ำฉีดเป็นวิธีที่ดีสำหรับการล้างรถ แต่ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่จำเป็นต้องล้างรถ โดยใช้ถังใส่น้ำ จงท่องจำเอาไว้ในใจว่า ต้องหมั่นซักและขยี้ผ้า
 และต้องเปลี่ยนน้ำในถังบ่อย ๆ มิฉะนั้น สิ่งสกปรก และเม็ดทรายที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำ อาจทำให้เกิดริ้วรอยขีดข่วนบนรถได้ครับ

   
ล้างแทบแย่แต่ถ้าเช็ดไม่ดีก็จบกัน
...ล้างแทบแย่ แต่ถ้าเช็ดไม่ดีก็จบกัน...

 

1. ควรใช้ผ้านุ่ม ๆ ในการเช็ดรถ เนื่องจากผ้าเหล่านี้จะไม่ทำให้รถเป็นรอย การเช็ดรถที่ถูกต้องก็เหมือนกับการล้าง คือควรเช็ดจากด้านบนไล่ลงมาด้านล่างของรถ
 เพื่อให้น้ำหยดลงด้านล่างให้หมด จะได้ไม่ต้องทำงานสองต่อครับ

2. ส่วนของรถที่ต้องระวัง คือ ด้านในขอบประตูทั้งหมด ด้านในกระโปรงหลัง ด้านในฝาถังน้ำมัน กระจกหน้ารถ ควรเช็ดให้แห้งที่สุด อย่ามองข้ามเป็นอันขาดนะครับ

3. ล้อแม็กซ์ ก็ควรจะเช็ดให้แห้งด้วย เพราะถ้าไม่เช็ดจะเกิดเป็นคราบน้ำขึ้น ถ้าปล่อยไว้นาน ๆ คราบน้ำเหล่านั้นจะเช็ดออกยากจนถึงเช็ดไม่ออกเลยนะครับ

   
สิ่งเล็กน้อยมี่ไม่ควรมองข้าม

สิ่งเล็กน้อยมี่ไม่ควรมองข้าม

1. ไม่ควรล้างรถเองในตอนเย็น เพราะหากล้างแล้วจอดทิ้งไว้ อาจทำให้เกิดสนิมในจุดที่เราเช็ดไม่แห้ง เว้นเสียแต่ว่า คุณจะมีเครื่องเป่าน้ำให้แห้ง
หรือไม่ก็ต้องยอมเปลืองน้ำมันเอารถออกไปขับไกล ๆ ให้ลมช่วยทำให้ทุกซอยทุกมุมแห้งสนิท วิธีนี้คุณผู้ชายอาจใช้เป็นข้ออ้างในการออกจากบ้านตอนเย็นๆ ได้นะครับ ไม่ว่ากัน

2. ไม่ควรล้างรถกลางแดด เพราะนอกจากคนล้างอาจไม่สบายได้แล้ว แสงแดดจะทำให้น้ำแห้งเร็วจนเช็ดไม่ทัน ซึ่งอาจทำให้เกิดคราบน้ำบนผิวสีรถได้

3. ไม่ควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดรถแทนการล้างรถ เพราะจะเป็นการทำลายสภาพสี ผงฝุ่นต่างๆ ที่ติดบนผ้าจะทำให้เกิดรอยขนแมวยิ่งเช็ดรถมากครั้งขึ้นเท่าไหร่
 การเกิดรอยก็จะมากขึ้นตามไปด้วย

4. ไม่ควรใช้ไม้ขนไก่ หรือแปรงปัดฝุ่นทุกชนิด ปัดฝุ่น เพื่อทำความสะอาด เพราะมันเหมือนกับการใช้กระดาษทรายเช็ดรถเลยทีเดียว ในขณะที่ปัดฝุ่น
ไม้ปัดฝุ่นจะลากถูฝุ่นหรือเม็ดทรายไปตามผิวสีรถ ทำให้เกิดริ้วรอยได้

   
เคลือบสีรถด้วยตนเอง

เคลือบสีรถด้วยตนเอง

              รถยนต์ทุกคันมีอายุการใช้งานของสี แม้สีที่พ่นรถมาจะมีประสิทธิภาพสูง แต่สภาพอากาศบ้านเรา มีมลภาวะค่อนข้างสูง
ไม่ว่าจะเป็น ฝุ่นละออง ควัน ไอเสีย สารเคมีในอากาศ ยางต้นไม้ ซึ่งอาจทำอันตรายต่อสีรถได้ หากใช้รถไปนานวัน แต่ไม่มีการดูแลรักษา
สีรถจะดูหมอง เก่า ด้าน และสีแตกก่อนเวลาอันควร ดังนั้นการเคลือบสีจึงมีส่วนช่วยในการปกป้องสีรถ ไม่ให้หมอง เก่า ด้าน
หรือสีแตกก่อนเวลาอันควร อีกทั้งยังช่วยป้องกันรอยขีดข่วน รอยขนแมว และความร้อนจากห้องเครื่องและแสงแดด ที่สามารถทำลายสีรถ
ตลอดจน ปกป้องรถจากคราบสกปรกต่างๆ ที่เกิดจากมูลนก ยางไม้ น้ำค้าง ยางมะตอยได้

การเคลือบสีก็ไม่ยากครับ ก่อนอื่นก็เริ่มจากล้างรถให้สะอาดตามวิธีการข้างต้น แต่ไม่ต้องเช็ดแห้งนะครับ เช็ดรถแค่พอให้น้ำหมาด ๆ
จากนั้นก็เทน้ำยาเคลือบสี ลงบนผ้านุ่มที่มีน้ำหมาด ๆ ขอเน้นว่าผ้านุ่มเท่านั้นนะครับ แล้วก็เริ่มเช็ดโดยวน เป็นก้นหอยให้ทั่วบริเวณตัวรถ
ทิ้งน้ำยาไว้ตามระยะเวลาที่ระบุไว้ข้างกระป๋อง (ถ้าเป็นของคาร์แลค 68 จะทิ้งน้ำยาไว้ประมาณ 30 นาที) ช่วงนี้ก็พักไปทำกิจกรรมอื่นๆ
ได้ตามใจชอบ หรือถ้ามีเวลาเยอะหน่อยจะทิ้งไว้ทั้งวัน เคลือบเช้า เช็ดเย็นก็ยังได้ แบบว่ายิ่งนานยิ่งดี แต่ไม่ต้องถึงขนาดข้ามวันข้ามคืนนะครับ
อันนี้เกินไปนิด พอครบกำหนดก็ใช้ผ้านุ่มเช็ดน้ำยาออกให้หมด แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จ ที่เหลือก็แค่... ใช้ตาครับ ชื่นชมกับผลงานของคุณเอง
รับรองครับว่าหายเหนื่อยครับ

แม้ว่าการเคลือบสีจะเป็นการปกป้องสีรถ แต่หากเคลือบสีอย่างเดียวบ่อยๆ สีรถอาจจะดูหมอง ๆ ไปบ้าง เนื่องจากบนผิวสีรถ อาจมีคราบสกปรก
หรือคราบมลภาวะ มลพิษที่อาจจะทำลายแลคเกอร์ของรถได้ฝังอยู่ ซึ่งถ้าเคลือบทับไปบ่อยๆ ก็จะทำให้คราบสกปรกเหล่านั้นฝังตัวแน่นขึ้น
 ที่แย่ไปกว่านั้นคือ ถ้าเกิดมีละอองสี หรือยางมะตอยฝังอยู่โดยที่เราไม่รู้ และไม่ได้ขจัดมันออกไปก่อน เมื่อเคลือบทับลงไป
สิ่งเหล่านี้จะคอยกัดกินผิวสีรถของคุณทำให้ผิวสีรถเป็นรูเล็ก ๆ รถจึงดูหมองลงได้

ข้อแนะนำคือคุณควรจะนำรถไปขัดเคลือบสีตามศูนย์บริการต่างๆ บ้าง การขัด และเคลือบสี ก็คือการที่เรานำสิ่งสกปรกฝังแน่นที่อยู่บนหน้าแลคเกอร์ของสีรถออกไป
ทำให้รถมันมีประกายด้วยตัวของแลคเกอร์รถที่แท้จริง เมื่อรถไม่มีคราบแล้ว เราก็ปกป้องความสวยของผิวสีรถนั้น ด้วยการเคลือบสี
ทับลงไป ซึ่งจะทำให้รถมีความเงางาม ใส ไม่มีคราบสกปรกฝังอยู่แต่อย่างใด รถจะสวย ใสอยู่ตลอดเวลา ผิวสีรถจะลื่น น้ำและฝุ่นไม่เกาะ
รถไม่หมอง แต่ไม่ต้องขัดสีบ่อยนะครับ ประมาณ 4-6 เดือนครั้งก็พอ จากนั้นก็เคลือบสีด้วยตัวเองที่บ้าน เคลือบสีนี่ขอแนะนำให้ทำบ่อย
สักหน่อย อาจจะเดือนละครั้งก็ได้ครับ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความพอใจครับ

   วันหยุดหรือเวลาว่างถ้าไม่รู้จะทำอะไร ออกจากบ้านก็เจอรถติด เสียสุขภาพจิตเปล่าๆ ลองเปลี่ยนมาหยิบถังน้ำ ผ้า แชมพูล้างรถ
แล้วมาล้างรถกันดีกว่า หรือถ้าจะให้ดีก็เคลือบสีไปด้วยเลย ได้ออกกำลังเพื่อสุขภาพกาย แถมได้รถใหม่เอี่ยมจากฝีมือเราเอง ทั้งภูมิใจ
ทั้งสบายใจ บริหารสุขภาพจิตไปในตัว ถือว่าเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดเลยทีเดียว แต่ถ้าไม่อยากเหนื่อยแรงหรือไม่มีเวลา
 ลองหาศูนย์บริการที่ถูกใจ ฝากฝังความงามของเจ้าเพื่อนยากให้เค้าดูแลแทนก็ได้ครับ ยอมจ่ายเงินเพิ่มอีกนิด แต่คุ้มครับ ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ


ที่มา http://guru.sanook.com/pedia/topic/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%
B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89_|10|_%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%81%
E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%96_%E0%B9%81%
E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%AA%
E0%B8%B5_%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AD%
E0%B8%87/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 06 กรกฎาคม 2013, 18:05:15 โดย ฺB Wash Car Detailing » IP : บันทึกการเข้า

จากสูงสุด สู่สามัญ
กบฏ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,025



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 05 กรกฎาคม 2013, 09:23:54 »

เอาไปดูเล่นๆ นะครับ....รถที่เคลือบน้ำยา GTECHNIQ EXO

IP : บันทึกการเข้า

จากสูงสุด สู่สามัญ
beeringz
สมาชิกลงทะเบียน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 441



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 05 กรกฎาคม 2013, 21:11:57 »

ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูล
ผมอยากได้ร้านที่ขายอึปกรณ์พวกล้างรถเพิ่มเติม
นอกจาก บิกซี เซนทรัล ไม่รู้จะไปซื้อที่ไหนเลยครับ
IP : บันทึกการเข้า
ฺB Wash Car Detailing
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,001


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 06 กรกฎาคม 2013, 17:51:41 »

ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูล
ผมอยากได้ร้านที่ขายอึปกรณ์พวกล้างรถเพิ่มเติม
นอกจาก บิกซี เซนทรัล ไม่รู้จะไปซื้อที่ไหนเลยครับ


แวะมาคุยที่ร้านก็ได้ครับ
ปกติผมไม่ได้ขาย แต่ซื้อยกโหล เอามาใช้ล้างรถให้ลูกค้าที่ร้าน
อันไหนแบ่งไปใช้ได้ก็แบ่งไป อันไหนไม่มี ผมสั่งให้ได้ ราคาพิเศษ ไม่เกิน 3 วันได้ของ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 07 กรกฎาคม 2013, 00:31:19 โดย ฺB Wash Car Detailing » IP : บันทึกการเข้า
ฺB Wash Car Detailing
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,001


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 07 กรกฎาคม 2013, 00:36:48 »

งบประมาณ 1 พันบาท

1. ถังน้ำ 2 ใบ สำหรับแชมพู1ใบ และน้ำเปล่าสำหรับล้างฟองน้ำ 1 ใบ ถ้ามีตังค์เหลือ หาซื้อกริด กันฝุ่นที่ก้นถังจะดีมาก

2. ฟองน้ำ (หรือถุงมือล้างรถ)
3. แชมพู
4. ผ้าเช็ดรถ

น่าจะประมาณนี้ครับ

แชมพู : ถ้ารถเคลือบแว็กซ์ให้เลือกใช้แชมพูที่มีค่ากรด-ด่างเป็นกลาง (pH 7) เพราะจะไม่ชะล้างแว็กซ์ที่เคลือบไว้ ทำให้ติดทนนาน

ผ้าเช็ดรถ : เป็นชามัวร์ได้จะดีมาก (ชามัวร์หนังแท้ ที่ไม่ใช่ฟองน้ำ ราคาเกือบพันบาท)

น้ำล้างรถ : หลีกเลี่ยงการใช้น้ำบ่อ หรือน้ำบาดาล เพราะจะมีแคลเซียมและเหล็กละลายอยู่ี ถ้ัาเช็ดไม่แห้ง จะเกิดเป็นรอยคราบน้ำติดอยู่บนสีและกระจกรถ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 07 กรกฎาคม 2013, 01:17:52 โดย ฺB Wash Car Detailing » IP : บันทึกการเข้า
beeringz
สมาชิกลงทะเบียน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 441



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 07 กรกฎาคม 2013, 09:04:06 »

ขอบคุณครับ คิดว่าจะไปใช้บริการของทางร้านเคลือบแก้วเหมือนกัน แต่รอเก็บเงินซักระยะ หมดกับรถหมุนไม่ค่อยทัน เลยคิดจะล้างเองพลางๆไปก่อน ช่วงนี้ฝนตกบ่อยด้วย
ขอคำแนะนำเพิ่มเติม อ่านเจอผ้าเช็ดรถที่เป็นไมโครไฟเบอร์ (อาจจะจำชื่อผิด) ผืนละ 3-400 พอใช้ได้ไหมครับ ถ้าชามัวแท้ผืนละพัน คงยังไม่ไหว
น้ำที่บ้านเป็นน้ำบาดาล ไม่มีวิธีแก้เลยเหรอครับ T_T
IP : บันทึกการเข้า
ฺB Wash Car Detailing
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,001


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 07 กรกฎาคม 2013, 10:19:12 »

ขอบคุณครับ คิดว่าจะไปใช้บริการของทางร้านเคลือบแก้วเหมือนกัน แต่รอเก็บเงินซักระยะ หมดกับรถหมุนไม่ค่อยทัน เลยคิดจะล้างเองพลางๆไปก่อน ช่วงนี้ฝนตกบ่อยด้วย
ขอคำแนะนำเพิ่มเติม อ่านเจอผ้าเช็ดรถที่เป็นไมโครไฟเบอร์ (อาจจะจำชื่อผิด) ผืนละ 3-400 พอใช้ได้ไหมครับ ถ้าชามัวแท้ผืนละพัน คงยังไม่ไหว
น้ำที่บ้านเป็นน้ำบาดาล ไม่มีวิธีแก้เลยเหรอครับ T_T

ผ้าไมโครไฟเบอร์ มีตั้งแต่ผืนละไม่กี่สิบบาท จนถึงผืนละหลายๆร้อย  (ถ้าผ่านมาที่ร้าน มาแบ่งไปใช้ครับ ผมซื้อมาใช้เดือนนึงเป็นร้อยผืน ได้ราคาพิเศษมากๆ)

น้ำบาดาล จะมีแคลเซียมกับเหล็กละลายอยู่ ล้างรถเสร็จแล้ว ต้องเช็ดให้แห้ง อย่าปล่อยให้แห้งคารถ ไม่งั้นจะเป็นคราบ โดยเฉพาะบริเวณกระจก
IP : บันทึกการเข้า
beeringz
สมาชิกลงทะเบียน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 441



« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 07 กรกฎาคม 2013, 19:42:51 »

ขอบคุณมากครับ ถ้าได้เข้าในเมืองจะแวะไปใช้บริการครับ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!