เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 08 พฤษภาคม 2024, 20:05:37
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  วิธีระงับความโกรธ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 พิมพ์
ผู้เขียน วิธีระงับความโกรธ  (อ่าน 4089 ครั้ง)
ละอ่อนโบราณ
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,466



« เมื่อ: วันที่ 21 ตุลาคม 2010, 05:51:23 »

1.นึกถึงพระพุทธโอวาท พยายามสั่งสอนตักเตือนตัวเองบ่อย ๆ ว่า
- "แน่ะ เจ้าขี้โกรธอย่างร้าย พระพุทธเจ้าทรงสอนแล้วมิใช่หรือว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แม้หากโจรที่หยาบช้า พึงเอาเลื่อยที่มีคม 2 ข้าง ตัดอวัยวะน้อยใหญ่ ผู้ใดโกรธต่อโจรนั้น ผู้นั้นไม่ชื่อว่าทำตามคำสอนของเรา เพราะเหตุที่ทำใจให้ประทุษร้ายโจรนั้น"

- ผู้ใดย่อมโกรธตอบต่อผู้ที่โกรธแล้ว ผู้นั้นเลวเสียกว่าผู้ที่โกรธทีแรกนั้นอีก เพราะเหตุที่โกรธตอบเขานั้น ผู้ที่ไม่โกรธตอบผู้ที่โกรธตัวแล้ว ชื่อว่าย่อมชนะสงครามซึ่งชนะได้แสนยาก ผู้ที่รู้ว่าคนอื่นโกรธแล้ว ย่อมประพฤติเป็นประโยชน์ ทั้ง 2 ฝ่าย คือทั้งฝ่ายตนและผู้อื่น เป็นมีผู้มีสติ ย่อมสงบระงับได้


2. ถ้ายังไม่ระงับให้นึกถึงความดีของผู้นั้น ที่เคยทำให้แก่เรา ให้แก่ชาติเรา สังคมเรา
พึงฝึกใจให้นึกถึงความดีของคนอื่นไว้บ่อย ๆ อย่าได้นึกถึงความชั่วของเขาเลย แล้วความเกลียดความโกรธจะหายไป ใจจะประเสริฐขึ้น


3. ถ้านึกถึงความดีผู้นั้นแล้ว ความอาฆาตยังมีอยู่อีก ให้สอนตัวเอง
- "ถ้าว่า ทุกข์อันศัตรูทำแก่ท่านที่กายของท่าน แล้วทำไมท่านจึงมาต้องการให้ความทุกข์เกิดในใจท่าน ซึ่งมิใช่ร่างกายของศัตรูของท่านเล่า"

- "ท่านรักษาศีลเหล่าใดไว้ แต่ความโกรธอันเป็นเครื่องทำลายศีลเหล่านั้นของท่าน ท่านยังพะนอมันไว้อยู่ ใครเล่าจะเซ่อเท่าท่าน"

- "ท่านโกรธว่าคนอื่นทำความเสียหายให้ โอ! ไฉนท่านจึงยังทำความเสียหายเช่นนั้นเสียอีกเล่า"

- "คนอื่นผู้ต้องการทำให้ท่านแค้น จึงทำสิ่งที่ไม่พอใจให้ ไฉนท่านจึงยังมโนรถ (ความต้องการ) ของเขาให้สำเร็จด้วยวิธีบันดาลความแค้นให้เกิดขึ้นในตัวท่าน"

- "ก็ท่านโกรธแล้ว จะทำความทุกข์ให้แก่เขาได้หรือไม่ก็ตามที แต่บัดนี้ ท่านชื่อว่าเบียดเบียนตนเอง ด้วยทุกข์อันเกิดจากความโกรธนี้เป็นแม่นมั่น"

- "ถ้าหากว่า คนที่เป็นศัตรูก่อความโกรธจองเวรขึ้น อันเป็นทางที่ไร้ประโยชน์ แล้วทำไมท่านจึงโกรธตอบชื่อว่าเอาอย่างเขาเล่า"

-"ศัตรูอาศัยความแค้น จึงทำความน่าชังให้แก่ท่าน ท่านก็จงตัดความแค้นนั้นเสีย จะมามัวลำบากในสิ่งที่ไม่ควรไปทำไมกัน"

-"ความ ไม่พอใจอันขันธ์เหล่าใดกระทำแก่ท่าน ขันธ์เหล่านั้นก็ไม่เที่ยง ดับไปแล้ว เพราะธรรมทั้งหลายเป็นไปชั่วขณะ เดี๋ยวนี้ท่านโกรธใครในโลกนี้เล่า (คือทุกสิ่งไม่มีตัวตนที่ควรเข้าไปยึดมั่นเลย)"

- "ท่านเองเป็นต้นเหตุแห่งความทุกข์เดือดร้อนเสียเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ แล้วทำไมท่านจึงโกรธคนอื่นเขาเล่า"


4. ถ้าความโกรธยังไม่ระงับให้ถือว่าทุกคนมีกรรมเป็นของของตน
กรรม ชั่วอันเกิดจากความโกรธของท่านนี้ จะบันดาลให้เกิดผลดีใด ๆ แก่ท่านไม่ได้เลย มีแต่จะทำความเสียหายแก่ท่านฝ่ายเดียวให้ได้รับความทุกข์ ความเสื่อมเกียรติในชาตินี้ และยังจะก่อให้เกิดความทุกข์ในนรกอีกด้วย ท่านโกรธสร้างกรรมเช่นนี้ขึ้น ก็ชื่อว่าเผาตัวเอง และสร้างความเน่าเหม็นให้แก่ตัวเอง

ท่านผู้ที่โกรธนี้ก็มีกรรมเป็นของตน ทำกรรมใดไว้ ก็จะต้องได้รับผลของกรรมนั้นเช่นกัน กรรมชั่วของเขานี้ จะบันดาลให้เขาได้รับผลดีใด ๆ ก็หาไม่ แต่กลับทำให้เขาเดือดร้อนในปัจจุบัน และยังได้รับทุกข์ในอบายมีนรกเป็นต้นอีกด้วย ผู้ทำกรรมชั่วเช่นนี้ เปรียบเหมือนคนยืนอยู่ใต้ลมซัดธุลี ใส่คนที่อยู่เหนือลาม แต่มันกลับปลิวมาใส่ตนเองฉะนั้น


5. ถ้าความโกรธยังไม่ระงับ ให้นึกถึงจารีตของพระพุทธเจ้า
เช่น ในสมัยเมื่อพระองค์เสวยพระชาติเป็นขันติวาทีดาบส ผู้ถูกพระเจ้ากาสีทรมาน และในสมัยเสวยพระชาติเป็น ธรรมปาลกุมาร ผู้ถูกพระเจ้ามหาตปะ รับสั่งให้ตัดมือตัดเท้า แม้แต่พระพุทธองค์ถูกพระนางมาคันทิยาผู้โกรธแค้นพระองค์ จ้างพวกทาสมารุมด่าพระองค์และภิกษุด้วยคำหยาบคายต่าง ๆ ในสมัยที่พระองค์เสด็จประทับอยู่ที่เมืองโกสัมพี แต่พระองค์ไม่โกรธตอบ และได้ตรัสว่า
"เรา จักอดกลั้นต่อคำล่วงเกิน ดั่งช้างอดทนต่อลูกศรซึ่งตกลงมาจากแล่งในสงคราม เพราะว่าคนเป็นอันมากเป็นคนทุศีล, ในหมู่มนุษย์ ผู้ใดอดกลั่นคำกล่าวล่วงเกินได้ ผู้นั้นชื่อว่าได้ฝึกตนแล้ว เป็นผู้ประเสริฐที่สุด ม้าอัสดรที่ฝึกแล้ว เป็นสัตว์ประเสริฐ ม้าอาชาไนย ม้าสินธพที่ฝึกแล้ว เป็นสัตว์ประเสริฐ พญาช้างชาติกุญชรที่ฝึกแล้ว เป็นสัตว์ประเสริฐ แต่ผู้ที่ฝึกตนแล้ว ประเสริฐกว่านั้น"

แม้พระพุทธเจ้าก็ยังถูกด่า ยังถูกดูหมิ่นแล้วนับประสาอะไรกับคนอย่างเราที่จะไม่ถูกด่า ไม่ถูกดูหมิ่นบ้าง พระองค์ไม่ทรงพิโรธ และทรงอดทนจนประสบความสำเร็จเป็นตัวอย่างที่ดีเลิศมาแล้ว เราเองก็ควรจะทำตามรอยพระยุคลบาท ของพระองค์ในเรื่องนี้ เมื่อนึกถึงอย่างนี้อยู่บ่อย ๆ ความแค้นเคืองก็จะสงบไปได้ในที่สุด


6. ถ้ายังไม่ระงับให้นึกถึงสังสารวัฏอันไม่มีที่สิ้นสุด
ทุกคนเคยเป็นญาติพี่น้องกันมาก่อน ไม่เคยมีใครเลยที่ไม่เคยเป็นญาติพี่น้องกันมาในสังสารวัฏ ที่คนเราเคยเกิดมาแล้วนับชาติไม่ถ้วน

คน ที่เราโกรธแค้น ต้องการให้เขาฉิบหายนั้น ในชาติก่อน เขาอาจจะเคยเป็นพ่อเป็นแม่ เป็นพี่เป็นน้อง เป็นลุงป้าอาปู่ย่าตายายของเราก็ได้ ถ้าเราโกรธหรือทำร้ายคนผู้นั้น ก็เท่ากับว่าเราทำร้ายญาติสายโลหิตของเรา เช่น หญิงที่เป็นศัตรูของเรา ในชาติก่อนอาจเคยเป็นแม่ของเราก็ได้ ซึ่งเคยอุ้มท้องเลี้ยงดูเรามาด้วยความยากลำบาก และด้วยความรัก ความเอ็นดู ถ้าเราฆ่าหรือทำร้ายหญิงคนนั้น ก็เท่ากับเราฆ่าหรือทำร้ายแม้ของเรานั่นเอง หรือชายที่เราโกรธแค้นนั้น ในชาติก่อนอาจเป็นพ่อของเราก็ได้ ซึ่งเคยฝ่าอันตรายช่วยชีวิตเรามาเลี้ยงดูเราด้วยความ ยากลำบาก และมีความรักความเอ็นดูเรามาก่อน ถ้าเราฆ่าหรือทำร้ายชายคนนั้น ก็เท่ากับเราฆ่าหรือทำร้ายพ่อของเรานั่นเอง


7. ถ้ายังไม่รับให้ระลึกถึงอานิสงส์เมตตา
ทำให้มากแล้ว ตั้งมั่นไว้แล้ว สั่งสมชำนาญแล้ว ปรารถนาสม่ำเสมอแล้ว หลับเป็นสุข ตื่นเป็นสุข ไม่ฝันร้าย เป็นที่รักของพวกมนุษย์ เป็นที่รักของพวกอมนุษย์ เทวดาย่อมรักษา ผู้นั้นไม่มีไฟหรือพิษหรือศัสตราที่จะกล้ำกรายได้ จิตย่อมเป็นสมาธิได้เร็ว สีหน้าย่อมผ่องใส ไม่หลงฟั่นเฟือนในเวลาใกล้ตาย เมื่อยังไม่บรรลุธรรมชั้นสูงก็จะไปเกิดในพรหมโลก


8. ถ้าความแค้นเคืองยังไม่ระงับให้ทำการแยกธาตุ
"เฮ้ย เจ้าขี้โกรธอย่างไรกัน ก็เมื่อท่านโกรธผู้นี้ จะโกรธส่วนไหนของเขา คือ จะโกรธผม หรือจะโกรธขน หรือจะโกรธเล็บ ในอาการ 32 ในร่างกาย ท่านจะโกรธส่วนไหนของเขา หรือว่าในบรรดาธาตุ 4 อันก่อเข้าเป็นร่างกายนี้ ท่านจะโกรธส่วนไหน คือ จะโกรธธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ หรือธาตุลม

หรือว่า ในบรรดาขันธ์ 5 อายตนะ 12 ธาตุ 18 ที่ประกอบขึ้นมาเป็นตัวศัตรูนี้ ท่านจะโกรธส่วนไหนของเขา คือจะโกรธรูปขันธ์ หรือเวทนาขันธ์ หรือวิญญาณขันธ์ หรือจะโกรธตา จะโกรธหู หรือจะโกรธมโนธาตุ หรือมโนวิญญาณธาตุ ของเขา"


9. ถ้ายังไม่หายแค้นเคืองให้ทำการเผื่อแผ่
คือ แบ่งปัน หรือให้ของของตนแก่ศัตรูนั้นบ้าง รับของศัตรูที่ให้ตนบ้าง เมื่อทำอย่างนี้บ่อย ๆ ความอาฆาตในผู้นั้นย่อมลดน้อยลง หรือระงับได้ทีเดียว เพราะว่าการให้ (ทาน) ย่อมผุกไมตรีกันและกันไว้ได้ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รักของผู้รับ เพราะทานมีอานุภาพมาก ฉะนั้นพระพุทธเจ้าจริงตรัสไว้ว่า

"ทานเป็นเครื่องฝึกคนที่ฝึกไม่ได้ ทานยังประโยชน์ทุกอย่างให้สำเร็จ ผู้ให้ย่อมบันเทิงด้วยการให้ ฝ่ายผู้รับ ก็ย่อมถนอมน้ำใจผู้ให้ด้วยการกล่าวปิยวาจา"





ขอบคุณบทความจาก http://board.palungjit.com/
IP : บันทึกการเข้า

..............
~KT 2 U~
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,601


♥ แม่ค้าออนไลน์ ผู้ซึ่งเลี้ยงลูกอยู่บ้าน ♥


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 21 ตุลาคม 2010, 10:02:58 »

ขอบคุณเจ้า  ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ

สาธุ๊~ 
IP : บันทึกการเข้า

we two
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 995


wetwo


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 21 ตุลาคม 2010, 10:11:40 »

เก็บเป็นความรู้..เตือนสติตัวเองเวลาโกรธ
ขอบคุณค่ะ..สาธุ
IP : บันทึกการเข้า

۰•ฮักแม่จัน©®
เลวบ้างในบางเวลา
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,016


"มารบ่มี บารมี บ่เกิด.."


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 21 ตุลาคม 2010, 10:13:58 »

สาธุจ้าๆๆๆ  โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า 
IP : บันทึกการเข้า

"ทำบุญเท่าไรก็ไม่สามารถลบล้างบาปได้ บุญอยู่ส่วนบุญ บาปอยู่ส่วนบาป"

ไม่มีใครหรอกที่จะเลวโดยสันดาน ..
หากแต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้ทำ
^<หมูช:มวง>^
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 619


~MSๅด~>~เชีeJSๅe<~


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 28 ตุลาคม 2010, 13:54:36 »

ขอบพระคุณค่ะ โกรธคนอื่นจิตเราร้อนเองคนที่เราโกรธไม่ได้รับรู้ด้วย หลวงพ่อ หลวงปู่สอนให้ปล่อยวางค่ะ^^
IP : บันทึกการเข้า

>>>"" ค ว า ม ทุ ก ข์ ... มี ไ ว้ ใ ห้ เ ห็ น .... ไ ม่ ใ ช่ .... มี ไ ว้ ใ ห้ เ ป็ น ......" ""<<<

          >>>"" มองเห็นตัวตน เท่ากับ มองเห็นธรรมะ ""<<<
นายเหตุผล
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 564



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 28 ตุลาคม 2010, 21:06:35 »

สาธุ อนุโมทนามิ
IP : บันทึกการเข้า
near near
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 31 ตุลาคม 2010, 08:01:50 »

ขอบคุณค้าบ
IP : บันทึกการเข้า
watinta
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 10 พฤศจิกายน 2010, 15:53:57 »

จงชนะผู้ที่กำลังโกรธ โดยการไม่โกรธตอบ (เมตตา) เพราะผู้ที่โกรธเขากำลังได้รับทุกขเวทนาถูกไฟ(โทสะ)เผาใหม้อยู่ แล้วเราจะต่อไฟ (โทสะ) จากเขามาเผาตัวเองอีกทำไม (พูดง่ายแต่ทำยากเน้อ) เจ๋ง   ขอบคุณธรรมะดีๆ มีสาระน่าเก็บเอาไปคิดพิจรณาครับ  เจ๋ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 28 พฤศจิกายน 2010, 13:43:12 โดย asoka 2555 » IP : บันทึกการเข้า
Is me
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 18 พฤศจิกายน 2010, 23:37:56 »

ขอบคุณสำหรับธรรมมะดีๆ ของพระคุณเจ้าทำให้ได้แง่คิดมากมาย
จิตใจใสขึ้นจะนำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาปรับใช่ค่ะ
"ผู้ใดย่อมโกรธตอบต่อผู้ที่โกรธแล้ว ผู้นั้นเลวเสียกว่าผู้ที่โกรธทีแรกนั้นอีก เพราะเหตุที่โกรธตอบเขานั้น ผู้ที่ไม่โกรธตอบผู้ที่โกรธตัวแล้ว ชื่อว่าย่อมชนะสงครามซึ่งชนะได้แสนยาก ผู้ที่รู้ว่าคนอื่นโกรธแล้ว ย่อมประพฤติเป็นประโยชน์ ทั้ง 2 ฝ่าย คือทั้งฝ่ายตนและผู้อื่น เป็นมีผู้มีสติ ย่อมสงบระงับได้"  สาธุ


IP : บันทึกการเข้า
ละอ่อนโบราณ
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,466



« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 19 พฤศจิกายน 2010, 05:42:38 »

 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

..............
คนหลังเขา
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 651



« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 19 พฤศจิกายน 2010, 21:53:11 »

 ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

*ความรัก*ไม่ลึกซึ่งเหมือนกาลเวลา
** ว่างๆเข้ามาพูดมาคุยและฟังเพลงเพราะๆได้จากห้องไหลๆของเราชาวเชียงรายโฟกัสนะคะ
** http://www.chiangraifocus.com/forums/chatroom/index.php **
ละอ่อนโบราณ
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,466



« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 23 พฤศจิกายน 2010, 13:25:25 »

ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม

ขอบคุณนะสำหรับรอยยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

..............
Unlimited แหล...
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,918



« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 27 พฤศจิกายน 2010, 21:33:54 »

ปกติจิตเราจะเหมือนน้ำบริสุทธิ์ ไร้สี ไร้กลิ่น ไร้รส...น้ำสะอาด ถ้าเอาเกลือไปใส่ก็จะเป็นน้ำเค็ม ถ้าเอาน้ำมะนาวไปใส่ก็จะมีรสเปรี้ยวฯลฯ เช่นกันคำพระที่บอกว่า "ทำจิตให้ว่าง" ก็คือ รักษาจิตให้เหมือนน้ำสะอาด คือ อย่าให้มีสี มีกลิ่น มีรส พูดง่าย ๆ ก็คือ อย่าเอากิเลสต่าง ๆ เช่น ความโกรธ ความรัก ความหลงฯลฯ มาย้อมจิตที่สะอาด เช่น จากจิตที่สะอาด ถ้าเอาความโกรธมาย้อม ก็จะกลายเป็นจิตโกรธ ฯลฯ ฉะนั้น จะมีคำพระที่ว่า ทำจิตให้ว่าง สะอาด สงบ (ก็คือว่างจากกิเลสต่าง ๆ นั่นเอง )....แล้ววันนี้..ท่านได้พยายามทำจิตของท่านให้สะอาดหรือยังครับ... ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า

** We Are The Result Of What We Were And We Will Be The Result Of What We Are. ** (Lord Buddha)
^<หมูช:มวง>^
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 619


~MSๅด~>~เชีeJSๅe<~


« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 13 มกราคม 2011, 11:30:08 »

up-up ก่อน ^^
IP : บันทึกการเข้า

>>>"" ค ว า ม ทุ ก ข์ ... มี ไ ว้ ใ ห้ เ ห็ น .... ไ ม่ ใ ช่ .... มี ไ ว้ ใ ห้ เ ป็ น ......" ""<<<

          >>>"" มองเห็นตัวตน เท่ากับ มองเห็นธรรมะ ""<<<
>:l!ne-po!nt:<
~: ดาบราชบุตร :~
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,256

~>: แขกดอย :<~


« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 14 มกราคม 2011, 06:49:18 »

สาตุ๊.....ครับ
IP : บันทึกการเข้า

!!!!!  กว่า ๑,๑๐๐ กม.จากยอดดอยสู่ทะเล...ตะวันออก  !!!!!

www.facebook.com/1100kilometer

||||| ธรรมชาติสร้างอากาศบริสุทธิ์    ส่วนมนุษย์นั้นสร้างอาวุธเพื่อทำลาย |||||
!!_maxki_!!
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 567



« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2011, 09:56:06 »

สาธุ...............
IP : บันทึกการเข้า

O-L-Y-G-O-N
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 676


นานาจิตตัง


« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2011, 13:20:14 »

สาธุ
IP : บันทึกการเข้า

จงเรียนรู้
watinta
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 30 พฤษภาคม 2011, 20:37:56 »

เก็บเป็นความรู้..เตือนสติตัวเองเวลาโกรธ
ขอบคุณค่ะ..สาธุ
ดันครับ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
kitty9
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 24 กรกฎาคม 2011, 12:51:22 »

ขอบคุณมากคับ กำลังโกรธพอดี อ่านเรื่องนี้ช่วยได้เยอะเลยคับ
IP : บันทึกการเข้า
Alony
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 649


^_____^


« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 25 กรกฎาคม 2011, 18:50:40 »



บทความดีมากๆเลยค่ะ

โกรธไปใช่ว่าจะดี ทำลืมๆ ปลงๆ ให้อภัย ไม่จองเวรกัน

เป็นสิ่งดีที่สุดค่ะ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

" ฉันจะมองแต่ข้อดีของผู้คน เพราะตัวฉันเองก็ไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ ฉันจึงไม่บังคับที่จะตรวจสอบข้อผิดพลาดของผู้อื่น " ( Mahatma Gandhi )
หน้า: [1] 2 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!