เชียงราย - อากาศหนาวทำตลาดสินค้าเครื่องกันหนาวชายแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก คึกคักขึ้นทันตาเห็น ชาวบ้านทั่วไป-นักท่องเที่ยวแห่ซื้อหาเตรียมรับมือภัยหนาวปีนี้กันอย่างหนาตา จนยอดนำเข้าเฉพาะครึ่งแรกปีนี้พุ่งสูงกว่าปีกลายหลายเท่าตัว หอฯแม่สาย ชงฝ่ายปกครอง-รัฐบาลไทย พม่า ขยายเวลาเปิด-ปิดด่าน จนถึงตีหนึ่งในวันหยุดนักขัตฤกษ์รับนักท่องเที่ยว
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์ว่าสภาพอากาศปีนี้จะหนาวเย็นและยาวนานกว่าปีที่ผ่านมา เพราะความกดอากาศสูงเริ่มแผ่ปกคลุมลงมาจากประเทศจีน ทำให้สภาพอากาศในพื้นที่ จ.เชียงราย ต้องพบกับความกดอากาศสูงก่อนพื้นที่อื่นๆ เริ่มมีความเย็นลงในช่วงกลางคืนและเช้ามืดแล้ว ทำให้ผู้คนต่างออกไปหาซื้อเสื้อผ้าเครื่องกันหนาวกันแล้ว โดยเฉพาะตลาดชายแดน อ.แม่สาย และตลาดฝั่งเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ซึ่งอยู่ติดกัน จึงทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวที่ชายแดนเริ่มคึกคักขึ้น หลังจากซบเซาช่วงเหตุการณ์ไม่สงบเมื่อช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
นายบุญธรรม ทิพย์ประสงค์ ประธานหอการค้า อ.แม่สาย กล่าวว่า ช่วงนี้สถานการณ์การท่องเที่ยวและการค้าขายที่ตลาดชายแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก กระเตื้องขึ้นอย่างทันตาเห็น หลังจากทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์ว่าอากาศจะหนาวเร็วและหนาวนาน รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมีความเชื่อมั่นในประเทศไทยมากขึ้นด้วย จึงทำให้มีทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศเดินทางไปเยือนตลาดชายแดนกันมากขึ้น มีทั้งจากสหรัฐอเมริกา ยุโรปและนักท่องเที่ยวชาวจีนด้วย
นายบุญธรรม กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ที่ดีมากขึ้นตามลำดับดังกล่าว หอการค้าแม่สายจึงได้ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์ไปยังกระทรวงมหาดไทยผ่านทางนายอำเภอแม่สาย เพื่อขอให้มีการเปิดจุดผ่านแดนถาวรแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ซึ่งปกติจะเปิดตั้งแต่เวลาประมาณ 06.00-18.00 น.ให้ขยายไปถึงเวลาประมาณ 01.00 น.ในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ 3 ช่วง คือ วันลอยกระทง วันนับถอยหลังหรือเคานต์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และเทศกาลสงกรานต์ หลังจากเมื่อปี 2552 เคยขออนุญาตให้มีการเปิดด่านในช่วงเคานต์ดาวน์ 2 แผ่นดิน มาแล้วและก็ได้อนุญาตด้วยดี ทั้งจากรัฐบาลไทยและรัฐบาลพม่า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง
นายบุญธรรม กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็คงต้องผ่านการพิจารณาของหลายฝ่ายทั้งทางฝ่ายปกครอง อ.แม่สาย ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย กระทรวงมหาดไทย และคณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-พม่า ระดับท้องถิ่นหรือทีบีซี รวมทั้งทางรัฐบาลพม่าที่กรุงเนปิดอว์ ซึ่งทางหอฯแม่สอด ได้ส่งหนังสือไปขอความอนุเคราะห์ตั้งแต่เนิ่นๆ ดังกล่าว
รายงานข่าวจากสำนักงานพาณิชย์ จ.เชียงราย ระบุว่า ในปี 2552 มีสถิติการนำเข้าสิ่งทอ เช่น เสื้อผ้า ผ้าพันคอ ถุงมือ ฯลฯ มีมูลค่า 5,979,109.24 บาท แต่สำหรับปี 2553 ช่วงครึ่งปีแรก พบว่ามีการนำเข้าสินค้าประเภทเดียวกันนี้มากถึงกว่า 18,753,086.52 บาทแล้ว โดยสินค้าส่วนใหญ่นำเข้าทางจุดผ่านแดนถาวร อ.แม่สาย ซึ่งมีเส้นทางเชื่อมโยงไปถึงจีนตอนใต้ได้ทั้งทางบกผ่านถนน R3b แม่สาย-พม่า-จีนตอนใต้ และทางเรือในแม่น้ำโขง โดยบางส่วนนำเข้าไปทางท่าเรือ อ.เชียงแสน แต่ส่วนใหญ่นำขึ้นฝั่งบ้านโป่ง เมืองท่าขี้เหล็ก และขนส่งไปยังตลาดท่าล้อของเมืองท่าขี้เหล็กซึ่งเป็นตลาดชายแดนคู่กับ อ.แม่สาย รวมทั้งนำเข้ามายังฝั่งไทยในที่สุด
ส่วนสินค้าที่นำวางจำหน่ายในตลาดชายแดนช่วงนี้ มีหลากหลายรูปแบบและขนาด ทั้งเสื้อหนัง เสื้อแจ็กเกต เสื้อโค้ต ผ้าห่มนวม ฯลฯ ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าที่มีราคาถูก เช่น เสื้อแจ็กเกต ตัวละ 90-500 บาท เสื้อหนัง 300-800 บาท ขณะเดียวกันสินค้าผ้าผันคอ ถุงมือ ถุงเท้า ขายกันถูกๆ ห่อหรือแพกละ 1 โหลราคาประมาณ 100 บาท แต่ก็มีสินค้าคุณภาพดีที่มีราคาสูงกว่านี้จำหน่ายควบคู่กันไปด้วยเช่นกัน
http://www.manager.co.th/Daily/ViewN...=9530000147584