raxerta
บุคคลทั่วไป
|
 |
« เมื่อ: วันที่ 13 ตุลาคม 2010, 23:55:12 » |
|
ตอนนี้ธุรกิจที่ผมทำอยู่
จะมีปัญหาเรื่องคนงานมากเลย
จะหักเงินแค่ไหน ก็ขาด ยอมให้หัก
บางทีเมาเหล้า ขาด 3 วันรวด
(ยังไม่นับเรื่องจุกจิกพวก ยาเสพติด, เล่นการพนัน, จิ๊กของ ฯลฯ)
อยากจะถามว่า ปกติแล้ว ไปหาคนงานกันที่ไหนครับ
เรทค่าจ้างปกติ อยู่ในช่วง วันละเท่าไหร่กันครับ
ขอบคุณครับ
|
|
|
|
|
raxerta
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 13 ตุลาคม 2010, 23:59:28 » |
|
ต้องดูก่อนครับว่างานแบบไหนครับ
เป็นงานใช้แรงงานทั่วไปครับ อย่างเช่น ขนของ ขับรถส่งของ ห่อขนม ขายของ ทำความสะอาด เสิร์ฟ ล้างถ้วยล้างชาม
|
|
|
|
we two
มัธยม
 
ออฟไลน์
กระทู้: 995

wetwo
|
 |
« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 14 ตุลาคม 2010, 00:10:38 » |
|
ต้องดูก่อนครับว่างานแบบไหนครับ
เป็นงานใช้แรงงานทั่วไปครับ อย่างเช่น ขนของ ขับรถส่งของ ห่อขนม ขายของ ทำความสะอาด เสิร์ฟ ล้างถ้วยล้างชาม ถ้าเป็นงานอย่างนี้ลองไปดูประวัติที่สำนักงานประกันสังคมและจัดหางานเชียงรายดูซิคะ เยอะแยะส่วนใหญ่คนว่างงานจะไปลงประวัติที่นั่น แจ้งคุณสมบัติ ความสามารถส่วนตัวและเงินเดือนที่ต้องการให้เสร็จเรียบร้อย ก่อนไปขอคัดประวัติกับเจ้าหน้าที่ เตรียมแค่บัตรประจำตัวนายจ้างไปก็พอ เพราะปกติที่ร้านก็หาลูกจ้างด้วยวิธีนี้แหละค่ะ
|
|
|
|
|
HickGuitar
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 14 ตุลาคม 2010, 00:22:19 » |
|
|
|
|
|
|
ⒷⒼ*
แฟนพันธ์แท้

ออฟไลน์
กระทู้: 9,368
นิพพานคือนิรันดร์
|
 |
« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 14 ตุลาคม 2010, 00:35:20 » |
|
ต้องดูก่อนครับว่างานแบบไหนครับ
เป็นงานใช้แรงงานทั่วไปครับ อย่างเช่น ขนของ ขับรถส่งของ ห่อขนม ขายของ ทำความสะอาด เสิร์ฟ ล้างถ้วยล้างชาม ถ้าเป็นงานอย่างนี้ลองไปดูประวัติที่สำนักงานประกันสังคมและจัดหางานเชียงรายดูซิคะ เยอะแยะส่วนใหญ่คนว่างงานจะไปลงประวัติที่นั่น แจ้งคุณสมบัติ ความสามารถส่วนตัวและเงินเดือนที่ต้องการให้เสร็จเรียบร้อย ก่อนไปขอคัดประวัติกับเจ้าหน้าที่ เตรียมแค่บัตรประจำตัวนายจ้างไปก็พอ เพราะปกติที่ร้านก็หาลูกจ้างด้วยวิธีนี้แหละค่ะ เห็นด้วยครับ ไปกรมแรงงานจังหวัดเลยครับ ได้คนที่มีประวัติด้วย
|
|
|
|
raxerta
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 14 ตุลาคม 2010, 15:37:20 » |
|
ขออ้างทฤษฏีของ Herzberg นะครับ
Frederick Herzberg : ทฤษฎี 2 ปัจจัย (Two Factors Theory)
ทฤษฎีเกี่ยวกับแรงจูงใจโดยเฟรเดอริค เฮิร์ซเบอร์ก (Frederick Herzberg)
เฮิร์ซเบอร์ก ได้ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับแรงจูงใจของคน เขาได้ศึกษาโดยการสัมภาษณ์พนักงานในเรื่องของความพึงพอใจจากการทำงาน และทำให้เขาได้ผลสรุปว่าแรงจูงใจของมนุษย์จะประกอบด้วย 2 ปัจจัย คือ
1. ปัจจัยภายนอกหรือเรียกว่า Hygiene Factors 2. ปัจจัยภายใน หรือ Motivation Factors
ปัจจัยภายนอก(Hygiene Factors) ได้แก่ * นโยบายขององค์กร * การบังคับบัญชา * ความสัมพันธ์กับหัวหน้างาน * สภาพแวดล้อม/เงื่อนไขในการทำงาน * ค่าจ้าง/เงินเดือน/สวัสดิการ * ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน
ปัจจัยภายใน(Motivation Factors) ได้แก่ * การทำงานบรรลุผลสำเร็จ * การได้รับการยอมรับ * ทำงานได้ด้วยตนเอง * ความรับผิดชอบ * ความก้าวหน้าในงาน * การเจริญเติบโต
ปัจจัยภายนอกนั้นจะเป็นแรงจูงใจที่สนองตอบต่อความต้องการภายนอกของคน ส่วนปัจจัยภายในจะเป็นแรงจูงใจที่สำคัญต่อคนมากกว่าปัจจัยภายนอก หรือ พูดให้ง่าย ๆ ก็ต้องบอกว่าปัจจัยภายนอกจะทำให้คนพึงพอใจได้ในเบื้องต้นและจะมีผลต่อคนอยู่ ไม่นานนัก ส่วนปัจจัยภายในจะก่อให้เกิดแรงจูงใจกับคนอยู่ได้นานกว่าปัจจัยภายนอก
ปัจจัย ภายในที่ประกอบด้วย การที่คนทำงานจนบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้,การได้รับการยอมรับจาก หัวหน้างานหรือคนรอบข้าง,การที่ได้ทำงานอย่างเป็นตัวของตัวเอง,การที่จะต้อง มีความรับผิดชอบต่องานที่ตนเองทำอยู่,การได้รับการเลื่อนชั้นเลื่อนตำแหน่ง หรือการเจริญเติบโตในวุฒิภาวะส่วนตัวขึ้นไปเรื่อย ๆ นั้นจะทำให้คนเกิดแรงจูงใจที่จะทำงานให้ดียิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะตอบสนองความต้องการใจจิตใจของคน และเป็นแรงจูงใจคนให้ทำงานได้ดีกว่าปัจจัยภายนอก
นอกจากนี้เฮิร์ซเบอร์กยังบอกอีกว่า 1.องค์กรควรจะให้คนทำงานที่ท้าทายอย่างเต็มความสามารถ 2.พนักงานที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเต็มความสามารถจะต้องได้รับการเพิ่มความรับผิดชอบให้สูงขึ้น 3.หากงานไม่มีความท้าทาย และไม่ทำให้คนทำงานได้อย่างเต็มความสามารถแล้วจะเกิดปัญหาในเรื่องของแรงจูงใจในการทำงาน
_________________________________________________________________ แต่เท่าที่ดูแล้ว แรงงานที่คุณต้องการเป็นแรงงานไร้ทักษะ เพราะฉะนั้นเขาไม่ต้องการแรงจูงใจมากมายเท่าไหร่ สิ่งที่เขาต้องการแค่แรงจูงใจภายนอกเช่น เงินเป็นต้น ถ้าจำไม่ผิดค่าแรงขั้นต่ำของเชียงรายคือ 156 บาท
แต่ถ้าถามว่าหากต้องการให้พวกเขาทำงานให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด คุณต้องเน้นไปทางแรงจูงใจภายใน ตามที่กล่าวข้างต้น เช่น การให้เขายอมรับตนเองในงานที่ทำ ทำให้เขารู้สึกมีความพอใจในงานที่เขาทำ เช่น การแบ่งเปอร์เซนต์ให้พวกเขา หรือ สร้างแรงจูงใจภายในอะไรก็ได้ ทำให้พวกเขารู้สึกมีคุณค่า ถ้าคุณทำได้ ก็เท่ากับคุณได้ใจพวกเขาหลังจากนั้นเขาจะทุ่มเททำงานให้คุณสุดชีวิต ผมก็ไม่รู้ว่าจะนำไปประยุกต์ใช้อย่างไรตามทฤษฏีแต่คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ดีที่สุดเพราะคุณเป็นสร้างโครงสร้างขององค์กรขึ้น
ปล.ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับ
ขอบคุณท่านเสือไฟมากๆครับ ผมจะลองนำไปประยุกต์ใช้ดู ขอบคุณท่านอื่นๆ ที่แนะนำด้วยครับ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|