Rung
ระดับ ป.ตรี
  
ออฟไลน์
กระทู้: 1,475

|
 |
« เมื่อ: วันที่ 12 ตุลาคม 2010, 23:30:01 » |
|
ดูแล้วน้ำตาไหลเลยค่ะ ตกใจตอนที่น้องอาบน้ำให้แล้วไม่ได้สติ ดูแล้ว อึ้ง เศร้ามากเลย เรื่องย่อ วันที่แม่กลับบ้าน....คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ เรื่องราวที่ทำให้ความทรงจำเกี่ยวกับแม่ ของเด็กชายคนหนึ่งต้องเปลี่ยนไป เด็กชายวัย 13 ปี คนหนึ่งที่โตมาในครอบครัวของชาวบ้านที่ต้องหาเช้ากินค่ำ และมีเวลาได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับพ่อแม่ เพียงช่วงเวลาสั้นๆ จนเขาอายุได้ 6 ขวบ พ่อแม่ก็แยกทางกัน เขาจึงถูกส่งมาอยู่กับป้าที่ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ชีวิตที่มีไม่ต่างจากเด็กอีกนับร้อยในพื้นที่ต่างๆ ชีวิตที่มีพ่อ หรือแม่ นานๆ จะกลับมาเยี่ยมมาหา แต่ช่วงเวลาที่เกิดขึ้นไม่บ่อยเช่นนี้ ก็เป็นช่วงเวลาของความสุข ความทรงจำที่ดี ที่แม่ลูกจะมีต่อกัน แต่ชะตากรรมมักจะเล่นตลก กับชีวิตอยู่เสมอๆ เมื่อวันหนึ่งเหมือนชะตาลิขิตให้แม่ต้องกลับบ้าน และกลับมาในสภาพของคนเจ็บป่วย การกลับมาบ้านก็เพื่อนับถอยหลังรอวันตายเท่านั้น ชีวิตของเด็กชายคนหนึ่ง จึงเปลี่ยนไปเพียงชั่วข้ามคืน แม่ในวัย 33 ปี กลับบ้านมาในสภาพของผู้ป่วยเอดส์ระยะสุดท้าย กลับมาเพื่อต้องการการดูแลจากใครสักคน ในฐานะผู้ป่วยเอดส์ ทำให้ป้าของ “ต้อม” ต้องสร้างบ้านคล้ายเพิงเล็กๆ ขึ้นมารองรับน้องสาวของตัวเอง และ ต้อม เองก็เลือกที่จะย้ายลงมาอยู่กับแม่ เพื่อจะได้ดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะความเจ็บป่วย จึงทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งได้กลับบ้าน และความเจ็บป่วยก็ทำให้เด็กชายคนหนึ่ง ได้มีเวลาอยู่ใกล้ชิดแม่อีกครั้ง และช่วงเวลาสั้นๆ นี่เอง ที่เปลี่ยนทั้งชีวิตและความทรงจำ เกี่ยวกับแม่ของเขาไปอย่างสิ้นเชิง ทุกวัน “ต้อม” ต้องตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อใช้เวลาดูแลก่อนไปโรงเรียน แม่ในสภาพของผู้ป่วยเอดส์ที่เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับเขยื้อนแขนขาได้ด้วยตัวเอง ร่างกายไม่รับอาหารมานานนับเดือนแล้ว ได้แต่จิบน้ำเพียงเล็กน้อยต่อวัน เป็นช่วงเวลาของการนับถอยหลังอย่างแท้จริง กิจวัตรประจำวันที่เด็กชายอย่าง “ต้อม” มองว่าเป็นการทำตามหน้าที่ และค่อนข้างจะเป็นภาระ มากกว่าการทำด้วยความรู้สึกห่วงใย นั่นไมใช่เรื่องแปลก ในเมื่อความผูกพันระหว่างแม่ลูกนั้นแทบไม่มี เพราะความไกลห่าง ความห่างเหิน ช่วงเวลาที่ได้ใกล้ชิดกันอย่างกะทันหันเช่นนี้ จึงเป็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ชนิดที่เด็กชายคนหนึ่งไม่ทันตั้งตัว
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
gigza
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 13 ตุลาคม 2010, 22:28:26 » |
|
เสียดายไม่ได้ดู เดี๋ยวต้องดูทีวีออนไลน์ย้อนหลังซะแล้ว
|
|
|
|
|
ละอ่อนโบราณ
ระดับ :ป.โท
   
ออฟไลน์
กระทู้: 4,468

|
 |
« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 14 ตุลาคม 2010, 05:30:48 » |
|
|
|
|
|
muneo
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 14 ตุลาคม 2010, 05:48:44 » |
|
ขอขอบคุณที่เอามาลงให้ดูนะครับ กำลังจะไปค้นดูรายการย้อนหลังอยู่ พอดีเลย 
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 14 ตุลาคม 2010, 06:05:31 โดย muneo »
|
IP :
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
อะไร?ยังไง?
ชั้นประถม

ออฟไลน์
กระทู้: 357
|
 |
« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 14 ตุลาคม 2010, 20:10:10 » |
|
ขอตอบเป็นภาษาบางกอก ดูแล้วยิ่งอนาจในความรู้ของชาวบ้าน การที่แยกของใช้เพราะกลัวติดเชื้อ ส่อให้เห็นว่าคนไทยทั่วไปยังขาดความรู้เรื่องเอดส์ มันติดต่อทางเดียวคือทางเลือด ไม่ใด้เกี่ยวกับช้อนจานที่ใช้ร่วมกัน ไม่ใด้เป็นเหมือนโรคไวรัสตับบี โรคนี้ยังติดต่อง่ายกว่าอีก น่ากลัวกว่าอีก ไวรัสตับบี บางชนิดยังติดผ่านทางอาหารด้วยซําไป เมื่อไรความรู้มันจะไปทั่วถึงเนี้ย ให้คนทั่วไปรู้จักโรคนี้เพิ่มขึ้น จะรังเกียจอะไรหนักหนา โรคภัยไข้เจ็บมันก็เรื่องธรรมดา จะโง่งมงายมามั่วรังเกียจกันทําไม ไม่ใด้อยู่ในยุคหินซะหน่อย  ยิ่งดูยิ่งเคืองในการปกครองประเทศ พิธีกรพูดใด้กระทบปัญหาครอบครัวแยกกันด้วยเหตุผลที่หนุ่มสาวต้องออกไปหางานในเมืองกรุง ยิ่งคิดแล้วยิ่งมองในความลําเอียงของพวกรัฐบาลและพวกแนวหน้าหลายๆในเมืองกรุง หากพวกนี้รักประเทศชาติจริงๆ แบ่งความเจริญให้คนร่วมชาติบ้างก็จะดี บางปัญหามันจะใด้ลดลง โอเค นอกเรื่องไปหน่อย แต่มองลึกๆไปมันก็เชื่อมโยงกันนั่นแหละ เบื่อจริง...
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 14 ตุลาคม 2010, 20:16:39 โดย OK Computer »
|
IP :
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
อะไร?ยังไง?
ชั้นประถม

ออฟไลน์
กระทู้: 357
|
 |
« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 14 ตุลาคม 2010, 21:28:32 » |
|
เขากลัวติดวัณโรคน่ะครับ เพราะผู้ป่วยเป็นวัณโรคด้วย
โอเค อั้นก่อแล้วไป หุๆ
|
|
|
|
|