และที่ว่าเหมือนพระเจ้าอโศกมหาราชก็ตรงที่ว่า เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงทำศึกสงครามมาตลอด
แต่ภายหลังได้หยุดทำสงคราม แล้วทรงหันมาบำรุงพระศาสนาด้วยความศรัทธา
กระทั่งไปสู่การทำสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ ๘ ของโลก ที่วัดเจ็ดยอด
ผมไปค้นคว้าเรื่องราวเกี่ยวกับดาบเมือง ครูวิลักษณ์ ศรีป่าซาง เรื่องดาบสรีกัญชัย จะเอามาใช้ในนิยาย แหะๆ
แต่ข้อมูลเกี่ยวกับดาบสรีกัญชัยบ่ค่อยละเอียดเท่าใดครับ ค้นคว้าจากที่ต่างๆ ก็บ่แน่ชัด
ก็เลยวิเคราะห์เอาคนเดียวว่า หากเทียบกับพระขรรค์ไชยศรีแล้ว คิดว่า น่าจะมีความเหมือนที่แตกต่าง
คือ รูปลักษณ์อาจจะบ่เหมือนกัน แต่อาจมีความสวยงามเหมือนกันครับ เพราะเป็นของวิเศษเหมือนกัน
ในนิยายเรื่อง ลานนา ดาบสรีกัญชัย ปรากฏแล้วในตอนตีเมืองเชริง และจะปรากฏในตอนสำคัญเช่น
ตอนที่พญาไชยสงครามยกทัพไปรบกับพญาเบิก
เมื่อจัดแต่งกลศึกแล้วก็กราบบังคมทูลรายงานพญามังรายหื้อทรงทราบ ดั่งหนังสือตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่หน้าที่ ๓๔ ว่า
"เจ้ามังรายได้ยินคำลูกตนจากกลเสิก็ชู่อัน เจ้าค็ยินดีในคำอันนั้น จิ่งปลงปันแก้วแสงอันเปนมังคละชัยชนะสัตตรู
กับเงินคำของรางวัลแก่ลูกตนมากนัก กับทังดาบสรีกัญชัยเถี่ยน ๑ อันเปนโปราณขัคคามังคละมาแต่เช่นลวจังกราชะมา
มีเตชะมากนัก คันเอาออกปัดเมื่อใด หัวใจริพลทังหลายฝูงเปนสุรโยธาหากบังเกิดสุรภาวะกล้าหานชู่ฅน
ด้วยอานุภาวะแห่งดาบเถี่ยนนั่นแล"
ดาบสรีกัญชัยนี้ก็ได้ตกทอดไปถึงพระเจ้าติโลกราช อันเป็นเถี่ยนเดียวกั๋นชะแล ว่าอั้น อิอิ