เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 28 กรกฎาคม 2025, 02:49:57
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  ทฤษฏีสมคบคิด (conspiracy theory)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ทฤษฏีสมคบคิด (conspiracy theory)  (อ่าน 740 ครั้ง)
Mr.R
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: วันที่ 03 ตุลาคม 2010, 10:12:19 »

ทฤษฏีสมคบคิด (conspiracy theory)

--------------------------------------------------------------------------------

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

>>>ลัทธิล่าอาณานิคม มหันตภัยของไทยทั้งชาติ<<<
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php/topic,19847.0.html

ปฏิบัติการสารสนเทศ หรือ ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร หรือ Information Operations หรือ IO

เราจะสามารถต่อต้านหรือเอาชนะประเทศมหาอำนาจ ด้วยทรัพยากรที่น้อยที่สุดก็สามารถกระทำได้
จากการทำสงครามสารสนเทศ (ทำลายความชอบธรรม เสนอให้ต่างชาติอื่นมองเห็นผลประโยชน์ที่ตนจะได้รับ
หรือสูญเสียจาการสนับสนุนหรือไม่สนับสนุน

ความคงอยู่ของอำนาจรัฐของไทย คล้ายๆ กรณี ร.๔ ที่อังกฤษกับฝรั่งเศสคิดทำสนธิสัญญาแบ่งไทย
ด้วยแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ ร.๔ ทรงทราบเจตนารมย์ จึงทรงทำสงครามสารสนเทศ กับมหาอำนาจทั้งสอง
แจ้งเจตนารมย์ให้มหาอำนาจอื่นๆ ที่มีอำนาจทัดเทียมกัน เพราะยุคนั้นเป็นยุคล่าอาณานิคมสมัยเก่า
ที่มีมหาอำนาจหลายประเทศ เมื่อมหาอำนาจชาติอื่นๆ เห็นว่าตนกำลังจะสูญเสียผลประโยชน์ที่ตนเองควรจะ
หรืออาจจะได้รับจากการสนับสนุนให้ผู้ปกครอง ผู้ถืออำนาจรัฐของไทยก็จะสนับสนุนไทยต่อต้านอำนาจรัฐอื่นๆ
ที่กระทบผลประโยชน์ของตนเอง ส่งผลให้สนธิสัญญาดังกล่าวระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส ไม่ถูกประกาศใช้

เมื่อถึงรัชสมัย ร.๕ ก็ทรงดำเนินนโยบายคล้ายญี่ปุ่นคือ ยอมรับความทันสมัย ทรงปรับปรุงการปกครอง การทหาร
ยอมสูญเสียส่วนน้อยรักษาส่วนใหญ่ สร้างอำนาจต่อรองจากการ Balance of power ดึงมหาอำนาจอื่นมาคานอำนาจ
จนสามารถนำประเทศไทยเป็นเอกราชมาได้ คล้ายกับญี่ปุ่น ที่จักรพรรดิ์ยอมรับอำนาจ โชกุนมอบอำนาจให้จักรพรรดิ์
จนสามารถปรับปรุงพลังอำนาจแห่งชาติของญี่ปุ่น จนทัดเที่ยมมหาอำนาจตะวันตก จนเป็นที่ยอมรับเป็นมหาอำนาจ
ผิวเหลืองหนึ่งเดียวในสมัยนั้น ผิดกับจักรพรรดิ์จีน หลงว่าตนเหนือกว่าตะวันตก ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงในที่สุด
เจออังกฤษบ่อนทำลายสังคมด้วยยาเสพติด จนในที่สุดอ่อนแอ ราชวงล่มสลาย กลายเป็นประเทศที่อ่อนแอถูกแบ่ง

ดังนั้นผมจึงมองว่าสงครามสารสนเทศเป็นปัจจัยสำคัญต่อความอยู่รอดของไทยในอดีต และคนโบรานความคิดด้านนี้
ไม่โบราณ เราซึ่งเป็นลูกหลานจะประยุคใช้ประโยชน์จากการทำสงครามสารสนเทศ ให้ประสบผลสำเร็จเยี่ยง
นักยุทธศาสตร์ในอดีตอย่างมีประสิทธิภาพ จนก่อให้เกิดประสิทธิผลต่อประเทศชาติของเราได้อย่างไร ?


การทำสงครามข้อมูลข่าวสารที่มองเห็นจากสภาพการเมืองในปัจจุบันก็คือ มหาอำนาจพยายามสร้างความแตกแยก
ให้สังคมไทย ของคนระดับล่าง ทะเลาะกับระดับกลาง และบน จากสงครามสารสนเทศ สร้างขั้ว แต่ละขั้ว
ซึ่งก็เป็นพวกของมหาอำนาจทั้งนั้น ให้ประชาชนแต่ละระดับมาจับขั้วทั้งสอง สร้างความแตกแยกแบบม็อบชนม็อบ
จากการปั่นสถานการณ์ การกระทบสถาบันหลัก ม็อบคนระดับล่าง ได้รับความอุ้มชูจากประชานิยม ก็จะไม่พอใจ
กลุ่มที่ขับไล่รัฐบาลที่สนับสนุนนโยบายดังกล่าว ก็จะสนับสนุนความคงอยู่ของรัฐบาล ม็อบคนระดับกลางบน
ก็พยายามไล่รัฐบาล ผลสุดท้ายปะทะกันประเทศชาติขาดสามัคคี แตกสลาย ง่ายในการปกครอง ก็สร้างสถานการณ์
สร้างวีระบุรุษขึ้นมาปกครองอีกที เป็นการเปลี่ยนเพียงหมากแตคนคุมเกมสคือมหาอำนาจ นี่คือการทำสงครามสารสนเทศ
ในระดับยุทธศาสตร์แบบเต็มรูปแบบ ไม่ใช่ตามที่กองทัพสหรัฐบัญญัติไว้ แต่ผลที่ออกมากว้างขวางกว่ามาก เราเป็นทหาร
ควรรู้เท่าทันว่าเขาเล่นอะไรกันอยู่ เหตุการณ์นี้ไทยมีความสำคัญในระดับยุทธศาสตร์โลก ในการใช้ไทยลดต้นทุนการผลิต
ด้าน Logistic ดังนั้นสถานการณ์ขณะนี้เหมือนสมัย ร.๔ ที่เราจะ Balance of power ได้อย่างไร เพราะมหาอำนาจกลุ่มอื่นๆ
คงไม่ยอมสูญเสียผลประโยชน์ในไทยอย่างแน่นอน ทำอย่างไรเราจึงสามารถ หาผู้นำที่มีวิสัยทรรศน์เยี่ยงเดี่ยวกับ ร.๔ หรือ
จักรพรรดิ์ของญี่ปุ่นได้ในสถานการณ์ขณะนี้ ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความอยู่รอดของชาติไทย ?


กลุ่มที่ทะเลาะสร้างความแตกแยกในชาติ เป็นเพียงหมากรุกตัวหนึ่งที่ชาติมหาอำนาจเป็นผู้เดินเกมส์ สร้างความปั่นป่วน
ทะเลาะเบาะแว้งของสังคมไทย เพื่อแบ่งแยกให้ง่ายในการปกครอง หลังจากทำลายสถาบันทหารด้วยเหตุการณ์ พ.ค.ทมิฬ
แยกทหารกับประชาชน ล้มดาบอาญาสิทธิ กฏหมายการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ สถาบันตำรวจด้วยกฏหมายต่ำกว่า
กฏหมายตั้งกรมตำรวจ และสลายอำนาจข้าราชการปกครอง เพราะสถาบันทหาร ตำรวจ และข้าราชการปกครอง
มีหน้าที่ดูแลสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพราะถ้ามุ่งเน้นที่สถาบันกษัตริย์ ซึ่งค้ำจุนศาสนา ซึ่งในที่สุด สังคมไทย
จะแตกสามัคคี เจตคติความภูมิใจในความเป็นชาติก้จะหมดไป หมากรุกที่เขาคุมเกมส์อยู่ก็จะถุกชักใยขึ้นมามีอำนาจ
ตามสถานการณ์ที่เขาสร้างขึ้น เป็นการเปลี่ยนเพียงหมาก แต่คนคุมเกมส์ไม่เปลี่ยน แต่ชาติไทยอาจถูกแบ่ง โดยง่ายดาย
เพราะขาดสามัคคี จากการทำลายสถาบันหลักของเราในที่สุด

ระวังการเบี่ยงเบนประเด็น ในนโยบายประชานิยม ที่ตอนนี้ฮิตใช้กันทั่วไปในสังคมโลก ไม่ว่าเอเชีย ลาติน ฯลฯ
หากนโยบายนี้เป็นแผนที่ถูกใช้เพื่อสร้างความแตกแยกของสังคมประเทศ มันจะมีความสำคัญเกินกว่าความมั่นคงได้อย่างไร?

ศัตรูตัวฉกาจของระบบโครงสร้างทางอำนาจในการดูดซับทรัพยากรเข้าสู่ประเทศศูนย์กลางระบบผ่านทางค่าเงินดอลลาร์
(เงินกงเต็ก ไม่มีอะไรค้ำประกันนอกจากความมั่นคงของประเทศ แค่อเมริกาทำให้ตนเองดูมั่นคง เงินดอลลาร์ที่ทุกประเทศ
ใช้กันก็จะส่งผลประโยชน์กลับไปสู่ประเทศศูนย์กลางระบบอยู่ได้) แต่ประเทศใดใช้วิธีการผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้า
มันจะกระทบระบบ เหมือนอเมริกาพยายามเปลี่ยนผู้นำลาตินที่มีนโยบายผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้า
สนับสนุนการปฏิวัติของกลุ่มไม่ว่าลัทธิอุดมการณ์ใดเพื่อส่งผู้นำหุ่นเชิดปกครองแทน ระบบเศรษฐกิจพอเพียงจึงเป็นระบบ
ที่คัดง้างอำนาจของระบบโครงสร้างทางอำนาจดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นเขาต้องหาทางกำจัด ไม่เช่นนั้น
เมื่อมันเวิร์ค ประเทศอื่นๆ จะเอาเยี่ยงอย่าง และนั่นก็จะกระทบกับระบบโครงสร้างทางอำนาจในการดูดซับทรัพยากร
เข้าสู่ประเทศศูนย์กลางระบบผ่านทางค่าเงินดอลลาร์ บ่อนทำลายอำนาจต่อรองอเมริกาในที่สุด

History repeats itself
เหตุการณ์มันย้อนกลับอีกครั้ง เพราะมหาอำนาจมักใช้วิธีการแยกขั้วให้ทะเลาะกันเอง ในอดีตก็สงครามโลกครั้งที่ ๑
สร้างสถานการณ์ลอบปลงพระชนต์ ยุโรปแยกขั้วทำสงครามผลคือยุโรปอ่อนแอ อเมริกากลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ

สร้างความแตกแยกจากการสร้างสถานการณ์เทขายหุ้นในปี ค.ศ.1929 ส่งผลให้ประเทศต่างๆ วิตกกังวลกับ
การผลิตล้นเกิน จึงแก้ไขปัญหาตามขีดความสามารถตน พวกมีอาณานิคมก็จับกลุ่มกันกีดกันการค้า ญี่ปุ่น ไทย
เป็นเผด็จการทหาร อเมริกาให้เยอรมันกู้ผลิตสินค้าแข่งขันกับประเทศอุตสาหกรรมเก่า จนกลุ่มที่มีอาณานิคม
ประเทศอุตสาหกรรมเก่ากีดกันทางการค้าขายสินค้าไม่ได้ แต่เยอรมันก็ได้รับเงินกู้ต่อไป แต่ฮิตเลอร์นำไปพัฒนา
พลังอำนาจทางทหารจนเกิด Military balance จนเกิดแบ่งข้างทำสงครามโลกครั้งที่ ๒ ในที่สุด
สุดท้ายยุโรปอ่อนแอ อเมริกาเป็นมหาอำนาจแบบเบ็ดเสร็จแทนที่ยุโรปในที่สุด

จะเห็นว่าวิธีการยุแหย่แยกขั้วให้ทะเลาะกันเอง แล้วอเมริกานั่งบนภูดูเสือกัดกัน
เป็นวิธีการแบบเดิมๆ ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเกินที่พวกเราจะมองเห็นได้

การแทรกแซงกับสถานการณ์ระดับโลกกับภายในประเทศแปรเปลี่ยนไปตามปัจจัยของประเทศนั้นๆ เท่านั้นเอง

14 ต.ค. ยุคโหยหาประชาธิปไตย หาพวกจากการปล่อยข่าวทฤษฏีโดมิโน่

6 ต.ค. แยกขั้วขวา กับซ้าย ให้ทะเลาะกัน คนเดินเกมส์หน้าเดิม มหา สมัคร ไล่ฝ่ายซ้ายไปอยู่ป่า

หลังจากนั้นก็ให้ประธาน กับรองประธานสภาเปรสซิเดี่ยม ออก 66/23 ให้ออกจากป่า
พวกออกจากป่า บางพวกเป็น NGO นักวิชาการ นักการเมือง ที่มีบทบาทในปัจจุบัน

พ.ค.ทมิฬ แยกขั้วทหารกับประชาชน ก็คนกลุ่มเดิมอีกเป็นคนเดินเกมส์

สถานการณ์ปัจจุบันก็คนกลุ่มเดิมอีก

สรุปก็พวกสปายของมหาอำนาจทั้งนั้น สังเกตุให้ดี

http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=20449.msg531850#msg531850



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 03 ตุลาคม 2010, 10:37:26 โดย Mr.R » IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!