ซอรี่ ซอรี่ กลับมาตอบช้าจนกลัวว่าคนที่นี้นึกว่าผมขับรถเยี่ยมเหวไปซะแล้ว
(จริงๆก็หวุดหวิดลงเหวแหละครับที่แม่สลอง)
เช้าวันเสาร์ก่อนไปเที่ยวยังมีงานเข้ามาให้ทำจนวินาทีสุดท้าย ว่าจะทำตามแผนไปดูน้ำพุร้อนแม่ขะจาน.........ที่ไหนได้ คนงานเอาของมาให้จัดส่งซะ .......เที่ยงเลยครับ
แถมตอนออกไปส่งของครั้งสุดท้ายยังมีคนงานมารอหน้าบ้านอีก โทรเข้ายังไม่อยากบอกว่ายังอยู่ในอำเภอเลยโกหกไปว่าถึงเชียงรายแล้ว เฮ้อ.............
สรุบแม่ขะจานอดครับผม ที่แรกเลยได้ไปเวียงกาหลง อย่าว่าแต่กาครับ คนก็หลง ไม่มีป้ายบอกว่าเวียงกาหลง บอกแต่บ้านเวียงกาหลงผมเลยนึกว่าแค่ชื่อหมู่บ้านตั้งตามชื่อสถานที่สำคัญ เลยขับเลยเข้า วังเหนือลำปางไปซะงั้น ตอนเข้าไปดูได้ก็ไม่รู้ว่าเป็นวัด แฟนผมใส่ขาสั้นเข้าไปเลยมีสาวๆเฝ้าวัดเอากระโปรงมาให้ใส่ แหะๆ ผมเฉยๆนะเราไม่รู้นิ แต่ขึ้นรถโดนแฟนทุบครับ ข้อหาไม่บอกว่าจะมาเที่ยววัดจะได้ใส่สุภาพ (ก็ไม่มีใครบอกนี้นาว่าเวียงกาหลงเป็นวัดอ่ะ แล้วผมก็จะโดนอีกครั้งเมื่อแวะวัดร่องขุ่น)
วัดร่องขุ่นสวยอย่างที่คิด แวะไปดูโรงปั้นเห็นงานที่ทำแล้วนึกถึงช็อปสมัยม.ปลายที่ปั้นหุ่นใช้โครงลวดหุ้มด้วยกระดาษนสพ.แล้วเคลือบปูนพลาสเตอร์ อารมณ์นั้นเลย แฟนผมชอบ แต่ผมกลับเมาแสงที่ตัวอารามวัดสะท้อนเข้าตา เข้าไปดูในวัดไปนั่งมองจิตรกรเค้าวาดภาพในผนัง นั่งดูจริงๆฮะ สวย นั่งดูจนเค้ารู้ตัว วาดไม่ออก หันมายิ้มให้ผมจนผมต้องขอโทษเค้าแล้วเดินจากไป
ถึงตัวเมืองเชียงรายว่าจะพักที่ “กระท่อมริมกก” อยู่ริมน้ำกกตรงซอยโรงฆ่าสัตว์ วนเข้าไปดูถามคนในซอยเค้าบอกว่าปิดกิจการแล้ว 0_o ซะงั้น ข้อมูลในหนังสือพิมพ์ปี 50 นี้ไม่ทันสมัยเลยครับ ร้านอาหารก็หายไปหลายร้าน (ร้านชื่อดังตรงใกล้ๆโรงแรมกรุงทองก็ไม่อยู่ ตึกโดนทุบหายไป) เที่ยวครั้งนี้ระทึกไม่น้อย คืนนั้นไปเที่ยวถนนคนเดิน บรรยากาศไม่เหมือนถนนคนเดินท่าแพ เพราะที่เชียงรายถนนคนเดินมีความเป็นท้องถิ่นสูงนะ ผมว่า ของกินเยอะ มีลานเต้นลีลาศ มีลานเต้นรำของคนในเมือง ลานเบียร์ (รึเปล่า? เห็นว่าอยู่ในช่วงเข้าพรรษา) มีเวทีเล็กๆหน้า ธ.อยุธยา เห็นอาแป๊ะกับหลานขึ้นมาร้องเพลงขำๆ หลานๆมากระโดดๆเต้นสนุกๆ ดูน่ารักดีเวทีเป็นของคนเชียงราย ใครใคร่ร้องๆ ใครใคร่เต้นๆ เจอสินค้าประจำอำเภอผมมาขายด้วย แอบภูมิใจนะนั้น (กระเป๋าผ้าสันกำแพงขายตั้งแต่แม่สายยันสุไหงโกลก ผมส่งเองกะมือ) เจอของคนเชียงรายเย็บเองด้วย สวยครับออกแบบเอง กำลังพิจารณารับเป็นซับฯ (แต่ไกลจังว่ะ) หอนาฬิกานี้อ.เฉลิมชัยสร้างให้ใช่ไหมครับ?
เช้าวันที่สองไปดอยแม่สอลงเลย ขาหมูหมั่นโถวอร่อยสมชื่อ ซื้อชาไปพันกว่าบาท คาดว่าวันนี้ของปีหน้าจะดื่มหมด ซ่าขับรถขึ้นไปพระธาตุข้างบน ทางชันจนต้องยอมแลกเบรกไหม้(แต่ไม่ไหม้ครับ) ช่วงสุดท้ายก่อนถึงพระธาตุยอมแพ้ครับ เลยขับไปจอดที่จอดฮ. แล้วเดินลงไป วิวสวยมองเห็นหมดทั้งมาสลองจริงๆ แต่ทางขึ้นไม่แนะนำคนขับรถไม่แข็งจริงๆครับ จิตอาจหลุดก่อนได้ ขาลงนี้ผมประมาท เผลอไปมองชาวเขาขับมอไซด์สวนมาเพียงวินาทีเดียว เกือบเลี้ยวไม่ทันลงเหวจริงๆ เพื่อนๆที่จะไปเที่ยวดอยสูงใครขับขอสมาธิจริงๆนะครับ ใจลอยนิดเดียวเป็นเสร็จ..................
ลงไปขับตรงไปแม่สาย พักโรงแรมไททอง โรงแรมเก่าอุปกรณ์โทรมแต่ยังใช้งานได้ นั่งแช่น้ำร้อนเพลียจากการขับรถมาทั้งวันหลับคาอ่างเลยครับ ตื่นมาไปนวดฝ่าเท้าที่ข้างถนนใกล้ด่านมีหลายเจ้า ตั้งแต่นวดมา 10 ปีไม่เคยเจอใครแรงดีเท่าแรงงานพม่าเลย ลงทุกจุด(สงสัยเมื่อยมาก) เดินตัวปลิวกลับโรงแรมแค่ 100 เดียวเองต่อชม.ถูกขนาดนี้เชียงใหม่หาไม่ได้แล้วครับผม แนะนำเลยครับ นวดฝ่าเท้าที่แม่สายตอนกลางคืนข้างถนน ถูกและดี! ข้างๆผมมีคนจากตัวเมืองเชียงรายมานวดประจำสัปดาห์ละครั้งด้วย
เช้าไปท่าขี้เหล็กครับ ว่าจะไปถอยบลูเลเบิ้ลที่พม่า ราคาใกล้ฝั่งไทยมากครับ เลยคิดว่าอย่าเสี่ยงเลย อยากดื่มซื้อฝั่งไทยดีกว่า แต่ซื้อดีวีดีที่นั้นแทน สองพันครับสองพัน เหมือนกับซื้อชาครับ คาดว่าวันนี้ของปีหน้าจะดูหมด ขากลับแวะร้านลาบลุงแอ อย่างที่คุณ แชทซาโนย่า ฉิก~ฉิก~*-.โพสไว้ครับ เป็นร้านลาบแต่ขายอาหารฝรั่งเต็มสูตร ผมทานเป็ดซอสส้ม อร่อยไม่เคยทานจริงๆ มื้อนี้อิ่มจนถึงเช้าวันพรุ่งนี้เลยครับ ก่อนจากแม่สายแวะร้านไอติมนมสดชัยลี ประทับใจลูกจ้างพม่าเค้าครับ ผมไปตอนปิดร้านแล้ว เค้ายังเปิดมาให้ผมเลือกไอติม แถมเชียร์ของผมเสียหลายอย่างทั้งๆที่ถ้าเค้าจะปิดร้านพักก็ได้ ขยันจริงๆ เสียดายผมทานโยเกริตได้เพียงถ้วยเดียวเพราะอิ่มจากร้านลุงแอมาก (ลืมบอกว่าเข้าเช้าทานที่ร้านเจ๊ลี่ ให้ชามโตแต่ใช้พลังงานหมดไปกับการเลือกซื้อซีดี)
เย็นขับไปเชียงแสนโดยใช้เส้นทางย้อนกลับไปแม่จันแล้วตีรถขึ้นมา ทางซ่อมครับแต่ดีกว่าทางจากแม่สาย-เชียงแสนมาก หาโรงแรมพักที่สามเหลี่ยมทองคำ ได้บูติคโฮเทลชื่อ สิรีนเอทเชียงราย ห้องผมพักปรกติหกพันบาท ช่วงผมไปโลวซีซั่นเค้าลดให้เหลือสองพันเองงงง!!!!!............แต่ก็คุ้มที่ได้ลองพักโรงแรมดีๆ ออกมาหาข้าวเย็นทานที่เชียงแสน เป็นร้านข้างถนนขายต้มยำ นั่งริมน้ำโขงแบบปูเสื่อบนฝั่งที่ยกสูงจากน้ำโขง บรรยากาศดีมาก คืนนั้นกลับโรงแรม ทั้งโรงแรม 50 ห้องมีแขกแค่ 3 ห้องเองครับ (โลวซีซั่นนี้น่า) ตอนแรกก็ห่วงโรงแรมเรื่องภาวะท่องเที่ยว แต่ทราบมาว่าฝั่งตรงข้าม ลาวให้สัมประทานจีนทำแหล่งท่องเที่ยวกาสิโน โรงแรม รีสอรท์ 99 ปี! กำลังสร้างเสร็จ น่าจะคึกคักขึ้นเยอะ
เช้ามาตื่น 9 โมง สูดบรรยากาศโรงแรมคืนละหกพัน(จ่ายจริงสองพัน)ให้คุ้มปอด แค่เบาะเตียงกับผ้าห่มยี่ห้อ sleep well ชาตินี้ผมเพิ่งได้ลองสัมผัสจริงๆครั้งแรกก็ที่นี้ล่ะครับ อ่างอาบน้ำอย่างดี ระเบียงริมน้ำโขง นั่งมองไฟกาสิโนตรงฝั่งลาวเพลินครับ ลงมาทานเข้า 10 โมงกว่าเลยเวลาอาหารเช้าแต่บริกรเค้าเอาใจมาก เก็บไปแล้วยังออกมาจัดชุดอาหารเช้าให้ใหม่ ทั้งๆที่มีผมโต๊ะเดียว เสริฟทุกอย่าง ทอดวาฟเฟิลให้สดๆ ไข่ ทานจนเที่ยงเลย ทั้งๆที่จ่ายราคาลดแต่บริการผมเหมือนราคาเต็ม สองพันนี้อย่างผมแพงครับ แต่ครั้งนี้ไม่เสียดายเลย
ว่าจะข้ามไปฝั่งลาวแต่ผมกลัวเหนื่อยเพราะต้องขับรถกลับเชียงใหม่ภายในวันนั้น เลยตัดสินใจไม่ไปเพราะเดาเอาว่าสินค้าน่าจะซ้ำกับท่าขี้เหล็ก แต่คราวหน้ามาข้ามแน่ๆ เสียดายพิพิธพัณเชียงแสนปิดวันอังคาร เลยขับไปดูเชียงของเล่นๆ .........................แต่ทางมันไม่เล่นๆเลย ผมนึกว่าเป็นเมืองท่าเรือลำน้ำโขงจะวิ่งเลียบลำน้ำโขงเป็นที่ราบริมแม่น้ำ ที่ไหนได้มันเป็นเมืองในหุบเขาครับ ผมว่าขับรถไปเชียงของรีดพลังผมหมดมากกว่านั่งเรือไปฝั่งลาวอีก ขับไปกลับ เล่นเอาผมโทรม เกือบตัดใจนอนเชียงรายอีกคืนแล้ว แต่งานมันรออยู่เลย แวะปั๊มนอน 10 นาทีแถบแม่สรวย กัดฟันขับกลับ ถึงบ้านตอนสี่ทุ่มครึ่ง เช้าอีกวันปิดมือถือ ดึงโทรศัพท์บ้านออก วานเพื่อนบ้านพรางรถผม ให้คนงานนึกว่าผมยังไม่กลับมา โดดงานครึ่งวัน แฮะๆ พลาดตรงเชียงของนั้นแหละครับ หมดแรง
ปล.ที่มาตอบช้าเพราะงานเข้าครับ เสร็จงานก็ป่วยทั้งผมและแฟนทันที อากาศที่เชียงรายเริ่มเย็นสบายๆแล้ว โชคดีที่ตอนผมไปไม่มีฝนเลย มีแต่ลมเย็นๆ พอกลับเชียงใหม่คืนต่อมาเจอลมเย็นจัด นึกว่าหน้าหนาวแล้วปรากฏฝนกระหน่ำ ตามด้วยร้อนและฝนสลับสามครั้ง ร่วงทั้งคู่ ปีนี้เค้าว่าหนาวจัด หนาวนาน ขอให้ท่องเที่ยวภาคเหนือได้อานิสงค์ลมหนาวเยอะๆครับสาธุ ที่ไหนไม่ได้แวะ เดี๋ยวคราวหน้าผมแวะ
ปล.2 แผ่นดินแยกดอยแม่สลองชาวบ้านไม่กลัวครับ ยังเชิญผมไปดูเลย แต่ผมขับเข้าทางที่ไปฝางเป็นทางใหม่ ตรงแผ่นดินแยกอยู่ทางเก่าเลยไม่ได้ดู
ปล.3 สาวเชียงรายผมว่าสวยกว่าเชียงใหม่นะครับ ขับรถผ่านเวียงป่าเป้าเจอเด็กๆเล่นกันที่ศาลาวัดสวยทั้งกลุ่มเลย