|
|
|
|
|
|
~pong03~
มัธยม
 
ออฟไลน์
กระทู้: 899

|
 |
« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2013, 21:02:59 » |
|
เอาอย่างนี้ครับ หากใครไม่ให้ผมเผา ผมทำหลายอย่าง มาช่วยผมสิครับ เพราะนี้คืองานของผม มาช่วยเอาฟางไปเก็บที่บ้านสวนผมที แล้วไปช่วยเก็บขี้เถ้าที่เขาเผาถ่านก็ได้ เพราะผมไม่อยากใช้ปุ๋ยเคมี มันแพง ครับมันแพง ไม่ไหวครับ ปุ๋ยในปี2540 ราคา 240 บาท พอไหวๆ ไม่เผาครับไม่เผา เดี๋ยวนี้ปี2556 ปุ๋ย มันลูกล่ะ 1,250 บาท ราคาข้าวโพดหวาน พอกันเลย กิโลล่ะ 3-3.50บาท ไม่ไหวครับไม่ไหว ค่าจ้างปี 2540 แรงงาน ญ80ช100 ปีนี้2556 ญ200ช300 ไม่ไหวครับบวกค่ากับข้าวค่าเหล้าขาว ผมเป็นลมล่ะ ยังไม่ทันเห็นผลผลิตเลย เงินหมดเป็นแสนๆ
|
Facebook -https://www.facebook.com/pin.manora Line Pin manora
|
|
|
|
|
|
~pong03~
มัธยม
 
ออฟไลน์
กระทู้: 899

|
 |
« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2013, 07:22:11 » |
|
 ...ฟางข้าวจากรถเกี่ยว...ถ้าไม่เผาก็ไถดินไม่ค่อยเข้า....ระหว่างนาที่ไถดินกับนาที่ผันน้ำเข้าแล้วใช้จอบโรตารี่ปั่น(แบบหลังนี่ไม่เผาฟางก็ปั่นเตรียมดินได้อยู่).....นาที่ไถหน้าดินตากไว้ข้าวมันงามกว่า...ประหยัดปุ๋ยได้เยอะอยู่ครับ....พวกขับรถไถนาก็ไม่อยากให้เผาเหมือนกัน...เวลาไถนาที่เผาฟาง..มันแสบตาแสบจมูกเพราะขี้เถ้าฟาง ถูกต้องครับ  ส่วนที่นาผม ช่วงหน้าแล้ง น้ำน้อยมากครับจะต้องแบ่งๆกันหลายเจ้า ปลูกนาปรังไม่ได้ครับ ข้าวตายหมดแน่ มีแต่วิธีเดียว ก็คือปลูกข้าวโพดแดงหรือข้าวโพดหวานครับ ซึ่งใช้น้ำน้อย แค่ให้พื้นดินชุ่มก็ไอเคล่ะครับผม ส่วนนาปี ผมก็ใช้รถไถใช้จอบโรตารี่ปั่น อย่างที่ท่านว่านั่นแหล่ะครับ ส่วนผมเองชอบปลูกข้าวโพดหวาน เพราะข้าวโพดหวานเก็บเกี่ยวหัวแบบดิบ ส่วนลำต้น ข้าวโพดหวาน ผมก็เอาไปให้วัว เพราะหน้าแล้ง หญ้าจะแห้ง วัวไม่นิยมกินหญ้าแห้งเท่าไหร่ นอกจากนี้ ผมยังมีสวนลำไยอีกเยอะ ผมไม่มีเวลามา เก็บเศษฟางหรอกครับ ส่วนการเตรีมดินนั้น หลังจาก เก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว ผมไม่ได้ไถดินนะครับ ใช้รถไถตัดเศษฟางในนาให้หมด หลังจากนั้น จะดันเศษฟางเป็นกองๆ จะเผาช่วงต้นเดือน ธันวาคม แล้วเอากระสอบ มาใส่ขี้เถ้า แล้วปล่อยน้ำเข้ามาให้พื้นที่นาชุ่ม แล้ว เอาไม้มากระแทกดินให้เป็นหลุ่มๆ แล้วหยอด เมล็ดข้าวโพดลงไป ส่วนผู้หญิงก็เอาขี้เถ้าที่อยู่เป็นกระสอบๆกลบหน้าหลุ่ม ถ้าเสร็จแล้ว ทุกๆสามวัน จะปล่อยน้ำเข้าพื้นที่นาอีกที รอให้ต้นข้าวโพด โตประมาณ 10 ซ.ม เอาปุ๋ยสูตรผสมใส่ไป และพ่นโฮโมน ชีวะภาพ เช้าและเย็น พอโตใกล้จะออกฝัก ก็ใส่ปุ๋ยสูตรเดียวกันอีกที ทุกๆสามวันใส่น้ำตามสูตรไปเรื่อยๆจนถึงเก็บเกี่ยวครับ และไม่ต้องกลัวว่าหน้าดินที่นาจะเสีย ครับ ก่อนทำนาปี ก็เอาขี้วัวมาหว่านให้ทั่วนา ข้าวก็งาม ร่วงข้าวก็สวยเช่นกันครับผม
|
Facebook -https://www.facebook.com/pin.manora Line Pin manora
|
|
|
|
|
|
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
  
ออฟไลน์
กระทู้: 1,027

|
 |
« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2013, 10:13:23 » |
|
ส่วนที่นาผม ช่วงหน้าแล้ง น้ำน้อยมากครับจะต้องแบ่งๆกันหลายเจ้า ปลูกนาปรังไม่ได้ครับ ข้าวตายหมดแน่ มีแต่วิธีเดียว ก็คือปลูกข้าวโพดแดงหรือข้าวโพดหวานครับ ซึ่งใช้น้ำน้อย แค่ให้พื้นดินชุ่มก็ไอเคล่ะครับผม ส่วนนาปี ผมก็ใช้รถไถใช้จอบโรตารี่ปั่น อย่างที่ท่านว่านั่นแหล่ะครับ ส่วนผมเองชอบปลูกข้าวโพดหวาน เพราะข้าวโพดหวานเก็บเกี่ยวหัวแบบดิบ ส่วนลำต้น ข้าวโพดหวาน ผมก็เอาไปให้วัว เพราะหน้าแล้ง หญ้าจะแห้ง วัวไม่นิยมกินหญ้าแห้งเท่าไหร่ นอกจากนี้ ผมยังมีสวนลำไยอีกเยอะ ผมไม่มีเวลามา เก็บเศษฟางหรอกครับ ส่วนการเตรีมดินนั้น หลังจาก เก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว ผมไม่ได้ไถดินนะครับ ใช้รถไถตัดเศษฟางในนาให้หมด หลังจากนั้น จะดันเศษฟางเป็นกองๆ จะเผาช่วงต้นเดือน ธันวาคม แล้วเอากระสอบ มาใส่ขี้เถ้า แล้วปล่อยน้ำเข้ามาให้พื้นที่นาชุ่ม แล้ว เอาไม้มากระแทกดินให้เป็นหลุ่มๆ แล้วหยอด เมล็ดข้าวโพดลงไป ส่วนผู้หญิงก็เอาขี้เถ้าที่อยู่เป็นกระสอบๆกลบหน้าหลุ่ม ถ้าเสร็จแล้ว ทุกๆสามวัน จะปล่อยน้ำเข้าพื้นที่นาอีกที รอให้ต้นข้าวโพด โตประมาณ 10 ซ.ม เอาปุ๋ยสูตรผสมใส่ไป และพ่นโฮโมน ชีวะภาพ เช้าและเย็น พอโตใกล้จะออกฝัก ก็ใส่ปุ๋ยสูตรเดียวกันอีกที ทุกๆสามวันใส่น้ำตามสูตรไปเรื่อยๆจนถึงเก็บเกี่ยวครับ และไม่ต้องกลัวว่าหน้าดินที่นาจะเสีย ครับ ก่อนทำนาปี ก็เอาขี้วัวมาหว่านให้ทั่วนา ข้าวก็งาม ร่วงข้าวก็สวยเช่นกันครับผม สุดยอดเลยครับคุณพี่ พอเลี้ยงมาตอบเองเลย
|
|
|
|
|
|