ค่ายต่อมาคือ
ISUZU nanochange ตัวพ่อเพิ่งออกไมเนอร์เชนท์แบบไม่เข้าใจ ว่าจะติดกล้องมาทำไม ด้านหน้า (กับรถปิคอัพ)
แต่งไฟเลี้ยวไฟท้าย ซะทำเอาผมจำรุ่นไม่ได้เลย รุ่นไหนเนี่ยะ บางดี search รูปยังคิด
ว่าอันนี้รุ่นใหม่รึยัง ยิ่งมีคนทำของแต่งสวยๆมาเยอะแยะ
แต่ก็นั่นแหล่ะครับ รถอาจจะเรื่อยๆ แต่ศูนย์ดี ก็ขายได้ แต่รถเค้าก็ปรับปรุงมาจนดีสมชื่อ
ในรุ่นหลังๆ
พอดีมีเพื่อนทำงานเป็นวิศวกร ทดสอบรถด้วย(รุ่นใหม่ๆ)ที่บริษัทนี้ เลยประทับใจพิเศษครับ
ตามข่าวบอกว่า จะออกก่อน CHEV แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ แล้วหน้าตายังไง
บอดี้โฉมนี้ ใช้มา 9-10 ปีแล้ว ถือว่ายาวนานเลย
ตามดูรูปเอานะครับ ผมไม่แน่ใจว่าโดนหลอกรึเปล่า เพราะว่า หาของนอกไม่ได้เลย
เจอแต่ของไทย ๆๆ แต่ ชอบ open cab เปิดหาของกินเล่นได้ (ตู้กับข้าว)
*** ford เค้ามีตั้งแต่ปีมะโว้แล้วเนี่ยะ ๕๕๕๕ หัวเราะเป็นคนโบราณ


ผมเดาว่าสองรูปนี้คงไม่ใช่รถรุ่นใหม่นะครับ ผิดถูกไง ขอผู้รู้มาช่วยกระจ่างหน่อยครับ
อ้า หารูปไม่เจอจริงๆ คงต้องรอดูต่อไปครับ
รูปที่้ spy shot ลองหาดูครับ
ต่อมา TOYOTA ครับ
Toyota ประสบความสำเร็จกับการคาดหวังยอดขายกระบะให้เทียบชั้นเท่า Isuzu D-max ภายในเวลา 2 ปีด้วยสินค้าที่ซุ่มประคบประหงมพัฒนาเอาใจตลาดเมืองไทยเต็มที่ที่ชื่อว่า Hilux Vigo มากเสียจนคู่แข่งถึงกับระส่ำระส่ายกับสถานะเจ้าตลาดรถกระบะผูกขาดกว่า 20 ปี
การไม่ครั่นคร้ามของ Toyota นั่นเพราะการมอบโอกาสให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถกระบะโครงการ IMV มูลค่าการลงทุนรวมร่วมแสนล้านบาททำให้การตั้งวิทยายุทธ์ทำได้ง่าย ยืดหยุ่นและรวดเร็วกว่าเดิม ยิ่งเป็นรถโมเดลใหม่เพื่อประเทศไทยโดยเฉพาะซึ่งมีรสนิยมการซื้อรถแตกต่างจาก ตลาดโลกหากเอาใจคนไทยได้แสดงว่าตลาดโลกก็จะสดใสตามไปด้วย
จุดขายหลักของ Vigo คือดีไซน์รถที่ดูทันสมัยขึ้นโค้งมน ขนาดตัวถังที่ฉีกแนวใหญ่ที่สุดในตลาด พื้นฐานงานวิศวกรรมใหม่หมดจดชนิดไม่เหลือของเดิมโดยเฉพาะแชสซีส์ใหม่ที่ใช้ ร่วมกับเอสยูวีระดับหรูอย่าง LandCruiser Prado เครื่องยนต์คอมมอนเรลที่ปรับปรุงจากรุ่นก่อนให้ลงตัวกว่าคู่แข่งทั้งหมด ทั้งแรงตีนต้นถึงตีนปลายและประหยัด เรียกว่าเป็นรถที่เด่นมากที่สุดในตลาดขณะนั้นกวาดยอดจองล้นหลามทีเดียว
ทำตลาดครบรอบ 4 ปีต้องปรับปรุงโฉมแบบ Minorchange ครั้งใหญ่หมายมั่นปั้นมือจะทุบตลาดรถกระบะให้จมดินเมื่อกันยายน 2008 เติมความสดใหม่ด้วยกระบะเปิดได้,ออพชั่นระดับสูงที่ใส่ในรถกระบะครั้งแรก แต่แล้วความหวังก็พังทลายลงเมื่อพบว่าคนไทยไม่ได้นิยมชมชอบบานแค๊บเปิดได้ อย่างแท้จริง จึงไม่มีเหตุผลกลใดที่จะต้องปลาบปลื้มไปกับ SmartCab ,ลูกค้าต้องการให้ Toyota เปลี่ยนหน้าตารถให้มากกว่าเปลี่ยนแค่กันชนและกระจังหน้าเท่านั้น ประกอบกับอยู่ในช่วงสภาวะ Oil Shocked เป็นจังหวะที่ไม่ดีเอามากทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป
ผลจากพลาดหวังครั้งนี้ทำให้ยอดขาย Toyota ไตรมาสสุดท้ายปี 2008 แพ้ Isuzu ลากมาจนถึงไตรมาสแรกปี 2009 เกิดจากการที่ Isuzu ไม่ลืมจุดแข็งแกร่งของตนเองนั่นคือกระบะที่ให้ความรู้สึกประหยัดน้ำมันที่ สุด ขณะที่ Vigo ใหมชูจุดขายทุกอย่างทั้งหมดทำให้จุดขายไม่เด่นชัดทั้ง ๆ ที่คนเริ่มหารถที่ประหยัดน้ำมันมากกว่ารถราคาแพงแต่ออพชั่นมาก
ถึงรุ่นปรับโฉมกลางอายุจะไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าแต่ยอดขายก็ยังบีบบี้คู่ แข่งไม่ทิ้งห่างกันอยู่ดี Toyota ยังมีโอกาสทำยอดขายรุ่นนี้ให้แซงหน้า Isuzu ตลอดเวลาจนกว่าจะถึงเวลาเปลี่ยนโฉม และกว่าจะรอคอยเวลานั้นก็อีกยาวนานมาก
หลายคนคงได้ยินข่าวคร่าว ๆ ว่า Toyota Hilux โฉมต่อไปมีนิคเนมสั้น ๆ ว่า IMV2 จะได้ฤกษ์เปิดตัวปี 2011 แต่สืบทราบข่าวที่เกี่ยวข้องทั้งหมด(ขอสงวนนามบุคคลและชื่อบริษัทของแหล่ง ที่มา)พบว่าโปรเจคท์นี้ยังเป็นแค่ช่วงเริ่มต้นโครงการพัฒนาอยู่มิใช่ช่วง กลางหรือช่วงปลายแต่อย่างใด
ทุกสิ่งทุกอย่างน่าจะดูสวนทางกับการวิเคราะห์ธุรกิจที่ Toyota น่าจะปล่อยรถของตนออกมาช่วงนั้น แต่อย่าลืมว่าปัจจัยลบยังมีอยู่มหาศาลได้แก่
-ความต้องการของรถกระบะโลกไม่แน่นอนผันผวนตลอดเวลา โดยเฉพาะพฤติกรรมการใช้รถกระบะของคนไทยเปลี่ยนไปมากทยอยหันมาใช้รถยนต์นั่ง ขนาดเล็กมากขึ้น ผลจากการภาวะน้ำมันดีเซลพุ่งขึ้นขีดสุดจนรับไม่ไหว คาดว่าคนไทยจะปรับตัวหันมาหารถกระบะอีกครั้งคงไม่ใช่ระยะเวลาสั้น ๆ แน่
-Toyota ต้องแน่ใจว่าหากลงทุนลงเงินต้องอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ทั้งสภาวะเศรษฐกิจ ผลกำไร ค่าเงินเยน ความต้องการตลาด เป็นต้น มากกว่าเพียงแค่ต้องการเอาชนะเป็นที่ 1 ในภูมิภาคนั้นแต่บริษัทแม่กลับต้องรับความเสี่ยงในระดับโลก
-Toyota ต้องการเก็บเกี่ยวกำไรจากการลงเงินลงแรงในระบบไปมากถึง 1 แสนล้านบาทให้คุ้มทุนระดับหนึ่งเสียก่อนที่จะเปลี่ยนโฉม
-ต้องการดูรถของคู่แข่งหลักและคู่แข่งรองในตลาดเพื่อหาข้อเด่นและข้อด้อย และนำไปปรับปรุงผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายให้สมบูรณ์แบบ
ดังนั้น โฉมต่อไปของ Hilux รหัสโปรเจคท์ IMV2 จะถูกพัฒนาขึ้นที่เมืองไทยทั้งหมดที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ภาคพื้น เอเชียแปซิฟิค (TMAP-EM) ร่วมกับศูนย์วิจัยพัฒนาโตโยต้าญี่ปุ่น ถือเป็นอีกครั้งที่ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ ส่วนรายละเอียดตัวรถตอนนี้ยังเร็วไปที่พูดถึงตอนนี้หากถึงช่วงกลาง-ปลายงาน พัฒนาก็น่าจะมีความคืบหน้านำเสนออีกครั้ง
กำหนดการเปิดตัวคือปี 2014 ถึงจะเปิดตัว Hilux โฉมใหม่หมดจดโดยไม่ใช้ชื่อ Vigo ต่อท้าย ตามธรรมเนียมที่ Toyota มักจะเปลี่ยนชื่อรุ่นย่อยรถตระกูลนี้ทุกครั้งที่เปลี่ยนโฉม แต่ระหว่างที่รอจะมีการปรับโฉมชนิด Big Minorchange เรียกน้ำย่อยอีกครั้งในปี2011 เพื่อดักคอคู่แข่งทั้งหมดที่เตรียมเปิดตัวรถกระบะโมเดลใหม่ไม่ยั้ง ตั้งแต่ Isuzu D-max โฉมใหม่รหัสพัฒนา RT-50 ,Mazda-Ford รหัส T6 และ Chevrolet Colorado ในปีนั้น