เรื่องของเงินจำนวน 1,500 บาท ที่ขอเก็บไปในครั้งก่อนที่รวมในค่าเทอมนั้น
พอจะอธิบายได้คร่าวๆดังนี้ก็คือ
ทางโรงเรียนได้รับค่าจัดการอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียนจากทางรัฐบาลคือหัวละ 13 บาท/วัน
ถามทีเถอะครับ 13- มันได้แค่ค่าไอติมแท่งเดียวเท่านั้น ไข่ยังฟองละ 4 บาทเลยสมัยนี้
แล้วทางผูใหญ่ เสนอว่า เด็กๆต้องการอาหารเพื่อบำรุงทั้งสมองและร่างกาย คือ..กินอิ่ม นอนอุ่น ร่างกายแข็งแรง ดังนั้นจึงได้เป็นที่มาของการขอเงินสมทุนครั้งแรก
เงินที่เรียกเก็บ 1,500 บาท บังเอิญว่า..ตัวเลขมันไปตรงกับการขอเก็บค่าแอร์ในรอบนี้คือ 1,500 บาท
เงินที่เรียกเก็บครั้งก่อน ทางโรงเรียนได้จัดสรรดังนี้
1. แบ่งเป็นค่าจ้างครูต่างชาติ เจ้าของภาษามาสอน บุตรหลานของเราทุกๆคน
เพื่อให้การเรียนการสอนนั้น..เข้มข้น สู้กับโรงเรียนอื่นๆได้
คนที่ได้รับผลประโยชน์คือใครครับ...ลูกๆของทุกๆคน
2. เป็นค่าสันทนาการ นอกห้องเรียน ที่อยู่นอกเหนืองบประมาณที่ได้รับทางจากส่วนกลาง ซึ่งในระหว่างภาคเรียน หลายๆท่านก็ทราบดีอยู่แล้วว่าทางโรงเรียนได้จัดการออกกทัศนศึกษานอกห้องเรียน เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ในโลกกว้างให้กับเด็กๆ
ใครได้รับผลประโยชน์...ลูกๆของเราทุกๆคน
3. ส่วนนึงได้นำไปสมทบทุนค่าแอร์ตามที่ได้แจ้งกันทางเอกสาร สานสำพันธ์ระหว่างโรงเรียนและผู้ปกครอง
แต่เมื่อให้ทาง ร้านค้าตัวแทน มาประเมินราคาแล้ว ประมาณห้องละ 7 หมื่น BTU ด้วยเหตุว่า ห้องเรียนเพดานห้องมันสูง
ขอโทษนะคับผม ขอถามนิดหนึ่งไม่ทราบว่า ให้ร้านมาประเมินกี่ร้านครับ ทำไมมันใช้ btu เยอะจังเลย ถ้ามีแค่ร้านเดียวมาประเมิน ผมว่าน่าจะให้ร้านแอร์ไปประมูลราคาติดตั้งจะได้ราคาถูกกว่าใช้บริการเจ้าเดียวนะครับ
ปล.ผิดถูกประการใดก็ขอสูมาอภัยด้วยนะครับ
