ผมไปอ่านเจอครับ พอดีว่าอยู่หน้าเว็บ
วันนี้ เสนอ
เรื่อง :: พุทธวิธีบริหาร : ผู้นำในหัวใจคน จากฉายาธรรม นามว่า ปญญาวุฑโฒ วันนี้กลับคืนสู่ สุดปฐพี ดังเดิม จึงมีของดีมาฝาก เป็นแง่คิดพุทธวิธีบริหารขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าในด้านการบริการจัดการ หรือตามแบบธรรมธิปไตยนั่นเอง และถือเป็นแนวคิดด้านการบริหารตามหลักพุทธศาสนาที่น่าสนใจมาก
ผู้นำ คือ ผู้ชักพาให้คนอื่นเคลื่อนไหวหรือกระทำการในทิศทางที่ผู้นำกำหนดเป้าหมายไว้ หลายคนมีบทบาทเป็นผู้นำกันอยู่แล้ว เช่นเป็นผู้นำองค์กร ผู้นำสมาคม ผู้นำวัดและแม้กระทั่งหัวหน้าครอบครัวก็จัดว่า เป็นผู้นำ
ปัญหาของผู้นำ คือ ทำอย่างไรจะให้เป็นที่ยอมรับของผู้ตาม เริ่มตั้งแต่หาทางให้ได้รับการเลือกตั้งเข้าสู่ตำแหน่งผู้นำ เมื่อได้รับการเลือกตั้งแล้วก็ยังได้รับความร่วมมือจากสมาชิกช่วยกันทำงานและมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ จนพร้อมจะได้รับการเลือกให้มาดำรงตำแหน่งต่อไปอีก
ผู้นำที่จะประสบผลสำเร็จดังกล่าวจะต้องมีธรรมะประจำใจ ธรรมะข้อหนึ่งสำหรับผู้นำคือ นิวาตะ หมายถึง ความอ่อนน้อมถ่อมตน คำว่า นิวาตะ แปลตามตัวอักษรได้ว่า ไขลมออก
ผู้นำบางคน เมื่อได้รับตำแหน่ง มักจะมีอาการพองลม วางท่าด้วยทิฐิมานะว่า ข้าคือ ผู้นำ คนประเภทนี้ ต้องไขลมออกบ้าง คือ หัดถอดหัวโขนออกบ้างแล้วจะสบายขึ้น ผู้นำมีเพียงสองประเภท คือ ผู้ที่นั่งอยู่บนหัวคน และผู้นำที่นั่งอยู่ในหัวใจคน
ผู้นำที่สวมหัวโขนข่มคนอื่นอยู่ตลอดเวลา จัดว่า เป็นผู้นำที่นั่งอยู่บนหัวคน ส่วนผู้นำที่ถอดหัวโขนออกทำตัวเป็นกันเอง ยึดนิวาตะ คือ อ่อนน้อมถ่อมตน ย่อมเป็นผู้นำที่นั่งอยู่ในหัวใจคน ผู้นำที่นั่งในหัวใจคนจะมีศัตรูน้อย ถ้าจะมีบ้างก็เป็นพวกอิจฉาริษยา คิดแต่เลื่อยขาเก้าอี้ ถือเป็นโลกธรรมคือธรรมดาของโลก
ผู้นำต้องกำจัดศัตรูอย่าให้เหลือกวนใจ ปราชญ์ท่านสอนว่าเศษ 3 ชนิด ต้องไม่เก็บเอาไว้เป็นปัญหาใหญ่ลุกลามต่อไปในภายหน้าได้ คือ เศษหนี้ เศษไฟและเศษศัตรู ผู้นำต้องไม่เก็บศัตรูเอาไว้และผูกมิตรใหม่ตลอดเวลา เพราะภาษิตจีนสอนว่า “มีมิตรห้าร้อยคน ยังนับว่าน้อยเกินไป มีศัตรูหนึ่งคน ยังนับว่ามากเกินไป”
ครั้งหนึ่งในช่วงสงครามระหว่างฝ่ายเหนือกับฝ่ายใต้ในสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีลินคอล์นได้รับเชิญขึ้นกล่าวปราศรัยในงานเลี้ยง ตอนหนึ่งลินคอล์นกล่าวถึงทหารฝ่ายใต้ว่า เป็นเพียงคนอเมริกันที่หลงผิดจึงไม่ใช่ศัตรูที่ต้องเข่นฆ่าให้สิ้นซาก คุณยายคนหนึ่งมีเลือดรักชาติรุนแรงลุกขึ้นประท้วงประธานาธิบดีลินคอล์นว่า ไม่ควรใช้คำแบบปราณีพวกศัตรู ที่ถูกนั้นประธานาธิบดีต้องกำจัดให้สิ้นซาก ประธานาธิบดีลินคอล์นตอบคุณยายท่านนั้นว่า “คุณนาย การที่ผมพูดถึงศัตรูในทางที่ดีนั้นเป็นความพยายามทำศัตรูให้เป็นมิตร การทำศัตรูให้เป็นมิตรนั้นมิใช่เป็นวิธีทำลายศัตรูที่ดีที่สุดละหรือ”
บางครั้งผู้นำต้องหัดเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ไม่โง่ก็ต้องทำเหมือนโง่ ไม่ใบ้ก็ต้องทำเหมือนใบ้ดังที่สมเด็จพระมหาวีรวงศ์(ติสสมหาเถร) นิพนธ์ไว้ว่า
โง่ไม่เป็นเป็นใหญ่ยากฝากให้คิด ทางชีวิตจะรุ่งโรจน์โสตถิผล
ต้องรู้โง่รู้ฉลาดปราชญ์เปรื่องตน โง่สิบหนดีกว่าเบ่งเก่งเดี๋ยวเดียว
แสดงความคิดเห็นได้ที่ http://sudpattapee.chiangraifocus.com/index.php?id=9