เชียงราย - กรรมาธิการวุฒิสภา ลงลุยตรวจโรงโม่เชียงรายหลังปัญหายืดเยื้อมาร่วม 10 ปี ขณะที่กลุ่มชาวบ้าน รุมค้าน ขวางทุนใหญ่เข้าทำโรงโม่เพิ่ม หวั่นกระทบสิ่งแวดล้อมเพิ่ม
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า นางจิราวรรณ วัฒนศิริธร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จ.เชียงราย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ได้นำคณะอนุกรรมาธิการฯ เดินทางไปตรวจสอบโรงโม่หินของบริษัทวันไชยธนวงศ์ จำกัด และบริษัทเชียงแลนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด ซึ่งเป็นเอกชน 2 ราย ที่เปิดกิจการตั้งโรงโม่หินอยู่บริเวณดอยผาหมื่น ต.ผางาม อ.เวียงชัย จ.เชียงราย ที่ทางจังหวัดประกาศให้เป็นแหล่งหินจังหวัดมานาน เพื่อติดตามเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพว่าเป็นเช่นใด เนื่องจากมีชาวบ้านร้องเรียนเข้าไปมาก
ขณะเดียวกันได้เดินทางไปตรวจสอบดอยแม่ออกฮู ถัดจากดอยผาหมื่น ที่มีบริษัทเบิร์ดอาย จำกัด ของนายศักดิ์ชัย จงสุทธนามณี ญาติของนางจิราวรรณ ซึ่งได้มีการผลักดันให้บริษัทสามารถเข้าไปรับสัมปทานตั้งโรงโม่หินได้เหมือน 2 บริษัทแรกมานานหลายปี แต่ก็ถูกชาวบ้านบางส่วนคัดค้านเพราะเกรงจะเกิดผลกระทบหนักเข้าไปอีก
ทั้งนี้ ทางคณะอนุกรรมาธิการฯ ได้ใช้สถานที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ผางาม ในการเข้าไปรับทราบข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวทั้งภาครัฐและเอกชนรวมทั้งกลุ่มชาวบ้าน ซึ่งพบว่า ตลอดช่วงการรับการชี้แจงได้เกิดการโต้เถียงกันเป็นระยะระหว่างชาวบ้านกับกลุ่มนายทุนและผู้นำท้องถิ่นที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
โดยชาวบ้านกลุ่มใหญ่แสดงความไม่พอใจที่ผู้นำท้องถิ่นบางคนไม่ได้ช่วยชาวบ้านด้วยกัน แต่กลับไปสนับสนุนกลุ่มทุนเสียเอง รวมทั้งแสดงความกังวลว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้มีผลกระทบต่อสุขภาพทำให้เป็นโรคมะเร็งตายแล้วหลายสิบราย
นางจิราวรรณ กล่าวว่า การตรวจสอบของคณะอนุกรรมาธิการฯ ในครั้งนี้เรามุ่งเน้นเกี่ยวกับปัญหาเรื่องฝุ่นละอองในอากาศและน้ำ ซึ่งชาวบ้านเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและทำให้แหล่งน้ำได้รับผลกระทบ ซึ่งเรื่องนี้เคยมีการยื่นร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงราย รัฐสภาและศาลปกครองกลาง มาแล้ว แต่ก็ยืดเยื้อมานานร่วม 10 ปี กระทั่งศาลปกครองมีคำสั่งเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในครั้งนี้
ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่ามีปัญหาในหลายด้านแต่ยังขาดหลักฐานทางวิชาการ แต่คณะอนุกรรมาธิการฯ จะส่งเรื่องทั้งหมดให้คณะกรรมการใหญ่ชุดใหญ่ได้พิจารณาเพื่อเสนอไปยังศาลปกครอง จากนั้นจะแจ้งผลที่ได้รับให้ชาวบ้านได้ทราบต่อไป
ด้านนางหอมหวล บุญเรือง แกนนำชาวบ้านร่องเจริญ ต.ผางาม กล่าวว่า ลำพังโรงโม่หินที่มีอยู่ในปัจจุบันก็ได้สร้างผลกระทบต่อชีวิตชาวบ้านอย่างหนัก ทั้งเรื่องฝุ่นละอองที่ทำให้เจ็บป่วยตลอดปี นาข้าวโดยรอบก็เสียหาย ที่สำคัญที่สุดคือดอยแม่ออกฮู จะมีตาน้ำจึงมีน้ำไหลออกมาตลอดทั้งปี โดยในฤดูแล้งเมื่อไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติอื่นๆ ชาวบ้านก็พึ่งพาน้ำจากแม่ออกฮู มาใช้บริโภคและการเกษตร จึงไม่อยากให้มาใช้ดอยแม่ออกฮูเป็นแหล่งหินจังหวัดอีก
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับพื้นที่ ต.ผางาม ถือเป็นพื้นที่ที่มีภูมิประเทศที่มีภูเขาหินหลายลูกตั้งอยู่ติดๆ กันบนถนนสายเวียงชัย-พญาเม็งราย จนสามารถเห็นทิวทัศน์เมื่อเดินทางไปเยือนได้อย่างชัดเจนและสวยงาม อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาจังหวัดได้ประกาศให้เป็นแหล่งหินจังหวัดและเปิดให้เอกชนที่เป็นเครือข่ายของนักการเมืองใหญ่ในพื้นที่หลายคนเข้าไปสัมปทานระเบิดหิน และเคยมีชาวบ้านออกมาต่อต้านเพราะต้องการอนุรักษ์เอาไว้รวมทั้งเกรงจะกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แหล่งน้ำ ป่าไม้ และสุขภาพ
แต่ปรากฏว่ามีแกนนำชาวบ้านคนหนึ่งถูกยิงเสียชีวิตไป 1 คน รวมทั้งบางครั้งเกิดคดีความยิงกันเสียชีวิตในหมู่เอกชนที่เข้าไปสัมปทานเสียเอง กระทั่งเรื่องยืดเยื้อถึงปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ก็ยังถูกกลุ่มทุนที่เข้าไประเบิดหินและทำโรงโม่หินมาอย่างต่อเนื่อง
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000132145