|
|
|
|
|
|
|
่JaneenaJ
สัญญานะ
เตรียมอนุบาล
ออฟไลน์
กระทู้: 95
ไม่ยึด ไม่ทุกข์ ไม่สุข ละได้ ย่อมสงบ...
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 28 มกราคม 2013, 01:19:48 » |
|
ท่าน จขกท. ครับคือขอโทษนะครับผมเป็นห่างวัดพอสมควรแต่ก็มิได้มีอคติอะไรเกี่ยวกับศาสนาทุกศาสนา พอดีเห็นว่าไม่ค่อยได้ยินศัพท์นี้สายนี้มาก่อนดูแล้วเป็นที่น่าสนใจ จึงขอถามคร่าว ๆ ว่า 1. เป็นธรรมะข้อปฏิบัติเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนาหรือไม่ครับเช่นแนวทางในการปฏิบัติ อาทิ ปริยัติ เป็นธรรมมะที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนา ปฏิบัติ ปฏิเวธ หรือ แตกแขนงไปจาก สติปัฏฐาน 4 ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเป็นแนวทางในการปฏิบัติ มิได้มีสิ่งใดแตกต่างหรือผิดเพี้ยนไป 2. หากเป็นสายหรือแขนงหนึ่งของพระพุทธศาสนา ปัจจุบันนี้มีพระมหาเถระรูปใด นามเช่นใดเป็นเจ้าสำนักเผยแผ่ (ขอโทษนะครับมิได้ละลาบละล้วงอะไรพระมหาเถระเจ้าสำนัก) เช่น หลวงพ่อจรัล หรือ หลวงพ่อชา หลวงพ่อเทียน เป็นต้น (กราบขอโทษ ที่มิได้เอ่ยนามเต็ม) ไม่มีพระมหาเถระรูปใดเป็นผู้เผยแผ่3. หลักใหญ่ใจความในสายสัญญาบารมีนี้มี จุดเด่นคือแนวปฏิบัติมุ่งเน้นไปในทางทิศใด กาย วาจา ใจ ทุกอย่างเหมือนที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระโคตม องค์ปัจจุบันสอนไว้ทุกอย่าง เพียงแต่มีการดับล้าง ลงองค์พระธรรม น้อมนำจิตใจ สู่ยุคพระศรีอารย์ ขอบคุณครับ สูมาเต๊อะหากพูดผิดสิ่งใดไป หากดูจากที่ท่าน TeeTeeได้โพสต์ถามไว้นั้น มิใช่ภาษาของคนห่างวัดเลย เราเสียอีกที่ไม่เคยจะจดจำศัพธ์ธรรมะได้ สายสัญญาบารมีนั้นเป็นการปฎิบัติธรรมเพื่อสร้างและน้อมนำจิตใจเข้าสู่ธรรมมะสายพระศรีอาริยเมตตรัย มิได้มีพระสงฆ์ใดๆเลยเราก็คือศาสนิกชนชาวพุทธแบบเราๆท่านนี่ล่ะ ใส่บาตร ทำทาน รักษาศีล5แบบเคร่งครัด เพียงแต่มีการปฏิบัติเพิ่มเข้ามาอีกเล็กน้อย แบบปัจจัตตัง หากสาธยายไว้คงไม่ดี เพราะแบบที่บอก ปัจจัตตัง แต่จุดหมายปลายทางคือที่เดียวกันคือ "นิพพาน" มีหลายท่านที่เข้ามาปฏิบัติแล้วก็ต้องหลุดออกไปเหมือนที่บางคนทำวิปัสนากรรมฐานเมื่อได้รู้ได้เห็นด้วยจิตมีกำลังกลับหลงเดินออกนอกเส้นทาง ไม่ว่าปฏิบัติธรรมสายไหนๆ จะพุทโธ ยุบหนอพองหนอ หรือแม้แต่ สัมมาอะระหัง ก็ล้วนแล้วแต่ดีด้วยกันทั้งนั้นหากแต่ เราหรือท่านจะเคยมี "ของเดิม" หรือ "กุศลมูลเดิม" มาทางสายไหน อย่างเราหากภาวนา สัมมาอะระหังก็ไม่ได้หายใจไม่ออกอึดอัด "จริต" ของเราอยู่ที่ พุทโธ แต่ของสามีกลับชอบ สัมมาอะระหัง เพราะจิตจะสงบเร็ว ขอขอบคุณที่แวะเข้ามาคุย ขอให้สว่างทั้งทางโลกแลทางธรรม
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 28 มกราคม 2013, 02:13:49 โดย ่JaneenaJ »
|
IP :
บันทึกการเข้า
|
ไม่ยึด ไม่ทุกข์ ไม่สุข ละได้ ย่อมสงบ...
|
|
|
|
|
|
|
|
|
่JaneenaJ
สัญญานะ
เตรียมอนุบาล
ออฟไลน์
กระทู้: 95
ไม่ยึด ไม่ทุกข์ ไม่สุข ละได้ ย่อมสงบ...
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 30 มกราคม 2013, 02:05:54 » |
|
ขออนุญาตจขกท. อีกครั้งนะครับมิได้ทักท้วงเพราะเหตุอคติใด ๆ ขอความกระจ่างชัดคำว่าสาย "สัญญาบารมี" ขอความหมายและคอนเซปป์ (เป้าหมาย) หากเป็นอันเดียวเกี่ยวเนื่องศาสนาของพระโคตมะแล้ว ใยจึงมีชื่อเช่นนี้ หากจะแปลให้ตรงตัว สัญญา คือ ความจำได้หมายรู้ บารมี (ตามหนังสือพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ 2542 คือ น. คุณความดีที่ควรบำเพ็ญมี 10 อย่าง คือ ทาน, ศีล , เนกขัมมะ (การออกจากกาม คือ บวช ) ปัญญา, วิรยะ, ขันติ, สัจจะอธิฎฐาน เมตตา อุเบกขา เรียกว่าทศบารมี คุณความดีที่ได้บำเพ็ญมา, คุณสมบัติที่ทำให้ยิ่งใหญ่,เช่นว่า ชมพระบารมี พระบารมีปกเกล้า ฯ พ่ายแพ้แก่บารมี ถ้าอย่างนั้นหากจะรวมความแล้วน่าจะหมายถึง พวกเรามารำลึกถึงบารมีที่เราได้สร้างร่วมกันมาแล้วในอดีต หรือ พวกเรามาร่วมกลุ่มกันสร้างบารมีกันเถอะ อย่างเช่นในปัจจุบันนี้ การไปทอดผ้าป่า - กฐิน ไปงานฝังลูกนิมิต - ไปงานปอยหลวง ก็ถือว่าไปสร้างทานบารมีร่วมกัน การไปวัดไปรักษาอุโบสถศีล ไปฟังเทศน์ เวียนเทียนเนื่องในวันสำคัญ ใช่ทั้งนั้นการสร้างบารมี มีทั้งทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา ขันติ เรียกว่าการไปครั้งได้ร่วมสร้างบารมี เพิ่มพูนให้กับตนเองทั้งนั้น (หากไม่ใช่เช่นนี้็ขอโทษท่านผู้รู้ทั้งหลายด้วยมีเหตุอันใดจะชี้แนะข้าพเจ้าก็ขอน้อมรับเพื่อเพิ่มพูนปัญญาบารมีของข้าพเจ้าด้วยเถิด) ขอบคุณท่านเจริญในธรรมทุกท่านที่อ่านกระทู้นี้
สัญญา คือ ความจำได้หมายรู้ บารมีคุณความดีที่ควรบำเพ็ญมี 10 อย่าง คือ ทาน, ศีล , เนกขัมมะ (การออกจากกาม คือ บวช ) ปัญญา, วิรยะ, ขันติ, สัจจะอธิฎฐาน เมตตา อุเบกขา เรียกว่าทศบารมี คุณความดีที่ได้บำเพ็ญมา, ที่ท่านเขียนมานี้คือคำตอบทั้งนั้นเจ้าค่ะ ในสมัยพุทธกาล มีมากมายที่มิจำเป็นต้องออกบวชนุ่งห่มผ้าเหลือง มิจำกัดเพศ ที่จะสามารถ บรรลุโสดาบัน สกิทาคามี หรือ อนาคามี การปฏิบัติสายสัญญาบารมีเราก็เหมือนถือบวช รักษาศีลให้ดีมิให้ด่างพร้อย นุ่งขาวห่มขาวเมื่อยามสวดมนต์ดับล้าง หมั่นทำบุญ ทำทานเสมอๆเพื่อสร้างกุศล ต้องขอโทษอีกครั้งนะค่ะหากคำตอบยังไม่ดีพอ เพราะเป็นคนที่ความรู้น้อยและด้อยด้วยปัญญา รู้แต่ว่า ทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ตามองค์พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้จริงๆ และหากเราสังเกตุดู จะเห็นได้ว่า สุขนั้นมักสั้นกว่าทุกข์ สาธุสัญญานะ ขอให้เจริญทั้งทางโลกแลทางธรรมนะค่ะ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 30 มกราคม 2013, 02:17:30 โดย ่JaneenaJ »
|
IP :
บันทึกการเข้า
|
ไม่ยึด ไม่ทุกข์ ไม่สุข ละได้ ย่อมสงบ...
|
|
|
|
|