ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยล้วนๆ มีสรรพคุณอย่างมากมาย จะทยอยอัพรูปและข้อมูลให้เรื่อยๆนะคะ สนใจสอบถามรายละเอียดได้จ้า ของพร้อมส่งทุกวันจันทร์ค่ะ ลูกค้าท่านใดที่สั่งซื้อทางเราจะแนบรายละเอียดข้อมูลสรรพคุณ และวิธีการรับประทานอย่างละเอียดด้วยค่ะ
กวาวเครือขาว
สารที่ออกฤทธิ์สำคัญที่พบในหัวกวาวเครือขาวเป็นสารที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนในเพศหญิง
ซึ่งช่วยกระตุ้นลักษณะความเป็นผู้หญิงออกมาเช่นหน้าอกขยายใหญ่ หน้าอกของผู้หญิงจะขยายใหญ่ขึ้นขนาด 0.5-1 นิ้วในระยะเวลา 2-3 เดือนกระบวนการที่ทำให้หน้าอกขยายจะดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ
จนถึงระดับหนึ่งที่เมื่อหน้าอกกระชับแล้วกระบวนการนี้ก็จะสิ้นสุดลง
กวาวเครือขาวมีสรรพคุณเป็นประโยชน์กับเพศหญิงโดยเฉพาะ ดังนี้
- ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนผิวกาย และลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า
- กวาวเครือขาวช่วยให้ผมขาวกลับคืนสภาพปรกติ และลดการหลุดร่วงของเส้นผม
- กวาวเครือขาวสามารถช่วยขยายทรวงอกให้ใหญ่ขึ้นและทรวงอกที่หย่อนคล้อยจะกลับมาเต่งตึง
- สตรีที่มีปัญหาปวดประจำเดือน และประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ เมื่อรับประทานกวาวเครือขาวแล้วจะทำให้ประจำเดือนมาเป็นปรกติ
- กวาวเครือขาวจะทำให้ร่างกายสดชื่น คลายเครียด และนอนหลับสบาย
- เมื่อรับประทานกวาวเครือขาวเป็นประจำจะชะลอความแก่ และเป็นสมุนไพรอายุวัฒนะ
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งในทรวงอก และมะเร็งในมดลูก
(จากการวิจัยของโรงพยาบาลพระมงกุฎ และได้รับการยอมรับจากนักวิชาการของกระทรวงสาธารณสุข
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สถาบันแพทย์แผนไทยและสถาบันมะเร็งแห่งชาติ)
วิธีรับประทาน
รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล หลังอาหารเช้า และ ก่อนนอน
(สำหรับสตรีที่ไม่ได้รับประทานยาคุมกำเนิด)
หมายเหตุ
ผู้ที่เป็นโรคต่อมธัยรอยต์โต, มะเร็ง, เนื้องอก ห้ามรับประทาน
เด็กหญิงวัยก่อนประจำเดือน สตรีที่อยู่ในระยะให้นมบุตร ห้ามรับประทาน
เคล็ดลับเล็กๆน้อยๆ
ควรรับประทานอย่างไร ให้ได้ผลดี ?
คำตอบ : รับประทานวันแรกของวันที่ประจำเดือนมา หลังอาหารเช้า – เย็น ครั้งละ 1 แคปซูล รับประทานไปจนครบ 15 วัน แล้วจึงหยุดรับประทาน กระทั่งถึงเดือนต่อไปที่ประจำเดือนมา ก็จะเริ่มรับประทานเหมือนเดิม เนื่องจากในช่วงที่ประจำเดือนมาวันแรก จะเป็นช่วงที่ระดับเฮอร์โมนในร่างกายมีระดับต่ำลง กวาวเครือขาวจะส่งผลให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดในระยะเวลานาน
1 กระปุก บรรจุ 100 แคปซูล กระปุกละ 120 บาท
สมุนไพรมะรุม ใบล้วน
สารอาหารเปรียบเทียบกรัมต่อกรัมใน "ใบ" สุดขีดกับสรรพคุณจาก "ใบ"
1.วิตามินC มากกว่าส้ม 7 เท่า วิตามินC สร้างภูมิต้านทาน
2.มีแคลเซียม มากกว่านม 4 เท่า ช่วยเรื่องกระดูกพรุน และ แคลเซี่ยมจากพืชร่างกายดูดซึมได้ดีกว่ากว่าแคลเซี่ยมอื่นๆ
3.มีวิตามินเอ มากกว่าแครอท 4 เท่า วิตามินเอ ช่วยเรื่องการมองเห็น และผิวพรรณ
4.มีโปรตีน มากกว่านม 2 เท่า โปรตีนซ่อมแซมร่างกาย
5.โปรแตสเซียม มากกว่ากล้วย 3 เท่า โปรแตสเซียมช่วยเรื่องเซลล์ประสาท ให้ทำงานปรกติ
มะรุมเป็นพืชมหัศจรรย์ มีคุณค่าทางโภชนาการสูงสุด กล่าวถึงในคัมภีร์ใบเบิ้ลว่าเป็นพืชที่รักษาทุกโรค
ใบมะรุมมีโปรตีนสูงกว่านมสด 2 เท่า การกินใบมะรุมตามชนบทของประเทศกำลังพัฒนาและประเทศโลกที่ 3 เป็นการเพิ่มโปรตีนคุณภาพสูงราคาถูกให้กับอาหารพื้นบ้าน
นอกจากนี้ มะรุมมีธาตุอาหารปริมาณสูงเป็นพิเศษที่ช่วยป้องกันโรค
สรรพคุณ :
1.ใช้รักษาผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานให้อยู่ในภาวะควบคุมได้ทำให้สามารถลดการใช้ยาลงโดยความเห็นชอบและการดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์ผู้รักษาด้วย
2.รักษาโรคความดันโลหิตสูง
3.ช่วยเพิ่มและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายถ้าแม้ทานผลิตผลจากมะรุมในระหว่างตั้งครรภ์เด็กที่เกิดมาจะไม่ติดเชื้อHIVนอกจากนี้ยังช่วยให้คนทั่วๆไป สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองถ้ารับประทานอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้ง
4.ช่วยรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ให้อยู่ในภาวะควบคุมได้และสามารถมีชิวิตอยู่อย่าง คนทั่วไปได้ในสังคมการรักษาโรคเอดส์ที่ประสพผลสำเร็จในกลุ่มประเทศอาฟริกา แม้แต่ในสหรัฐอเมริกาก็กำลังอยู่ในภาวะทดลอง
5.ถ้ารับประทานสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นโรคมะเร็งแต่ถ้าหากเป็นก็จะช่วยให้การรักษาพยาบาลง่ายขึ้น ในบางกรณีสามารถหยุดการเจริญเติบโตของโรคร้ายได้ถ้าใช้ควบคู่ไปกับยาแพทย์แผนปัจจุบัน หากผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งได้รับการรักษาด้วยรังสีการดื่มน้ำมะรุมจะช่วยให้การแพ้รังสีฟื้นตัวเร็วขึ้นและมีร่างกายที่แข็งแรง
6.ช่วยรักษาโรคไขข้ออักเสบ โรคเก๊า โรคกระดูกอักเสบ โรคมะเร็งในกระดูก โรครูมาติซั่ม
7.รักษาโรคตาเกือบทุกชนิด เช่น โรคตามืดตามัวเพราะขาดสารอาหารที่จำเป็นโรคตาต้อ เป็นต้นถ้ารับประทานสม่ำเสมอ จะทำให้ตามีสุขภาพที่สมบูรณ์
8. รักษาโรคลำไส้อักเสบ โรคเกี่ยวกับท้อง โรคพยาธิในลำไส้ เป็นต้น
9.รักษาปอดให้แข็งแรง รักษาโรคทางเดินของลมหายใจ และโรคปอดอักเสบ
วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 2-3 แคปซูล หลังอาหารเช้า-เย็น
1 กระปุก บรรจุ 100 แคปซูล กระปุกละ 100 บาท
ในประเทศไทยขณะนี้ต้นฟ้าทะลายโจรได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก มีผู้ทำการศึกษาค้นคว้าวิจัยถึงสรรพคุณยาและได้พบสารเคมีในส่วนต่างๆ ของ พืชอยู่หลายชนิดรวมทั้งสาร Andrographolide ที่เป็นตัวยาสำคัญที่มีอยู่ในทุกส่วนคือ ราก ต้น ใบ ของฟ้าทะลายโจร และได้ทำการศึกษาทดลองเพื่อจำแนกโรคที่รักษาได้ดีให้ชัดเจน ซึ่งพบว่าฟ้าทะลายโจรรักษาโรคเหล่านี้ได้คือ
1. แก้ติดเชื้อทำให้ปวดท้อง ท้องเสีย บิด และแก้กระเพาะอักเสบ ลำไส้อักเสบ
2. แก้พวกไอ เจ็บคอ หรือคออักเสบ ต่อม ทอมซิลอักเสบ หลอดลมอักเสบ
3. แก้ไข้ทั่วไป เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่
4. เป็นยาขมเจริญอาหาร
อย่างไรก็ตามมีข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรที่สำคัญคือ ห้ามใช้กับผู้ป่วยที่มีความดันต่ำและมีอาการท้องอืด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย บางคนเมื่อกินยาฟ้าทะลายโจรแล้วมีอาการปวดท้อง ท้องเสีย เวียนหัว หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ซึ่งควรหยุดยาทันที
วิธีรับประทาน : ทานหลังอาหาร ครั้งละ 2-3เม็ด (เช้า-เย็น)
บุคคลที่ไม่ควรใช้ฟ้าทะลายโจร
1. ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากติดเชื้อ Streptococcus group A
2. ผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคไตอักเสบ เนื่องจากเคยติดเชื้อ Streptococcus group A
3. ผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคหัวใจรูห์มาติค
4. ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอ เนื่องจากมีการติดเชื้อแบคทีเรีย และมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มหนองในคอ มีไข้สูง หนาวสั่น
5.ผู้ที่เป็นความดันต่ำ เนื่องจากฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ลดความดันเลือดได้
6.สตรีมีครรภ์
ข้อควรระวัง
1. ฟ้าทะลายโจรอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเดิน ปวดเอว หรือวิงเวียนศีรษะ ใจสั่น ในผู้ป่วยบางราย หากมีอาการดังกล่าว ควรหยุดใช้ฟ้าทะลายโจร
2. หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้แขนขามีอาการชาหรืออ่อนแรง ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ติดต่อกันนานเกิน 3 สัปดาห์
3. หากใช้ฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน 3 วัน แล้วไม่หาย หรือมีอาการรุนแรงขึ้นระหว่างใช้ยา ควรหยุดใช้ และไปพบแพทย์
1 กระปุก บรรจุ 100 แคปซูล กระปุกละ 100 บาท
สนใจสอบถามรายละเอียดสินค้าทุกตัวได้ค่ะ
TEL : 083-2001459
Line : meree_may
E-mail :
shutty214@hotmail.comFacebook :
http://www.facebook.com/meree.pp?ref=tn_tnmn