เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 23 กรกฎาคม 2025, 04:02:29
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ธุรกิจเครือข่าย MLM งานออนไลน์
| |-+  ธุรกิจเครือข่าย MLM - ขายประกัน
| | |-+  เอ็นไซม์เหยิ่นเบิ่น ของดีท้าลอง พิเศษ 600 บาท 12 ซอง
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน เอ็นไซม์เหยิ่นเบิ่น ของดีท้าลอง พิเศษ 600 บาท 12 ซอง  (อ่าน 220 ครั้ง)
visanu95
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: วันที่ 18 ธันวาคม 2012, 13:05:13 »

1 กล่อง 2,900 บ.  2 กล่อง 5,600 บ.โทร.083208316
คุณสมบัติของเอนไซม์เหยินเบิ่น

-  มีเอนไซม์ที่ร่างกายต้องการกว่า 370 ชนิด
-  เอนไซม์ไม่อยู่ในรูปเฉื่อยชาเพียงผสมน้ำอุ่นก็พร้อมทำ  
   ปฏิกิริยาทันที
-  ทำปฏิกิริยา ได้ดีเป็น 3 เท่า ที่อุณหภูมิ 80 องศา  ขณะที่
   เอนไซม์  
   ทั่วไปจะเสื่อมที่อุณหภูมิ 50 องศา
-  สามารถเก็บรักษาไว้ได้นานเป็นแรมปี
-  มีสารอาหารครบ 5 หมู่
-  มีสารอาหารจากธรรมชาติ 100% ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี
   ใดๆ เช่น   เสตียรอยด์


“เอนไซม์” คือโมเลกุลโปรตีนที่มีพลังงานสูง เพื่อใช้ในขบวนการย่อยและเผาผลาญอาหาร ร่างกาย ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้หากขาด “เอนไซม์” ร่างกายเราสามารถรับเอนไซม์ได้จาก 2 วิธีคือ

1. การรับประทานอาหารสด (ไม่ผ่านความร้อน)เนื่องจากการปรุงอาหารสุกโดยผ่าน “ความร้อน” ทำลาย “เอนไซม์” ไปโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อีกทั้งเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตเอ็นไซม์ลดน้อยลงเรื่อย ๆ และเมื่อได้รับเอนไซม์ไม่เพียงพอเพื่อการย่อย ก็ทำให้เกิดการหมักเน่าของอาหารตกค้างอยู่ภายในร่างกาย ซึ่งเป็นบ่อเกิดสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

2. การเสริม “เอนไซม์สดจากพืช” เป็นการสกัดเอนไซม์สดจากพืช เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการย่อยอาหาร

ความสำคัญของเอ็นไซม์

            •เอนไซม์เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาเคมีในทุกๆ เซลล์ของร่างกาย
              ซึ่งมีมากกว่า 60 ล้านล้านเซลล์
    
            •การหายใจ การย่อยอาหาร การเจริญเติบโต การคิดและการนอนต้อง
             ใช้เอนไซม์
 
           •ถ้าขาดเอนไซม์ ชีวิตย่อมอยู่ไม่ได้ เช่นการทำปฏิกิริยาเคมีสร้าง
            ภูมิคุ้มกันต่อต้านเชื้อโรคเข้ามาจู่โจมร่างกาย ถ้าทำโดยไม่มีเอนไซม์  
            ต้องใช้เวลา 3 เดือน เชื้อโรคฆ่าเราเสียก่อน

           •ถ้ามีเอนไซม์สมบูรณ์ ภูมิต้านทานจะเกิดเพียงในหนึ่งนาทีแรกที่
             เชื้อโรคเข้ามาสู่ร่างกาย

           •นักวิทยาศาสตร์สนใจศึกษาเอนไซม์กันมากในระยะ 20 ปีที่ผ่านมา
             และที่ไม่รู้จักเรื่องราวของเอนไซม์อีกมาก
 
           •วงการแพทย์ให้ความสนใจประโยชน์ของเอนไซม์ในการป้องกัน
             และทำเป็นยาเพื่อรักษาโรค และการห้ามการทำงานของเอนไซม์  
             บางอย่างกลับมีประโยชน์ในการไปรักษาอาการของโรคได้
 
           •อนาคตข้างหน้าภายในไม่เกิน 30 ปี เอนไซม์จะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ใน
            วงการแพทย์ และยอมรับว่า เอนไซม์คือ พลังงานสำคัญต่อชีวิต
            (Life Force)

เขียนโดย ศูนย์เอนไซม์เหยินเบิ่น ไม่มีความคิดเห็น:   ลิงก์ไปยังบทความนี้
ส่งอีเมลข้อมูลนี้
BlogThis!
แบ่งปันไปที่ Twitter
แบ่งปันไปที่ Facebook

ปฏิกิริยา:    
สภาพเมื่อขาดเอนไซม์

สภาพเมื่อขาดเอนไซม์

สภาพของร่างกายเมื่อมีการขาดเอนไซม์เกิดขึ้น (Enzyme Deficiency Conditions)

อาการที่แสดงว่าร่างกายขาดเอนไซม์ (Enzyme Deficiency)

อาการที่ท่านรู้สึกด้วยตัวเอง (Symptom)ว่าท่านน่าจะขาดเอนไซม์ คือ
รู้สึกเหนื่อยหลังจากกินอาหารมื้อหนัก
อ่อนเพลียเป็นประจำ (Chronic Fatigue Syndrome)
ท้องผูก
ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ บางครั้งมีอาการจุกเสียด
ลมแน่นท้อง ผายลมมีกลิ่นเหม็น
อุจจาระจมน้ำ และอุจจาระเหม็นมาก
มีกลิ่นปาก
มีอาการของโรคภูมิแพ้ง่าย บางครั้งถึงขนาดหอบหืด
เวลาเป็นแผลจะหายช้า
น้ำหนักตัวเพิ่มง่าย
อาการที่แพทย์ตรวจพบ (Sign)ว่าท่านกำลังขาดเอนไซม์ คือ
ตับอ่อนบวม
เม็ดโลหิตขาวเพิ่มจำนวนมากกว่าปกติหลังกินอาหาร 30 นาที
น้ำลายมีฤทธิ์เป็นกรด (pH ต่ำกว่า 7)
ใน ปัสสาวะมีสารพิษมาก เกิดจากอาหารไม่ย่อยจึงบูดในลำไส้ใหญ่ ร่างกายจะดูดซึมพร้อมกับน้ำเข้าไปในกระแสเลือด ตับและไตจะกรองสารพิษเอาไว้ และจะขับสารพิษนี้ทิ้งออกทางปัสสาวะ
ระดับเอนไซม์ต่ำกว่าปกติในเลือด
ความดันโลหิตอาจสูงขึ้นกว่าปกติเล็กน้อย

ในอดีตเมื่อเราพูดว่าร่างกายขาดเอนไซม์ คือสภาวะอาหารไม่ย่อยแต่เมื่อศึกษาค้นคว้ามากขึ้น ในปัจจุบัน เราพบอาการต่างๆ อีกมากมาย เราสามารถแบ่งสภาพของการมีเอนไซม์บกพร่องออกได้เป็น
3 ชนิดคือ
  
สภาพของการขาดเอนไซม์โปรตีเอส (ProteaseDeficiency Conditions)
สภาพการขาดเอนไซม์อไมเลส (Amylase Deficiency Conditions
สภาพการขาดเอนไซม์ไลเปส (Lipase Deficiency Conditions)


สภาพของการขาดเอนไซม์โปรตีเอส (Protease Deficiency Conditions)



ร่างกาย จะไม่สามารถย่อยโปรตีนให้มาเป็นสารอาหารชนิด
กรดอะมิโน จึงเกิดอาการของโรคขาดโปรตีน (Protein Deficiency Symptom) มีความเป็นด่างสูงมากเกินไปในเลือด อาจมากกว่า pH 8.0 (Alkaline Excess) ซึ่งปกติมีค่า pH 7.4 การที่ร่างกายขาดความสมดุล (Homeostasis) เพราะด่างสูง กลายเป็นต้นเหตุของความรู้สึกกระวนกระวาย (Anxiety) จนบางคนต้องใช้ยากล่อมประสาทช่วย    ดังนั้นควรให้กินเอนไซม์เสริมชนิดโปรตีเอส ก็จะช่วยให้ดีขึ้น

ถ้าโปรตีนมีจำนวนต่ำในเลือด (Protein Deficiency) ทำให้เกิดอาการขาดแคลนแคลเซียมร่วมด้วย (Calcium Deficiency) แคลเซียมจะต้องอาศัยเกาะติดโปรตีนเมื่อเวลาไหลเวียนอยู่ในกระแสโลหิต ทำให้มีอาการข้ออักเสบ (Arthritis) ตามมาพร้อมโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) หมอนรองกระดูกเสื่อม (Degenerative Disc Problem) ฯลฯ ร้อยละ 45 ของโปรตีนในรูปของกรดอะมิโนจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลกลูโคสในตับ

การที่โปรตีนไม่สามารถถูกย่อยได้จึงทำให้เกิดสภาวะน้ำตาลกลูโคสต่ำในเลือด (Hypoglycemia) ตามมา เป็นเหตุให้สมองขาดน้ำตาลกลูโคส เกิดความรู้สึกหงุดหงิด (Moody) รำคาญ และฉุนเฉียวง่าย

 
การขาดเอนไซม์โปรตีเอสก่อให้เกิดโรคขาดสารอาหารประเภทโปรตีน
การขาดโปรตีนในเลือดทำให้เกิดอาการบวมทั้งตัว (Edema) การย่อยโปรตีนที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้มีกากอาหารที่ไม่ย่อย (Undigested Protien) ไปสะสมบริเวณลำไส้ใหญ่ (Colon) เป็นสาเหตุการเกิดสารพาลำไส้ใหญ่อักเสบ (Mucous Colitis) ไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis) และอาจถึงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colon Cancer) ได้ โรคตามมาที่คาดไม่ถึงคือ ในเด็กมักเป็นโรคช่องหูอักเสบเรื้อรัง หรือ หูน้ำหนวก (Otitis Media) กับโพรงจมูกของใบหน้าอักเสบ (Sinusitis) การรักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะและใช้เอนไซม์โปรตีเอสร่วมด้วยจะทำให้หายเร็วขึ้น
 
 
ผลของการขาดโปรตีเอสที่กระทบโดยตรง อีกประการก็คือ ทำให้
ระบบภูมิคุ้มกันต่ำ เกิดการอักเสบได้ง่าย เนื่องจากเชื้อจุลินทรีย์ทั้งหลายเป็นโปรตีนหรือบางชนิดก็มีโปรตีนเป็นตัว หุ้ม และโปรตีเอสเป็นเอนไซม์ที่สามารถย่อยเยื่อหุ้มที่เป็นโปรตีนให้แตกออกเพื่อ ให้ระบบภูมิต้านทานของร่างกายเข้าถึงตัวและทำลายเชื้อจุลินทรีย์ได้โดยง่าย


 
สภาพการขาดเอนไซม์อไมเลส (Amylase Deficiency Conditions)
เอน ไซม์อไมเลสย่อย แป้ง ข้าว ให้เป็นสารประกอบเชิงเดี่ยว (Monosaccharide) เช่น น้ำตาลกลูโคส (Glucose) และย่อยเม็ดโลหิตขาวที่ตาย (คือ หนอง Pus)ให้หมด ไปดังนั้นถ้าร่างกายขาดเอนไซม์อไมเลส ท่านจะเกิดเป็นฝี (Abscess) ได้บ่อยๆ ผู้ป่วยที่ปวดฟัน เหงือกรอบฟันเป็นหนองง่ายมาก

การที่กินหวานจัดๆ ร่างกายต้องใช้เอนไซม์อไมเลสมากจนผลิตไม่ทัน จึงทำให้เป็นฝีง่าย นอกจากนั้นยังเป็นที่ปอดและผิวหนังได้ง่ายอีกด้วยปอด และผิวหนังเป็นอวัยวะที่สัมผัสกับโลกภายนอกที่เต็มไป
ด้วยมลภาวะการขาดเอนไซม์อไมเลสจึงทำให้เกิดอักเสบได้ง่าย

ถ้าเป็นที่ปอดอาจจะแสดงอาการของโรคหืด (Asthma) และถุงลมพอง (Emphysema) ส่วนผิวหนังจะมีอาการของโรคผิวหนังเป็นสะเก็ดพุพอง มีน้ำเหลือง (Eczema) หรือเป็นโรคผิวหนังชื่อ สะเก็ดเงิน (Psoriasis) และโรคเริม (Herpes)การรักษาให้ใช้เอนไซม์เสริมเพื่อกินร่วมกับยา โดยให้มีเอนไซม์อไมเลสในสัดส่วนที่มากกว่าเอนไซม์อย่างอื่น


 
สภาพการขาดเอนไซม์ไลเปส (Lipase Deficiency Conditions)
เอน ไซม์ไลเปสมีหน้าที่ย่อยไขมันและวิตามินชนิดละลายในไขมัน การขาดไลเปสจึงเกิดโคเลสเตอรอลสูงในเลือด(High Cholesterol) และไตรกลีเซอไรด์สูง (High Triglyceride) เป็นต้นเหตุของน้ำหนักตัวเกินกว่าปกติ โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน (Atherosclerosis) ความดันโลหิตสูง ตามมาด้วยโรคหัวใจขาดเลือด(Heart Inflection) โรคลมปัจจุบันหรือสมองขาดเลือด (Stroke)
การขาดเอนไซม์ไลเปส ทำให้ความสามารถของเยื่อหุ้มเซลล์บกพร่องนั้นคือ สารอาหารต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกายไม่อาจจะซึมผ่านเข้าเซลล์ ส่วนของเสียภายในเซลล์ก็ขับออกมาทิ้งข้างนอกไม่ได้


สำหรับอาการที่พบ บ่อยๆอีกอย่างคือ กล้ามเนื้อกระตุกเกร็ง (Muscle Spasm) โดยเริ่มเจ็บร้าวจากบริเวณหน้าอก ไหล่ ลามมาที่คอ ดูคล้ายๆ คอเคล็ด บางครั้งมีกล้ามเนื้อเกร็งที่ลำไส้ใหญ่ (Spastic Colon) อาการต่างๆ ทั้งหมดนี้ ถ้ากินเอนไซม์ไลเปสก็จะช่วยให้ทุเลาขึ้น
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!