เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 เมษายน 2024, 06:07:16
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  การเกษตร,ฟาร์มสัตว์,ปศุสัตว์ (ผู้ดูแล: bm farm)
| | |-+  ไม่ต้องรดน้ำ 3 เดือน ยางพาราจะตายไหม
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ไม่ต้องรดน้ำ 3 เดือน ยางพาราจะตายไหม  (อ่าน 1409 ครั้ง)
superkaset
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 51


« เมื่อ: วันที่ 04 ธันวาคม 2012, 11:56:40 »

        หน้าแล้งนี้ยาวนานนะครับ อย่าปล่อยให้พืชพันธุ์ที่ท่านปลูกต้องมาตาย โดยหาน้ำรดไม่ได้หรือรอฟ้าฝนอย่างเดียว

วันนี้มีวิธีป้องกันแล้วครับ โดยใช้"สารโพลีเมอร์อู้มน้ำ" 1 กิโลกรัมอุ้มน้ำได้ 200-400 ลิตร ตักไปรองก้นหลุมต้นไม้ที่ท่านปลูก หรือต้นที่ปลูกแล้วก็ขุดหลุมใส่รอบทรงพุ่ม แค่นี้พืชก็ได้รับน้ำสมำเสมอ พืชโตต่อเนื่อง ลดต้นทุนการผลิต ประหยัดเวลาไม่ต้องรดน้ำบ่อย พืชรอดพ้นจากหน้าแล้งอันแสนยาวนาน ประมาณ 6-8 เดือนได้

ข้อมูลจำเพาะ / Specifications:
ปลูกยางพาราให้สวยและทนแล้งด้วย โพลิเมอร์(สารอุ้มน้ำ)

         โพลิเมอร์(สารอุ้มน้ำ) คือ สารประเภทคาร์โบไฮเดรตมีโครงสร้างเป็นโพลิแอกติลามาย มีโครงสร้างขนาดใหญ่หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สารอุ้มน้ำ การดูดน้ำจะเป็นไปอย่างรวดเร็วมากใน 5 นาทีแรก คือดูดน้ำได้ 200-400 เท่า แต่ถ้าน้ำมีเกลือ หินปูน กรด ด่าง เจือปนอยู่ก็จะดูดน้ำได้น้อยลง คือไม่ถึง 400 เท่า

ดูใน youtube ด้านล่างครับ


        ในปัจจุบันนี้ แม้ว่ายางพาราจะสามารถปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย แต่ภัยแล้งที่ค่อนข้างยาวนาน 5-6 เดือน ทำให้ต้นยางที่เพิ่งปลูกต้องตายเป็นจำนวนไม่น้อยก่อให้เกิดความกังวลใจและทำให้ผู้ปลูกยางพาราต้องเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เพราะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มเป็นจำนวนไม่ใช่น้อย ๆ นับตั้ง แต่ค่าแรงปลูกซ่อมยาง, ค่าพันธุ์ยางใหม่และการดูแลอย่างดีพิเศษเพื่อให้ต้นยางรอดตายและเจริญเติบโตทันกับต้นยางที่ล่วงหน้าไปแล้ว1 ปี และหากไม่สามารถปลูกซ่อมให้รอดได้ภายใน 2 ปีก็หมดสิทธิ์ที่จะทำการปลูกซ่อม(ด้วยยาง)อีกต่อไป

ประโยชน์
• ใช้ปลูกยาง ปลูกปาล์ม หรือปลูกป่าโดยรองก้นหลุมปลูก
แล้วพบว่า ต้นกล้าที่ปลูกลงไปนั้นรอดตายแทบทั้งหมดคือ 99 %
• ใช้กับไม้กระถางหรือถุงเพาะชำโดยผสมดิน 6 ส่วนกับโพลิเมอร์ที่แช่น้ำ 1 ส่วน
• ใช้กับการปลูกไม้ผล เช่น มะม่วง ขนุน เงาะ ลิ้นจี่ ลำไย ระกำ ลางสาด ลองกอง
• ในแปลง พืชไร่ พืชผัก ไม้ประดับ และสนามหญ้า ใช้โพลิเมอร์แห้ง 1-10 กรัมต่อหลุม
ไม้ผลไม้ยืนต้นใช้โพลิเมอร์(ยังไม่แช่น้ำ)แห้งตั้งแต่ 5-10 กรัมต่อต้น

        คุณไวมณี ชาวสวนยางพาราหัวก้าวหน้าคนหนึ่งในอำเภอจะนะ จ.สงขลาได้ใช้โพลิเมอร์(สารอุ้มน้ำ)ช่วยแก้ปัญหานี้ แปลงปลูกเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2552 หรือมีอายุ 13 เดือน ต้นยางมีความสมบูรณ์สม่ำเสมอและสูงประมาณ 3.5-5 เมตร(มาตรฐานความสูงของต้นยางพารา อายุ 12 เดือน ประมาณ 2 เมตร) ใช้ทั้งปุ๋ยสูตร 20-8-20 และสูตร 25-7-7 ด้วย)ถือได้ว่า เป็นสวนยางพาราแปลงหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งนอกจากจะมาจากความขยันและตั้งใจทำสวนจริงของผู้เป็นเจ้าของแล้วโพลิเมอร์ก็มีส่วนช่วยสวนยางแปลงนี้เป็นอย่างมาก เช่นกัน

        การนำโพลิเมอร์ที่ดูดน้ำเต็มที่แล้วไปใส่ในหลุมปลูกยางพาราตอนปลูกเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน พื้นดินแห้งแล้ง ดินก็จะดูดน้ำจากโพลิเมอร์รากต้นยางก็จะได้น้ำหรือธาตุอาหารที่ต้องใช้น้ำเป็นตัวทำละลายจากดินอีกต่อหนึ่งเมื่อพื้นดินได้รับน้ำเพิ่มเข้ามาก็จะถูกโพลิเมอร์ดูดเก็บไว้ใช้เมื่อพื้นดินแห้งแล้งวนเวียนต่อไป(นานประมาณ 5- 6 ปี)

        การทดลองใช้สารอุ้มน้ำโพลีเมอร์เพิ่มความทนแล้งของกล้าไม้ยืนต้น 4 ชนิดคือ ยูคาลิปตัส สะเดา ยางพารา และมะม่วงหิมพานต์ โดยใช้สารอุ้มน้ำโพลีเมอร์ผสมกับดินทรายชุดสตึกในอัตรา 0, 0.25, 0.50 และ 1.00% โดยน้ำหนัก กระถางที่ผสมสารอุ้มน้ำโพลิเมอร์ กล้าพืชต่างๆ สามารถทนแล้งได้นานขึ้นตามอัตราของสารอุ้มน้ำโพลีเมอร์ที่สูงขึ้นและพบว่า กล้ายางพาราทนแล้งได้ดีที่สุดคือเมื่อผสมสารอุ้มน้ำโพลีเมอร์ 1.00% จะทนอยู่ได้นานถึง 93 วัน หลังงดการให้น้ำ และได้ทดลองเปรียบเทียบวิธีใส่คือใส่แบบคลุกเคล้ากับดิน และใส่ในบริเวณรากพืชกับต้นยางพารา พบว่าการใส่สารอุ้มน้ำโพลีเมอร์บริเวณรากมีแนวโน้มให้ผลดีกว่าการใส่แบบผสมคลุกเคล้ากับดิน

วิธีใช้โพลิเมอร์(สารอุ้มน้ำ)
ในการปลูกยางพารา/ปาล์มน้ำมัน/พืชยืนต้นทุกชนิด
โพลิเมอร์(สารอุ้มน้ำ) 1 กิโลกรัมใช้ปลูกยางได้ ประมาณ 200-400 ต้น ซึ่งมีขั้นตอนคร่าว ๆ ดังนี้
1. แช่โพลิเมอร์ให้ดูดน้ำให้เต็มที่(โพลิเมอร์ 1 ก.ก.ต่อน้ำ 200 ลิตรแช่ทิ้งไว้ 4 ชม. หรือค้างคืน)
2. ในวันปลูกยาง ให้รองก้นหลุมด้วยโพลิเมอร์ที่แช่น้ำแล้ว 1 กระป๋องนม
3. นำต้นยางลงปลูกโดยตั้งลงบนโพลิเมอร์แล้วถมดินลงไปครึ่งหนึ่งของตุ้มดินที่หุ้มรากยางอยู่
4. เทโพลิเมอร์อีก 1-2 กระป๋องนม ลงรอบๆ ตุ้มดินที่หุ้มรากยางอยู่
(ในเขตแห้งแล้งมาก ๆ ในขั้นตอนนี้แนะนำให้ใส่ 2 กระป๋องนม)
5. กลบและอัดดินให้แน่น ตามวิธีการปลูกยางตามปกติ
6. หลังจากใช้โพลิเมอร์แล้ว พื้นดินควรได้รับน้ำบ้าง 2-3 เดือนต่อครั้งและหากทำการคลุมโคนต้นด้วยหญ้าแห้งหรือเศษวัสดุทางการเกษตรได้ก็จะทำให้คุณสมบัติการดูดเก็บน้ำของ โพลิเมอร์ ดีมากยิ่งขึ้น

        หากต้องการใช้กับยางที่ปลูกแล้วก็สามารถใช้ได้เช่นกันหลักการก็คือต้องฝังโพลิเมอร์(ที่อุ้มน้ำแล้ว)ลงในดินบริเวณปลายๆ ราก หากเป็นยางที่ปลูกแล้ว 1-2 ปีก็ควรขุดหลุมลึกประมาณ 20 ซม.(ควรทำในช่วงดินนุ่ม ๆ ) สัก 2-3 หลุมแล้วใส่โพลิเมอร์ที่แช่น้ำแล้วหลุมละ 1 กระป๋องนม แล้วกลบดินทำเป็นแอ่งไว้รับน้ำหน่อยก็ดี ถ้าจะให้ดีขึ้นอีก ก็ควรคลุมโคนก่อนเข้าหน้าแล้งด้วย

        สำหรับต้นทุนโพลิเมอร์(สารอุ้มน้ำ) ราคาไม่เกิน 500 บาท/กก. ใส่ต้นยางได้ 100-400 ต้นหรือ
3-4 ไร่/กิโล(ขึ้นอยู่กับขนาดต้นยาง ถ้าเริ่มปลูกใหม่ได้ประมาณ 300-400 ต้น ถ้ายางเริ่มโตประมาณ 1-2 ปี จะได้ประมาณ 100-200 ต้น)

        หากเทียบกับการต้องลงทุนปลูกซ่อมและการดูแลและรดน้ำแล้วนับว่า คุ้มค่ามากๆ

สนใจติดต่อ  083-2992837
www.superkaset.com
IP : บันทึกการเข้า
Natthaphitchaya
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 11 ธันวาคม 2012, 15:10:26 »

สนใจติดต่อ 0870968588 ค่ะ


* 684fd2018cfa330dee3f98e7cee8972b.jpg (102.34 KB, 640x480 - ดู 391 ครั้ง.)

* 61482_300697523375723_701244490_n.jpg (158.24 KB, 960x720 - ดู 356 ครั้ง.)

* 68847_300697510042391_830752672_n.jpg (142.46 KB, 960x720 - ดู 346 ครั้ง.)

* 61482_300697523375723_701244490_n.jpg (158.24 KB, 960x720 - ดู 341 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
superkaset
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 51


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2013, 21:32:05 »

สารโพลิเมอร์อุ้มน้ำ

โทร. 083-2992837

IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!