บทความ เรื่อง น้ำยา และ วิธีการดูแลสีรถ

[กบฏ]

ขออนุญาตคุณ กบฏ ปรับข้อความนิดหน่อยนะครับ
เนื่องจากเป็นบทความที่ยกมาจากกระทู้เดิม
ที่เจ้าของถามเรื่องการเคลือบสีเพื่อความเงางาม
แต่เมื่อย้ายมาที่นี่ จะพูดถึงเรื่องการดูแลรถทั่วๆไป
จึงขอนุญาตแก้ไข และ เพิ่มเติม เพื่อประโยชน์โดยรวม
และเพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้นครับ

ก่อนอื่นต้องขอบคุณ คุณกบฏ ผู้ดูแลบอร์ด ชมรมคนรักรถ
ที่ชวนผมมาแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับ การดูแลรักษาสีรถ
การดูแลรักษาภายในห้องโดยสาร และภายในห้องเครื่อง
(แต่ไม่รวมถึงเรื่องซ่อมเครื่องยนต์กลไกนะครับ)

ตัวหนังสือสีดำ โดย B Wash Car Detailing

เรื่องน้ำยาเคลือบสีรถ

ผลิตภัณฑ์เคลือบสีรถมีให้เลือกใช้เป็นร้อยชนิด
ปัจจุบันที่ใช้กัน จะีมี 2 ประเภทใหญ่คือ แว็กซ์น้ำ (Liquid Wax)
และ ขี้ผึ้ง (Paste Wax)

ส่วนเรื่องราคา ก็มีตั้งแต่ :
ไม่กี่ร้อย เช่น Meguiar's บางตัว (500-800)
พันกว่าบาท Meguiar's, Chemical Guys, Zaino
ยี่ห้อหลังนี่ คุณกบฏ แอ๊ดมินห้องนี้ชอบเป็นพิเศษ (1000-2000)
หลายๆพัน Wolfgang Fusion (3,000)
หลายๆหมื่น Chemical Guys (30,000), Swiss Wax (60,000)

ในวงเล็บคือราคาต่อ 1 ขวด/กระปุก

ทั้งนี้ยังไม่นับการผสมผสาน ลงหลายๆชั้น
เพื่อเพิ่มความใส/ความฉ่ำ/ความหนา/ความลื่น ฯลฯ

ยังมีการเคลือบสีรถอีกประเภทหนึ่ง
ซึ่งว่ากันว่าเป็นการเคลือบสีรถที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
คือการเคลือบแก้ว (Glass Coating)
ซึ่งเป็นการใช้น้ำยาที่มีส่วนผสมของแร่ควอซท์มาเคลือบที่ผิวรถ
ซึ่งเมื่อเคลือบแล้ว น้ำยาจะแข็งตัวการเป็นชั้นฟิล์มแก้ว
ที่มีความแข็งกว่าแลคเกอร์(Clear Coat) ที่พ่นมาจากโรงงานรถยนต์

วันนี้ผมเพิ่งเคลือบ Chevy Trailblazer เสร็จไป 1 คัน
เดี๋ยวพรุ่งนี้จะถ่ายรูปให้ชม เป็นเคลือบแก้วของ G Techniq อยู่ได้ 5 ปี  


ขอบพระคุณ บทความจาก อ.จู๊ด แห่ง Bwash ครับ...

[กบฏ]

เพิ่มเติมข้อมูลให้ครับ

ก่อนจะเคลือบรถ ให้คำนึงเรื่องพวกนี้ด้วยนะครับ

เคลือบรถให้สวย มี 3 ขั้นตอนหลักๆ

1. เตรียมผิว

เป็นขั้นตอนที่ "สำคัญที่สุด" ที่ผู้คนมักจะมองข้าม
ถ้าผิวรถไม่ดี(ไม่สะอาด) ต่อให้ใช้แว็กซ์วิเศษแค่ไหน
งานก็ออกมาไม่สวย และแว็กซ์จะติดอยู่ไม่ทน
แต่ในทางกลับกัน ถ้าเตรียมผิวรถให้สวย (Gloss)
ต่อให้ใช้แว็กซ์ธรรมดา รถก็ดูสวยกว่ารถที่จอดอยู่ในโชว์รูมแล้วครับ
อันนี้เรื่องจริง


การเตรียมผิวถ้าจะเน้นแบบทำรถเอาไว้โชว์เลย แนะนำให้ขัดชักเงา
แต่ถ้าเป็นรถเก่าต้องขัดลบรอยให้หมดก่อน จึงขัดชักเงา

แต่ถ้าเอาแบบธรรมดาๆ ก็แค่ลูบดินน้ำมัน งานก็ออกมาแตกต่างแล้ว

2. การเคลือบ

เลือกแว็กซ์ตามแนวที่ชอบ ข้อสำคัญคือ แว็กซ์แต่ละชนิดมีวิธีการลง
ไม่เหมือนกัน ต้องศึกษาให้ดีและลงให้ถูก งานถึงออกมาสุดๆ
ตามความสามารถของแว็กซ์ตัวนั้น
(แว็กซ์ตัวเดียวกัน บนรถคันเดียวกัน
แต่คนลงคนละคน งานก็อาจจะออกมาไม่เหมือนกันครับ)
แว็กซ์บางตัวใช้เวลาเซ็ทตัวนาน บางตัวเป็นชั่วโมง
บางตัวหลายชั่วโมง บางตัวต้องทิ้งไว้เป็นวันถึงจะสวย


3. การดูแลรักษาหลังจากเคลือบ

การล้างรถด้วยแชมพูที่มีค่า pH มาก(ด่าง) หรือน้อย(กรด)
เกินไป จะชะล้างเอาแว็กซ์ออกหมด ไม่ว่าแว็กซ์จะดีหรือแพงแค่ไหน
รวมถึงน้ำยาสลายคราบแมลง ที่เด็กล้างรถตามร้านล้างรถ ชอบฉีดก่อนล้างรถ


ขอบพระคุณบทความจาก อ.จู๊ด Bwash ครับ...

[กบฏ]

ของแอมเวย์ใช้ดีไหมครับ

ส่วนตัวไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์แอมเวย์ในการดูแลรักษารถ
เนื่องจากพวกเราในชมรมซีตรองแห่งประเทศไทย
มีประสบการณ์ไม่ดีเกี่ยวกับการใช้แชมพูล้างรถของแอมเวย์
กับซีตรอง (เฉพาะรุ่น) ซองเทีย เพราะมันทำให้ไฟท้าย
ทั้งก้อนด้านและหมอง ผมเลยไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ทุกตัว
ของแอมเวย์ในการดูแลรถ (อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ)

ของแอมเวย์ ผมไม่แน่ใจว่ามีตัวไหนบ้าง
เท่าที่เคยเห็น มีรุ่นนึงข้างขวดจะเขียนภาษาอังกฤษว่า
Car Polish ซึ่งแปลว่า (น้ำยา)ขัดสีรถ แต่ฉลากภาษาไทยติดบอกว่า "เคลือบรถ"

ซึ่งที่จริงการ "ขัด" กับการ "เคลือบ" เป็นคนละงานกันนะครับ
การใช้น้ำยา ขัดสีรถ ก็จะทำให้รถสวยขึ้นได้ เพราะคราบไคล,
รอยขนแมวและรอยขีดข่วนเล็กๆ จะหายไป และทำให้ผิวแลคเกอร์
(Clear Coat) มันและลื่นขึ้น ซึ่งเป็นกระบวนการในการ
 "เตรียมพื้นผิว" ซึ่งผมกล่าวไว้ข้างบน

และส่วนใหญ่น้ำยาขัดพวกนี้จะมีส่วนผสมของน้ำมัน(ซิลิโคน)
 ซึ่งเมื่อขัดเสร็จแล้ว จะทำให้ผิวลื่นและเงาด้วย
หลายท่านจึงอาจจะคิดว่าเป็นการเคลือบสีแล้ว

รุ่นอื่นๆ ผมไม่แน่ใจครับ
ท่านใดมีข้อมูลรบกวนช่วยกันแชร์หน่อยครับ



ขอบพระคุณบทความจาก อ.จู๊ด Bwash ครับ...

[กบฏ]

เปรียบเทียบ แว็กซ์ 3 ตัว

ภาพอาจจะไม่เห็นรายละเอียดมาก แต่ถ้าดูยาวๆ ความทนทานต่างกัน
Ducati  : Meguiar's
Suzuki : Zaino
Honda  : Chemical Guys



Zaino แว็กซ์เทพ มีหลายตัวให้เลือกเล่นทั้งใส ทั้งฉ่ำ

คันนี้เป็นชุดใหญ่ของ zaino ลงไปทั้งหมด 5 ชั้น
คือ Z AiO เพื่อเตรียมผิว
Z 5 ลง 2 ชั้น เพื่อเพิ่มความฉ่ำ
Z 2 ลง 1 ชั้น เพื่อเพิ่มความใส
สุดท้ายกลบด้วย Z CS เพื่อคลุมไว้ให้เงางามนานถึง 9 เดือน




ตัวอย่างเคลือบแก้ว (Hard Coating)
การเคลือบผิวรถที่ดีที่สุดในโลก ในปัจจุบัน
จะได้แนวใสๆ ที่สำคัญคือทนมาก ตั้งแต่ 1-5 ปี
แล้วแต่ยี่ห้อน้ำยา
น้ำยาพวกนี้ทำจากแร่ควอทซ์
เมื่อเคลือบแล้วจะกลายเป็นชั้นฟิล์มแข็งๆ
เหมือนเอากระจกมาเคลือบรถไว้ ซึ่งจะแข็งกว่าเคลียร์โค้ท
(แลคเกอร์) เดิมที่พ่นมาจากโรงงาน ทำให้ลดการเกิดรอยขีดข่วน

แนวจะออกใสๆ






ขอบพระคุณบทความจาก อ.จู๊ด Bwash ครับ..

[กบฏ]

Meguiar's แว็กซ์ยอดนิยม

แม็กไกวส์ที่มีขายในบ้านเรา แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ

1. Home Use ซึ่ง ขวดจะมีสีสันสวยงาม
ถูกออกแบบมาให้วางขายทั่วไป
2. Professional Series ขวดจะเป็นสีเหลืองทุกตัว
โดยกำหนดความแตกต่างเป็นหมายเลข
กลุ่มหลังนี่ ที่จริงจะขายให้เฉพาะคาร์แคร์สำหรับบริการลูกค้าเท่านั้น
แต่หลังๆ มานี่ เอาออกมาขายมั่วไปหมด
เพราะลูกค้าที่ไปใช้บริการในคาร์แคร์แล้วติดใจ
จึงพยายามหามาใช้ ที่จริงแล้วProfessional Series
แทบทุกเบอร์ จะมีการผลิตออกมาจำหน่ายในแบบ
Home Use อยู่แล้ว โดยใช้ชื่อต่างกันออกไป

จะลองค่อยไล่ดูเท่าที่นึกได้ก็แล้วกัน

ตัวแรก เป็นตัวที่ทำให้แม็กไกวส์มีชื่อเสียง

Cleaner Wax

ใกล้เคียงกับ Prof. Series # 6


Clean, Polish and Protect in one easy step.
คือใช้ทำความสะอาด ขัดผิว และเคลือบปกป้องผิว ในขั้นตอนเดียว

บางคนจะลงตัวนี้เป็น Pre Wax คือใช้รองพื้น ก่อนที่จะลงแว็กซ์ตัวอื่นๆ

สำหรับมือใหม่ คิดอะไรไม่ออก ก็เริ่มที่ตัวนี้ก่อนก็ได้
เพราะจะช่วยทำความสะอาดคราบต่างๆบนผิวรถ
พร้อมกับขัดลบรอยขนแมวบางๆได้ด้วย
สุดท้ายมีเนื้อแว็กซ์ที่ช่วยปกป้องสีรถอีกต่างหาก เรียกว่าลงตัวเดียวจบเลย

ความลื่นและความเงางาม อยู่ในขั้นธรรมดา

ราคานอกศูนย์ หาซื้อกันได้ที่ 500-600 บาท



Gold Class Liquid Wax



ใกล้เคียงกับ Prof. Series # 26



ตัวนี้ มีส่วนผสมของ ขี้ผึ้ง คาร์นูบา จึงทำให้ออกแนวเงาฉ่ำ
คนส่วนใหญ่ึจึงใช้กับรถสีเข้ม เพื่อเพิ่มความเข้มของสี

Gold Class มีแบบเป็นขึ้ผึ้ง (Paste Wax)
ด้วย คุณสมบัติก็จะมีความเงาฉ่ำกว่าแบบน้ำ แต่จะจับฝุ่นมากกว่า

นอกจากนี้ยังมีเป็นซีรีส์ด้วยคือทั้งแชมพู น้ำยาทายาง ฯลฯ ภายใต้ชื่อรุ่น Gold Class

ราคา(นอกศูนย์) อยู่ที่ประมาณ 700 บาท


NXT Generation Tech Wax 2.0



ใกล้เคียงกับ Prof. Series # 21



มีทั้งแบบน้ำและขี้ผึ้ง (paste) เช่นเดียวกับ Gold Classs
เท่าที่ผมลองใช้ดู ผมว่าตัวนี้ก็คือ # 21 ใน Professional Series นั่นเอง
ทางแม็กไกวส์เริ่มใช้ เทคโนโลยีใหม่คือ
ESP (Engineered Synthetic Polymers) เป็นโพลิเมอร์สังเคราะห์แท้ๆ
โดยทางแม็กไกวส์เรียกว่า Hydrophobic Polymer คุณสมบัติคือผิวลื่น
และน้ำไม่เกาะ ข้อสำคัญคือติดทนกว่าแว็กซ์รุ่นก่อนๆ
นี่เป็นสาเหตุที่ืำทำให้แว็กซ์ตัวนี้ ดัง (แต่ดังในรูปแบบของ # 21 )
ถึงขนาดว่า มีการทำปลอมขายกันเกลื่อนแถวคลองถมเลยครับ

แม็กไกวส์ เรียกตัวนี้ว่าเป็น Sealant ไม่ใช่ Liquid Wax เพราะชูประเด็นว่า
เป็นซีแลนท์ ที่เข้าไปอุดรูเล็กๆ บนชั้นเคลียร์โค้ท (แลคเกอร์) ของรถ
ทำให้ผิวเรียบน้ำจึงไม่เกาะ

งานจะออกมาแนวใสๆ และติดทนคือประมาณ 6-8 สัปดาห์

ราคาอยู่ที่ 700-800 บาท

Ultimate Liquid Wax



ถ้าพูดถึงแว็กซ์น้ำ ตัวนี้ก็เป็นตัวท็อปของแม็กไกวส์ล่ะครับ
เป็น Pure Synthetic Polymer
เข้าใจว่่าพัฒนาต่อยอดจาก Tech Wax ( #21)
ผมยังไม่แน่ใจว่า ตรงกับ Prof. Series เบอร์อะไร เท่าที่ค้นดู อาจจะไม่มีครับ

เท่าที่ลองใช้ดูผมว่าออกแนวคล้ายๆ Tech Wax (หรือเบอร์ 21)
แต่จะมีความเข้มเพิ่มขึ้นมานิดๆ

ตัวนี้คงดีจริง เพราะแม็กไกวส์ออก Ultimate มาเป็นชุดเลย



ราคาเมื่อก่อนพันกว่าบาท เดี๋ยวนี้ พอจะหาได้ที่ 1,000 บาท

สำหรับน้ำยาเคลือบสีรถ (แว็กซ์น้ำ) ของแม็กไกวส์ เท่าที่นึกออกก็มีประมาณนี้

โอกาสหน้า จะพูดถึงยี่ห้ออื่นบ้าง



ขอบพระคุณบทความจาก อ.จู๊ด Bwash ครับ...

[กบฏ]

เพิ่มเติมสำหรับ Meguiar's

มีน้ำยาอีกประเภทหนึ่งคือ Detailer
ไม่รู้จะเรียกเป็นภาษาไทยว่าอะไรดี คล้ายๆกับ
สเปรย์แว็กซ์ แต่ความทนทานน้อยกว่า คือโดนน้ำ(ล้างรถ)
ครั้งเดียวก็ออกหมด  ไม่เหมือนกับแว็กซ์น้ำ ที่ผมกล่าวไว้ข้างบน
ที่มีความทนทาน 1-2 เดือน ตามคุณสมบัติของแว็กซ์แต่ละตัว
(การทดสอบความทนทานของแว็กซ์
ส่วนใหญ่คิดเฉลี่ยที่การล้างรถทุกสัปดาห์ ด้วยแชมพูที่มีค่า pH 7 +/- นิดหน่อย )

Detailer นี้ ใช้กันใน 2 ลักษณะคือ
1. ใช้เช็ดรถประจำวัน คือรถที่เคลือบแว็กซ์แล้ว
เมื่อจอดไว้อาจจะมีฝุ่นจับ ส่วนใหญ่คนที่ชอบให้รถเงางามอยู่เสมอ
ก็จะใช้ Detailer ฉีดแล้วเช็ดฝุ่น  เป็นการป้องกันการเกิดรอยขนแมว
จากการใช้ผ้าแห้งเช็ดรถขณะที่มีฝุ่น แถมยังเพิ่มความเงางามไปด้วยในขั้นตอนเดียว

2. ใช้เช็ดรถหลังจากลงแว็กซ์ เพื่อเก็บคราบแว็กซ์ที่หลงเหลืออยู่
และเพิ่มความเงางามไปพร้อมกัน บางทีจึงเรียกน้ำยาประเภทนี้ว่า Final Touch

มีหลายตัวให้เลือกใช้ ส่วนใหญ่คุณสมบัติจะคล้ายๆกัน
ถ้าเป็น Prof. Series ก็จะมี # 34, # 135

ราคาอยู่ที่ขวดละ 400-500 บาท







ขอบพระคุณบทความจาก อ.จู๊ด Bwash ด้วยครับ...

[demonkik]

รถผมมันเป็นแบบนี้อะครับ ไม่ทราบว่ามีน้ำยาอะไรที่ขัดออกได้ครับจะไปขัดสีก็ไม่คุ้ม เป็นไม่มาก. ล้างก็ไม่ออก เช็ดก็ไม่ออก ช่วยแนะนำหน่อยครับ

[NP!]

รถผมมันเป็นแบบนี้อะครับ ไม่ทราบว่ามีน้ำยาอะไรที่ขัดออกได้ครับจะไปขัดสีก็ไม่คุ้ม เป็นไม่มาก. ล้างก็ไม่ออก เช็ดก็ไม่ออก ช่วยแนะนำหน่อยครับ

รถผมก็เป็นอยู่ครับ

[ฺB Wash Car Detailing]

รถผมมันเป็นแบบนี้อะครับ ไม่ทราบว่ามีน้ำยาอะไรที่ขัดออกได้ครับจะไปขัดสีก็ไม่คุ้ม เป็นไม่มาก. ล้างก็ไม่ออก เช็ดก็ไม่ออก ช่วยแนะนำหน่อยครับ

รถผมก็เป็นอยู่ครับ

รอยสีเหลืองๆแบบนี้ส่วนใหญ่เกิดจากยางไม้ หรือไม่ก็ละอองเกษรดอกไม้ครับ
ยางต้นไม้บางชนิดก็ล้างออกง่าย แต่บางชนิดถ้าไม่รีบล้างออกจะซึมลงไปในชั้นแลคเกอร์
ส่วนใหญ่พบมากช่วงปลายฝนต้นหนาวนี่แหละครับ

วิธีแก้ไข
ต้องขัดผิวแลคเกอร์ออก ยิ่งทำเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี
เพราะถ้าปล่อยไว้จะซึมลงไปลึก
ยิ่งเอาออกยากเมื่อเร็วๆ นี้ผมเห็นว่ามีกระทู้หนึ่ง
เจ้าของกระทู้เจอปัญหานี้ แล้วไปที่โรบินสัน
พนักงานใช้น้ำยายี่ห้อ  Nu finish ขัดให้ครับ

ส่วนตัวผมจะใช้วิธี Wet Sand ครับ ออกได้ แต่ช้าหน่อย
จนเคลียร์โค้ท ส่วนนั้นออกหมด แล้วขัดด้วยเครื่องโรตารี
 รอบต่ำ กับน้ำยาขัดละเอียด เท่านี้ก็เรียบร้อยเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
*** วิธีนี้ ถ้าไม่เคยทำ ไม่แนะนำนะครับ เพราะอาจจะทำให้ผิวรถบริเวณนั้นเสียหายได้

วิธีป้องกัน
ในช่วงฤดูปลายฝนต้นหนาว เลี่ยงจอดรถบริเวณใต้ต้นไม้(บางชนิด)
ที่มียางไม้มากๆ และต้นไม้(บางชนิด) ที่กำลังออกดอก
ส่วนใหญ่เป็นพวกไม้ป่า เท่าที่ผมเจอคือยางและดอกต้นตีนเป็ด (พญาสัตบรรณ)
ยางต้นมะม่วง

แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ช่วงนี้แนะนำให้เคลือบสีรถไว้ จะช่วยบรรเทาได้มาก
เพราะแว็กซ์ที่เคลือบจะช่วยเพิ่มความหนาให้ซึมลงได้ช้า แว็กซ์ที่ดีบางชนิดมีความมันมาก
ยางพวกนี้จะซึมลงไปไม่ได้ครับ

ผมมักจะบอกลูกค้าบ่อยๆว่า การเคลือบสีรถด้วยแว็กซ์
วัตถุประสงค์หลักคือการป้องกันสีรถ จากสิ่งต่างๆเหล่านี้
รวมถึงลดการเกิดริ้วรอยต่างๆบนรถ
ส่วนความสวยงามหลังจากเคลือบ เป็นของแถม

ทั้งนี้ไม่นับเจ้าของรถที่เน้นการเคลือบรถเพื่อความสวยงาม นั่นเป็นอีกวัตถุประสงค์นึงครับ

[NP!]

รถผมมันเป็นแบบนี้อะครับ ไม่ทราบว่ามีน้ำยาอะไรที่ขัดออกได้ครับจะไปขัดสีก็ไม่คุ้ม เป็นไม่มาก. ล้างก็ไม่ออก เช็ดก็ไม่ออก ช่วยแนะนำหน่อยครับ

รถผมก็เป็นอยู่ครับ

รอยสีเหลืองๆแบบนี้ส่วนใหญ่เกิดจากยางไม้ หรือไม่ก็ละอองเกษรดอกไม้ครับ
ยางต้นไม้บางชนิดก็ล้างออกง่าย แต่บางชนิดถ้าไม่รีบล้างออกจะซึมลงไปในชั้นแลคเกอร์
ส่วนใหญ่พบมากช่วงปลายฝนต้นหนาวนี่แหละครับ

วิธีแก้ไข
ต้องขัดผิวแลคเกอร์ออก ยิ่งทำเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะถ้าปล่อยไว้จะซึมลงไปลึก ยิ่งเอาออกยาก
เมื่อเร็วๆ นี้ผมเห็นว่ามีกระทู้หนึ่ง เจ้าของกระทู้เจอปัญหานี้ แล้วไปที่เซ็นทรัล พนักงานใช้น้ำยายี่ห้อหนึ่งมาขัดให้ ชื่อน้ำยาประมาณว่า  Nu.... นี่แหละ ไม่ใช่ไม่อยากเอ่ยชื่อนะครับ แต่จำชื่อไม่ได้ เดี๋ยวจะลองค้นกระทู้ให้

ส่วนตัวผมจะใช้วิธี Wet Sand ครับ ออกได้ แต่ช้าหน่อย
จนเคลียร์โค้ท ส่วนนั้นออกหมด แล้วขัดด้วยเครื่องโรตารี รอบต่ำ กับน้ำยาขัดละเอียด เท่านี้ก็เรียบร้อยเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
*** วิธีนี้ ถ้าไม่เคยทำ ไม่แนะนำนะครับ เพราะอาจจะทำให้ผิวรถบริเวณนั้นเสียหายได้

วิธีป้องกัน
ในช่วงฤดูปลายฝนต้นหนาว เลี่ยงจอดรถบริเวณใต้ต้นไม้(บางชนิด) ที่มียางไม้มากๆ และต้นไม้(บางชนิด) ที่กำลังออกดอก ส่วนใหญ่เป็นพวกไม้ป่า เท่าที่ผมเจอคือยางและดอกต้นตีนเป็ด (พญาสัตบรรณ)  ยางต้นมะม่วง

แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ช่วงนี้แนะนำให้เคลือบสีรถไว้ จะช่วยบรรเทาได้มาก เพราะแว็กซ์ที่เคลือบจะช่วยเพิ่มความหนาให้ซึมลงได้ช้า แว็กซ์ที่ดีบางชนิดมีความมันมาก ยางพวกนี้จะซึมลงไปไม่ได้ครับ

ผมมักจะบอกลูกค้าบ่อยๆว่า การเคลือบสีรถด้วยแว็กซ์ วัตถุประสงค์หลักคือการป้องกันสีรถ จากสิ่งต่างๆเหล่านี้ รวมถึงลดการเิกิดริ้วรอยต่างๆบนรถ
ส่วนความสวยงามหลังจากเคลือบ เป็นของแถม

ทั้งนี้ไม่นับเจ้าของรถที่เน้นการเคลือบรถเพื่อความสวยงาม นั่นเป็นอีกวัตถุประสงค์นึงครับ

รีวิวได้ชัดมากครับ ขอบคุณมากครับผม

[ฺB Wash Car Detailing]

ตัวอย่าง Wet Sanding
คือการขัดผิวแลคเกอร์ด้วยกระดาษทราย เพื่อลบรอย เช่นรอยขีดข่วน หรือยางไม้ที่ซึมลงไปในชั้นแลคเกอร์

เป็นเทคนิคที่พวกเราที่ทำ Car Detailing เรียนรู้มาจากอู่สีครับ

คำเตือน : ถ้าไม่เชียวชาญจริงๆ อย่าทำกับรถตัวเองนะครับ แนะนำให้ลองทำกับรถเพื่อนก่อน (ฮา)

[demonkik]

แล้วไม่ทราบว่าทางร้านรับทำไหมครับมันเป็นไม่กี่จุดอะครับ หรือมีน้ำยาตัวไหนที่ขัดออกได้มั้งครับ

[ฺB Wash Car Detailing]

แล้วไม่ทราบว่าทางร้านรับทำไหมครับมันเป็นไม่กี่จุดอะครับ หรือมีน้ำยาตัวไหนที่ขัดออกได้มั้งครับ

เคยมีกระทู้พูดถึงน้ำยา Nu Finish มีขายที่โรบินสันครับ

ถ้าจะคุยเรื่องงานของร้าน B Wash Car Detailing
ผมรบกวนติดต่อเป็นการส่วนตัวดีกว่าครับ PM หรือโทรศัพท์ก็ได้ ยินดีให้คำแนะนำ
พูดคุยในห้อง "คนรักรถ" มันจะไม่เหมาะ เพราะห้องนี้เราแลกเปลี่ยนความรู้กัน ไม่มีเรื่องธุรกิจครับ

[กบฏ]

ขอบพระคุณ บทความและความรู้จาก อ.จู๊ด นะครับ...

ผมติดตาม น้ำยา ตัวอื่นๆ อยู่นะครับ รบกวน อ. มารีวิว

ให้ดูด้วยนะครับ...

[เท้าสะเอวคลับ Ver.CaZzAmAnIaN]

มารอชม อิก 1 คัน คับผม

[ฺB Wash Car Detailing]

มารอชม อิก 1 คัน คับผม

ผมได้เรียนเชิญคุณขวัญ จาก Smart Wax Car Detail ซึ่งเป็นผู้นำเข้า Smart Wax และเป็นทีมงานของ Smart Wax Thailand แล้ว
เร็วๆนี้ คงจะให้เกียรติเข้ามา รีวิว ผลิตภัณฑ์ของ Smart Wax ให้ได้ทราบกัน

พอจบจาก Smart Wax แล้ว ท่านใดอยากได้ข้อมูลน้ำยายี่ห้อไหน ก็แจ้งกันเข้ามานะครับ จะค่อยๆช่วยกันหามาเพิ่มเติมให้

[กบฏ]

ZINO

[ฺB Wash Car Detailing]

ZINO

สาวก Zaino มาแล้ว   

[haku]

สวัสดีค่ะจาก smartwax car detail ค่ะ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณอ.จู๊ดแห่ง B WASH นะคะที่ให้เกียรติ
โทรมาชวนเข้าร่วมในการช่วยกันแชร์ประสบการณ์ในการดูแลรถในหลายๆมุมมอง แต่ต้องขอออกตัวก่อนนะคะว่าไม่ถนัดในเรื่องการใช้ภาษาเขียนแบบนี้ค่ะผิดพลาดก็ขออภัยไว้ด้วยนะคะ

Smartwax® แว็กซ์เคลือบสีที่ทันสมัยที่สุดเท่าที่นักเคมีสมัยใหม่จะสามารถคิดค้นได้ Smartwax ผลิตจากขี้ผึ้งบราซิลเกรด A 100%  เป็นขี้ผึ้งบริสุทธิ์จากธรรมชาติที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด  ดังนั้นจึงทำให้เกิดการเคลือบเงา  และปกป้องพื้นสีผิวรถคุณเป็นเงางามมาก 
Smartwax เป็นขี้ผึ้งบราซิลเกรด A 100%  มีส่วนผสมของสาร polish เฉพาะสูตรของ Smartwax  ช่วยในการขจัดคราบสกปรก คราบอ็อกซิเดชั่น เพิ่มความชุ่มฉ่ำ เงาลึก ติดทนนาน และสามารถปกป้องพื้นผิวจากรังสี UV(40) ที่เป็นสาเหตุทำให้สีซีดจางได้เป็นอย่างดี
เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ควรใช้ Smartwax ควบคู่กับ Smartpolish เพื่อความเงางามและการปกป้องที่สูงกว่า

[ฺB Wash Car Detailing]

ขอบคุณครับ
Smart Wax Thailand มาแล้วครับ  

ตัวนี้ เท่าที่ทราบ ผลิตจากโรงงานเดียวกับ Chemical Guys
ทำจากขี้ผึ้ง ดังนั้นงานน่าจะออกมาได้ใส + ฉ่ำ แบบมีมิติ
พร้อมกับช่วยกลบรอยขนแมวไปในตัว

เราชาวเชียงรายโชคดีที่ Smart Wax มาเปิดที่บ้านเรา ไม่ต้องไปวิ่งหาที่ไหน
ท่านใดสนใจเชิญไปทดลองด้วยตัวเองที่ Smart Wax Detail
 
PM ไปสอบถามกันได้เลยครับ