สบอช.คาด ปีนี้ ไทยอาจมีหิมะตกที่เชียงราย

[Duster]

สบอช.คาด ปีนี้ ไทยอาจมีหิมะตกที่เชียงราย
http://www.facebook.com/MorningNewsTV3/posts/281706355281953
 (สบอช. ระบุลมหนาวจากจีนมาเร็วกว่าทุกปี คาดเห็นหิมะตกในเมืองไทยที่ จ.เชียงรายปีนี้)

จะมีไมนี้ มีแล้วจะดีต่อคนเชียงรายหรือไม

[เชียงรายพันธุ์แท้]

ถ้าหิมะตกแต้
ขะหนนจะมีก้าหิมะน้ำแข็ง
อบจ. เทศบาล อบต. เกียมซื้อรถกวาดหิมะได้เลย
เกียมแจกอาหารหื้อจาวบ้านโตยน่อ

หนอง น้ำห้วย น้ำแม่ จะเป๋นน้ำแข็ง
ไฮ่นาจะมีก้าหิมะน้ำแข็ง เพาะปลูกบ่าดาย
บ้านไผเป็นตูบเป็นฟาก ก็ลำบาก มันหนาวสุดๆ
หมู หมา งัว ควาย สัตว์เลี้ยงจะหนาวต๋าย
เจียงฮายต้องนำเข้าอาห๋ารจากตี้อื่น

คนตี้อื่นจะมาแอ่วเจียงฮาย มาผ่อหิมะ ก๋ารท่องเที่ยวกระฉูด
โฮงแฮม เกสต์เฮ้าส์ เต๋มหมด
รถนัก แต่ไปไหนบ่สะดวก ย้อนระบบขะหนนบ้านเฮาบ่ได้แป๋งมารองรับกับหิมะ
อุบัติเหตุจะมีนักขึ้น คนบ่เกยขับรถบนขะหนนตี้มีหิมะน้ำแข็ง
มันมื่นสุดๆ บางเตื้อต้องเอาโซ่มาปันแว่นล้อเลยน่อ

ฯลฯ

[ณัฐกฤษณ์ เซอร์ิวิส]

ถ้าตกแต้ จะถ่ายรูปลง Facebook  อิอิ

[totoonline]

เอาแบบความรู้งูๆปลาๆ ที่เตยเรียนมานะครับ

ประเทศอะไรก้ตามที่ตั้งอยู่ในแนวเส้น “Tropic of Cancer” หรือเส้น จุดครีษมายัน คือเส้นที่ 23.5 องศาเหนือ และเส้น “Tropic of Capricorn” หรือเส้น จุดเหมายัน คือเส้นที่ 23.5 องศาใต้  ประเทศเหล่านี้จะไม่มี โอกาสที่หิมะจะตกได้เลย หากพื้นที่บริเวณนั้นอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลที่ ประมาณ 3,500 เมตร

แปลเอาแบบเข้าใจ คือ ประเทศที่อยู่ในแนวเส้นที่ว่ามานี้ อยู่ตรงบริเวณที่กลมแป้นของโลก ความชื้นในอากาศสูง ถึงแม้อุณหภูมิ จะลดต่ำกว่า 0 องศา ก็จะไม่เกิดหิมะตก เต็มที่ก็เกิดได้แค่ น้ำค้างแข็ง เท่านั้น

สำหรับประเทศไทยยอดเขาที่สูงที่สุดมีความสูง ประมาณ 2,500 เมตร ยังห่างไกลจากการเกิดหิมะตก อยู่ครับ

ยิ่งเชียงรายจุดสูงสุดของเชียงรายประมาณ 2,000 เมตรยิ่งไปกันใหญ่

หน่วยงาน สบอช. นี้ต้องการอะไรไม่เข้าใจ ระดับนี้แล้วน่าจะให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชนได้แล้ว ถ้าบอกว่าปีนี้อาจจะหนาวจัดกว่าทุกปี แบบนี้มีความเป็นไปได้ แต่บอกว่าหิมะจะตก ดูแล้วไม่น่านะ


เอาข้อมูลของนักวิชาการไปดูกันดีกว่าข้อมูลจริง ๆกันเลย ของผมมันแค่งูๆปลาๆ

http://www.siamgag.com/v825930/

[[T][o][d]SaPhon]

พูดแบบนี้ทุกปีแหละ พอไม่ตกก็เงียบ ถ้าตกก็เป็นข่าว  แบบนี้แหละ

[ปวดตับ]

เอาให้รอดลูกเห็บก่อนดีกว่าครับ 

[totoonline]

ก๊อปมาให้ดูเลยดีกว่า
ขอขอบคุณ siamgag.com ครับ เครดิต siamgag.com

หิมะตก ในไทย เป็นไปได้หรือ??

หิมะตกที่เวียดนามและพม่า อากาศหนาวกลางฤดูร้อนของประเทศไทย (บทความพิเศษ)

 สำหรับเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้เกิดหิมะตกได้นั้น มีอยู่ 3 ประการ คือ ประการแรกต้องมีเมฆผลึกน้ำแข็ง (Ice-crystal cloud) ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของผลึกหิมะ ประการที่สองเมฆนั้นต้องอยู่ในระดับต่ำใกล้ชิดกับพื้นดินด้วย หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งตามทฤษฎีคือ ระดับเยือกแข็ง(Freezing level)ต้องอยู่ในระยะห่างพื้น ดินไม่เกิน 300 เมตร(โดยประมาณ) และประการที่สามอุณหภูมิอากาศเหนือพื้นดิน ต้องต่ำเข้าใกล้ 0 ํซ (อย่างน้อยต้องไม่เกิน 4 ํซ )

ความแปรปรวนของสภาพอากาศในบ้านเรายังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปีที่แล้วที่ร้อนและแล้งจัดจนเกิดเป็นภัยแล้งในช่วงครึ่งแรกของปี แต่ช่วงครึ่งหลังของปีกลับเกิดฝนตกหนักจนกลายเป็นอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี และมาจนถึงขณะนี้ปีนี้(พ.ศ. 2554) แม้อากาศจะไม่หนาวจัดติดต่อกันอย่างยาวนานตามที่คาดการณ์กันไว้ เพราะอุณหภูมิอากาศในช่วงฤดูหนาวกลับเป็นได้แค่หนาวๆร้อนๆ และอุณหภูมิอากาศ กลับมาเริ่มสูงขึ้นตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่า ฤดูหนาวกำลังจะสิ้นสุดลงและย่างเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างสมบูรณ์แล้วในปีนี้ แต่สถานการณ์กลับเปลี่ยนไปอีกครั้งอย่างกระทันหัน อากาศกลับมาหนาวเย็นขึ้นอีกในช่วงกลางเดือนมีนาคม อันเป็นช่วงของฤดูร้อน จึงอาจกล่าวได้ว่า เดือนมีนาคม ปีนี้มีถึงสามฤดู(ทั้งร้อน ทั้งหนาว และมีฝนตกด้วย) นับเป็นความแปรปรวนของสภาพอากาศที่ผิดปกติเป็นอย่างยิ่งอีกครั้งหนึ่งของประเทศไทย

สำหรับอากาศที่เกิดหนาวเย็นขึ้นมาได้ในช่วงกลางเดือนมีนาคมปีนี้ เกิดจากบริเวณความกดอากาศสูง(มวลอากาศเย็น)กำลังแรงมากจากประเทศจีนแผ่มาปกคลุมประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมตะวันตกค่อนข้างแรงมากเคลื่อนที่ผ่านทางตอนบนของประเทศไทย ลักษณะดังกล่าวทำให้เกิดฝนฟ้าคะนองไปทั่วทุกภาคและอุณหภูมิอากาศลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว และการที่มีเมฆกระจายเต็มท้องฟ้าทำให้พื้นดินไม่ได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์ เป็นเหตุให้อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งวัน

ช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย (กลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม) ตามปกติจะมีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยสูงกว่า 30 ํซ แต่ช่วงระหว่างวันที่ 15-18 มีนาคม 2554 (ย่างเข้ากลางฤดูร้อนแล้ว) อุณหภูมิอากาศทั้งของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางได้ลดลงต่ำกว่า 20 ํซ โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิต่ำกว่า 15 ํซ แทบทุกจังหวัด และหนาวเย็นตลอดทั้งวันเพราะมีเมฆเต็มท้องฟ้าในหลายพื้นที่(หนาวยิ่งกว่าช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา) ซึ่งสามารถใช้เป็นเงื่อนไขประกาศเป็นเขตพิบัติภัยหนาว(กลางฤดูร้อน)ได้ ถ้าหากยึดตามเกณฑ์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวง มหาด ไทย แต่เข้าใจว่าที่ไม่มีการประกาศเพราะอากาศเปลี่ยนไปเร็วมากจนตั้งตัวกันไม่ทัน หรืออาจเป็นไปได้ว่างบประมาณถูกแจกกันไปหมดแล้วตั้งแต่ช่วงฤดูหนาวๆร้อนๆที่ผ่านมา

ในช่วงเวลาเดียวกัน ขณะที่ประเทศไทยเกิดอากาศหนาวเย็นอย่างฉับพลัน ได้เกิดหิมะตกทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม สร้างความแปลกประหลาดใจให้กับผู้คนที่ได้รับฟังข่าวสารเป็นอันมาก เช่น เดียวกับเมื่อตอนที่หิมะตกหนักทางตอนเหนือของประเทศพม่า(Myanmar) ในช่วงฤดูหนาวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งอันที่จริงการที่มีหิมะตกในประเทศเวียดนามและพม่านั้นไม่อาจถือเป็นเรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะพื้นที่ตอนเหนือของประเทศทั้งสอง สามารถเกิดหิมะตกได้ทุกปีในช่วงฤดูหนาวที่มีอากาศหนาวจัด แต่ที่แปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่งก็คือ หิมะที่ตกในประเทศพม่านั้น ตกหนักกว่าที่เคยตกในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา และหิมะที่ตกในประเทศเวียดนามในช่วงนี้นั้น นับเป็นเรื่องแปลกประหลาดที่หิมะเกิดมาตกในช่วงฤดูร้อน(เช่นเดียวกับเมื่อครั้งหิมะตกที่ประเทศออสเตรเลีย) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไม่ควรเกิดหิมะตกเป็นอย่างยิ่ง



สำหรับประเทศไทยคงจะไม่เกิดหิมะตกเหมือนกับประเทศเวียดนามและพม่า แม้ว่าอากาศจะหนาวจัดสักเพียงใด และในประวัติศาสตร์ก็ไม่เคยปรากฏว่ามีหิมะตกในประเทศไทยมาก่อนด้วย แม้ในช่วงฤดูหนาวที่มีอากาศหนาวจัดถึง 0 ํซ หรือถึงขั้นติดลบก็ตาม ที่เคยปรากฏก็เป็นเพียงแค่ลูกเห็บตกจากอิทธิพลของพายุฤดูร้อนเท่านั้น ทั้งนี้เพราะไม่มีพื้นที่ส่วนไหนของประเทศไทยที่มีเงื่อนไขเพียงพอที่จะทำให้เกิดหิมะตกได้ ซึ่งแตกต่างกับพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศทั้งสองที่กล่าวถึง

สำหรับเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้เกิดหิมะตกได้นั้น มีอยู่ 3 ประการ คือ ประการแรกต้องมีเมฆผลึกน้ำแข็ง (Ice-crystal cloud) ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของผลึกหิมะ ประการที่สองเมฆนั้นต้องอยู่ในระดับต่ำใกล้ชิดกับพื้นดินด้วย หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งตามทฤษฎีคือ ระดับเยือกแข็ง(Freezing level)ต้องอยู่ในระยะห่างพื้น ดินไม่เกิน 300 เมตร(โดยประมาณ) และประการที่สามอุณหภูมิอากาศเหนือพื้นดิน ต้องต่ำเข้าใกล้ 0 ํซ (อย่างน้อยต้องไม่เกิน 4 ํซ ) ซึ่งพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศทั้งสองอยู่ที่ละติจูด (Latitude)ค่อนข้างสูง(ประมาณ 20-30 ํN) จึงมีอากาศค่อนข้างหนาวเย็นเป็นปกติและมีอุณหภูมิเข้าใกล้ 0 ํซ ได้บ่อยครั้งในช่วงฤดูหนาว อีกทั้งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงจึงมีพื้นดินอยู่ใกล้เมฆชั้นสูงที่เป็นเมฆผลึกน้ำแข็งมากขึ้น พื้นที่ส่วนนี้จึงมีโอกาสที่จะมีหิมะตกได้ตามเงื่อนไขดังกล่าวเสมอ

ในส่วนของประเทศไทยนั้น โอกาสที่จะได้เห็นหิมะตกแทบจะไม่มีเลย เพราะประเทศไทยมีที่ตั้งอยู่ที่ละติจูดต่ำกว่า 20 ํN อุณหภูมิอากาศตามปกติแทบไม่เคยเข้าใกล้ 0 ํซ แม้ในช่วงฤดูหนาว อีกทั้งเมฆที่เห็นลอยอยู่บนท้องฟ้าก็ล้วนเป็นเมฆละอองน้ำ (Water-droplet cloud) ซึ่งไม่ใช่เมฆที่ให้กำเนิดหิมะ พื้นที่ที่พอจะมีความเป็นไปได้ที่หิมะจะตกบ้าง(ซึ่งก็มีโอกาสน้อยมากๆจนอาจจะกล่าวได้ว่า ไม่มีโอกาสเลย) ก็คงเป็นพื้น ที่บนยอดเขาสูงใน จ.เชียงใหม่ อันได้แก่ ดอยอินทนนท์และดอยอ่างขาง เท่านั้น เพราะอุณหภูมิของอากาศที่นั่นเข้าใกล้ 0 ํซ ได้บ่อยครั้งในช่วงฤดูหนาว และพื้นที่เหล่านั้นอยู่ใกล้เมฆชั้นสูงที่เป็นเมฆผลึกน้ำแข็งมาก กว่าพื้นที่ราบด้วย แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่เคยปรากฏว่ามีหิมะตกในพื้นที่ดังกล่าวมาก่อนเลย แม้ในช่วงฤดูหนาว ที่มีอุณหภูมิอากาศเข้าใกล้ 0 ํซ หรือติดลบก็ตาม อย่างเก่งก็เกิดเป็นน้ำค้างแข็ง(Frost)ตามพื้นดินให้ได้ตื่นเต้นกันบ้างเท่านั้น

ทุกวันนี้สภาพอากาศโดยทั่วไปมีความแปรปรวนมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ นักวิชาการและนักอุตุนิยม วิทยา ต่างก็พยายามค้นหาคำตอบกันอยู่ แต่ก็ยังไม่มีคำตอบใดที่จะพิสูจน์ได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากความเป็นไปได้จากสาเหตุต่างๆ แต่ที่เชื่อกันมากคือ ปัญหาโลกร้อนจากภาวะเรือนกระจกเป็นสาเหตุสำคัญ ดังนั้น การคาดการณ์สภาพอากาศล่วงหน้าเป็นระยะเวลานานๆ จึงต้องเป็นไปด้วยความระมัดระวังอย่างสูงในเรื่องความคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้น เช่นเดียวกับคนทั่วไปที่ติดตามสภาพอากาศที่จะต้องทำความเข้าใจสถาน การณ์อย่างถูกต้อง

ความเห็นใดๆที่ขาดหลักการหรือขาดข้อมูลที่ชัดเจนย่อมเชื่อถือไม่ได้ แต่ดูเหมือนคนไทยมักจะตื่นเต้น และให้ความสนใจกันแต่เรื่องราวที่หวือหวาสุดโต่ง เช่น น้ำจะท่วมถึงนครสวรรค์ สึนามิจะเข้าถึงอ่าวไทย และหิมะจะตกที่กรุงเทพฯ เป็นต้น โดยไม่ค่อยได้สนใจถึงหลักการและข้อมูลที่เป็นจริง ทำให้เกิดความตื่นตระหนกจนเกินเหตุ เช่น กรณีเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น ทีแรกก็ตื่นไปกับความ เห็นของนักวิชาการบางรายที่เดาว่าสึนามิ จากญี่ปุ่นจะมาถึงชายฝั่งอ่าวไทยตอนตีสี่ตีห้า ต่อมาก็เกรงว่าจะได้รับกัมมันตภาพรังสี จากการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของญี่ปุ่น ทั้งๆที่ยังไม่มีคำเตือนใดๆจากหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงแต่ประการใด

ถึงตรงนี้จึงหวังว่า บทความนี้จะช่วยให้ผู้อ่านผู้ที่รอคอยให้หิมะตกในประเทศไทยหันมาไตร่ตรองและตรวจสอบข้อเท็จจริงจากความเห็นของนักวิชาการบางราย รวมทั้งข้อมูลข่าวสารจาก Internet และข้อความสั้นจาก SMS ว่า มีอะไรที่ควรเชื่อและอะไรที่ไม่ควรเชื่อ มีอะไรที่เป็นไปได้บ้างและอะไรที่เป็นไปไม่ได้เลย

ผศ.สุพจน์ เอี้ยงกุญชร
คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้

[ยินดีครับ]

ก็อยากให้ตกอยู่

[สาวนุ้ยผลัดถิ่น]

  ;Dถ้าตกแต้ จะซื้อ เฮลลูบอย รอ ลองกินหิมะสักกำล่อ มันจะลำม็อกใด

[yo&t]

สิ่งที่บ่เคยเกิดก่อาจจะเกิด สิ่งที่บ่เกยเป็นไปได้ ก่อาจจะเป็นไปได้
เพราะสภาวะโลกของเราทุกวันนี้ มันเปลี่ยนแปลงไปมาก ภัยธรรมชาติบนโลกนี้มันก่มีบ่กี่อย่างอะแหละ  แต่ว่ามันรุ่นแรงขึ้นเหลือเก่า หรือว่าเกิดขึ้นกับที่ใหม่ๆ ที่เราบ่คาดคิด
หน้าร้อนอาจจะกลายเป็นหน้าฝน หน้าฝนอาจจะกลายเป็นหน้าหนาวก่ได้
บ่มีไผบอกเฮาได้ แต่เราก่ต้องอยู่อย่างมีสติ บ่ประมาท ฟังหูไว้หู ไตร่ตรองฮื้อดี เป็นดีที่สุด  

[StayingAlive]

ไม่คิดจะเชื่อจนกว่าจะตกจริงๆ เห็นข่าวมาหลายปีละ 

แต่ก็มีบางประเทศที่ไม่เคยหิมะตกเลย แล้วตกด้วยนะ จำไม่ได้ละ จีนรึเปล่า

[เชียงรายพันธุ์แท้]

พ.ศ.2554 ปี๋แล้วหิมะตกตี้พม่าครับ อันหนี้สมเหตุสมผลอยู่
ตางเหนือเปิ้นติดจีน แถมเป๋นตี๋นดอยสายเดียวกับหิมาลัยโตย
.......................................................................................





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก democracyforburma.wordpress.com, irrawaddy.org,  dvb.no

เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา (พ.ศ.2554) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดปรากฎการณ์ หิมะตกที่พม่า อย่างหนักทางตอนเหนือของพม่า จนทำให้บ้านเรือนประชาชนพังเสียหาย สร้างความประหลาดใจให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นเป็นอย่างมาก

โดยปรากฎการณ์ หิมะตกที่พม่า ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา บริเวณหมู่บ้านปันวา รัฐคะฉิ่น ทางตอนเหนือของพม่าซึ่งเป็นชายแดนประเทศพม่า-จีน หิมะได้ตกลงมาอย่างหนัก จนทำให้บ้านเรือนประชาชนพังเสียหาย ประชาชนไม่สามารถเดินทางไปไหนได้ ต้องปิดการสัญจรผ่านเป็นเวลาหลายวัน แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ขณะที่เมืองชีพวยที่อยู่ติดกัน ก็เผชิญกับหิมะตกหนักไม่ต่างกัน ทำให้การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ซึ่งประชาชนต่างรู้สึกประหลาดใจกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เพราะพื้นที่ดังกล่าวไม่เคยมีอากาศเย็นและ



ส่วนที่เมืองบาเมาที่อยู่ถัดไปก็ไม่ต่างกัน สภาพอากาศมีอุณหภูมิลดต่ำลงอย่างรวดเร็วเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จนมีรายงานว่า มีผู้สูงอายุในหมู่บ้านเกิดอาการช็อกจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วอีกด้วย

ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ทุน ลวิน อดีตผู้อำนวยการกรมอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยาในย่างกุ้ง ได้เปิดเผยว่า สภาพอากาศในประเทศพม่าจะมีอุณหภูมิลดต่ำลงในช่วงเดือนมกราคม ถึงมีนาคม โดยมีสาเหตุมาจากกระแสลมที่พัดผ่านหลายพื้นที่ จึงอาจต้องเผชิญกับสภาพอากาศหนาวเย็นเป็นช่วง ๆ ตลอดช่วง 3 เดือนนี้ และมีหิมะตกในบริเวณภูเขาและพื้นที่สูงในประเทศพม่า





ทั้งนี้ ในขณะนี้หลายรัฐในพม่า ได้เผชิญกับสภาพอากาศหนาวเย็นมาตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยในรัฐคะฉิ่น ที่กำลังเผชิญกับหิมะตกในขณะนี้ สภาพอากาศมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 3-4 องศาเซลเซียส ขณะที่หลายเมืองในรัฐชิน ทางตะวันตกของพม่า และรัฐฉาน ทางตอนใต้ของพม่า ก็เผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเย็น และมีอุณหภูมิติดลบในตอนกลางคืน

ที่มา
http://hilight.kapook.com/view/55452

[dekdee2516]

ให้มันจริงทีเถอะครับ คงคึกคักกันน่าดู

[....คนหน้าแหลม....]

wait n see

[[T][o][d]SaPhon]

อย่าตกเลย มีแต่เรื่องไม่ดี  สัตว์จะพากันตายหมด  หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่สภาวะอดอยากกัน  ถนนก็ใช้ไม่ได้เพราะ ไม่มีเครื่องมือในการแก้ไข  น้ำปะปาก็คงไม่ไหล หลาตาย นกตาย เยอะน่ะ

[updoon]

ข่าวก็บอกว่า "คาด" อาจจะเกิด หรือไม่เกิดก็ได้

เหมือนเลือกตั้ง คาด ว่าจะรับเลือกตั้ง แต่ผล ปรากฎ สอบตก
เหมือนกีฬา คาด ว่านัดนี้ชนะ แต่ผล เสมอ หรือแพ้

[mon1188]

ถ้าตกมาแต้จะแก้ผ้าล่นตากหิมะสักกำหรอ

[หนุ่มวัยทอง]

บ่หล้างเหมือนปี๋ 2518 เหียก้า  บ่ไจ่หิมะ แต่มันหนาวขะหนาด
ต๋อนนั้นเฮาเป๋นละอ่อน ยังไล่เก็บนก เก็บปล๋าเลย เพราะมันหนาวต๋าย
คนเฒ่าคนแก่เปิ้นฮ้องเหมยขาบ หรือแม่คะนิ้งปัจจุบัน
แต่ต๋อนนั้นมันเกิดทั่วไป บ่ไจ่มีก่าบนดอยเหมือนหม่าเดี่ยว....

[๛หนูแหม่ม_ฮ่าๆๆ—”๏”]

จะซื้อเสื้อโค๊ท ไว้รอ

[ปวดตับ]

ปีนี้แล้วบอกหิมะจะตก

จนถึงมีนา ผมยังบะได้ใส่เสื้อกันหนาวสักวัน