เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 24 กรกฎาคม 2025, 11:39:14
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  ประสบการณ์ขนหัวลุก เจอมากับตัวเมื่อคืน...
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 3 4 5 [6] 7 พิมพ์
ผู้เขียน ประสบการณ์ขนหัวลุก เจอมากับตัวเมื่อคืน...  (อ่าน 10017 ครั้ง)
chatt
ระดับ ป.โท
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,680



« ตอบ #100 เมื่อ: วันที่ 14 ตุลาคม 2012, 22:42:01 »

เมื่อหกปีก่อนผมได้เข้าทำงานที่ห้างบิ๊กซีเชียงราย วันนั้นผมต้องเข้ากะดึก เลิกประมาณตีสอง เพราะต้องเปลี่ยนราคาเริ่มรายการใหม่ ผมขับรถมอเตอไซกลับมาทางบ้านหัวดอยเมื่อก่อนมืดมากไม่มีแสงไฟเขาเรียกถนนเส้นนี้ว่าถนนร้อยศพ ผมมีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งคือเวลาขับรถกลับบ้านกลางคืนคนเดียวให้เอาพักเท้าหลังขึ้น เดี๊ยวผีจะซ้อนท้าย วันนั้นผมลืมเอาพักเท้าหลังขึ้น เมื่อผมขับรถมาถึงบริเวณบ้านชีวิตใหม่ ผมก็ได้ยินเหมือนเสียงคนเอารองเท้าแตะถูลากพื้นรถผม ผมหันไปดูก็ไม่มีไคร แค่อึดใจเดียว ผมก็ได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง เสียงลากยาว ผมขนหัวลุกคิดว่าเจอแน่ๆ ท่องนโมในใจ  พอเห็นเเสงไฟผมตัดสินใจก้มลงไปดู และแล้วสิ่งที่ผมเห็น ก็คือ ถุงพลาสติก ติดอยู่ตรงขาตั้งคู่รถผม ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ ผีถุงแซ้ว

ให้ 10 กะโหลกเลย ฮ่าๆๆ
IP : บันทึกการเข้า
miyoko
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,252



« ตอบ #101 เมื่อ: วันที่ 14 ตุลาคม 2012, 22:43:34 »

จ๊ากกกกก  คนอวดผี..... ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

Maieaim
Eaim american classic truck
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 96



« ตอบ #102 เมื่อ: วันที่ 15 ตุลาคม 2012, 01:15:59 »

ผมขอเล่าสั้นๆน่ะครับ

เรื่องมีอยู่ว่าหลายปีก่อน ที่บ้านกรรัฐ เมื่อก่อนจะมีป้าคนนึงแกขายหวย มีลูก 1คน เป็นผู้หญิง แกขายหวยจนส่งลูกเรียนจบ ป.ตรี แล้ววันนึงแกถูกหวย  แล้วก็ได้ซื้อบ้านกรรัฐ ปัจจุบันให้คนเช่า บ้านพี่ผมอยู่ติดกันพอดีเป็นบ้านแฝด  วันนึงป้าแกล้มป่วยลงพี่ผมก็ไปดูแล(แกนอนในบ้านใส่อ๊อกซิเจน)แล้วก็คอยมาดูแล แล้ววันนึงแกก็ตาย พอแกตาย ลูกก็พาญาติมาเอาสายสินล้อมบ้านไว้หมด แล้วคืนนึง พี่ชายกับเพื่อนพี่ชาย ก็ออกมานั่งสูบบุหรี่นอกบ้าน ก็มองออกไปที่หน้าบ้าน เห็นป้าแกยืนอยู่หน้าบ้าน พอทักปุ๊บแกก็กระโดดขึ้นไปบนหลังคา (สงสัยอยากเข้าบ้านแต่ทำไม่ได้) แค่นี้แหละ ตอนนี้ผมเป็นคนเช่าบ้านหลังนี้อยู่ก่อไม่เห็นมีอะไรหนิคับอยู่มา จะเป็นปีหละกินอิมนอนอุ่นหลับสะบาย

อีกเรื่องก็ในบ้านหลังนี้ มีน้องเขามาเที่ยวที่บ้าน มาคนเดียว แต่พี่ผมเห็นผู้หญิงซ้อนท้ายมาด้วย ก็เลยทักว่าตะกี้มาาสองคนตอนนี้หายไปไหนละ น้องเขาก้หาว่าอำ พอน้องเขากลับห้อง ซักพักมีคนมาเคาะกระจก พี่ผมก็นึกว่าเพื่อนอีกคนก็เลยบอกว่าเปิดเข้ามาเลยประตูไม่ได้ล็อค ซักพักเห้นมันเงียบๆก้เลยไปดูสรุปไม่มีใครมา  แล้วพอเข้านอน ปุ๊บห้องนอนพี่ชายเขาเอาปลายเตียงโผล่ไปที่ประตู แล้วบ้านกรรัฐทางจะเป็น T ซ้ายห้องนอน กลางห้องน้ำ ขวาห้องนอน  แกจะเจอประจำเลยครับ(เห็นคุณริวจิตสัมผัสบอกห้ามตั้งเตียงแบบนี้)
      คืนนั้นผู้หญิงไต่ที่หน้าต่าง  แล้วก็เข้ามาในห้อง (ไม่ได้ปิดหน้าต่างนอน)ไต่ที่เพดาน แล้วก็ยืนบนฝาผนังแล้วเอาลิ้นจะเลียที่หน้า  จากนั้นพี่ผมก็นึกขึ้นได้ว่าเจอผีให้สวดมนต์กลับด้าน ก็สวดมนทั้งไม่กลับและกลับ  ผีเห็นก็หัวเราะใหญ่เลย หัวเราะ ฮิฺฮิฮิ  แล้วก็ยิ่งสวดมันก็ยิ่งเอานิ้วมาแทงที่ใต้รักแร้ จนเจ็บไปถึงหัวใจ พี่เขาก็เลยนึกถึงแม่ พอนึกถึงแม่ปุ๊บผีก็ร้องไห้แล้วก็หายไป เช้ามา ใต้รักแร้เป็นรอยช้ำหมดเลย

เรื่องที่ 3
สั้นๆ พี่เขาขับรถไปสองคัน ผ่านป่าเหี๊ยวเจ๊ก  อยู่ดีๆรถก็เร่งไม่ขึ้น  หันหลังไป มีผีเกาะที่โช๊คไว้ แล้วก็ถูไปกับถนน เห็นสองคนเลย สายนี้เจอ สามสี่รอบ

เรื่องที่ 4 ก็บ้านหลังเดิม ตอนนั้นผมอาศัยอยู่ด้วย  คืนนึงทุกคนออกไปเที่ยวด้วยกันหมดแต่รถคนละคัน  ขากลับผมก็กลับก่อน พอมาถึงก็ขึ้นไปนอนเลย แล้วตื่นเช้ามา น้องผู้ชายที่มาค้างที่บ้านถามผมว่าเมื่อคืนพี่นอนที่แคร่ข้างล่างทำไม ทำไมไม่นอนข้างบน ผมว่าจะไปเรียกแต่ไม่กล้าปลุก  ผมก็บอกว่าผมไม่ได้นอน ไม่มีใครนอนเลยซักคน
มีอีกหลายเรื่อง

IP : บันทึกการเข้า

happyeasysex
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 608



« ตอบ #103 เมื่อ: วันที่ 15 ตุลาคม 2012, 01:21:07 »

อ่านแล้ว "ขนคิงฮาลุก"    
ู                ^
                ^
                ^
                ^
                 ^
สรุปแล้วขนใครกันแน่ที่ลุก  อิๆ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 15 ตุลาคม 2012, 05:55:21 โดย happyeasysex » IP : บันทึกการเข้า

เหนือสุดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา ล้ำค่าพระธาตุดอยตุง
[T][o][d]SaPhon
My name's Todsaphon
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,064

พื้นที่ส่วนบุคคล


« ตอบ #104 เมื่อ: วันที่ 15 ตุลาคม 2012, 03:08:44 »

ผมขอเล่าสั้นๆน่ะครับ

เรื่องมีอยู่ว่าหลายปีก่อน ที่บ้านกรรัฐ เมื่อก่อนจะมีป้าคนนึงแกขายหวย มีลูก 1คน เป็นผู้หญิง แกขายหวยจนส่งลูกเรียนจบ ป.ตรี แล้ววันนึงแกถูกหวย  แล้วก็ได้ซื้อบ้านกรรัฐ ปัจจุบันให้คนเช่า บ้านพี่ผมอยู่ติดกันพอดีเป็นบ้านแฝด  วันนึงป้าแกล้มป่วยลงพี่ผมก็ไปดูแล(แกนอนในบ้านใส่อ๊อกซิเจน)แล้วก็คอยมาดูแล แล้ววันนึงแกก็ตาย พอแกตาย ลูกก็พาญาติมาเอาสายสินล้อมบ้านไว้หมด แล้วคืนนึง พี่ชายกับเพื่อนพี่ชาย ก็ออกมานั่งสูบบุหรี่นอกบ้าน ก็มองออกไปที่หน้าบ้าน เห็นป้าแกยืนอยู่หน้าบ้าน พอทักปุ๊บแกก็กระโดดขึ้นไปบนหลังคา (สงสัยอยากเข้าบ้านแต่ทำไม่ได้) แค่นี้แหละ ตอนนี้ผมเป็นคนเช่าบ้านหลังนี้อยู่ก่อไม่เห็นมีอะไรหนิคับอยู่มา จะเป็นปีหละกินอิมนอนอุ่นหลับสะบาย

อีกเรื่องก็ในบ้านหลังนี้ มีน้องเขามาเที่ยวที่บ้าน มาคนเดียว แต่พี่ผมเห็นผู้หญิงซ้อนท้ายมาด้วย ก็เลยทักว่าตะกี้มาาสองคนตอนนี้หายไปไหนละ น้องเขาก้หาว่าอำ พอน้องเขากลับห้อง ซักพักมีคนมาเคาะกระจก พี่ผมก็นึกว่าเพื่อนอีกคนก็เลยบอกว่าเปิดเข้ามาเลยประตูไม่ได้ล็อค ซักพักเห้นมันเงียบๆก้เลยไปดูสรุปไม่มีใครมา  แล้วพอเข้านอน ปุ๊บห้องนอนพี่ชายเขาเอาปลายเตียงโผล่ไปที่ประตู แล้วบ้านกรรัฐทางจะเป็น T ซ้ายห้องนอน กลางห้องน้ำ ขวาห้องนอน  แกจะเจอประจำเลยครับ(เห็นคุณริวจิตสัมผัสบอกห้ามตั้งเตียงแบบนี้)
      คืนนั้นผู้หญิงไต่ที่หน้าต่าง  แล้วก็เข้ามาในห้อง (ไม่ได้ปิดหน้าต่างนอน)ไต่ที่เพดาน แล้วก็ยืนบนฝาผนังแล้วเอาลิ้นจะเลียที่หน้า  จากนั้นพี่ผมก็นึกขึ้นได้ว่าเจอผีให้สวดมนต์กลับด้าน ก็สวดมนทั้งไม่กลับและกลับ  ผีเห็นก็หัวเราะใหญ่เลย หัวเราะ ฮิฺฮิฮิ  แล้วก็ยิ่งสวดมันก็ยิ่งเอานิ้วมาแทงที่ใต้รักแร้ จนเจ็บไปถึงหัวใจ พี่เขาก็เลยนึกถึงแม่ พอนึกถึงแม่ปุ๊บผีก็ร้องไห้แล้วก็หายไป เช้ามา ใต้รักแร้เป็นรอยช้ำหมดเลย

เรื่องที่ 3
สั้นๆ พี่เขาขับรถไปสองคัน ผ่านป่าเหี๊ยวเจ๊ก  อยู่ดีๆรถก็เร่งไม่ขึ้น  หันหลังไป มีผีเกาะที่โช๊คไว้ แล้วก็ถูไปกับถนน เห็นสองคนเลย สายนี้เจอ สามสี่รอบ

เรื่องที่ 4 ก็บ้านหลังเดิม ตอนนั้นผมอาศัยอยู่ด้วย  คืนนึงทุกคนออกไปเที่ยวด้วยกันหมดแต่รถคนละคัน  ขากลับผมก็กลับก่อน พอมาถึงก็ขึ้นไปนอนเลย แล้วตื่นเช้ามา น้องผู้ชายที่มาค้างที่บ้านถามผมว่าเมื่อคืนพี่นอนที่แคร่ข้างล่างทำไม ทำไมไม่นอนข้างบน ผมว่าจะไปเรียกแต่ไม่กล้าปลุก  ผมก็บอกว่าผมไม่ได้นอน ไม่มีใครนอนเลยซักคน
มีอีกหลายเรื่อง

ตอบ ซะมองไม่เห็น 

ป่านนี้เขาคงไปผุดไปเกิดแล้วแหละครับ มันนานแล้ว  และก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเจอผี ผมก็ไม่เคยเจอ
IP : บันทึกการเข้า
dekdee2516
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 674


« ตอบ #105 เมื่อ: วันที่ 15 ตุลาคม 2012, 06:38:57 »

ประเภทเขาว่า เขาเล่าต่อๆกันมา พูดไม่คิด เอามันส์
ระวังด้วยครับ คนอื่นเขาจะเดือดร้อน สร้างเวร
IP : บันทึกการเข้า
[T][o][d]SaPhon
My name's Todsaphon
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,064

พื้นที่ส่วนบุคคล


« ตอบ #106 เมื่อ: วันที่ 15 ตุลาคม 2012, 08:52:08 »

ประเภทเขาว่า เขาเล่าต่อๆกันมา พูดไม่คิด เอามันส์
ระวังด้วยครับ คนอื่นเขาจะเดือดร้อน สร้างเวร
อันนี้เล่าจากปากครับไม่ได้เล่าต่อๆกันมา จากปากเจ้าของบ้านและผมก็อาศัยในบ้านนั้น และคนที่พูดก็มีตัวตนจริง และมันไม่เห็นจะเกี่ยวกับการสร้างเวรตรงไหนเลยครับ งั้นรายการคนอวดผีคงสร้างเวรสร้างกรรมไปทั่วโลกแล้วสิครับ
IP : บันทึกการเข้า
กระเจียว
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 720



« ตอบ #107 เมื่อ: วันที่ 15 ตุลาคม 2012, 09:06:26 »




    -ของแบบนี้พูดไปน้อยคนนักที่เชื่อ ถ้าคุณไม่เจอเข้ากับตัวเอง ตอนเจอเดี๋ยวก็รู้ว่ามันเป็นยังไง
IP : บันทึกการเข้า
M y L O V E . . . a
สู้...ให้ถึงที่สุดก่อน ค่อยยอมแพ้...
สมาชิกลงทะเบียน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 455


ขออภัยในบางลีลา...


« ตอบ #108 เมื่อ: วันที่ 15 ตุลาคม 2012, 10:20:21 »

คิดไปเอง เมาป่าว ถ้าผืมีจริง (คนดีตายเป็นผีดี คนเลวตายเป็นผีเลว) ตอนนี้ประเทศแย่ ผีดีๆ น่าจะออกมาช่วย ฮืม ฮืม ฮืม
ก็น่าคิดน่ะ ฮืม อะไรๆก้ผี ถ้าผีมีจริง เทวดาต้องมีจริง ผีทำผิดได้ แต่ทำไมเทวดาทำดีไม่ได้อะ
จากที่ผมติดตาม อ่านการตอบกระทู้ ของท่าน TOS Mushroom 5  ผมคิดว่า ท่านคงไม่เชื่อเรื่องแบบนี้นะครับ 100 % ท่านไม่เชื่อผมให้ 95 % ละมั้ง  อีก 5 % ก็ ผมภาวนาขอให้เจอละ สัมผัสได้นะครับ เผื่อจะมีโอกาศให้ท่านมาเล่าบ้าง  นอกเสียจากท่านไม่เจอเองกับตัว  แต่ส่วนตัวไม่รู้นะครับ  ผมเคยเจอ จริงๆ 100 % แต่อย่างที่บอก  100 % ที่ผมบอกมา พูดไปก็คงมีคนเชื่อไม่กี่คน แต่ก็มันเป็นเรื่องธรรมชาติ คงยากที่จะให้คนเชื่อ ถ้าไม่เจอกับตัวเองครับ

 ผมเชื่อว่า สิ่งที่เรามองไม่เห็น มีอยู่จริงๆ ครับ เหมือน  นรก กับสวรรค์  มองไม่เห็น แต่ก็มีอยู่จริง  หรือว่าท่านไม่เชื่อ!!






ผมไม่เชื่อ95% ครับ อีก 5 เผื่อไว้  ยิงฟันยิ้ม ผมเชื่อ มนุษย์ต่างดาวมากกว่าซะอีก  คิดเอาเล่นๆ ถ้าวิญญาณมีจริง  มนุษย์ต่างดาวคงไม่มีจริง โลกคงไม่ได้อยู่บนกฏฟิสิก และจักวราล
ผมก็ไม่แน่ใจว่าที่ผมเคยเจอมันคือผีหรือเปล่าน่ะครับ

พักหลังๆผมจะชอบเห็นแว๊บๆ เห็นเป็นตัวดำๆ แต่พอหันไปก็ไม่เห็นผมคิดว่าตาฝาด วันนี้ผมก็เจอผุ้หญิงใส่ผมยาวดำใส่เสื้อสีชมพู มีแต่ลำตัวลอยอยู่หน้าห้องน้ำ แต่พอดูดีๆมันก็เป็นเสื้อ  
ผมอาจจะเป็นโรคประสาทจริงๆเสียแล้ว  ตั้งแต่วันนั้นที่เข้าโรงบาลก็เริ่มเห็นอะไรแว๊บไปแว๊บมา  แต่ผมก็จะไม่หนี

ยังไงก็ขอโทษด้วยน่ะครับที่ผมไปลบหลู่ความเชื่อของหลายๆท่านแต่ แต่ศาสนาพุทธดิบๆแบบไม่ปรุงแต่งเอาเทวดาเทพนิยายเลย พระพุทธเจ้าบอกว่า ผีก็คือคน คนก็คือผี และคนที่เห็นวิญญาณได้ มีแต่ผู้ที่ตรัสรู้แล้วเท่านั้น  ถ้าผมศึกษามาผิดตำราก็ขอสุมาด้วยเน้อ ผมรู้ว่าตอนนี้ผมเหมือนคนอยู่ในดงทีน ยิงฟันยิ้ม พิมพ์ผิดห้อง

ผมก็มีเรื่องหน้ากลัวๆเลยจากปากพี่ชายผมผมยังไม่เชื่อเลย มี 4 เรื่อง โหดเหมือนในหนังเลยแต่มันไม่เคยโกหก  เดี๋ยวผมจะมาเล่าให้ฟัง

1.เรื่องจากหมู่บ้านกรรัฐ
2.ป่าเหี๊ยวเจ๊ก
3.ป่าเหี๊ยวเจ๊ก
4.ป่าเหี๊ยวเจ๊ก

1. ถ้าวิญญาณมีจริง.....แล้วมันขัดกับกฎฟิสิกส์ข้อไหนล่ะ.....

2.ผู้ที่จะเห็นสิ่งเร้นลับได้...จะเป็นเฉพาะผู้ตรัสรู้แล้วเท่านั้น.....อยู่ในพระไตรปิฏกข้อไหนครับ....

บางอย่างคนเราก็ทำหลอกกันเล่นๆ คิดเสียว่าขำๆ....บางอย่างมันก็เกินความรู้ทางฟิสิกส์หรือวิทยาศาสตร์ปัจจุบันจะอธิบายได้ครับ.....

บางหัวข้อ ถกกันทั้งวันยังไม่จบเลย..ขนาด ดร.ฟิสิกส์ (บางท่าน) จากมช. จากจุฬา......ยังอึ้งกิมกี่เลยครับ...

ไม่ได้บอกให้เชื่อรึไม่เชื่อ...แล้วแต่บุคคล....

ในฐานะบุคลากรทางวิทย์(เล็กๆ)คนนึง......อยากเตือนสติบางท่านว่า....

อย่าได้หยิ่งทนงกับองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบันให้มากนักเลย...

มันเปลี่ยนแปลงโลกมามากก็จริง.....แต่มันก็แค่หางอึ่งในจักรวาลใบใหญ่ใบนี้.....รึหางอึ่งอาจจะใหญ่ไป!

ด้วยความหวังดี.
IP : บันทึกการเข้า

แด่....ความเวิ้งว้าง....อันไกลโพ้น......
chate
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,023


« ตอบ #109 เมื่อ: วันที่ 15 ตุลาคม 2012, 10:31:36 »

บ่าจบเตื่อกานิ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
city
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 729



« ตอบ #110 เมื่อ: วันที่ 15 ตุลาคม 2012, 14:22:11 »

บ่าจบเตื่อกานิ ยิ้มกว้างๆ
ท่าจะบ่จบง่ายๆ หันมีผีโผล่มาซะป๊ะ..ผีข้าวมันไก่ว่ะ ผีมูเซอว่ะ ผีถุงแซ้วว่ะ ล่าสุดผีข้าวนึ่งแห๋ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
Maieaim
Eaim american classic truck
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 96



« ตอบ #111 เมื่อ: วันที่ 15 ตุลาคม 2012, 19:23:41 »

ประเภทเขาว่า เขาเล่าต่อๆกันมา พูดไม่คิด เอามันส์
ระวังด้วยครับ คนอื่นเขาจะเดือดร้อน สร้างเวร
อันนี้เล่าจากปากครับไม่ได้เล่าต่อๆกันมา จากปากเจ้าของบ้านและผมก็อาศัยในบ้านนั้น และคนที่พูดก็มีตัวตนจริง และมันไม่เห็นจะเกี่ยวกับการสร้างเวรตรงไหนเลยครับ งั้นรายการคนอวดผีคงสร้างเวรสร้างกรรมไปทั่วโลกแล้วสิครับ

เรื่องบ้านหลังนี้ผมพอรู้มาบ้างแล้วคับ ไม่เป็นไรคับผมไม่คิดมาก ผมอยากจะขอซื้อด้วยซ้ำไปแต่ผมไม่รู้จะติดต่อเจ้าของบ้านยังงัยคับไม่มีเบอร์เขาเลยมีแต่เบอร์คนที่มาดูแลบ้าน ใครพอรู้จักลูกสาวเจ้าของบ้านบอกด้วยนะคับ
IP : บันทึกการเข้า

ramill
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,102


« ตอบ #112 เมื่อ: วันที่ 15 ตุลาคม 2012, 19:49:51 »

อันนี้เรื่องจริงเลยครับ ย้อนไปประมาณสักปี พ.ศ. 2530 สมัยนั้นผมเรียนระดับอาชีวะศึกษาในจังหวัดเชียงราย เนื่องจากผมเป็นคนต่างอำเภอ ต้องนั่งรถเมล์ไปกลับทุกวัน จำได้ว่าตอนนั้นอยู่ปี 1 แล้วต้องได้เรียนภาคบ่าย เริ่มเรียนก็ประมาณ 11 โมง กว่าจะเลิกถึงคาบสุดท้ายก็ปาเข้าไป 1 ทุ่ม บางวันอาจารย์ปล่อยช้าก็ต้องรีบวิ่งไปขึ้นรถที่ท่ารถ หรือไม่ก็ต้องมารอรถเมล์ที่ห้าแยกพ่อขุน เวรกรรมอะไรก็ไม่รู้ โดยเฉพาะวิชาเขียนแบบ ดันมาอยู่คาบสุดท้าย อาจารย์ท่านนี้เฮียบมาก ใครเขียนผิดเขียนถูกต้องแก้ให้เสร็จภายในวันนั้น เพื่อนๆที่อยู่หอไม่ต้องกลับบ้านก็ไม่ต้องเดือดร้อน เพื่อนๆที่อยู่แถวๆบ้านดู่หรือสันทรายป่ากล้วยก็ยังพอหารถกลับได้ หรือให้ญาติมารับกลับ ส่วนผมต้องนั่งรถกลับแม่จัน บางวันตกรถจริงๆก็ต้องนอนหน้าห้องน้ำหลังอนุสาวรีย์พ่อขุน อย่าให้พูดเลยครับ ทั้งความมืดทั้งยุงแถมไม่ได้อาบน้ำ กว่ารถเมล์คันแรกของอีกวันจะไปแม่จัน ก็ประมาณตี 5 กว่าๆ  ตอนหลังมาผมเริ่มเรียนรู้วิธีที่จะหารถกลับบ้าน ถ้าเกิดเลิกเรียนประมาณ 2-3 ทุ่ม  คือมีคนแนะนำให้มาโบกรถหน้าป้อมตำรวจก่อนขึ้นสะพานแม่น้ำกก ฝั่งเชียงราย  สมัยนั้นยังเป็นถนนเลนส์เดียวอยู่   ก่อนถึงตู้ยามตำรวจหน้าแขวงการทางปัจจุบัน ก็จะมีโค้งถ้าแยกสหมิตร ต้องสังเกตุให้ดี รถบางคักก็มาเร็วบางคันก็มาช้า ต้องมายืมไฟฉายของตำรวจมาโบก เพราะบริเวณนั้นมืดมาก บางคันก็จอดบางคันก็ไม่จอด  ผมเคยแม้กระทั่งนั้งรถขนศพ นั้งหลังกะบะกับศพ ซึ่งศพนั้นไม่ได้ใส่โลง พันเสื่อ นอนกลิ้งอยู่หลังกะบะ กลิ่นศพอันอบอวนไม่ต้องพูดถึงครับ บางครั้งก็นั่งรถบรรทุกสิบล้อ ซึ่งคนขับมีอาการเมาถือขวดเหล้า จิบไปด้วยกัดฟันไปด้วย คงไม่ต้องบอกว่าเมาอะไรบ้าง  (เดียวมาต่อครับ) ต่อเลยนะครับ  ช่วงกลางๆปี ได้มีการขยายถนนระหว่างเส้นทางแม่จัน-เชียงราย จำได้ว่าเป็นฤดูฝน ก็แปลกใจเหมือนกันว่าการสร้างทางทั้งเมื่อก่อนและปัจจุบัน ชอบทำในช่วงหน้าฝน แถมเป็นเลนส์เดียวชีวิตคนใช้เส้นทางก็แสนลำบาก มีเหตุการณ์ที่น่าสะพรึ่งกลัวเกิดขึ้นในช่วงนี้ด้วยครับ คือมีรถเมล์สายแม่สายหรือเชียงแสนผมจำไม่ได้ ประสบอุบัติเหตุน่าจะเป็นช่วงบ้านขัวแตะ ถ้าผิดขออภัยด้วย จากเหตุการณ์นั้นมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รถเมล์เสียหายยับเยิน ผมได้ทราบข่าวก็ตกใจเพราะเราเป็นผู้ใช้รถเมล์ทุกวัน สถานะการณ์มันแกล้งหรือเวรกรรมอะไรของเราไม่รู้ คาบวิชาเขียบแบบเจ้าเดิมก็เวียนเข้ามาบรรจบอีกครั้ง ประมาณ 6 โมงครึ่ง งานเขียนแบบของทั้งห้องยังไม่มีใครคืบหน้า ได้แต่เพียงเส้นราง ลบๆแก้ๆอาจารย์ก็หายไปไหนไม่รู้ ผมแอบเสียวอยู่ในใจ วันนี้คงได้วิ่งไปรอรถหรือซวยจริงๆ คงได้นอนตบยุงหน้าห้องน้ำหลังอนุสาวรีพ่อขุนอีกแล้ว พอใกล้เลิกเรียนอาจารย์เข้ามาในห้อง และให้พวกเราส่งงาน ปรากฏว่าไม่มีใครส่งงานสักคนเพราะไม่เสร็จ จะด้วยความยากของวิชาเขียนแบบหรือปัญญาอันน้อยนิดของพวกเราก็ไม่ทราบได้ แต่ดูอาจารย์มีทางท่ายิ้มแย้มแจ่มใส และบอกว่าเก็บงานชิ้นนี้ไปเขียนต่อที่บ้านได้ ผมกับเพื่อนๆโล่งใจว่าวันนี้มาแปลกคงได้กลับบ้านเร็ว แต่ที่ไหนได้อาจารย์บอกว่า วันนี้ยังพอมีเวลาเหลือขอให้เขียนงานชิ้นที่มีความง่ายส่งคนละหนึ่งชิ้น พร้อมกับให้งานใหม่เพิ่มมา แล้วบอกว่า เขียนเสร็จส่งแล้วกลับได้เลย เอาละทีนี้ทั้งห้องก็รีบปั่นงานชิ้นใหม่ด้วยเวลาอันน้อยนิด ผมจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แอบลุ่นอยู่ในใจจะผิดจะถูกยังไงก็จะรีบทำส่งแล้วไปแก้วันหลังเอา ช่วงสุดท้ายนี้อาจารย์เล่นเดินตรวจทุกโต๊ะเลย เพื่อนผมบางคนทั้งโดนด่าโดนดุ เพราะบางคนเขียนเส้นสวยแต่ไม่ถูก บางคนเขียนถูกแต่เส้นไม่สวย ตามหลักเฟคสเพคตีสอะไรพวกนั้นอะครับ ตอนนี้ความรู้พวกนั้นก็เข้าหม้อไปหมดแล้ว ซวยจริงๆหิวข้าวก็หิว ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ใจก็อยากจะทำงานให้เสร็จจะได้รีบกลับบ้าน ไม่อยากไปลุ้นโบกรถเหมือนเช่นเคยอีก เหมือนสุภาษิตที่ว่า ยิ่งรีบก็ยิ่งเสีย ยิ่งไปก็ยิ่งช้า  เพื่อนๆหลายคนที่เสร็จแล้วก็ส่งงานแล้วรีบบ้าน ผมดูนาฬิกาตอนนั้นเวลาประมาณทุ่ม 40 นาที  มีลุ้นแน่วันนี้ (เดียวมาต่อครับ)  ต่อครับ  ผมยอมรับว่างานชิ้นนั้นไม่เสร็จสมบูรณ์แต่ได้แอบส่งไปพร้อมเพื่อนที่เสร็จไปแบบเนียนๆ แล้วก็รีบจ้ำอ้าวไปห้าแยกพ่อขุน ในใจก็หวังว่ามีรถเมล์ตกค้างบ้าง วิ่งพลางหันหลังพลางกลัวว่ารถจะมาข้างหลัง จากห้าแยกก็วิ่งต่อไปป้อมตำรวจก่อนถึงสะพานแม่น้ำกก แถวนั้นยังพอมีไฟสลั่วๆบ้าง หิวข้าวก็หิวไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า มือถือไม้ทีหลังก็สะพายกระเป๋าแบบเป้ เหนื่อยก็เหนื่อยต้องรีบไปถึงป้อมตำรวจให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้ยืมไฟฉายของตำรวจมาโบกรถ เรื่องที่จะได้ขึ้นรถเมล์กลับเรื่อนรางเต็มที คาดว่าน่าจะ 2 ทุ่มนิดๆแล้ว ถ้ามีรถเมล์มาก็คงแปลก ผมมาถึงป้อมตำรวจราวกับใช้เวลานานมากแต่ก็ไม่รีบชักช้าที่จะขอยืมไฟฉายจากตำรวจ จำได้ว่าตำรวจยศดาบท่านนั้นยังกล่าวทักทายว่า ตกรถอีกละสิท่า จำบรรยากาศวันนั้นได้อย่างชัดเจนที่สุด ในโสตสำนึกบรรยากาศอันเงียบสงบของเชียงรายในสมัยนั้น ชวนให้จิตใจเราวังเวงจิตใจครุ่นคิดนึกถึงเรื่องต่างๆนานา จะเรื่องงานของอาจารย์ จะเรื่องรถที่จะกลับบ้าน เคยมีรถหลายคันที่โบกได้แต่ไปไม่ถึงแม่จัน เราก็ต้องลุ้นคันต่อๆไป สิ่งหนึ่งที่ใจแอบหวังว่าจะมีรถเมล์สายยาวที่มาจากเชียงใหม่หรือลำปางที่ตกค้าง ไปแม่สายเป็นเที่ยวสุดท้ายซึ่งเคยมีเหมือนกัน เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบได้ยังไม่มีรถผ่านมา ในใจผมก็เริ่มวิตก ว่าเจออะไรก็เจอมาแล้ววันนี้จะเจออะไรอีก พร้อมกับมีขนลุกซู่เข้ามาอย่างน่าประหลาด ทันใดนั้นสิ่งที่ผมเห็นบริเวณโค้งสหมิตรก่อนถึงป้อมตำรวจ ห่างจากจุดที่ผมยืนประมาณ 80-100 เมตร  มีเงาสลั่วๆของรถคันหนึ่งวิ่งเข้าโค้งมาอย่างช้าๆ แต่แปลกมากรถคันนี้ไม่ได้เปิดไฟหน้า เปิดแต่เพียงไฟหรี่ ผมพยายามจ้องมองฝ่าความมืดและพยายามมองว่าเป็นรถอะไร จากรูปพรรณสันฐานของตัวรถผมก็คาดเดาได้ว่าน่าจะเป็นรถเมล์หรือรถบรรทุก ในใจทั้งดีใจและแปลกใจว่าวันนี้ยังไงก็ได้กลับบ้าน แต่รถคันนี้วิ่งมาช้ามาก ในระหว่างที่รอรถวิ่งมาถึงนั้น ใจผมก็แว็บคิดไปถึงรถเมล์คันที่ประสบอุบัติเหตุเมื่ออาทิตย์ก่อนได้ยังไงไม่รู้ เอาละทีนี้ผมพยายามมองไปในรถก็ไม่เห็นผู้โดยสาร หรืออย่างน้อยก็ต้องเห็นศรีษะผู้โดยสารโผล่มาจากเบาะที่นั่ง (เดียวมาต่อครับ ขอสงบจิตสงบใจอีกนิดครับ คิดว่าจะไม่เล่าแล้วนะครับเรื่องนี้)   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 15 ตุลาคม 2012, 21:00:44 โดย ramill » IP : บันทึกการเข้า
EURO
สมาชิกลงทะเบียน
มัธยม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 571


085-3946541 ต้อม


« ตอบ #113 เมื่อ: วันที่ 15 ตุลาคม 2012, 21:41:36 »

ท่าน จขกท. มีสัมผัสที่๖ แล้วครับ
ควรฝึกสมาธิ เพื่อต่อยอดความสามารถครับ
 ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
เผลอๆมีปอนจิตสัมผัส 2 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

สุดยอดคับอ้าย เล่าได้ใจกำเมืองดีครับชอบบๆๆ
IP : บันทึกการเข้า

รับซ่อม-อัพเกรด ประกอบคอม ราคากันเอง ติดต่อ 085-3946541
maekok_14
คือคนของพระราชา คือข้าของแผ่นดิน
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,253



« ตอบ #114 เมื่อ: วันที่ 15 ตุลาคม 2012, 21:45:18 »

ขอเล่าอีกเรื่องนึง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงกับเพื่อนของผม เขาขับรถกลับบ้านตอนดึกๆ  ที่ห้วยสัก  ระหว่างทางขากลับจากเชียงรายมาห้วยสักใกล้ถึงบ้านก่อนถึงปัี๊มคอสโม้ จะมีโค้งใหญ่อยู่1โค้ง อยู่ดีๆรถเขาควบคุมไม่ได้และได้แหกโค้กตกลงไป  แล้วก็สลบไป จากนั้นพอเขาตื่นขึ้นมา เป็นเวลา ตี4 หมอกลงจัดมาก  เขาคลานออกมาจากรถ  จากนั้นก็เห็นคนแก่เดินอยู่บนถนนเห็นเงารางๆ เขาก็ได้ตะโกนให้คนที่เดินข้างถนนมาช่วย แต่....  เรียกเท่าไหร่เขาก็ไม่หันกับมาราวกับไม่ได้ยิน จนตอนนั้นเพื่อนผมคิดว่ามันตายไปแล้ว  มันก็เลยโทรหาพ่อดู จากนั้นพ่อมันก็มารับ  แล้วพอถามถึงคนแก่ที่เดินผ่านนั้นชาวบ้านบอกว่า  "แกเป็นไบ้หูหนวก" ยิงฟันยิ้ม


จขกท.อย่าลืมไปทำบุญเพื่อความสบายใจเสียน่ะครับ

เน็ดขนาด เหมือนผมเจอเลย

เมื่อวันเข้าพรรษาที่ผ่านมาครับ จะจะเลยครับ แถวแม่ขะจานก่อนขึ้นดอยนางแก้วครับ วันนั้นขับรถออกจากเจียงฮายตี 3 เพื่อจะไปทำบุญเข้าพรรษาตี่เจียงใหม่ ไปถึงแม่ขะจานตี 4 กว่าๆ พอขับรถขึ้นดอยมันมีผีโพง ลอยโตยถนนลงมาครับ ห่างจากรถไกลอยู่แต่ก็พอเห็นแสง วาบ วาบ วาบ ใกล้เข้ามาติกๆ  ในใจก็นึกว่าวันนี้วันศีลหลวงศีลใหญ่ผีโพงท่าจะออกมาเสาะหากิน เลยเตรียมท่องคาถาใหญ่เลยครับ  นึกว่าเจอดีเข้าแล้วเต็มๆ เกิดมาบ่เกยปะของจริง ครั้งแรกในชีวิตที่เห็นแบบจะจะ

พอขับรถใกล้เข้ามาติกๆ ปรากฏว่าเป็นมูเซอ ขับรถเครื่องเก่าๆ ไฟหน้าก็บ่าดี ติดๆ ดับๆ ต่างผักลงดอยมา  กำลังจะเอาไปขายกาด

เฮ้อ  ฮานิเตอะ  ยุ้มปูดยุ้มแมนมาจาดไกล กลายเป็นบ่าผีบีบนี้เหีย   

ป๊าดโท๊ะ บ่าน้อง เล่นเอาปี้ไค่หัว จ๋นน้ำตาไหลเลยเน่อ

ระวังเยี่ยวแม๊ดเน้อครับ 555+
 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
HARLEY DAVIDSON
BIKER
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,536


HARLEY DAVIDSON & MERCEDES BENZ


« ตอบ #115 เมื่อ: วันที่ 15 ตุลาคม 2012, 23:30:31 »

 ตกใจ ตกใจ :oขนคิงขนฮาลุกเลย  ตกใจ ตกใจ ตกใจ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

ขาดแคลนเงินตรา  แต่งชุดนักศึกษามาหาพี่
สุขใดไหนจะเท่า เมื่อล้วงกระเป๋าแล้วเจอตังค์
GEN-Z
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,099


« ตอบ #116 เมื่อ: วันที่ 15 ตุลาคม 2012, 23:50:12 »

ตรงจุดตุงแดงที่ จขกท. พูดถึง ผมขับรถผ่านช่วงก่อนหน้าเห็นอุบัติเหตุตรงจุดนี้ เป็นรถมอร์ไซค์ คนขับขี่นอนแน่นิ่งอยู่ หมวกกันน๊อคหลุดกระเด็นออก ทำบุญเยอะๆครับ อุทิศให้แก่วิญญานที่เห็นด้วยก็ดีครับ ทำบุญแล้วจะได้สบายใจ
IP : บันทึกการเข้า
tfgc2007
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,873


สมบัติพญามังราย ต้องรักษาไว้


« ตอบ #117 เมื่อ: วันที่ 15 ตุลาคม 2012, 23:56:06 »

สรุปว่าจะใดนี่เรื่องนี้...
IP : บันทึกการเข้า

รักษ์กำเมือง....ร่วมส่งเสริมละอ่อนเหนือ อู้กำเมือง....
เชียงรายสถาปนิก'97 รับ ออกแบบ เขียนแบบบ้าน อาคาร รับบริหารงานก่อสร้างและงานระบบทุกประเภท ตรวจสอบอาคาร โดยสามัญวิศวกร สามัญสถาปนิก และ จป.วิชาชีพ
laloso
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 179



« ตอบ #118 เมื่อ: วันที่ 16 ตุลาคม 2012, 01:23:00 »

ขนคิงลุกเลยครับ น่ากลัวแต้ๆ ผมซ้ำอ่านกระทู้นี้ ตามเวลา ตี่โพสนี้เลยครับ ตี๋หนึ่งป๋าย ได้บรรยากาศขนาด  อายจัง
IP : บันทึกการเข้า
บ่าวห้วยสัก
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 754



« ตอบ #119 เมื่อ: วันที่ 16 ตุลาคม 2012, 01:38:30 »

อันนี้เรื่องจริงเลยครับ ย้อนไปประมาณสักปี พ.ศ. 2530 สมัยนั้นผมเรียนระดับอาชีวะศึกษาในจังหวัดเชียงราย เนื่องจากผมเป็นคนต่างอำเภอ ต้องนั่งรถเมล์ไปกลับทุกวัน จำได้ว่าตอนนั้นอยู่ปี 1 แล้วต้องได้เรียนภาคบ่าย เริ่มเรียนก็ประมาณ 11 โมง กว่าจะเลิกถึงคาบสุดท้ายก็ปาเข้าไป 1 ทุ่ม บางวันอาจารย์ปล่อยช้าก็ต้องรีบวิ่งไปขึ้นรถที่ท่ารถ หรือไม่ก็ต้องมารอรถเมล์ที่ห้าแยกพ่อขุน เวรกรรมอะไรก็ไม่รู้ โดยเฉพาะวิชาเขียนแบบ ดันมาอยู่คาบสุดท้าย อาจารย์ท่านนี้เฮียบมาก ใครเขียนผิดเขียนถูกต้องแก้ให้เสร็จภายในวันนั้น เพื่อนๆที่อยู่หอไม่ต้องกลับบ้านก็ไม่ต้องเดือดร้อน เพื่อนๆที่อยู่แถวๆบ้านดู่หรือสันทรายป่ากล้วยก็ยังพอหารถกลับได้ หรือให้ญาติมารับกลับ ส่วนผมต้องนั่งรถกลับแม่จัน บางวันตกรถจริงๆก็ต้องนอนหน้าห้องน้ำหลังอนุสาวรีย์พ่อขุน อย่าให้พูดเลยครับ ทั้งความมืดทั้งยุงแถมไม่ได้อาบน้ำ กว่ารถเมล์คันแรกของอีกวันจะไปแม่จัน ก็ประมาณตี 5 กว่าๆ  ตอนหลังมาผมเริ่มเรียนรู้วิธีที่จะหารถกลับบ้าน ถ้าเกิดเลิกเรียนประมาณ 2-3 ทุ่ม  คือมีคนแนะนำให้มาโบกรถหน้าป้อมตำรวจก่อนขึ้นสะพานแม่น้ำกก ฝั่งเชียงราย  สมัยนั้นยังเป็นถนนเลนส์เดียวอยู่   ก่อนถึงตู้ยามตำรวจหน้าแขวงการทางปัจจุบัน ก็จะมีโค้งถ้าแยกสหมิตร ต้องสังเกตุให้ดี รถบางคักก็มาเร็วบางคันก็มาช้า ต้องมายืมไฟฉายของตำรวจมาโบก เพราะบริเวณนั้นมืดมาก บางคันก็จอดบางคันก็ไม่จอด  ผมเคยแม้กระทั่งนั้งรถขนศพ นั้งหลังกะบะกับศพ ซึ่งศพนั้นไม่ได้ใส่โลง พันเสื่อ นอนกลิ้งอยู่หลังกะบะ กลิ่นศพอันอบอวนไม่ต้องพูดถึงครับ บางครั้งก็นั่งรถบรรทุกสิบล้อ ซึ่งคนขับมีอาการเมาถือขวดเหล้า จิบไปด้วยกัดฟันไปด้วย คงไม่ต้องบอกว่าเมาอะไรบ้าง  (เดียวมาต่อครับ) ต่อเลยนะครับ  ช่วงกลางๆปี ได้มีการขยายถนนระหว่างเส้นทางแม่จัน-เชียงราย จำได้ว่าเป็นฤดูฝน ก็แปลกใจเหมือนกันว่าการสร้างทางทั้งเมื่อก่อนและปัจจุบัน ชอบทำในช่วงหน้าฝน แถมเป็นเลนส์เดียวชีวิตคนใช้เส้นทางก็แสนลำบาก มีเหตุการณ์ที่น่าสะพรึ่งกลัวเกิดขึ้นในช่วงนี้ด้วยครับ คือมีรถเมล์สายแม่สายหรือเชียงแสนผมจำไม่ได้ ประสบอุบัติเหตุน่าจะเป็นช่วงบ้านขัวแตะ ถ้าผิดขออภัยด้วย จากเหตุการณ์นั้นมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รถเมล์เสียหายยับเยิน ผมได้ทราบข่าวก็ตกใจเพราะเราเป็นผู้ใช้รถเมล์ทุกวัน สถานะการณ์มันแกล้งหรือเวรกรรมอะไรของเราไม่รู้ คาบวิชาเขียบแบบเจ้าเดิมก็เวียนเข้ามาบรรจบอีกครั้ง ประมาณ 6 โมงครึ่ง งานเขียนแบบของทั้งห้องยังไม่มีใครคืบหน้า ได้แต่เพียงเส้นราง ลบๆแก้ๆอาจารย์ก็หายไปไหนไม่รู้ ผมแอบเสียวอยู่ในใจ วันนี้คงได้วิ่งไปรอรถหรือซวยจริงๆ คงได้นอนตบยุงหน้าห้องน้ำหลังอนุสาวรีพ่อขุนอีกแล้ว พอใกล้เลิกเรียนอาจารย์เข้ามาในห้อง และให้พวกเราส่งงาน ปรากฏว่าไม่มีใครส่งงานสักคนเพราะไม่เสร็จ จะด้วยความยากของวิชาเขียนแบบหรือปัญญาอันน้อยนิดของพวกเราก็ไม่ทราบได้ แต่ดูอาจารย์มีทางท่ายิ้มแย้มแจ่มใส และบอกว่าเก็บงานชิ้นนี้ไปเขียนต่อที่บ้านได้ ผมกับเพื่อนๆโล่งใจว่าวันนี้มาแปลกคงได้กลับบ้านเร็ว แต่ที่ไหนได้อาจารย์บอกว่า วันนี้ยังพอมีเวลาเหลือขอให้เขียนงานชิ้นที่มีความง่ายส่งคนละหนึ่งชิ้น พร้อมกับให้งานใหม่เพิ่มมา แล้วบอกว่า เขียนเสร็จส่งแล้วกลับได้เลย เอาละทีนี้ทั้งห้องก็รีบปั่นงานชิ้นใหม่ด้วยเวลาอันน้อยนิด ผมจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แอบลุ่นอยู่ในใจจะผิดจะถูกยังไงก็จะรีบทำส่งแล้วไปแก้วันหลังเอา ช่วงสุดท้ายนี้อาจารย์เล่นเดินตรวจทุกโต๊ะเลย เพื่อนผมบางคนทั้งโดนด่าโดนดุ เพราะบางคนเขียนเส้นสวยแต่ไม่ถูก บางคนเขียนถูกแต่เส้นไม่สวย ตามหลักเฟคสเพคตีสอะไรพวกนั้นอะครับ ตอนนี้ความรู้พวกนั้นก็เข้าหม้อไปหมดแล้ว ซวยจริงๆหิวข้าวก็หิว ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ใจก็อยากจะทำงานให้เสร็จจะได้รีบกลับบ้าน ไม่อยากไปลุ้นโบกรถเหมือนเช่นเคยอีก เหมือนสุภาษิตที่ว่า ยิ่งรีบก็ยิ่งเสีย ยิ่งไปก็ยิ่งช้า  เพื่อนๆหลายคนที่เสร็จแล้วก็ส่งงานแล้วรีบบ้าน ผมดูนาฬิกาตอนนั้นเวลาประมาณทุ่ม 40 นาที  มีลุ้นแน่วันนี้ (เดียวมาต่อครับ)  ต่อครับ  ผมยอมรับว่างานชิ้นนั้นไม่เสร็จสมบูรณ์แต่ได้แอบส่งไปพร้อมเพื่อนที่เสร็จไปแบบเนียนๆ แล้วก็รีบจ้ำอ้าวไปห้าแยกพ่อขุน ในใจก็หวังว่ามีรถเมล์ตกค้างบ้าง วิ่งพลางหันหลังพลางกลัวว่ารถจะมาข้างหลัง จากห้าแยกก็วิ่งต่อไปป้อมตำรวจก่อนถึงสะพานแม่น้ำกก แถวนั้นยังพอมีไฟสลั่วๆบ้าง หิวข้าวก็หิวไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า มือถือไม้ทีหลังก็สะพายกระเป๋าแบบเป้ เหนื่อยก็เหนื่อยต้องรีบไปถึงป้อมตำรวจให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้ยืมไฟฉายของตำรวจมาโบกรถ เรื่องที่จะได้ขึ้นรถเมล์กลับเรื่อนรางเต็มที คาดว่าน่าจะ 2 ทุ่มนิดๆแล้ว ถ้ามีรถเมล์มาก็คงแปลก ผมมาถึงป้อมตำรวจราวกับใช้เวลานานมากแต่ก็ไม่รีบชักช้าที่จะขอยืมไฟฉายจากตำรวจ จำได้ว่าตำรวจยศดาบท่านนั้นยังกล่าวทักทายว่า ตกรถอีกละสิท่า จำบรรยากาศวันนั้นได้อย่างชัดเจนที่สุด ในโสตสำนึกบรรยากาศอันเงียบสงบของเชียงรายในสมัยนั้น ชวนให้จิตใจเราวังเวงจิตใจครุ่นคิดนึกถึงเรื่องต่างๆนานา จะเรื่องงานของอาจารย์ จะเรื่องรถที่จะกลับบ้าน เคยมีรถหลายคันที่โบกได้แต่ไปไม่ถึงแม่จัน เราก็ต้องลุ้นคันต่อๆไป สิ่งหนึ่งที่ใจแอบหวังว่าจะมีรถเมล์สายยาวที่มาจากเชียงใหม่หรือลำปางที่ตกค้าง ไปแม่สายเป็นเที่ยวสุดท้ายซึ่งเคยมีเหมือนกัน เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบได้ยังไม่มีรถผ่านมา ในใจผมก็เริ่มวิตก ว่าเจออะไรก็เจอมาแล้ววันนี้จะเจออะไรอีก พร้อมกับมีขนลุกซู่เข้ามาอย่างน่าประหลาด ทันใดนั้นสิ่งที่ผมเห็นบริเวณโค้งสหมิตรก่อนถึงป้อมตำรวจ ห่างจากจุดที่ผมยืนประมาณ 80-100 เมตร  มีเงาสลั่วๆของรถคันหนึ่งวิ่งเข้าโค้งมาอย่างช้าๆ แต่แปลกมากรถคันนี้ไม่ได้เปิดไฟหน้า เปิดแต่เพียงไฟหรี่ ผมพยายามจ้องมองฝ่าความมืดและพยายามมองว่าเป็นรถอะไร จากรูปพรรณสันฐานของตัวรถผมก็คาดเดาได้ว่าน่าจะเป็นรถเมล์หรือรถบรรทุก ในใจทั้งดีใจและแปลกใจว่าวันนี้ยังไงก็ได้กลับบ้าน แต่รถคันนี้วิ่งมาช้ามาก ในระหว่างที่รอรถวิ่งมาถึงนั้น ใจผมก็แว็บคิดไปถึงรถเมล์คันที่ประสบอุบัติเหตุเมื่ออาทิตย์ก่อนได้ยังไงไม่รู้ เอาละทีนี้ผมพยายามมองไปในรถก็ไม่เห็นผู้โดยสาร หรืออย่างน้อยก็ต้องเห็นศรีษะผู้โดยสารโผล่มาจากเบาะที่นั่ง (เดียวมาต่อครับ ขอสงบจิตสงบใจอีกนิดครับ คิดว่าจะไม่เล่าแล้วนะครับเรื่องนี้)   
จะเล่าอีกไหมครับ ก็ช่วงเวลาที่ตกรถทำไมไม่ไปนอนหอเพื่อน หรือที่ป้อมตำรวจครับ มานอนหน้าห้องน้ำทำไมงะ งงอ่ะครับ  อายจัง อายจัง
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 4 5 [6] 7 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!