เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 24 กรกฎาคม 2025, 16:30:49
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  ประสบการณ์ขนหัวลุก เจอมากับตัวเมื่อคืน...
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 3 4 5 6 [7] พิมพ์
ผู้เขียน ประสบการณ์ขนหัวลุก เจอมากับตัวเมื่อคืน...  (อ่าน 10018 ครั้ง)
chatt
ระดับ ป.โท
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,680



« ตอบ #120 เมื่อ: วันที่ 16 ตุลาคม 2012, 11:30:17 »

ช่วยทีเดียวจบได้มั้ยครับเด๋วต่อๆ เสียอารมณ์
IP : บันทึกการเข้า
mellophon
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4



« ตอบ #121 เมื่อ: วันที่ 16 ตุลาคม 2012, 11:51:12 »

ตอนนี้ ตรงนั้นมีตุงแดงอย่างที่บอกจริงๆ พึ่งจะมีไม่นาน  หากจำไม่ผิดน่าจะเป็นช่วงต้นเดือนที่ฝนตก เห็นแต่เศษกระจกรถ และคราบเลือด สองวงใหญ่ๆ ที่ถนน แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเลยไม่ได้ใส่ใจ และ เห็นมีบ้านตรงหน้าโรงงานใบยาสูบ ติดถนนใหญ่ก่อนถึงสะพานเล็ก พึ่ีงมีงานศพไป (ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันมั้ย) นี่ยังดี น่ะ ....ช่วงกลางดึกเดือนเมษา มีน้องผู้หญิงคนนึงตามมากับพี่สาวจากศาลาตรงยูเทิร์น หน่า รร ป่าก่อดำ แล้วแกก็มานั่งร่วมวงเฮฮา ที่ลานหลังบ้าน พอ ดึก ๆ เข้าเริ่มเมา วงก็แตก  วงแตกเพราะ มีคนที่เมา(ผู้หญิงสี่คน)ที่เห็นน้องผู้หญิงคนนี้ แกทั้งเห็นทั้งคุยสนทนาเป็นกิจลักษณะ และเมื่อพวกแกเห็นน้องผู้หญิงคนนี้ตัวขาวซีดและหน้าก็บานเท่ากระด้งเท่านั้นแหละ  วงแตก  ยังมีถามตบน้องผู้หญิงด้วยน่ะ ทั้ง ฮา ทั้งกล้ว คืนนั้น
IP : บันทึกการเข้า
Sun boy 168
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 314



« ตอบ #122 เมื่อ: วันที่ 16 ตุลาคม 2012, 19:16:36 »

อันนี้เรื่องจริงเลยครับ ย้อนไปประมาณสักปี พ.ศ. 2530 สมัยนั้นผมเรียนระดับอาชีวะศึกษาในจังหวัดเชียงราย เนื่องจากผมเป็นคนต่างอำเภอ ต้องนั่งรถเมล์ไปกลับทุกวัน จำได้ว่าตอนนั้นอยู่ปี 1 แล้วต้องได้เรียนภาคบ่าย เริ่มเรียนก็ประมาณ 11 โมง กว่าจะเลิกถึงคาบสุดท้ายก็ปาเข้าไป 1 ทุ่ม บางวันอาจารย์ปล่อยช้าก็ต้องรีบวิ่งไปขึ้นรถที่ท่ารถ หรือไม่ก็ต้องมารอรถเมล์ที่ห้าแยกพ่อขุน เวรกรรมอะไรก็ไม่รู้ โดยเฉพาะวิชาเขียนแบบ ดันมาอยู่คาบสุดท้าย อาจารย์ท่านนี้เฮียบมาก ใครเขียนผิดเขียนถูกต้องแก้ให้เสร็จภายในวันนั้น เพื่อนๆที่อยู่หอไม่ต้องกลับบ้านก็ไม่ต้องเดือดร้อน เพื่อนๆที่อยู่แถวๆบ้านดู่หรือสันทรายป่ากล้วยก็ยังพอหารถกลับได้ หรือให้ญาติมารับกลับ ส่วนผมต้องนั่งรถกลับแม่จัน บางวันตกรถจริงๆก็ต้องนอนหน้าห้องน้ำหลังอนุสาวรีย์พ่อขุน อย่าให้พูดเลยครับ ทั้งความมืดทั้งยุงแถมไม่ได้อาบน้ำ กว่ารถเมล์คันแรกของอีกวันจะไปแม่จัน ก็ประมาณตี 5 กว่าๆ  ตอนหลังมาผมเริ่มเรียนรู้วิธีที่จะหารถกลับบ้าน ถ้าเกิดเลิกเรียนประมาณ 2-3 ทุ่ม  คือมีคนแนะนำให้มาโบกรถหน้าป้อมตำรวจก่อนขึ้นสะพานแม่น้ำกก ฝั่งเชียงราย  สมัยนั้นยังเป็นถนนเลนส์เดียวอยู่   ก่อนถึงตู้ยามตำรวจหน้าแขวงการทางปัจจุบัน ก็จะมีโค้งถ้าแยกสหมิตร ต้องสังเกตุให้ดี รถบางคักก็มาเร็วบางคันก็มาช้า ต้องมายืมไฟฉายของตำรวจมาโบก เพราะบริเวณนั้นมืดมาก บางคันก็จอดบางคันก็ไม่จอด  ผมเคยแม้กระทั่งนั้งรถขนศพ นั้งหลังกะบะกับศพ ซึ่งศพนั้นไม่ได้ใส่โลง พันเสื่อ นอนกลิ้งอยู่หลังกะบะ กลิ่นศพอันอบอวนไม่ต้องพูดถึงครับ บางครั้งก็นั่งรถบรรทุกสิบล้อ ซึ่งคนขับมีอาการเมาถือขวดเหล้า จิบไปด้วยกัดฟันไปด้วย คงไม่ต้องบอกว่าเมาอะไรบ้าง  (เดียวมาต่อครับ) ต่อเลยนะครับ  ช่วงกลางๆปี ได้มีการขยายถนนระหว่างเส้นทางแม่จัน-เชียงราย จำได้ว่าเป็นฤดูฝน ก็แปลกใจเหมือนกันว่าการสร้างทางทั้งเมื่อก่อนและปัจจุบัน ชอบทำในช่วงหน้าฝน แถมเป็นเลนส์เดียวชีวิตคนใช้เส้นทางก็แสนลำบาก มีเหตุการณ์ที่น่าสะพรึ่งกลัวเกิดขึ้นในช่วงนี้ด้วยครับ คือมีรถเมล์สายแม่สายหรือเชียงแสนผมจำไม่ได้ ประสบอุบัติเหตุน่าจะเป็นช่วงบ้านขัวแตะ ถ้าผิดขออภัยด้วย จากเหตุการณ์นั้นมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รถเมล์เสียหายยับเยิน ผมได้ทราบข่าวก็ตกใจเพราะเราเป็นผู้ใช้รถเมล์ทุกวัน สถานะการณ์มันแกล้งหรือเวรกรรมอะไรของเราไม่รู้ คาบวิชาเขียบแบบเจ้าเดิมก็เวียนเข้ามาบรรจบอีกครั้ง ประมาณ 6 โมงครึ่ง งานเขียนแบบของทั้งห้องยังไม่มีใครคืบหน้า ได้แต่เพียงเส้นราง ลบๆแก้ๆอาจารย์ก็หายไปไหนไม่รู้ ผมแอบเสียวอยู่ในใจ วันนี้คงได้วิ่งไปรอรถหรือซวยจริงๆ คงได้นอนตบยุงหน้าห้องน้ำหลังอนุสาวรีพ่อขุนอีกแล้ว พอใกล้เลิกเรียนอาจารย์เข้ามาในห้อง และให้พวกเราส่งงาน ปรากฏว่าไม่มีใครส่งงานสักคนเพราะไม่เสร็จ จะด้วยความยากของวิชาเขียนแบบหรือปัญญาอันน้อยนิดของพวกเราก็ไม่ทราบได้ แต่ดูอาจารย์มีทางท่ายิ้มแย้มแจ่มใส และบอกว่าเก็บงานชิ้นนี้ไปเขียนต่อที่บ้านได้ ผมกับเพื่อนๆโล่งใจว่าวันนี้มาแปลกคงได้กลับบ้านเร็ว แต่ที่ไหนได้อาจารย์บอกว่า วันนี้ยังพอมีเวลาเหลือขอให้เขียนงานชิ้นที่มีความง่ายส่งคนละหนึ่งชิ้น พร้อมกับให้งานใหม่เพิ่มมา แล้วบอกว่า เขียนเสร็จส่งแล้วกลับได้เลย เอาละทีนี้ทั้งห้องก็รีบปั่นงานชิ้นใหม่ด้วยเวลาอันน้อยนิด ผมจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แอบลุ่นอยู่ในใจจะผิดจะถูกยังไงก็จะรีบทำส่งแล้วไปแก้วันหลังเอา ช่วงสุดท้ายนี้อาจารย์เล่นเดินตรวจทุกโต๊ะเลย เพื่อนผมบางคนทั้งโดนด่าโดนดุ เพราะบางคนเขียนเส้นสวยแต่ไม่ถูก บางคนเขียนถูกแต่เส้นไม่สวย ตามหลักเฟคสเพคตีสอะไรพวกนั้นอะครับ ตอนนี้ความรู้พวกนั้นก็เข้าหม้อไปหมดแล้ว ซวยจริงๆหิวข้าวก็หิว ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ใจก็อยากจะทำงานให้เสร็จจะได้รีบกลับบ้าน ไม่อยากไปลุ้นโบกรถเหมือนเช่นเคยอีก เหมือนสุภาษิตที่ว่า ยิ่งรีบก็ยิ่งเสีย ยิ่งไปก็ยิ่งช้า  เพื่อนๆหลายคนที่เสร็จแล้วก็ส่งงานแล้วรีบบ้าน ผมดูนาฬิกาตอนนั้นเวลาประมาณทุ่ม 40 นาที  มีลุ้นแน่วันนี้ (เดียวมาต่อครับ)  ต่อครับ  ผมยอมรับว่างานชิ้นนั้นไม่เสร็จสมบูรณ์แต่ได้แอบส่งไปพร้อมเพื่อนที่เสร็จไปแบบเนียนๆ แล้วก็รีบจ้ำอ้าวไปห้าแยกพ่อขุน ในใจก็หวังว่ามีรถเมล์ตกค้างบ้าง วิ่งพลางหันหลังพลางกลัวว่ารถจะมาข้างหลัง จากห้าแยกก็วิ่งต่อไปป้อมตำรวจก่อนถึงสะพานแม่น้ำกก แถวนั้นยังพอมีไฟสลั่วๆบ้าง หิวข้าวก็หิวไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า มือถือไม้ทีหลังก็สะพายกระเป๋าแบบเป้ เหนื่อยก็เหนื่อยต้องรีบไปถึงป้อมตำรวจให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้ยืมไฟฉายของตำรวจมาโบกรถ เรื่องที่จะได้ขึ้นรถเมล์กลับเรื่อนรางเต็มที คาดว่าน่าจะ 2 ทุ่มนิดๆแล้ว ถ้ามีรถเมล์มาก็คงแปลก ผมมาถึงป้อมตำรวจราวกับใช้เวลานานมากแต่ก็ไม่รีบชักช้าที่จะขอยืมไฟฉายจากตำรวจ จำได้ว่าตำรวจยศดาบท่านนั้นยังกล่าวทักทายว่า ตกรถอีกละสิท่า จำบรรยากาศวันนั้นได้อย่างชัดเจนที่สุด ในโสตสำนึกบรรยากาศอันเงียบสงบของเชียงรายในสมัยนั้น ชวนให้จิตใจเราวังเวงจิตใจครุ่นคิดนึกถึงเรื่องต่างๆนานา จะเรื่องงานของอาจารย์ จะเรื่องรถที่จะกลับบ้าน เคยมีรถหลายคันที่โบกได้แต่ไปไม่ถึงแม่จัน เราก็ต้องลุ้นคันต่อๆไป สิ่งหนึ่งที่ใจแอบหวังว่าจะมีรถเมล์สายยาวที่มาจากเชียงใหม่หรือลำปางที่ตกค้าง ไปแม่สายเป็นเที่ยวสุดท้ายซึ่งเคยมีเหมือนกัน เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบได้ยังไม่มีรถผ่านมา ในใจผมก็เริ่มวิตก ว่าเจออะไรก็เจอมาแล้ววันนี้จะเจออะไรอีก พร้อมกับมีขนลุกซู่เข้ามาอย่างน่าประหลาด ทันใดนั้นสิ่งที่ผมเห็นบริเวณโค้งสหมิตรก่อนถึงป้อมตำรวจ ห่างจากจุดที่ผมยืนประมาณ 80-100 เมตร  มีเงาสลั่วๆของรถคันหนึ่งวิ่งเข้าโค้งมาอย่างช้าๆ แต่แปลกมากรถคันนี้ไม่ได้เปิดไฟหน้า เปิดแต่เพียงไฟหรี่ ผมพยายามจ้องมองฝ่าความมืดและพยายามมองว่าเป็นรถอะไร จากรูปพรรณสันฐานของตัวรถผมก็คาดเดาได้ว่าน่าจะเป็นรถเมล์หรือรถบรรทุก ในใจทั้งดีใจและแปลกใจว่าวันนี้ยังไงก็ได้กลับบ้าน แต่รถคันนี้วิ่งมาช้ามาก ในระหว่างที่รอรถวิ่งมาถึงนั้น ใจผมก็แว็บคิดไปถึงรถเมล์คันที่ประสบอุบัติเหตุเมื่ออาทิตย์ก่อนได้ยังไงไม่รู้ เอาละทีนี้ผมพยายามมองไปในรถก็ไม่เห็นผู้โดยสาร หรืออย่างน้อยก็ต้องเห็นศรีษะผู้โดยสารโผล่มาจากเบาะที่นั่ง (เดียวมาต่อครับ ขอสงบจิตสงบใจอีกนิดครับ คิดว่าจะไม่เล่าแล้วนะครับเรื่องนี้)   
จะเล่าอีกไหมครับ ก็ช่วงเวลาที่ตกรถทำไมไม่ไปนอนหอเพื่อน หรือที่ป้อมตำรวจครับ มานอนหน้าห้องน้ำทำไมงะ งงอ่ะครับ  อายจัง อายจัง
สงสัยผู้เล่าจะนังรถเมล์คันนั้นในวันเกิดเหตุด้วย อิอิ (ล้อเล่นนะครับ)
IP : บันทึกการเข้า
HARLEY DAVIDSON
BIKER
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,536


HARLEY DAVIDSON & MERCEDES BENZ


« ตอบ #123 เมื่อ: วันที่ 17 ตุลาคม 2012, 09:18:39 »

อยากเจอบ้าง ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

ขาดแคลนเงินตรา  แต่งชุดนักศึกษามาหาพี่
สุขใดไหนจะเท่า เมื่อล้วงกระเป๋าแล้วเจอตังค์
yayong
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,207


แข็งแกร่ง แต่อย่าแข็งกร้าว อ่อนน้อม แต่อย่าอ่อนแอ


« ตอบ #124 เมื่อ: วันที่ 17 ตุลาคม 2012, 21:46:12 »

ตอนนี้ ตรงนั้นมีตุงแดงอย่างที่บอกจริงๆ พึ่งจะมีไม่นาน  หากจำไม่ผิดน่าจะเป็นช่วงต้นเดือนที่ฝนตก เห็นแต่เศษกระจกรถ และคราบเลือด สองวงใหญ่ๆ ที่ถนน แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเลยไม่ได้ใส่ใจ และ เห็นมีบ้านตรงหน้าโรงงานใบยาสูบ ติดถนนใหญ่ก่อนถึงสะพานเล็ก พึ่ีงมีงานศพไป (ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันมั้ย) นี่ยังดี น่ะ ....ช่วงกลางดึกเดือนเมษา มีน้องผู้หญิงคนนึงตามมากับพี่สาวจากศาลาตรงยูเทิร์น หน่า รร ป่าก่อดำ แล้วแกก็มานั่งร่วมวงเฮฮา ที่ลานหลังบ้าน พอ ดึก ๆ เข้าเริ่มเมา วงก็แตก  วงแตกเพราะ มีคนที่เมา(ผู้หญิงสี่คน)ที่เห็นน้องผู้หญิงคนนี้ แกทั้งเห็นทั้งคุยสนทนาเป็นกิจลักษณะ และเมื่อพวกแกเห็นน้องผู้หญิงคนนี้ตัวขาวซีดและหน้าก็บานเท่ากระด้งเท่านั้นแหละ  วงแตก  ยังมีถามตบน้องผู้หญิงด้วยน่ะ ทั้ง ฮา ทั้งกล้ว คืนนั้น
ผ่านมาตอนเย็นไปขายของที่ป่าก่อดำเห็นตุงแดงตรงหัวโค้งยูเทินร์หน้าโรงเรียนป่าก่อดำอยู่เลยนึกถึงกระทู้นี้เลย
IP : บันทึกการเข้า

รองเท้าใหม่ราคาถูกปลีก-ส่งอยู่บ้านป่ากล้วยต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย รับฝากขายบ้านและที่ดินในเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง(ที่บ้าน-ที่นา,สวน-ที่สวนยาง)โทรหาเราได้
083-2087079   085-7134607
Sanitphanburi
บ่าวเชียงรายชอบเที่ยวสุพรรณฯ
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 261


Stressless post to keep Happy :)


« ตอบ #125 เมื่อ: วันที่ 17 ตุลาคม 2012, 21:48:03 »

ใครมีอีกก็เล่าถึงเที่ยงคืนเลยนะ เพราะคืนนี้ มี "คนอวดผี" ช่อง 5 ครับ
IP : บันทึกการเข้า

chatt
ระดับ ป.โท
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,680



« ตอบ #126 เมื่อ: วันที่ 19 ตุลาคม 2012, 08:44:24 »

คุณ ramill จะมาต่อตอนไหนครับ ค้างคา  ลังเล
IP : บันทึกการเข้า
yayong
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,207


แข็งแกร่ง แต่อย่าแข็งกร้าว อ่อนน้อม แต่อย่าอ่อนแอ


« ตอบ #127 เมื่อ: วันที่ 19 ตุลาคม 2012, 13:02:54 »

อันนี้เรื่องจริงเลยครับ ย้อนไปประมาณสักปี พ.ศ. 2530 สมัยนั้นผมเรียนระดับอาชีวะศึกษาในจังหวัดเชียงราย เนื่องจากผมเป็นคนต่างอำเภอ ต้องนั่งรถเมล์ไปกลับทุกวัน จำได้ว่าตอนนั้นอยู่ปี 1 แล้วต้องได้เรียนภาคบ่าย เริ่มเรียนก็ประมาณ 11 โมง กว่าจะเลิกถึงคาบสุดท้ายก็ปาเข้าไป 1 ทุ่ม บางวันอาจารย์ปล่อยช้าก็ต้องรีบวิ่งไปขึ้นรถที่ท่ารถ หรือไม่ก็ต้องมารอรถเมล์ที่ห้าแยกพ่อขุน เวรกรรมอะไรก็ไม่รู้ โดยเฉพาะวิชาเขียนแบบ ดันมาอยู่คาบสุดท้าย อาจารย์ท่านนี้เฮียบมาก ใครเขียนผิดเขียนถูกต้องแก้ให้เสร็จภายในวันนั้น เพื่อนๆที่อยู่หอไม่ต้องกลับบ้านก็ไม่ต้องเดือดร้อน เพื่อนๆที่อยู่แถวๆบ้านดู่หรือสันทรายป่ากล้วยก็ยังพอหารถกลับได้ หรือให้ญาติมารับกลับ ส่วนผมต้องนั่งรถกลับแม่จัน บางวันตกรถจริงๆก็ต้องนอนหน้าห้องน้ำหลังอนุสาวรีย์พ่อขุน อย่าให้พูดเลยครับ ทั้งความมืดทั้งยุงแถมไม่ได้อาบน้ำ กว่ารถเมล์คันแรกของอีกวันจะไปแม่จัน ก็ประมาณตี 5 กว่าๆ  ตอนหลังมาผมเริ่มเรียนรู้วิธีที่จะหารถกลับบ้าน ถ้าเกิดเลิกเรียนประมาณ 2-3 ทุ่ม  คือมีคนแนะนำให้มาโบกรถหน้าป้อมตำรวจก่อนขึ้นสะพานแม่น้ำกก ฝั่งเชียงราย  สมัยนั้นยังเป็นถนนเลนส์เดียวอยู่   ก่อนถึงตู้ยามตำรวจหน้าแขวงการทางปัจจุบัน ก็จะมีโค้งถ้าแยกสหมิตร ต้องสังเกตุให้ดี รถบางคักก็มาเร็วบางคันก็มาช้า ต้องมายืมไฟฉายของตำรวจมาโบก เพราะบริเวณนั้นมืดมาก บางคันก็จอดบางคันก็ไม่จอด  ผมเคยแม้กระทั่งนั้งรถขนศพ นั้งหลังกะบะกับศพ ซึ่งศพนั้นไม่ได้ใส่โลง พันเสื่อ นอนกลิ้งอยู่หลังกะบะ กลิ่นศพอันอบอวนไม่ต้องพูดถึงครับ บางครั้งก็นั่งรถบรรทุกสิบล้อ ซึ่งคนขับมีอาการเมาถือขวดเหล้า จิบไปด้วยกัดฟันไปด้วย คงไม่ต้องบอกว่าเมาอะไรบ้าง  (เดียวมาต่อครับ) ต่อเลยนะครับ  ช่วงกลางๆปี ได้มีการขยายถนนระหว่างเส้นทางแม่จัน-เชียงราย จำได้ว่าเป็นฤดูฝน ก็แปลกใจเหมือนกันว่าการสร้างทางทั้งเมื่อก่อนและปัจจุบัน ชอบทำในช่วงหน้าฝน แถมเป็นเลนส์เดียวชีวิตคนใช้เส้นทางก็แสนลำบาก มีเหตุการณ์ที่น่าสะพรึ่งกลัวเกิดขึ้นในช่วงนี้ด้วยครับ คือมีรถเมล์สายแม่สายหรือเชียงแสนผมจำไม่ได้ ประสบอุบัติเหตุน่าจะเป็นช่วงบ้านขัวแตะ ถ้าผิดขออภัยด้วย จากเหตุการณ์นั้นมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รถเมล์เสียหายยับเยิน ผมได้ทราบข่าวก็ตกใจเพราะเราเป็นผู้ใช้รถเมล์ทุกวัน สถานะการณ์มันแกล้งหรือเวรกรรมอะไรของเราไม่รู้ คาบวิชาเขียบแบบเจ้าเดิมก็เวียนเข้ามาบรรจบอีกครั้ง ประมาณ 6 โมงครึ่ง งานเขียนแบบของทั้งห้องยังไม่มีใครคืบหน้า ได้แต่เพียงเส้นราง ลบๆแก้ๆอาจารย์ก็หายไปไหนไม่รู้ ผมแอบเสียวอยู่ในใจ วันนี้คงได้วิ่งไปรอรถหรือซวยจริงๆ คงได้นอนตบยุงหน้าห้องน้ำหลังอนุสาวรีพ่อขุนอีกแล้ว พอใกล้เลิกเรียนอาจารย์เข้ามาในห้อง และให้พวกเราส่งงาน ปรากฏว่าไม่มีใครส่งงานสักคนเพราะไม่เสร็จ จะด้วยความยากของวิชาเขียนแบบหรือปัญญาอันน้อยนิดของพวกเราก็ไม่ทราบได้ แต่ดูอาจารย์มีทางท่ายิ้มแย้มแจ่มใส และบอกว่าเก็บงานชิ้นนี้ไปเขียนต่อที่บ้านได้ ผมกับเพื่อนๆโล่งใจว่าวันนี้มาแปลกคงได้กลับบ้านเร็ว แต่ที่ไหนได้อาจารย์บอกว่า วันนี้ยังพอมีเวลาเหลือขอให้เขียนงานชิ้นที่มีความง่ายส่งคนละหนึ่งชิ้น พร้อมกับให้งานใหม่เพิ่มมา แล้วบอกว่า เขียนเสร็จส่งแล้วกลับได้เลย เอาละทีนี้ทั้งห้องก็รีบปั่นงานชิ้นใหม่ด้วยเวลาอันน้อยนิด ผมจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แอบลุ่นอยู่ในใจจะผิดจะถูกยังไงก็จะรีบทำส่งแล้วไปแก้วันหลังเอา ช่วงสุดท้ายนี้อาจารย์เล่นเดินตรวจทุกโต๊ะเลย เพื่อนผมบางคนทั้งโดนด่าโดนดุ เพราะบางคนเขียนเส้นสวยแต่ไม่ถูก บางคนเขียนถูกแต่เส้นไม่สวย ตามหลักเฟคสเพคตีสอะไรพวกนั้นอะครับ ตอนนี้ความรู้พวกนั้นก็เข้าหม้อไปหมดแล้ว ซวยจริงๆหิวข้าวก็หิว ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ใจก็อยากจะทำงานให้เสร็จจะได้รีบกลับบ้าน ไม่อยากไปลุ้นโบกรถเหมือนเช่นเคยอีก เหมือนสุภาษิตที่ว่า ยิ่งรีบก็ยิ่งเสีย ยิ่งไปก็ยิ่งช้า  เพื่อนๆหลายคนที่เสร็จแล้วก็ส่งงานแล้วรีบบ้าน ผมดูนาฬิกาตอนนั้นเวลาประมาณทุ่ม 40 นาที  มีลุ้นแน่วันนี้ (เดียวมาต่อครับ)  ต่อครับ  ผมยอมรับว่างานชิ้นนั้นไม่เสร็จสมบูรณ์แต่ได้แอบส่งไปพร้อมเพื่อนที่เสร็จไปแบบเนียนๆ แล้วก็รีบจ้ำอ้าวไปห้าแยกพ่อขุน ในใจก็หวังว่ามีรถเมล์ตกค้างบ้าง วิ่งพลางหันหลังพลางกลัวว่ารถจะมาข้างหลัง จากห้าแยกก็วิ่งต่อไปป้อมตำรวจก่อนถึงสะพานแม่น้ำกก แถวนั้นยังพอมีไฟสลั่วๆบ้าง หิวข้าวก็หิวไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า มือถือไม้ทีหลังก็สะพายกระเป๋าแบบเป้ เหนื่อยก็เหนื่อยต้องรีบไปถึงป้อมตำรวจให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้ยืมไฟฉายของตำรวจมาโบกรถ เรื่องที่จะได้ขึ้นรถเมล์กลับเรื่อนรางเต็มที คาดว่าน่าจะ 2 ทุ่มนิดๆแล้ว ถ้ามีรถเมล์มาก็คงแปลก ผมมาถึงป้อมตำรวจราวกับใช้เวลานานมากแต่ก็ไม่รีบชักช้าที่จะขอยืมไฟฉายจากตำรวจ จำได้ว่าตำรวจยศดาบท่านนั้นยังกล่าวทักทายว่า ตกรถอีกละสิท่า จำบรรยากาศวันนั้นได้อย่างชัดเจนที่สุด ในโสตสำนึกบรรยากาศอันเงียบสงบของเชียงรายในสมัยนั้น ชวนให้จิตใจเราวังเวงจิตใจครุ่นคิดนึกถึงเรื่องต่างๆนานา จะเรื่องงานของอาจารย์ จะเรื่องรถที่จะกลับบ้าน เคยมีรถหลายคันที่โบกได้แต่ไปไม่ถึงแม่จัน เราก็ต้องลุ้นคันต่อๆไป สิ่งหนึ่งที่ใจแอบหวังว่าจะมีรถเมล์สายยาวที่มาจากเชียงใหม่หรือลำปางที่ตกค้าง ไปแม่สายเป็นเที่ยวสุดท้ายซึ่งเคยมีเหมือนกัน เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบได้ยังไม่มีรถผ่านมา ในใจผมก็เริ่มวิตก ว่าเจออะไรก็เจอมาแล้ววันนี้จะเจออะไรอีก พร้อมกับมีขนลุกซู่เข้ามาอย่างน่าประหลาด ทันใดนั้นสิ่งที่ผมเห็นบริเวณโค้งสหมิตรก่อนถึงป้อมตำรวจ ห่างจากจุดที่ผมยืนประมาณ 80-100 เมตร  มีเงาสลั่วๆของรถคันหนึ่งวิ่งเข้าโค้งมาอย่างช้าๆ แต่แปลกมากรถคันนี้ไม่ได้เปิดไฟหน้า เปิดแต่เพียงไฟหรี่ ผมพยายามจ้องมองฝ่าความมืดและพยายามมองว่าเป็นรถอะไร จากรูปพรรณสันฐานของตัวรถผมก็คาดเดาได้ว่าน่าจะเป็นรถเมล์หรือรถบรรทุก ในใจทั้งดีใจและแปลกใจว่าวันนี้ยังไงก็ได้กลับบ้าน แต่รถคันนี้วิ่งมาช้ามาก ในระหว่างที่รอรถวิ่งมาถึงนั้น ใจผมก็แว็บคิดไปถึงรถเมล์คันที่ประสบอุบัติเหตุเมื่ออาทิตย์ก่อนได้ยังไงไม่รู้ เอาละทีนี้ผมพยายามมองไปในรถก็ไม่เห็นผู้โดยสาร หรืออย่างน้อยก็ต้องเห็นศรีษะผู้โดยสารโผล่มาจากเบาะที่นั่ง (เดียวมาต่อครับ ขอสงบจิตสงบใจอีกนิดครับ คิดว่าจะไม่เล่าแล้วนะครับเรื่องนี้)   
จะเล่าอีกไหมครับ ก็ช่วงเวลาที่ตกรถทำไมไม่ไปนอนหอเพื่อน หรือที่ป้อมตำรวจครับ มานอนหน้าห้องน้ำทำไมงะ งงอ่ะครับ  อายจัง อายจัง
สงสัยผู้เล่าจะนังรถเมล์คันนั้นในวันเกิดเหตุด้วย อิอิ (ล้อเล่นนะครับ)
หลอกให้อยากแล้วก็จากไป5555
IP : บันทึกการเข้า

รองเท้าใหม่ราคาถูกปลีก-ส่งอยู่บ้านป่ากล้วยต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย รับฝากขายบ้านและที่ดินในเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง(ที่บ้าน-ที่นา,สวน-ที่สวนยาง)โทรหาเราได้
083-2087079   085-7134607
หน้า: 1 2 3 4 5 6 [7] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!