|
|
|
|
|
|
|
HomeCopy
สมาชิกลงทะเบียน
ชั้นประถม

ออฟไลน์
กระทู้: 259

|
 |
« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 23 กันยายน 2012, 07:58:48 » |
|
ท่านจขกท ครับ ท่านได้รับคำฟ้องมาเมื่อไรและวิธีใดครับ แนะนำให้ท่านรีบหาทนายทำคำให้การและฟ้องแย้งทันทีนะครับครับ เพราะกฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่าท่านจะต้องทำคำให้การและฟ้องแย้งภายในกำหนด ถ้าท่านรับสำเนาคำฟ้องด้วยตนเองหรือมีผู้รับแทนโดยชอบท่านต้องยื่นภายใน15วันนับแต่ท่านรับสำเนาคำฟ้อง แต่ถ้าเป็นการปิดหมายกำหนดไว้ภายใน 30 วัน ทนายดีดีมีเยอะครับ อย่างท่านที่กระทู้ข้างบนแนะนำก็ดีครับ ขอย้ำนะครับท่านรีบปรึกษาทนายเร็วเท่าไรก็จะเป็นผลดีกับตัวท่านเองนะครับ ทนายจะได้มีเวลาศึกษาคำฟ้องคดีของท่านได้ละเอียด
ขอโทษครับ ผมอ่านกระทู้ไม่แตก ตกลงท่านจะหาทนายเพื่อฟ้องแพ่งถูกต้องไหมครับ
|
|
|
|
pon.pinnt
ชั้นประถม

ออฟไลน์
กระทู้: 213

|
 |
« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 23 กันยายน 2012, 08:30:32 » |
|
ท่านจขกท ครับ ท่านได้รับคำฟ้องมาเมื่อไรและวิธีใดครับ แนะนำให้ท่านรีบหาทนายทำคำให้การและฟ้องแย้งทันทีนะครับครับ เพราะกฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่าท่านจะต้องทำคำให้การและฟ้องแย้งภายในกำหนด ถ้าท่านรับสำเนาคำฟ้องด้วยตนเองหรือมีผู้รับแทนโดยชอบท่านต้องยื่นภายใน15วันนับแต่ท่านรับสำเนาคำฟ้อง แต่ถ้าเป็นการปิดหมายกำหนดไว้ภายใน 30 วัน ทนายดีดีมีเยอะครับ อย่างท่านที่กระทู้ข้างบนแนะนำก็ดีครับ ขอย้ำนะครับท่านรีบปรึกษาทนายเร็วเท่าไรก็จะเป็นผลดีกับตัวท่านเองนะครับ ทนายจะได้มีเวลาศึกษาคำฟ้องคดีของท่านได้ละเอียด
ขอโทษครับ ผมอ่านกระทู้ไม่แตก ตกลงท่านจะหาทนายเพื่อฟ้องแพ่งถูกต้องไหมครับ จากประสบการณ์นะคะ เมื่อศาลท่านประทับรับคำฟ้องแล้วออกเป็นหมายศาล ทางเราต้องหาทนายเพื่อทำหน้าที่ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเรื่องที่ฝ่ายจำเลยชี้แจงต้องเป็นเรื่องเดียวกันกับที่ฝ่ายโจทก์ยื่นมา หากจำเลยเห็นว่าเรื่องที่โจทก์ยื่นฟ้องนั้น เป็นมูลเหตุมาจากการที่โจทก์ผิดสัญญาหรือเอารัดเอาเปรียบจำเลยก่อน ทางศาลท่านจะไม่ให้ฟ้องแย้งค่ะ แต่จะให้เปิดเป็นคดีใหม่ขึ้นมาอีกคดีหนึ่ง แยกกันไปเลยค่ะ เค้าฟ้องเราเรื่องไหนศาลจะดูแค่เรื่องนั้น เพราะตามกฏหมายโจทก์คือผู้เสียหายค่ะ หากมีประเด็นอื่นที่ทางจำเลยรู้สึกว่าเราก็ถูกเอารัดเอาเปรียบเหมือนกัน ต้องฟ้องเป็นอีกคดีซึ่งเราเป็นโจทก์ เหมือนอย่างที่คุณHome Copyบอกค่ะหากเราเซ็นต์รับหมายศาลแล้วเท่ากับเป็นการรับรู้หมาย แล้ววันที่ศาลนัดครั้งแรกเราไม่ไปศาลจะให้เราแพ้คดีทันทีค่ะ สู้สู้นะคะ..
|
|
|
|
|
|
|
|
pon.pinnt
ชั้นประถม

ออฟไลน์
กระทู้: 213

|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 25 กันยายน 2012, 10:17:46 » |
|
( เรื่องยาวหน่อยนะครับ)ติดตามอ่านกระทู้นี้มาหลายวันละพอดีว่าผมก็มีปัญหาโดนฟ้องแพ่งเหมือนกันแต่ตั้งกระทู้ไม่เป็น ขออาศัยกระทู้นี้สอบถามท่านผู้รู้ช่วยแนะนำทนายหรือชี้แนะแนวทางให้หน่อยครับว่าผมควรทำอย่างไรดี กรณีของผมมีอยู่ว่าผมได้นำโฉนดที่ดินไปจดจำนองกับลิสซิ่งแห่งหนึ่ง เงินต้นสี่แสนจัด 48 งวดส่ง 15135 รวมทั้งหมดก็เจ็ดแสนกว่า ส่งไปได้ 6 งวดก็เริ่มมีปัญหา ส่งช้า พอไปจ่ายก็โดนหักค่าปรับกับค่าทวงทีละหลายพันบาทก่อนแล้วค่อยหักค่างวดทำให้ค่างวดคงค้างทบไปหลายเดือนจนเริ่มท้อ แล้วตอนนี้ทางลิสซิ่งจะฟ้องบังคับจำนอง เป็นเงิน เจ็ดแสนกว่าบาท รวมที่ผมจ่ายไปแล้วอีกเกือบแสน ระยะเวลาแค่ปีกว่า จากเงินต้นสี่แสนรับถึงมือจริงๆประมาณ สามแสนเก้าเพราะโดนหักค่าทำสัญญาอีกไม่น่าเชื่อว่าจะโดนทบต้นเลย อยากถามว่าผมควรทำอย่างไรดี ระหว่าง ไกล่เกลี่ยยอมความ หรือหาทนายมาแก้ต่าง อย่างน้อยก็ผ่อนหนักเป็นเบา ขอบคุณล่วงหน้าครับ
อย่าเครียดไปเลยค่ะ เรื่องเงินๆทองๆถ้าเรื่องถึงศาลมันก็เป็นแค่คดีแพ่ง ไม่ได้น่ากลัวอะไรหรอกค่ะ แต่มีข้อสงสัยนิดนึงคือว่าทำไมคุณถึงไม่ทำการกู้เงินกับทางสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ล่ะคะเพราะเค้าจะมีระเบียบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่างๆที่ชัดเจนและเป็นธรรมมากกว่า(โดยเฉพาะการทวงเงิน ที่มีมารยาทมากกว่า) คงจะบอกอะไรได้ไม่มากเพราะไม่เห็นตัวสัญญาที่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงร่วมกัน อยากให้คุณลองตรวจสอบสัญญาดูก่อนค่ะว่ามีเงื่อนไขอะไรบ้าง หากการกระทำของทางลิสซิ่งในวันนี้ทำให้คุณรู้สึกว่ากำลังถูกเอาเปรียบอยู่แต่การเอาเปรียบนั้นอยู่ในข้อตกลงที่คุณตกลงทำไว้ในสัญญาก็เป็นการยากที่คุณจะชนะในชั้นศาลเมื่อมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น แต่หากสัญญาที่คุณทำไว้ร่วมกันมีบางข้อที่ขัดกันกับหลักฏหมาย ( เช่นคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฏหมายกำหนด บังคับขายทอดตลาดในขณะที่คุณยังจ่ายดอกเบี้ยอยู่อย่างสม่ำเสมอหรือกำหนดเวลาของการขาดส่งเงินยังไม่ครบตามกฏหมายที่จะให้บังคับขายทอดตลาดได้) ลองเช็คเอกสารสัญญาดูก่อนนะคะ หากเรื่องเพิ่งเกิดขึ้นมาไม่นาน มันก็ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นต้องบังคับจดจำนองขายทอดตลาดหรอกค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|