|
|
|
|
|
|
|
>:l!ne-po!nt:<
~: ดาบราชบุตร :~
แฟนพันธ์แท้

ออฟไลน์
กระทู้: 10,257
~>: แขกดอย :<~
|
 |
« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 09 กันยายน 2012, 16:39:43 » |
|
ขอฝากพี่ น้องชาวเชียงรายหน่อยน่ะคับ ผมขอเล่าเหตุการณ์คร่าว ๆ เมื่อวันนี้เวลาประมาณ 03.00 น ผมได้ขับรถจากในเมืองกำลังจะไป ม แม่ฟ้าหลวง เข้าทางเบี่ยงตรงสะพานแม่น้ำกก สักพักก็ต้องหยุดรถกระทันหัน เนื่องจากด้านหน้า มีรถ กระบะ TOYOTA TIGER ทบ เชียงราย ได้ประสบอุบัติเหตุชน แท่งปูนที่กั้นอยู่กึ่งกลางถนน ซึ่งผมและเพิ่ลก็ได้ลงไปดู สอบถามอาการ พบพี่ ผช ซึ่งเป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บ น่าจะเกิดจากแรงกระแทกบริเวณใต้ตา จึงสอบถามอาการและ โทรแจ้งศูนย์นเรนทร 1669 ซึ่งจากได้สอบถามเจ้าของรถคันดังกล่าว พี่เค้าก็บอกว่า ขณะขับรถมา กำลังลงพานแม่น้ำกก ก็เห็นแท่งปูนที่ขวางอยู่บนถนน จึงหักหลบ แต่ก็ไปโดนอีกแท่งหนึ่งและรถจึงไปฟาดกับปูนที่กั้นอยู่ข้างทาง ห่างจากนั้นประมาณ 5 นาที ก็มีรถกระบะ D-MAX ขับลงจากสะพานมา ( มาจากในเมือง ) เมื่อเห็นอุบัติเหตุด้านหน้าจึงเบรค แต่เนื่องจากฝนตก ถนนลื่น จึงทำให้รถหมุน และไปฟาดกับแท่งปูน ซึ่งเป็นคันที่ 2 เพียงห่างกันแค่ 5 นาทีเท่านั้น หลังจากนั้น ร้อยเวร รถยก ก็เข้ามาเคลียร์พื้นที่ ที่ผมนำเหตุการณ์นี้มาเล่าให้ฟังเพื่อที่จะให้พี่ ๆ น้อง ๆ ระมัดระวังกันด้วยน่ะคับ เนื่องจาก ตอนนี้ถนน เส้นเข้าเมืองกำลังทำถนนอยู่ จึงต้องใช้ความระมัดระวังกันด้วย และบริเวณนี้เหตุการณ์นี้ไม่ได้เป็นเหตการณ์แรกที่ผมเจอ จึงอยากจะให้ลองเสนอความคิดเห็นกับการแก้ไขปัญหาระหว่างการทำถนน จะลองเปลี่ยนจากปูนเป็นพลาสติกใส่น้ำ หรือเป็นสิ่งอื่นที่สามารถเห็นได้ชัด และปลอดภัยกว่านี้อ่ะคับ ฝากแขวงการทางเชียงราย และผู้มีอำนาจในการรับผิดชอบด้วยน่ะคร๊าฟฟ
เพิ่ล คำนี้ความหมายมันคืออะไรครับ ไม่ได้กวนนะครับไม่รู้จริงๆ 
|
!!!!! กว่า ๑,๑๐๐ กม.จากยอดดอยสู่ทะเล...ตะวันออก !!!!! www.facebook.com/1100kilometer||||| ธรรมชาติสร้างอากาศบริสุทธิ์ ส่วนมนุษย์นั้นสร้างอาวุธเพื่อทำลาย |||||
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ฺB Wash Car Detailing
ระดับ ป.ตรี
  
ออฟไลน์
กระทู้: 1,000
|
 |
« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 10 กันยายน 2012, 23:38:53 » |
|
ฟ้องได้ไหมเหตุแบบนี้
เคยมีกรณี ถึงฏีกามาแล้ว ถ้าเป็นเหตุเหมือนกัน ศาลท่านตัดสินง่ายครับ  ยกตัวอย่างกรณีคล้ายๆกันซัก 2 คำพิพากษา คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4129/2530 การที่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับเหมาทำการก่อสร้างทางได้ใช้ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร ปิดกั้นขวางถนนที่กำลังก่อสร้าง โดยไม่ติดตั้งอุปกรณ์ส่องสว่างเพื่อให้ผู้ที่ขับขี่ยานพาหนะในเวลากลางคืนมีโอกาสเห็นได้ในระยะอันสมควรเป็นเหตุให้โจทก์ไม่สามารถจะหยุดรถได้ทัน ทำให้ต้องหักรถหลบพุ่งขึ้นไปบนเกาะกลางถนน ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ประมาทเลินเล่อทำให้ทรัพย์สินของบุคคลอื่นเสียหาย จึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ฐานละเมิด ส่วนกรมทางหลวงจำเลยที่ 1 มีหน้าที่รับผิดชอบในการซ่อมแซมก่อสร้าง บำรุงรักษาถนนที่เกิดเหตุย่อมมีหน้าที่ควบคุมและจัดให้มีเครื่องหมายหรือป้าย และสัญญาณจราจรในบริเวณก่อสร้าง และปรับปรุงถนนที่เกิดเหตุ แม้จะได้กำหนดให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างดำเนินการก่อสร้างปรับปรุงถนนให้ทำและปิดป้ายจราจร เครื่องหมายกั้นเพื่อความปลอดภัยแก่การจราจรแล้วก็ตาม จำเลยที่ 1 ก็ต้องคอยควบคุมดูแลให้ผู้รับเหมาก่อสร้างติดตั้งเครื่องหมายและสัญญาณจราจรขึ้นให้ถูกต้อง เมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 2 มิได้ติดตั้งให้ถูกต้อง เป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย จำเลยที่ 1 ย่อมต้องรับผิดต่อโจทก์ร่วมกับจำเลยที่ 2 ด้วย ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ขับรถด้วยความเร็วมิได้ใช้ความระมัดระวัง โจทก์จึงได้ชื่อว่ามีส่วนในความประมาทที่ก่อให้เกิดความเสียหายด้วย แต่จำเลยทั้งสองมีส่วนในความประมาทมากกว่า จึงให้จำเลยทั้งสองรับผิดชดใช้ค่าเสียหายสองในสามส่วนของค่าเสียหายทั้งหมด. =============================================== ฎีกา 6104/2531 ผู้รับเหมาปรับปรุงถนนของกรุงเทพมหานครทำทางเบี่ยงไว้แต่มิได้ติดตั้งไฟสัญญาณให้มองเห็นในเวลากลางคืน เป็นเหตุให้นาย ว.ขับรถยนต์มาชนเกาะกลางถนนถึงแก่ความตาย กรุงเทพมหานครต้องร่วมรับผิดกับผู้รับเหมา
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 10 กันยายน 2012, 23:50:07 โดย ฺB Wash Car Detailing »
|
IP :
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
arnonoeao
มัธยม
 
ออฟไลน์
กระทู้: 505

อยู่แบบมีความหวัง
|
 |
« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 11 กันยายน 2012, 10:20:17 » |
|
ฟ้องได้ไหมเหตุแบบนี้
เคยมีกรณี ถึงฏีกามาแล้ว ถ้าเป็นเหตุเหมือนกัน ศาลท่านตัดสินง่ายครับ  ยกตัวอย่างกรณีคล้ายๆกันซัก 2 คำพิพากษา คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4129/2530 การที่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับเหมาทำการก่อสร้างทางได้ใช้ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร ปิดกั้นขวางถนนที่กำลังก่อสร้าง โดยไม่ติดตั้งอุปกรณ์ส่องสว่างเพื่อให้ผู้ที่ขับขี่ยานพาหนะในเวลากลางคืนมีโอกาสเห็นได้ในระยะอันสมควรเป็นเหตุให้โจทก์ไม่สามารถจะหยุดรถได้ทัน ทำให้ต้องหักรถหลบพุ่งขึ้นไปบนเกาะกลางถนน ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ประมาทเลินเล่อทำให้ทรัพย์สินของบุคคลอื่นเสียหาย จึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ฐานละเมิด ส่วนกรมทางหลวงจำเลยที่ 1 มีหน้าที่รับผิดชอบในการซ่อมแซมก่อสร้าง บำรุงรักษาถนนที่เกิดเหตุย่อมมีหน้าที่ควบคุมและจัดให้มีเครื่องหมายหรือป้าย และสัญญาณจราจรในบริเวณก่อสร้าง และปรับปรุงถนนที่เกิดเหตุ แม้จะได้กำหนดให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างดำเนินการก่อสร้างปรับปรุงถนนให้ทำและปิดป้ายจราจร เครื่องหมายกั้นเพื่อความปลอดภัยแก่การจราจรแล้วก็ตาม จำเลยที่ 1 ก็ต้องคอยควบคุมดูแลให้ผู้รับเหมาก่อสร้างติดตั้งเครื่องหมายและสัญญาณจราจรขึ้นให้ถูกต้อง เมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 2 มิได้ติดตั้งให้ถูกต้อง เป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย จำเลยที่ 1 ย่อมต้องรับผิดต่อโจทก์ร่วมกับจำเลยที่ 2 ด้วย ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ขับรถด้วยความเร็วมิได้ใช้ความระมัดระวัง โจทก์จึงได้ชื่อว่ามีส่วนในความประมาทที่ก่อให้เกิดความเสียหายด้วย แต่จำเลยทั้งสองมีส่วนในความประมาทมากกว่า จึงให้จำเลยทั้งสองรับผิดชดใช้ค่าเสียหายสองในสามส่วนของค่าเสียหายทั้งหมด. =============================================== ฎีกา 6104/2531 ผู้รับเหมาปรับปรุงถนนของกรุงเทพมหานครทำทางเบี่ยงไว้แต่มิได้ติดตั้งไฟสัญญาณให้มองเห็นในเวลากลางคืน เป็นเหตุให้นาย ว.ขับรถยนต์มาชนเกาะกลางถนนถึงแก่ความตาย กรุงเทพมหานครต้องร่วมรับผิดกับผู้รับเหมา ว้าวสุดยอดเลยครับ พึ่งรู้ 
|
089-6333854 โอ
มองข้ามบางสิ่งมองข้ามบางอย่าง
|
|
|