เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 02 พฤษภาคม 2024, 04:10:18
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  งานบ้านงานครัว คลีนิค ถามหมอ เรื่องสุขภาพ (ผู้ดูแล: แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-., ©®*)
| | |-+  ตุ่มแบบนี้เค้าเรียก โรคอะไรครับ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ตุ่มแบบนี้เค้าเรียก โรคอะไรครับ  (อ่าน 1699 ครั้ง)
jrmobile
midafXD
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 279



« เมื่อ: วันที่ 06 กันยายน 2012, 13:03:57 »

มันขึ้นตรงหัวเข่าครับ แดงๆ แห้ง สุกก็ไม่สุก ไม่มีหนอง ไม่เจ็บ ไม่คัน (แต่รำคาญครับ)จะเรียก หูดใช่ป่าวครับ ขอวิธีรักษาด้วยครับ ขอบคุณครับ ยิ้ม



ขออภัยครับ ลืมลงรูป ยิงฟันยิ้ม  ยิงฟันยิ้ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 06 กันยายน 2012, 13:20:02 โดย jrmobile » IP : บันทึกการเข้า

Da่ geิ ลูกครึ่งขาว
ระดับ:อนุบาลคันปาก
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 574



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 06 กันยายน 2012, 13:17:02 »

น่าจะถ่ายรูปโชว์สักน้อยเนอะ เผื่อท่านอื่นมาวิเคราะห์หื้อได้หนะ  ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์

มีดปาดออกเลยบ๋อ  ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ อู้เล่นคับ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

~When U walk,through a storm.Hold you head up  high And don't be afraid of the dark.At the end of the storm there's a golden sky. Walk on, With hope in your heart. and YOU'LL NEVER WALK ALONE
jrmobile
midafXD
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 279



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 06 กันยายน 2012, 13:22:45 »

น่าจะถ่ายรูปโชว์สักน้อยเนอะ เผื่อท่านอื่นมาวิเคราะห์หื้อได้หนะ  ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์

มีดปาดออกเลยบ๋อ  ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ อู้เล่นคับ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

ขออภัยจริงๆ รีบโพสไปหน่อย กลับมาลงใหม่ล่ะครับ ขอบคุณครับ
IP : บันทึกการเข้า

jrmobile
midafXD
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 279



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 09 กันยายน 2012, 12:22:12 »

  ฮืม  ฮืม เงียบจัง
IP : บันทึกการเข้า

Toy88
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,730


โลกจะสงบสุขถ้าทุกคนมอบความรักให้แก่กัน


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 10 กันยายน 2012, 21:20:05 »

น่าจะเป็นแผลเป็นที่เรียกว่า คีลอยด์ นะครับลองอ่านที่ผมคัดลอกมานะครับ ยิงฟันยิ้ม
    หลายๆ คนคงรู้จักนะครับกับแผลเป็นที่มีชื่อว่า คีลอยด์ (KELOID) แต่ถ้ายังไม่คุ้นเคยเพราะไม่เคยมีแผลหรือไม่เป็นคีลอยด์มาก่อน ผมก็จะถือโอกาสอธิบายให้ฟังนะครับว่า คีลอยด์ นั้นคืออะไร

    คีลอยด์ คือแผลเป็นมีลักษณะนูนแข็งสีออก ไปทางน้ำตาล บ้างก็มีขนาดเล็ก บ้างมีขนาดใหญ่ดูแล้วน่าเกลียด มักจะไม่เจ็บปวดแต่บางครั้งอาจจะคันบ้าง

    เพื่อนผมคนหนึ่งในสมัยหนุ่มๆ มักจะเป็นสิวเรียกว่าสิวหนุ่มอะไรทำนองนั้นสิวที่ว่านอกจากจะขึ้นตามใบหน้า ของเพื่อนแล้ว มันยังมาขึ้นตามหน้าอกของเพื่อนด้วย เพื่อนผมทำการรักษาสิวด้วยตนเอง อ้อเขาไม่ได้เป็นหมอหรอกนะ เขาใช้นิ้วมือของเขาเอง บีบขยี้เม็ดสิวให้มันแฟบไปคามือ ทั้งที่ใบหน้าและตรงบริเวณหน้าอกหลังจากเม็ดสิวถูกบีบจนไส้ในทะลักออกมาจน หมด แผลเป็นของรอยสิวจึงเกิดขึ้นตามมา

    ใบหน้าของเพื่อนมีรอยของสิวหลงเหลืออยู่แต่ดูไม่น่าเกลียด เท่าใดนัก ไม่เหมือนรอยแผลตรงบริเวณหน้าอก แต่หลังจากนั้นมันมีคีลอยด์เกิดขึ้นตามมา เม็ดสิวหลายๆ เม็ด แผลคีลอยด์หลายๆ แผล ที่นับวันมันโตขึ้นเรื่อยๆ
    หลายๆ แผลของคีลอยด์มันต่างก็ขยายกว้างออกแล้วมาเชื่อมกันเป็นแผ่นเดียวขนาดใหญ่ เมื่อเพื่อนถอดเสื้อให้เห็นแผ่นอกทีไรคิดว่าเป็นหน้าอกของคิงคองทุกที
    คีลอยด์จะเกิดมากเกิดน้อยขึ้นกับหลายปัจจัยด้วยกัน

    ปัจจัยแรก ก็คือ ความแตกต่างของผิวหนังในแต่ละคน ดังนั้นใครจะเป็นมากใครจะเป็นน้อยจะเอาอย่างกันไม่ได้ ของใครของมันว่างั้นเถอะ

    ปัจจัยที่สอง ก็คือ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของแผลบางตำแหน่งนั้น โอกาสจะเกิดคีลอยด์น้อยมาก เช่นตำแหน่งบนใบหน้า เป็นต้น

    หากใบหน้าเกิดเป็นคีลอยด์ได้ง่ายคงจะเป็นมนุษย์ต่างดาวเกิดขึ้นจำนวนไม่น้อย ทีเดียว ขณะในอีกหลายตำแหน่งบนร่างกายจะเกิดเป็นแผลคีลอยด์ได้ง่ายกว่าเยอะ เช่น ตำแหน่งบนลำตัว นับตั้งแต่หน้าอกไปจนกระทั่งถึงหน้าท้องน้อย

    ปัจจัยที่สาม คือสภาพของแผล แผลที่เกิดขึ้นแล้วสามารถนำกลับเข้าที่เดิมอย่างดีที่สุดโอกาสจะเกิดเป็นแผล เป็นก็จะน้อยที่สุดแต่ก็อย่างว่าแหละครับการสมานของแผลจะให้มันเข้าที่เดิม อย่างเจ๋งๆ นั้น คงจะทำได้ยากมาก เพราะไม่สามารถกำหนดได้ด้วยตาเปล่า

    ดังนั้นจะเห็นได้ว่า แม้คุณหมอจะพยายามเย็บแผลให้สวยงามแค่ไหน บางครั้งบางคราวเมื่อแผลหายก็ไม่วายที่จะเกิดเป็นคีลอยด์อันเบ้อเริ่มตามมา

    ทั้งนี้ก็เพราะว่าการเกิดขึ้นของคีลอยด์นั้น มันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่างดังที่กล่าวมาแล้ว

    ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ขนาดของคีลอยด์แต่อยู่ที่ว่าทำอย่างไร ถึงจะไม่ให้มันเกิดขึ้นมา และอยู่ที่ว่าเมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้วจะทำให้มันยุบหายไปได้มั้ย

    เอาปัญหาแรกก่อน คือทำอย่างไรมิให้เกิดเป็นคีลอยด์ขึ้น นั่นก็คือการป้องกันนั่นเอง ซึ่งก็พอจะทำได้ด้วยการฉายแสงจะเรียกว่าเป็นการป้องกันด้วยการฉายรังสีก็ได้ ซึ่งแพทย์จะทำการฉายรังสีลงบนแผลที่สมานกันดีแล้วหลังจากผ่าตัด ซึ่งอาจจะใช้เวลา 3-4 วันหลังผ่าตัด จากนั้นก็สามารถฉายแสงลงบนแผลเพื่อป้องกันการ เกิดคีลอยด์

    จากประสบการณ์ของผมเอง อ้อ! ด้วยการสังเกตนะครับ เพราะผมมิได้เป็นแพทย์ผู้ให้รังสีรักษา แต่เป็นแพทย์ผู้ทำให้เกิดแผลเสียมากกว่า การฉายแสงป้องกันคีลอยด์ผมคิดว่าน่าจะได้ผลดีที่สุดนะครับ อีกวิธีหนึ่งคือ การปิดทับแผลด้วยวัสดุซิลิโคนซึ่งเจ้าของผลิตภัณฑ์บอกว่าได้ผลดีมากดีพอๆ กับการฉายแสง

    ผมเองมีประสบการณ์ในผลิตภัณฑ์ตัวนี้ค่อนข้างน้อย จึงไม่สามารถออกความคิดเห็นเป็นการส่วนตัวได้ เอาเป็นว่าคุณๆ ผู้ใดอยากจะทดลองก็น่าจะทำได้เพราะมันคงไม่ทำให้เจ็บหรือปวด หรือทำให้เกิดอันตราย หรือมีผลข้างเคียงอื่นใด นอกจากราคาของมันค่อนข้างจะแพงไปหน่อยเท่านั้นแหละ

    อีกวิธีหนึ่งพอจะทำได้ คือการฉีดสเตอร์รอยด์เข้าไปในบริเวณแผลที่ทำผ่าตัด คือฉีดกันตั้งแต่ แผลยังสดๆ กันเลยทีเดียว วิธีนี้ได้ผลดีบ้างก็ไม่ค่อยจะเป็นที่พอใจนัก

    แต่ข้อดีขอการใช้วิธีนี้ก็คือ ไม่มีอะไรยุ่งยากและไม่เสียเวลา เพราะทุกอย่างเสร็จสิ้นกัน ตั้งแต่อยู่ในห้องผ่าตัดเลยทีเดียว

    ทีนี้มาดูกันถึงในกรณีที่ว่าเกิดเป็นคีลอยด์ขึ้นมาแล้วจะทำอย่างไร ดี ดังที่กล่าวมาแล้วว่าขนาด ของคีลอยด์นั้น จะไม่เหมือนกับใครในแต่ละคน บ้างก็เป็นมากจนน่าเกลียด บ้างก็เป็นแค่หร็อมแหร็ม พอให้รำคาญใจ
    หากจะรักษากันให้หายขาดก็คือ ต้องใช้วิธีการผ่าตัดเอามันออก แล้วหามาตรการป้องกัน มิให้มันกลับมาเกิดอีก จะด้วยวิธีฉายแสงหรือปิดทับด้วยแผ่นซิลิโคนหรือด้วยการฉีดสเตอร์รอยด์ ก็แล้วแต่จะเลือกใช้

    หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รู้จักมันคุ้นกับคีลอยด์ดี เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของผิวหนังของคุณ และมันทำให้คุณไม่สบายใจไม่สบายตามาตลอด ก็ลองปรึกษากับคุณหมอของคุณดูซิครับ ว่าจะเอายังไงกันดีกัคีลอยด์

    (update 28 กุมภาพันธ์ 2002)
    [ ที่มา... นิตยสารแม่และเด็ก   ปีที่ 24 ฉบับที่ 347 มกราคม 2544 ]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 10 กันยายน 2012, 21:22:54 โดย Toy88 » IP : บันทึกการเข้า

เหนือฟ้ายังมีฟ้่า เหนือคนยังมีคน
 แต่ไม่มีอะไรเหนือกฎแห่งกรรม
jrmobile
midafXD
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 279



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 12 กันยายน 2012, 15:40:11 »

ขอบคุณครับ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์
IP : บันทึกการเข้า

หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!