เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 มีนาคม 2024, 11:52:06
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  ทำบุญเสริมอาชีพตัวเองให้ก้าวหน้า
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ทำบุญเสริมอาชีพตัวเองให้ก้าวหน้า  (อ่าน 1876 ครั้ง)
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2012, 20:59:33 »

ทำบุญเสริมอาชีพตัวเองให้รวย

ก่อนอื่นต้องเรียนให้ทราบเสียก่อนในเรื่องของความจริงที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยทราบ

หรืออาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อน คนที่ทำอาชีพต่างกันนั้นมีความสามารถ ความชอบที่ต่าง

กันเช่น ในศิลปะการวาดรูป การดนตรี การช่างหรือในเรื่องใดก็ตามนั้น 

เหตุที่แตกต่างกันเป็นเพราะกรรมและปัจจัยของแต่ละบุคคลสะสมมาในอดีตชาติ

เหมือนกับความรู้ที่เราเรียนมาในชาตินี้ที่ต้องมีเรื่องใดเรื่องหนึ่ง วิชาหนึ่งวิชาใดที่เราชอบ

เป็นพิเศษและสามารถทำได้ดีเหนือวิชาอื่น เมื่อทำบ่อยๆ เขาก็จะฝังใจเกิดความชำนาญ

สามารถทำได้เหนือกว่าผู้อื่นทั้งหลาย บางคนอาจจะหัดทำกับข้าวแทบตายแต่รสชาติไม่ได้

เรื่องได้ราว แต่กับอีกคนราวกับว่าคาบทัพพีมาเกิดเลย โตขึ้นมาเรียนรู้อีกนิด ไปหยิบจับทำ

อะไรก็อร่อยไปหมดเสียทุกอย่าง




* 2.jpg (97.91 KB, 640x437 - ดู 367 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2012, 21:01:41 »

คนในยุคนี้เรียกความพิเศษแบบนี้ว่า “พรสวรรค์”

แต่ในความจริงเป็นกรรมเก่าที่ติดตัวมา เป็นความรู้เดิม ความทรงจำเดิมที่เรียกว่า “สัญญา”

ซึ่งอาจจะมีหลายกรรม หลายวาระแต่กรรมใดที่ทำเป็นอาจิณและเป็นกรรมหนักที่ทำมา

อย่างต่อเนื่อง มักจะส่งผลก่อน หรือเป็นกรรมที่ส่งผลก่อนในระยะหนึ่ง เมื่อหมดกรรมนี้ไป

กรรมอีกกรรมนั้นก้ออกมาส่งผลต่อ

เช่น คนที่เคยเป็นทหารในอดีตชาติมีการกระทำซ้ำๆ มาหลายชาติ เกิดมาชาตินี้ก็มีสิทธิ์มาก

ที่จะเป็นทหารและรุ่งเรืองในอาชีพการงาน แต่บางคนอาจจะเคยเป็นมาชาติหนึ่งหรือสอง

ชาติ น้อยกว่าการเป็นพ่อค้าวานิชที่ร่ำรวย มาในชาตินี้อาจจะเป็นทหารแต่ไม่รุ่งเรืองใน

อาชีพ แต่เมื่อลาออกราชการมาทำอาชีพค้าขายจึงรุ่งเรืองผิดกันลิบลับ  แต่ที่ต้องมาเป็น

ทหารเพื่อทำหน้าที่ ทำกรรมตรงอาชีพนี้ให้จบสิ้นกันไป

เหมือนดังที่พระอริยสงฆ์ที่มีบุญบารมีมากนั้น ท่านไม่แค่สร้างบุญบารมีในชาตินี้เพียงชาติ

เดียว ท่านต้องเคยบวชเรียน ปฏิบัติธรรม ในหลายชาติที่ผ่านมา เป็น “ของเก่า” ของท่านที่

ท่านต้องทำอย่างต่อเนื่อง ต้องทำไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายตามคำสัจจะอธิษฐานของ

ท่าน


* 32.jpg (102.62 KB, 720x488 - ดู 360 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2012, 21:04:41 »

ไม่ว่าท่านจะตั้งจิตอธิษฐานปรารถนาไปในทางใด ไม่ว่าจะไปในทางพุทธภูมิซึ่งก็คือ การที่

ปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ที่ต้องใช้เวลานานหลายกัปป์หลายกัลล์ หรือลดลง

มาอยู่ในชั้นปรารถนาพระปัจเจกพุทธเจ้าหรือปัจเจกภูมิ หรือลดลงมาอีกในชั้นสาวกภูมิเพื่อ

มุ่งไปสู่นิพพานที่ไม่ต้องกลับมาเกิดอีกก็ตาม ถ้ายังไม่หมดเชื้อ ยังไม่ถึงในสิ่งที่ท่านตั้งใจ

ท่านก็จะต้องวนเวียนมาเกิดอีกหลายภพหลายชาติจนครบถ้วนบุญบารมี  ในแต่ละภพชาติ

ท่านก็ต้องสะสมบุญบารมีไล่ขึ้นมาเหมือนทรายที่ต่อยๆ หล่นลงในนาฬิกาทรายที่ค่อยๆ เพิ่ม

จำนวนทรายมาวันละนิด ไปที่ละภพชาติมากขึ้นๆ ไปเรื่อยๆ หมดจากชาตินี้ก็ไปต่อในชาติ

ต่อไป

เรื่องเหล่านี้จึงเป็นคำตอบว่า สามเณรหรือพระสงฆ์บางรูป ที่แม้แต่บวชเรียนได้ไม่นานทำไม

ถึงแตกฉานในเรื่องการปฏิบัติธรรมอย่างอัศจรรย์ยิ่งนัก ผิดกับพระสงฆ์บางรูปแม้บวชเรียน

มานานมาก แต่ยังไปไม่ถึงไหน และเป็นคำตอบที่ว่า ทำไมคนบางคนจึงมีความสามารถ

เหนือผู้อื่น

คนทุกคนต่างก็มาเกิดตามกรรม ตามปัจจัยที่สะสมมาต่างกันในอดีตชาติ พอมาถึงในชาตินี้

ก็ย่อมดีและเลว ประณีตและทรามต่างกัน รวมถึงศึกษาวิชาการต่างกัน  ประกอบอาชีพต่าง

กัน บางอาชีพก็เป็นสัมมาชีพ และบางอาชีพก็เป็นมิจฉาชีพซึ่งต้องพิจารณากันให้ดี แต่เชื่อ

ว่าไม่มีใครอยากจะทำไม่ดี การที่ประกอบอาชีพไม่รุ่งเรืองนั้นมีอยู่ 2 เรื่องสำคัญ


* 33.jpg (94.12 KB, 720x489 - ดู 362 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2012, 21:14:15 »

เรื่องที่หนึ่ง  ยังทำเหตุในชาตินี้ไม่สมบูรณ์ยังไม่ตรงกับผลที่อยากจะได้รับ คือ ยัง

ทำไม่พอที่จะประสบความสำเร็จ จึงต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนว่า ยังมีการใดบ้างที่เรายังไป

ไม่ถึง ไม่ครบถ้วนเช่น ปัญญาความรู้ต่างๆ ที่ยังไม่พอ ความขยันขันแข็ง ทุนรอนที่พอ

สำหรับที่จะทำให้งานนั้นสำเร็จ ความสามารถยังไม่พอที่ต้องไปขอให้คนอื่นมาช่วย เรื่อง

เหล่านี้ต้องพิจารณาให้ดี แล้วพยายามแก้ไขทำให้เหตุเต็มพร้อมสมบูรณ์ในทุกเรื่องที่ใช้ใน

การประกอบอาชีพให้พบกบความสำเร็จ

เรื่องที่สอง ถ้าเป็นเรื่องของกรรมก็คือ ยังมีกรรมดีไม่พอ หรือที่เรียกกันว่า บุญไม่ถึง

หรือบุญไม่พอที่จะพบกับความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ได้ เหมือนดังกับกังหันวิดน้ำ ถ้าน้ำนั้น

ไม่ถึงระดับกังหันก็ไม่สามารถทำงานได้ เรื่องนี้แก้ไขได้ด้วยการสร้างบุญกุศลให้มากที่สุด

เท่าที่จะมากได้ และต้องระมัดในเรื่องของกรรมไม่ดีในชาตินี้ที่ต้องไม่ต้องมาขัดแย้งกัน

ต้องระวังอาชีพที่ทำนั้นต้องเป็นอาชีพที่ไม่ผิดบาป ไม่เป็นอาชีพที่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เป็น

อาชีพที่พรากประโยชน์ของผู้อื่น เป็นต้น ซึ่งจะขอแนะนำถึงเคล็ดวิชาสำคัญให้ลองไปทำ

เพื่อส่งเสริมให้อาชีพที่ทำนั้นดีขึ้น ดังนี้
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2012, 21:17:07 »

- หมั่นทำสมาธิ เพื่อให้เกิดปัญญาที่จะไปแก้ไข หรือคิดอ่านอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อการ

งาน พิสูจน์มาแล้วมากมายว่า คนที่ทำสมาธิอยู่เสมอจะมี “สติ” กำกับอยู่ตลอดเวลา ไม่หลง

ไปในกิเลส หลงไปในทางที่ผิดได้ง่าย เมื่อเกิดปัญหาก็มักจะเห็นทางออกได้ง่าย และการ

ทำสมาธิเป็นการสร้างบุญใหญ่แบบไม่เสียเงินด้วย ยิ่งทำมากก็จะยิ่งฉลาดมาก ทำให้เป็นที่

รักของปวงเทพเทวา ผีบ้านผีเรือน เจ้าที่เจ้าทางสถานที่ทำมาหากิน

- หมั่นบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งที่บ้าน ทั้งที่สถานที่ค้าขาย ที่ทำงานไม่ว่าจะเป็นศาลพระภูมิ เจ้า

ที่เจ้าทางด้วยความนอบน้อม การบูชาที่ดีที่สุดก็คือ การปฏิบัติบูชา การสร้างบุญและอุทิศ

บุญไปให้ท่าน เรื่องของเซ่นไหว้อะไรนั้นขอให้ยึดหลักสายกลาง ใช้ปัญญาให้มากอย่าทำ

ให้มันเกินเลยควรทำแต่พอดี

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านเพียงปรารถนาบุญมากกว่าผลไม้ อาหารเหล่านั้น ที่สำคัญท่านเป็นกาย

ละเอียด กายทิพย์รับแต่สิ่งที่เป็นทิพย์ได้เท่านั้น ของเซ่นไหว้ส่วนมากจะกลายเป็นอาหาร

ของวิญญาณชั้นต่ำและมดกับหนูเท่านั้น แม้แต่หมั่นดูแลทำความสะอาดให้เรียบร้อยงามตา

ก็ถือว่าเป็นการบูชาท่านที่ดีแบบหนึ่ง ท่านจะได้เมตตาช่วยให้การค้าดีวันดีคืนขึ้น


* 26.jpg (95.83 KB, 640x443 - ดู 357 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2012, 21:23:10 »

- หมั่นระลึกแสดงความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ทั้งในชีวิตและในหน้าที่การงานรวมถึง

ครูบาอาจารย์ ต้องรู้จักกตัญญูเชิดชูท่าน สำหรับท่านที่เสียชีวิตไปแล้วให้ทำบุญอุทิศส่วน

กุศลไปให้ท่าน สำหรับที่ยังมีชีวิตอยู่ควรหมั่นไปเยี่ยมเยียนท่าน ขอพรจากท่าน

คนที่ทำอาชีพอะไรไม่ขึ้น ไม่มีทางร่ำรวยได้ ส่วนมากจะเป็นคนอกตัญญูไม่พระคุณคน พวก

ที่คิดล้างครูไม่เคารพครูบาอาจารย์ ยิ่งพ่อแม่ด้วยแล้วใครที่เตยทำให้ท่านช้ำใจ หรือทำให้

ท่านเสียใจถ้าทำถึงขนาดที่ท่านต้องร้องไห้เสียน้ำตาทุกข์ใจเพราะการกระทำของเรา

รับรองว่าชาตินี้ทำอะไรก็ไม่เจริญ มีแต่เรื่องติดขัด

ให้รีบไปขอขมา ขออโหสิกรรมท่านโดยด่วนที่สุดเท่าที่ทำได้ด้วยความสำนึกผิดอย่างจริง

ใจ  ให้เอาน้ำสะอาดโรยด้วยดอกมะลิ หรือดอกไม้หอมไปล้างเท้าท่าน

ล้างเสร็จแล้วเอาผ้าสะอาดที่นุ่มเช็ดเท้าท่านแล้วเอาวางบนหัวของตัวเอง กล่าวขอขมา ขอ

อโหสิกรรมต่อท่าน และรับปากท่านว่าจะเป็นคนใหม่ เป็นคนดีมีศีลกำกับชีวิต ถ้าท่านให้

อโหสิกรรมแล้ว กรรมต่างๆ ที่เคยทำกับท่านก็จะคลายตัวลงเพราะมีการอโหสิกรรม แต่ก็ยัง

ต้องได้รับเศษเวรเศษกรรม ซึ่งแก้ไขได้ด้วยการทำบุญให้มากเพื่อหนีกรรม ที่อาจจะทำให้

กรรมนั้นไม่มีโอกาสส่งผลเลยก็ได้ ถ้าทำได้ตามที่บอกการทำมาค้าขายจะดีขึ้นทันตาเห็น

เลย แต่ถ้าพ่อแม่ท่านเสียชีวิตไปแล้วให้หมั่นทำบุญกุศลให้ท่าน แล้วกล่าวขออโหสิกรรม

ต่อท่านบ่อยๆ ด้วยความสำนึกผิดจริงๆ จะช่วยได้


* 26.jpg (95.83 KB, 640x443 - ดู 338 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2012, 21:25:21 »

- ถือศีล 5 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะข้อ 4 คนที่ทำการค้าหรือทำงานไม่ว่าอะไร

ต้องระวังกรรมทางวาจาให้มาก บางครั้งคำพูดของเรานั้นจะไปปิดทางเจริญในอาชีพแทนที่

จะได้ดีอาจจะทำให้คนเขาเกลียดหรือเป็นเป็นกรรมไม่ดีที่จะมาขวางทางสำเร็จไว้ หลวงพ่อ

ฤๅษีลิงดำ แห่งวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี พระอริยสงฆ์แห่งเมืองไทยได้เมตตาบอกทางไว้ถ้า

อยากเจริญให้ทำ “วาจาเป็นทิพย์” 

คือพูดตามความเป็นจริง ไม่พูดหยาบคาย ใช้วาจาไพเราะ ไม่ส่อเสียด ไม่ยุยงส่งเสริมเขา

ให้แตกร้าวกัน  ใช้วาจาเฉพาะที่วาจาที่เป็นประโยชน์ทั้ง 4 ประการนี้ คำว่า “โทษ” ไม่มีเกิด

ขึ้น มีแต่ “คุณ”เท่านั้น จะไปที่ไหน จะพูดที่ไหน ใครก็อยากรับฟัง และส่งเสริมให้เจริญ

- บริจาคทาน รู้จักการให้อย่างสม่ำเสมอ การให้ทานนั้นจะเกิดผลมาก ยิ่งคนที่เขา

เดือดร้อนแล้วเราอยากช่วยให้เขาพ้นทุกข์ให้เหมาะสมกับกาลเวลา เหมาะกับเหตุ ถ้าเห็น

เขาตกทุกข์ได้ยากอย่ารีรอที่จะช่วยเหลือ ถ้ายิ่งเขาขอก็ยิ่งต้องให้ แต่จะให้แค่ไหนแล้วแต่

พิจารณา เป็นการทำให้คนอื่นสมหวังกรรมดีตรงนี้จะสะท้อนกลับเร็วมาก คนที่รวยนั้นเขา

เป็นคนทำทานเยอะลองไปดูได้ ประเภทยิ่งให้ยิ่งรวย
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2012, 21:29:26 »

- ทำงานทุกครั้ง ทุกนาทีให้ตั้งจิตว่ากำลังทำบุญกุศล การทำงานไม่ว่าเป็นประเภท

ไหนสถานะใด ขอทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะทำให้ผู้อื่นมีความ

สุขทั้งลูกค้า เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน คนที่ทำอาชีพค้าขายต้องให้ลูกค้าทุกอย่างที่ดีที่สุด ยิ่ง

ลดราคาให้ลูกค้าได้เพื่อสร้างบุญถ้าทำได้จะดีมากๆ มีแม่ค้าอยู่คนหนึ่งตอนแรกค้าขายอะไร

ก็ติดขัด เพราะคิดเอาแต่ได้ คิดแต่จะเอาเปรียบลูกค้า เมื่อได้รับคำแนะนำให้ไปคิดกลับด้าน

กันให้คิดกลับมาทางบุญ ให้คิดว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้ามีความสุข ให้ลูกค้าในสิ่งที่ดีที่สุด

ในราคาที่ดีไม่เอาเปรียบเขา

บอกแม่ค้าคนนี้ให้รู้จักเคล็ดทำบุญกับลูกค้าทุกครั้ง คือ ของแทนที่จะขาย 10 บาทก็ขาย 9

บาท สำหรับ 1 บาทที่ลดไปนั้นถือว่าทำบุญให้กับลูกค้า พอเริ่มทำแบบนี้แล้ว ลูกค้าที่หาย

ไปก็กลับเข้ามา ลูกค้าใหม่ก็เข้ามาอุดหนุน วันนี้ร่ำรวยมีเงินเป็นหลายๆ ล้านแล้ว ลองเอาไป

ใช้กันดู ยิ่งทำยิ่งรวย

- หมั่นอุทิศบุญให้กับเทวดาประจำตัว อยากจะบอกให้ทราบอย่างหนึ่งว่า เทวดา

ประจำตัวนั้นมีจริง คนเรานั้นมีเทวดาที่ดูแลรักษาที่เรียกกันว่า “เทดาประจำตัว” นั้นทุกคน

จะมีน้อยหรือมากอยู่ที่กรรมดีที่ทำร่วมกันมา เมื่อทำบุญทุกครั้งควรจะอุทิศบุญให้ท่านด้วย


เพื่อให้ท่านเหล่านั้นมีบุญบารมีเพิ่มจากที่เราอุทิศบุญไปให้ท่านและสามารถที่จะช่วยเราได้

เมื่อเรามีเคราะห์ได้ทัน เทวดาประจำตัวนั้นในอดีตท่านอาจจะเป็นพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ครูบา

อาจารย์ เพื่อนสนิทหรือญาติที่ยังมีความห่วงใย ยังคงมีกรรมผูกพันและห่วงใยเราอยู่

สำหรับในภพภูมิของเทวดานั้น บางชั้นของสวรรค์ 1 วันเท่ากับ 100 ปีมนุษย์ ดังนั้นคนที่

ห่วงใยเราและจากเราไปนั้นท่านคงยังอยู่และเฝ้าดูเราด้วยความห่วงใยแน่นอน


* 31.jpg (107.43 KB, 720x485 - ดู 352 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2012, 21:32:00 »

อีกเรื่องหนึ่งที่มักเข้าใจกันผิดๆ ว่าเทวดาประจำตัวนั้นท่านแฝงอยู่ในตัวคน ขอให้เข้าใจ

อย่างถูกต้องเสียใหม่ว่า เทวดาประจำตัวนั้นท่านไม่ได้สิงอยู่ในตัวเรา อันคนเรานั้นเนื้อตัว

นั้นเหม็นมากเป็นป่าช้าที่รวมซากศพสัตว์ต่างๆ ที่คนกินเข้าไป


เทพเทวดาทั้งหลายท่านเป็นผู้มีบุญมากกว่าบาป ไม่มีทางอยู่ใกล้กับคนแน่นอน ท่านอยู่อีก

ภพภูมิหนึ่งที่สูงกว่าภพภูมิของมนุษย์ น้อยครั้งที่ท่านจะมาแฝงตัวในคน ท่านมาเพื่อเมตตา

บอกเรื่องสำคัญเท่านั้น เมื่อเสร็จกิจธุระก็จะรีบกลับไปที่ภพภูมิของท่าน

สำหรับพวกเจ้าเข้าทรงทั้งหลายที่บอกว่ามีเทพ มีครูบาอาจารย์มีพระมหากษัตริย์ บุคคล

สำคัญในอดีตมาเข้าทรงนั้น ร้อยละ 99 มีแต่ผีที่มาเข้าแล้วแอบอ้างทั้งนั้น เพราะถ้าบอกว่า

เป็นผีจะไม่มีคนเชื่อ ให้ของกินจึงต้องพยายามแอบอ้างเบื้องสูงว่าเป็นพระองค์ท่านนั้น

พระองค์ท่านนี้ ผีพวกนี้ถ้าพาคนไปผิดทาง ผิดธรรมก็ถือว่าสร้างกรรมใหม่ฝ่ายไม่ดีที่จะต้อง

รับผลกรรมหนักกว่าเดิมเสียอีก

คนที่อุทิศบุญให้เทวดาประจำตัวตลอดนั้นจะมีโชคลาภจากการทำงาน ทำอะไรจะไม่ติดขัด

บางครั้งจะเกิดการอัศจรรย์ขึ้นซึ่งไม่ต้องตกใจอะไร เทวดาประจำตัวท่านเมตตาช่วยเหลือ

สงเคราะห์แม้กระทั่งให้โชค ให้ลาภ แต่จะได้หรือไม่ได้นั้นอยู่ที่บุญของคนนั้นถึงเวลาส่งผล

หรือไม่
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2012, 21:36:41 »

- บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ให้คุณกับอาชีพโดยตรง เรื่องนี้ต้องพิจารณาให้ดี อย่าลืมว่าการ

บูชาท่านนั้นเป็นการแสดงความเคารพยอมรับนับถือ ดังนั้นต้องเอาแนวทางปฏิบัติของท่าน

ในด้านต่างๆ มาปฏิบัติในอาชีพของตนถึงจะเกิดปาฏิหาริย์ได้

เช่น ท่านที่นับถือพระโพธิสัตว์กวนอิม ต้องทราบว่า พระโพธิสัตว์กวนอิมนั้น

พระองค์ท่านมีเมตตาสูง ชอบช่วยเหลือคน คนที่บูชาก็ต้องยืดหลักการเมตตา การช่วย

เหลือคน การทานตามแบบอย่างพระองค์ท่าน

ท่านที่นับถือพระพิฆเนศ ท่านต้องรู้ว่าพระพิฆเนศ ท่านเป็นเจ้าแห่งศิลปะวิทยาการ

คนที่บูชาก็ต้องหมั่นแสวงหาความรู้ในการประกอบอาชีพอย่างไม่ย่อท้อ หรือท่านที่

นับถือ “เสด็จฯ เตี่ย” หรือกรมหลวงชุมพรฯ ท่านต้องรู้ว่าเสด็จฯ เตี่ยท่านเป็นทหาร

กล้า พระองค์ท่านเป็นคนจริง พระองค์ท่านรักชาติ รักแผ่นดินเท่าชีวิต มีสัจจะ พระองค์ท่าน

ไม่ชอบคนโกงกิน ปล้นแผ่นดินฉ้อราษฎร์บังหลวง ดังนั้นคนที่จะบูชาท่านให้ได้ผลนั้น ต้อง

ทำหน้าที่ปฏิบัติแบบพระองค์ท่านอย่าทำในสิ่งที่ท่านเกลียดหรือตรงกันข้ามเป็นอันขาด

เพราะต่อให้ไปไหว้จุดธูปทุกวัน บูชาท่านทุกวันแต่ยังสร้างกรรมไม่ดีสวนทางกับท่าน


ให้ร้อยชาติพันชาติ ก็ไม่มีวันเจริญก้าวหน้าในอาชีพได้อย่างแท้จริง


* 31.jpg (107.43 KB, 720x485 - ดู 360 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2012, 21:39:01 »


บทความจาก : ธ. ธรรมรักษ์

ข้าพเจ้าขอเผยแผ่ เพื่อเป็นธรรมทาน
IP : บันทึกการเข้า
Yim sri
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,753



« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2012, 22:11:38 »

ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งที่ทำให้ได้อ่านเเละเข้าใจเรื่องดีๆแบบนี้ค่ะ
IP : บันทึกการเข้า

ธ สถิตย์ในใจตราบนิรันดร์กาล
jirapraserd
midafXD
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 691


« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2012, 23:00:53 »

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 16 กันยายน 2012, 19:17:35 โดย jirapraserd » IP : บันทึกการเข้า

เสือซุ่ม
Luckyim
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,309



« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 12 มิถุนายน 2013, 13:00:19 »


การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง
IP : บันทึกการเข้า

***มักน้อย มีสาระ สันโดษ ทำประโยชน์ให้กับส่วนรวม***
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 12 มิถุนายน 2013, 14:17:36 »

  สาธุ ๆ ๆ อนุโมทามิ   ใน   พุทธธรรม อันดีงาม
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
พชรวัฒน์ นวกุลภูวนันต์
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 194

อย่าเห็นแก่ตัวจนมองข้ามหัวคนอื่น


« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 13 มิถุนายน 2013, 22:15:00 »

อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!