|
|
|
lovinroom
มัธยม
 
ออฟไลน์
กระทู้: 683

Tar ItSaRa-D
|
 |
« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2012, 14:11:37 » |
|
ผมเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนแห่งนี้ครับ มาออกกำลังกายที่โรงเรียนประจำ ได้พูดคุยกับน้องหลายๆคนที่ศึกษาอยู่ ถามถึงเรื่องการแข่งขันต่างๆว่าเรายังเป็นอันดับต้นๆอยู่มั้ยในเรื่องกีฬา แต่สิ่งที่ผมฟังมา คือผู้บริหารไม่สนับสนุนกีฬา อ้างนู้นอ้างนี่ งบประมาณไม่มีบ้างซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยที่โรงเรียนใหญ่ๆซึ่งมีฐานเดิมไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้ และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งกีฬาประจำโรงเรียนก็มีหลายอย่างที่เด่นและทำชื่อเสียงให้โรงเรียนและจังหวัดมามากมาย แต่ตอนนี้เน้นแต่วิชาการ ทั้งๆที่การเล่นกีฬาเป็นสิ่งที่ดี ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน และยังสามารถช่วยให้นักเรียนที่เรียนไม่เก่งมีที่เรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้ (โควต้านักกีฬา) ซึ่งผมเคยเป็นนักกีฬาเช่นกัน ได้เรียนมหาลัยด้วยระบบโควต้าเช่นกัน เลยอยากให้พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ช่วยกันสนับสนุนในเรื่องของกีฬาด้วยครับ
การส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันคือการพัฒนาตัวเด็ก ส่วนชื่อเสียงที่ตามมาคือรางวัล รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย เป็นสิ่งที่เราได้ยินมาตั้งแต่สมัยไหนแล้ว ทำไมผู้มีอำนาจตัดสินใจถึงได้ใจร้ายกับเด็กได้ขนาดนี้ ตัดโอกาส ตัดอนาคตเด็ก ผมว่าผู้บริหารควรเปิดหู เปิดตา ให้การสนับสนุนอย่างสุดกำลัง อย่ามัวแต่ทำอย่างอื่นจนลืมไปว่าสิ่งแรกที่พวกท่านควรทำ คือเพื่อใคร? เพื่อตัวเองหรือเพื่อเด็กนักเรียนลูกหลานคนเชียงราย
ผมหวังว่าสังคมของเราชาวเชียงรายคงไม่ปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านไปเฉยๆแน่ใช่มั้ยครับ ผมคนนึงที่มีความผูกพันกับโรงเรียนมาก เพราะมันทำให้ผมมีอนาคตที่ดีจนถึงทุกวันนี้ จากเด็กห้อง1 กลายมาเป็นผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัวหลายอย่าง อย่าให้เรื่องมันนานจนกีฬาหายไปจากระบบเลยครับ ช่วยกันแสดงความเห็นหน่อนนะครับ ผู้หลักผู้ใหญ่เค้าจะได้รู้ปัญหากันบ้าง
บังเอิญผมมาอ่านช้า ไม่ทันก่อนท่านจะแก้ไขกระทู้ และผมอ่านกระทู้ท่าน 3 รอบ คำว่าโรงเรียนแห่งนี้ ของท่าน คือที่ใหนครับ ผมแก้ไขให้มันอ่านเข้าใจง่ายขึ้นครับ โรงเรียนประจำจังหวัดที่เคารพรักนี่แหละครับ ผมรู้สึกผิดหวังในการ บริหารจัดการของผู้ใหญ่ชุดนี้ครับ ตั้งแต่รุ่นพ่อยันลูกสร้างชื่อเสียงไว้มากมาย จนเป็นที่น่าเกรงขามในวงการกีฬาภาคเหนือและประเทศ แต่มันโดนลดการสนับสนุนไปจนกลัวว่าซักวันนึงจะหายไป คือไม่อยากรอถึงขนาดเปลี่ยนผู้บริหารก่อนหรอกครับ ตอนนี้ท่านทำได้แต่ไม่ยอมทำต่างหาก งบทำอย่างอื่นเยอะแยะเต็มไปหมด สนับสนุนเรื่องการเดินทางกับค่าใช้จ่ายจากส่วนของกีฬามันจะไม่มีได้ไง ที่ผมเห็นว่าซ้อมกันเป็นประจำหลังเลิกเรียนก็มี ฟุตบอล ฟุตซอล บาสเกตบอล แบทมินตัน ส่วนกีฬาอย่างอื่นส่วนมากผู้ปกครองก็พาไปเล่นเองข้างนอก เช่นว่ายน้ำ ตีกอล์ฟ แบท ยูโด อื่นๆ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 01 กันยายน 2012, 14:23:50 โดย lovinroom »
|
IP :
บันทึกการเข้า
|
รับงานโครงสร้าง รีโนเวท ต่อเติม ตกแต่ง รับทำทีละงานไม่รับงานซ้อน สนใจติดต่อได้ครับ 0926429923
|
|
|
pattanawit
เตรียมอนุบาล

ออฟไลน์
กระทู้: 5

|
 |
« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2012, 16:58:13 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 04 กันยายน 2012, 14:08:05 โดย pattanawit »
|
IP :
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
จั๊ดดีเล๊าะ
เตรียมอนุบาล

ออฟไลน์
กระทู้: 84
|
 |
« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2012, 18:23:42 » |
|
ในมุมมองของผม ผมคิดว่าผู้บริหารมีเหตุผลหลายอย่างที่จะตัดสินใจไมส่งทีมกีฬาเข้าแข่งขันนั้น โรงเรียนนี้ผมคิดว่าคงเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดเชียงรายชื่อดังสีประจำโรงเรียนคิดว่าฟ้าขาว จะเห็นได้ว่าผู้บริหารของโรงเรียนนี้เน้นการพัฒนาในด้านสถานที่และวิชาการ เพราะก่อนที่จะตัดสินใจส่งแข่งกีฬาให้นักกีฬานั้น โรงเรียนนี้ต้องนำงบประมาณในการทำรั่วประตูโรงเรียนให้สวยงานสมกับเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด และต้องซื้อจอ led monitor เพื่อที่จะติดตั้งให้บุคคลภายนอกเห็นว่ามีความทันสมัย และล้าสุดต้องจัดกิจกรรมเลี้ยงตอนรับผู้บริหาร (ผอ.) จากทั่วประเทศในการสังสรรค์โดยจัดให้มีเวทีขนาดใหญ่และโต๊ะจีนชื่อดังมาบริการ จึงต้องใช้งบประมาณจำนวนมากเพื่อใช้ในการดูแลผู้บริหารที่มาร่วมงานเพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียงจังหวัดเชียงราย ส่วนเรื่องกีฬาเป็นเรื่องเล็กๆ นักเรียนที่เป็นนักกีฬาก็มีจำนวนน้อย ไม่จำเป็นต้องสนับสนุน ต้องเน้นสนับสนุนด้านวิชาการที่สามารถทำได้ง่ายใช้งบประมาณน้อย ครูก็ไม่จำเป็นต้องสอนมากเพราะนักเรียนที่เก่งๆ ในจังหวัดส่วนมากก็อยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งนักเรียนเก่งอยู่แล้ว และนักเรียนก็ฉลาดพอที่จะไปเรียนพิเศษเพื่อให้ตัวเองเก่งขึ้นจะได้ไม่ทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียงส่วนโรงเรียนก็สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการส่งไปแข่งกิจกรรมด้านวิชาการจะเห็นว่าโรงเรียนและนักเรียนได้ประโยชน์ทั้งคู่ร่วมทั้งครูผู้สอนก็จะได้ประโยชน์ไปด้วย Win win win และที่เห็นอยู่ตอนนี้ก็คือโรงเรียนก็สนับสนุนให้นักเรียนโดดเรียนไปติวที่เชียงใหม่ นักเรียน ม.6 ไม่มาเรียนเกินกว่าครึ่ง โครงการของเอกชนที่โฆษณาทำให้ดูเหมือนว่าถ้ามาติวและดื่มเครื่องดื่มของเขาแล้วทำให้ได้เป็นหมอ ถ้าผมเป็นผู้บริหารผมก็ต้องทำเช่นนี้ เพราะเขาได้ เราได้ และผู้ปกครองก็พอใจ ส่วนกีฬาหรือครับก็ช่างหัวมัน เพราะผู้บริหารโรงเรียนนี้ไม่แคร์หลอกครับว่ากีฬาจะเก่งหรือทำให้ชื่อเสียงให้โรงเรียนมานานเท่าไหนเพราะในเวลาเช่นว่านี้วิชาการเท่านั้นเป็นสิ่งสำคัญ นักเรียนทุกคนต้องเรียนเก่ง ใครเรียนไม่เก่งก็ไม่ต้องสอนให้ไปเรียนพิเศษเอาเอง ถ้าตกได้เกรด 0 ก็จำเป็นให้ผ่านและให้จบเพราะจะทำให้โรงเรียนมีนักเรียนซ้ำชั้นทำให้ภาพพจน์และชื่อเสียงโรงเรียนเสียหาย ไม่จำเป็นต้องสนใจว่านักเรียนส่วนหนึ่งที่เรียนไม่เก่งแต่อยากมีกิจกรรมและต้องการใช้เป็นส่วนหนึ่งในการขอโควต้าเข้ามหาวิทยาลัยไม่ว่าจะด้านกีฬา ด้านดนตรี ด้านนาฏศิลป์ ด้านจิตกรรม ฯลฯ ซึ่งสามารถนำผลงานเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ทั้งนั้น แต่ทั้งหมดนี้โรงเรียนต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการจัดการซึ่งถ้าเป็นผู้บริหารที่หวังผลด้านวิชาการอย่างเดียวถือว่าไม่จำเป็น โดยเฉพาะด้านกีฬาถึงแม้จะเก่งได้รางวัลอย่างไรก็ตามต้องใช้งบประมาณในการจัดการบริหารจำนวนมาก เข้าเรียกว่ายิ่งเก่งยิ่งเปลืองเพราะถ้าชนะในระดับจังหวัดต้องส่งแข่งระดับภาค ถ้าชนะระดับภาคต้องส่งแข่งระดับประเทศ ทุกขั้นตอนต้องใช้งบประมาณ จะเห็นได้ว่าผู้ฝึกสอนกีฬาหลายโรงเรียนประสบกับปัญหานี้ จะเจอวลีของผู้บริหาร เช่น "แข่งไปก็แพ้ส่งแข่งทำไม" "ไปแข่งก็เสียหน้าถ้าแพ้กลับมา" "แพ้แล้วไปแข่งเสียศักดิ์ศรี" เป็นต้น
ฟ้าขาว?? โรงเรียนอะไรอ่ะ ถ้าแต่หมายถึงโรงเรียนประจำจังหวัดไม่ใช่สีฟ้าขาวแน่นอน
|
|
|
|
mewlordose
ชั้นประถม

ออฟไลน์
กระทู้: 209
|
 |
« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2012, 18:34:14 » |
|
ในมุมมองของผม ผมคิดว่าผู้บริหารมีเหตุผลหลายอย่างที่จะตัดสินใจไมส่งทีมกีฬาเข้าแข่งขันนั้น โรงเรียนนี้ผมคิดว่าคงเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดเชียงรายชื่อดังสีประจำโรงเรียนคิดว่าฟ้าขาว จะเห็นได้ว่าผู้บริหารของโรงเรียนนี้เน้นการพัฒนาในด้านสถานที่และวิชาการ เพราะก่อนที่จะตัดสินใจส่งแข่งกีฬาให้นักกีฬานั้น โรงเรียนนี้ต้องนำงบประมาณในการทำรั่วประตูโรงเรียนให้สวยงานสมกับเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด และต้องซื้อจอ led monitor เพื่อที่จะติดตั้งให้บุคคลภายนอกเห็นว่ามีความทันสมัย และล้าสุดต้องจัดกิจกรรมเลี้ยงตอนรับผู้บริหาร (ผอ.) จากทั่วประเทศในการสังสรรค์โดยจัดให้มีเวทีขนาดใหญ่และโต๊ะจีนชื่อดังมาบริการ จึงต้องใช้งบประมาณจำนวนมากเพื่อใช้ในการดูแลผู้บริหารที่มาร่วมงานเพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียงจังหวัดเชียงราย ส่วนเรื่องกีฬาเป็นเรื่องเล็กๆ นักเรียนที่เป็นนักกีฬาก็มีจำนวนน้อย ไม่จำเป็นต้องสนับสนุน ต้องเน้นสนับสนุนด้านวิชาการที่สามารถทำได้ง่ายใช้งบประมาณน้อย ครูก็ไม่จำเป็นต้องสอนมากเพราะนักเรียนที่เก่งๆ ในจังหวัดส่วนมากก็อยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งนักเรียนเก่งอยู่แล้ว และนักเรียนก็ฉลาดพอที่จะไปเรียนพิเศษเพื่อให้ตัวเองเก่งขึ้นจะได้ไม่ทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียงส่วนโรงเรียนก็สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการส่งไปแข่งกิจกรรมด้านวิชาการจะเห็นว่าโรงเรียนและนักเรียนได้ประโยชน์ทั้งคู่ร่วมทั้งครูผู้สอนก็จะได้ประโยชน์ไปด้วย Win win win และที่เห็นอยู่ตอนนี้ก็คือโรงเรียนก็สนับสนุนให้นักเรียนโดดเรียนไปติวที่เชียงใหม่ นักเรียน ม.6 ไม่มาเรียนเกินกว่าครึ่ง โครงการของเอกชนที่โฆษณาทำให้ดูเหมือนว่าถ้ามาติวและดื่มเครื่องดื่มของเขาแล้วทำให้ได้เป็นหมอ ถ้าผมเป็นผู้บริหารผมก็ต้องทำเช่นนี้ เพราะเขาได้ เราได้ และผู้ปกครองก็พอใจ ส่วนกีฬาหรือครับก็ช่างหัวมัน เพราะผู้บริหารโรงเรียนนี้ไม่แคร์หลอกครับว่ากีฬาจะเก่งหรือทำให้ชื่อเสียงให้โรงเรียนมานานเท่าไหนเพราะในเวลาเช่นว่านี้วิชาการเท่านั้นเป็นสิ่งสำคัญ นักเรียนทุกคนต้องเรียนเก่ง ใครเรียนไม่เก่งก็ไม่ต้องสอนให้ไปเรียนพิเศษเอาเอง ถ้าตกได้เกรด 0 ก็จำเป็นให้ผ่านและให้จบเพราะจะทำให้โรงเรียนมีนักเรียนซ้ำชั้นทำให้ภาพพจน์และชื่อเสียงโรงเรียนเสียหาย ไม่จำเป็นต้องสนใจว่านักเรียนส่วนหนึ่งที่เรียนไม่เก่งแต่อยากมีกิจกรรมและต้องการใช้เป็นส่วนหนึ่งในการขอโควต้าเข้ามหาวิทยาลัยไม่ว่าจะด้านกีฬา ด้านดนตรี ด้านนาฏศิลป์ ด้านจิตกรรม ฯลฯ ซึ่งสามารถนำผลงานเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ทั้งนั้น แต่ทั้งหมดนี้โรงเรียนต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการจัดการซึ่งถ้าเป็นผู้บริหารที่หวังผลด้านวิชาการอย่างเดียวถือว่าไม่จำเป็น โดยเฉพาะด้านกีฬาถึงแม้จะเก่งได้รางวัลอย่างไรก็ตามต้องใช้งบประมาณในการจัดการบริหารจำนวนมาก เข้าเรียกว่ายิ่งเก่งยิ่งเปลืองเพราะถ้าชนะในระดับจังหวัดต้องส่งแข่งระดับภาค ถ้าชนะระดับภาคต้องส่งแข่งระดับประเทศ ทุกขั้นตอนต้องใช้งบประมาณ จะเห็นได้ว่าผู้ฝึกสอนกีฬาหลายโรงเรียนประสบกับปัญหานี้ จะเจอวลีของผู้บริหาร เช่น "แข่งไปก็แพ้ส่งแข่งทำไม" "ไปแข่งก็เสียหน้าถ้าแพ้กลับมา" "แพ้แล้วไปแข่งเสียศักดิ์ศรี" เป็นต้น
สนับสนุนให้นักเรียนไปเที่ยวซอยนิมมานในวันหยุดเสาร์อาทิตย์  ผมคิดว่าคุณภาพของนักเรียนสามัคคีตกต่ำครับ ยังเหลือดีบ้างก็ศูนย์วิทย์ห้อง10-15
|
|
|
|
pattanawit
เตรียมอนุบาล

ออฟไลน์
กระทู้: 5

|
 |
« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2012, 20:38:23 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 05 กันยายน 2012, 11:18:02 โดย pattanawit »
|
IP :
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pattanawit
เตรียมอนุบาล

ออฟไลน์
กระทู้: 5

|
 |
« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2012, 20:42:57 » |
|
ในมุมมองของผม ผมคิดว่าผู้บริหารมีเหตุผลหลายอย่างที่จะตัดสินใจไมส่งทีมกีฬาเข้าแข่งขันนั้น โรงเรียนนี้ผมคิดว่าคงเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดเชียงรายชื่อดังสีประจำโรงเรียนคิดว่าฟ้าขาว จะเห็นได้ว่าผู้บริหารของโรงเรียนนี้เน้นการพัฒนาในด้านสถานที่และวิชาการ เพราะก่อนที่จะตัดสินใจส่งแข่งกีฬาให้นักกีฬานั้น โรงเรียนนี้ต้องนำงบประมาณในการทำรั่วประตูโรงเรียนให้สวยงานสมกับเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด และต้องซื้อจอ led monitor เพื่อที่จะติดตั้งให้บุคคลภายนอกเห็นว่ามีความทันสมัย และล้าสุดต้องจัดกิจกรรมเลี้ยงตอนรับผู้บริหาร (ผอ.) จากทั่วประเทศในการสังสรรค์โดยจัดให้มีเวทีขนาดใหญ่และโต๊ะจีนชื่อดังมาบริการ จึงต้องใช้งบประมาณจำนวนมากเพื่อใช้ในการดูแลผู้บริหารที่มาร่วมงานเพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียงจังหวัดเชียงราย ส่วนเรื่องกีฬาเป็นเรื่องเล็กๆ นักเรียนที่เป็นนักกีฬาก็มีจำนวนน้อย ไม่จำเป็นต้องสนับสนุน ต้องเน้นสนับสนุนด้านวิชาการที่สามารถทำได้ง่ายใช้งบประมาณน้อย ครูก็ไม่จำเป็นต้องสอนมากเพราะนักเรียนที่เก่งๆ ในจังหวัดส่วนมากก็อยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งนักเรียนเก่งอยู่แล้ว และนักเรียนก็ฉลาดพอที่จะไปเรียนพิเศษเพื่อให้ตัวเองเก่งขึ้นจะได้ไม่ทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียงส่วนโรงเรียนก็สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการส่งไปแข่งกิจกรรมด้านวิชาการจะเห็นว่าโรงเรียนและนักเรียนได้ประโยชน์ทั้งคู่ร่วมทั้งครูผู้สอนก็จะได้ประโยชน์ไปด้วย Win win win และที่เห็นอยู่ตอนนี้ก็คือโรงเรียนก็สนับสนุนให้นักเรียนโดดเรียนไปติวที่เชียงใหม่ นักเรียน ม.6 ไม่มาเรียนเกินกว่าครึ่ง โครงการของเอกชนที่โฆษณาทำให้ดูเหมือนว่าถ้ามาติวและดื่มเครื่องดื่มของเขาแล้วทำให้ได้เป็นหมอ ถ้าผมเป็นผู้บริหารผมก็ต้องทำเช่นนี้ เพราะเขาได้ เราได้ และผู้ปกครองก็พอใจ ส่วนกีฬาหรือครับก็ช่างหัวมัน เพราะผู้บริหารโรงเรียนนี้ไม่แคร์หลอกครับว่ากีฬาจะเก่งหรือทำให้ชื่อเสียงให้โรงเรียนมานานเท่าไหนเพราะในเวลาเช่นว่านี้วิชาการเท่านั้นเป็นสิ่งสำคัญ นักเรียนทุกคนต้องเรียนเก่ง ใครเรียนไม่เก่งก็ไม่ต้องสอนให้ไปเรียนพิเศษเอาเอง ถ้าตกได้เกรด 0 ก็จำเป็นให้ผ่านและให้จบเพราะจะทำให้โรงเรียนมีนักเรียนซ้ำชั้นทำให้ภาพพจน์และชื่อเสียงโรงเรียนเสียหาย ไม่จำเป็นต้องสนใจว่านักเรียนส่วนหนึ่งที่เรียนไม่เก่งแต่อยากมีกิจกรรมและต้องการใช้เป็นส่วนหนึ่งในการขอโควต้าเข้ามหาวิทยาลัยไม่ว่าจะด้านกีฬา ด้านดนตรี ด้านนาฏศิลป์ ด้านจิตกรรม ฯลฯ ซึ่งสามารถนำผลงานเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ทั้งนั้น แต่ทั้งหมดนี้โรงเรียนต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการจัดการซึ่งถ้าเป็นผู้บริหารที่หวังผลด้านวิชาการอย่างเดียวถือว่าไม่จำเป็น โดยเฉพาะด้านกีฬาถึงแม้จะเก่งได้รางวัลอย่างไรก็ตามต้องใช้งบประมาณในการจัดการบริหารจำนวนมาก เข้าเรียกว่ายิ่งเก่งยิ่งเปลืองเพราะถ้าชนะในระดับจังหวัดต้องส่งแข่งระดับภาค ถ้าชนะระดับภาคต้องส่งแข่งระดับประเทศ ทุกขั้นตอนต้องใช้งบประมาณ จะเห็นได้ว่าผู้ฝึกสอนกีฬาหลายโรงเรียนประสบกับปัญหานี้ จะเจอวลีของผู้บริหาร เช่น "แข่งไปก็แพ้ส่งแข่งทำไม" "ไปแข่งก็เสียหน้าถ้าแพ้กลับมา" "แพ้แล้วไปแข่งเสียศักดิ์ศรี" เป็นต้น
ฟ้าขาว?? โรงเรียนอะไรอ่ะ ถ้าแต่หมายถึงโรงเรียนประจำจังหวัดไม่ใช่สีฟ้าขาวแน่นอน แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ขอบคุณที่ให้ความสนใจครับ[/color]
|
|
|
|
|
7
มัธยม
 
ออฟไลน์
กระทู้: 936

....
|
 |
« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2012, 23:18:12 » |
|
ผมคิดมานานแล้วตั้งแต่สมัยเรียนที่นั่น สมัยนั้นยาม้าระบาด (ยังไม่เปลี่ยนเป็นยาบ้า) มีช่วงหนึ่งสนามหญ้าไม่ให้เล่น หญ้ามันจะตาย (นานเลยกว่าจะเปิดให้เล่นได้) เด็กไปเตะบอลที่ไหนก็ไล่ สนามบาสมันว่างไปเตะบอลก็ไล่ ไปตรงไหนก็ไล่ บางทีโดนทำโทษอีก เพื่อนๆ หลายคนที่เคยเตะบอลด้วยกันก็ค่อยๆ ทยอยไปสูบม้ากันทีละคนสองคน แล้วก็รณรงค์กีฬาต้านยาเสพติดเพื่ออะไรครับ ผมว่าหญ้าที่ตายเทียบไม่ได้กับอนาคตของเด็กเลยนะครับ 
|
|
|
|
lovinroom
มัธยม
 
ออฟไลน์
กระทู้: 683

Tar ItSaRa-D
|
 |
« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2012, 23:18:54 » |
|
ในมุมมองของผม ผมคิดว่าผู้บริหารมีเหตุผลหลายอย่างที่จะตัดสินใจไมส่งทีมกีฬาเข้าแข่งขันนั้น โรงเรียนนี้ผมคิดว่าคงเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดเชียงรายชื่อดังสีประจำโรงเรียนคิดว่าฟ้าขาว จะเห็นได้ว่าผู้บริหารของโรงเรียนนี้เน้นการพัฒนาในด้านสถานที่และวิชาการ เพราะก่อนที่จะตัดสินใจส่งแข่งกีฬาให้นักกีฬานั้น โรงเรียนนี้ต้องนำงบประมาณในการทำรั่วประตูโรงเรียนให้สวยงานสมกับเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด และต้องซื้อจอ led monitor เพื่อที่จะติดตั้งให้บุคคลภายนอกเห็นว่ามีความทันสมัย และล้าสุดต้องจัดกิจกรรมเลี้ยงตอนรับผู้บริหาร (ผอ.) จากทั่วประเทศในการสังสรรค์โดยจัดให้มีเวทีขนาดใหญ่และโต๊ะจีนชื่อดังมาบริการ จึงต้องใช้งบประมาณจำนวนมากเพื่อใช้ในการดูแลผู้บริหารที่มาร่วมงานเพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียงจังหวัดเชียงราย ส่วนเรื่องกีฬาเป็นเรื่องเล็กๆ นักเรียนที่เป็นนักกีฬาก็มีจำนวนน้อย ไม่จำเป็นต้องสนับสนุน ต้องเน้นสนับสนุนด้านวิชาการที่สามารถทำได้ง่ายใช้งบประมาณน้อย ครูก็ไม่จำเป็นต้องสอนมากเพราะนักเรียนที่เก่งๆ ในจังหวัดส่วนมากก็อยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งนักเรียนเก่งอยู่แล้ว และนักเรียนก็ฉลาดพอที่จะไปเรียนพิเศษเพื่อให้ตัวเองเก่งขึ้นจะได้ไม่ทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียงส่วนโรงเรียนก็สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการส่งไปแข่งกิจกรรมด้านวิชาการจะเห็นว่าโรงเรียนและนักเรียนได้ประโยชน์ทั้งคู่ร่วมทั้งครูผู้สอนก็จะได้ประโยชน์ไปด้วย Win win win และที่เห็นอยู่ตอนนี้ก็คือโรงเรียนก็สนับสนุนให้นักเรียนโดดเรียนไปติวที่เชียงใหม่ นักเรียน ม.6 ไม่มาเรียนเกินกว่าครึ่ง โครงการของเอกชนที่โฆษณาทำให้ดูเหมือนว่าถ้ามาติวและดื่มเครื่องดื่มของเขาแล้วทำให้ได้เป็นหมอ ถ้าผมเป็นผู้บริหารผมก็ต้องทำเช่นนี้ เพราะเขาได้ เราได้ และผู้ปกครองก็พอใจ ส่วนกีฬาหรือครับก็ช่างหัวมัน เพราะผู้บริหารโรงเรียนนี้ไม่แคร์หลอกครับว่ากีฬาจะเก่งหรือทำให้ชื่อเสียงให้โรงเรียนมานานเท่าไหนเพราะในเวลาเช่นว่านี้วิชาการเท่านั้นเป็นสิ่งสำคัญ นักเรียนทุกคนต้องเรียนเก่ง ใครเรียนไม่เก่งก็ไม่ต้องสอนให้ไปเรียนพิเศษเอาเอง ถ้าตกได้เกรด 0 ก็จำเป็นให้ผ่านและให้จบเพราะจะทำให้โรงเรียนมีนักเรียนซ้ำชั้นทำให้ภาพพจน์และชื่อเสียงโรงเรียนเสียหาย ไม่จำเป็นต้องสนใจว่านักเรียนส่วนหนึ่งที่เรียนไม่เก่งแต่อยากมีกิจกรรมและต้องการใช้เป็นส่วนหนึ่งในการขอโควต้าเข้ามหาวิทยาลัยไม่ว่าจะด้านกีฬา ด้านดนตรี ด้านนาฏศิลป์ ด้านจิตกรรม ฯลฯ ซึ่งสามารถนำผลงานเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ทั้งนั้น แต่ทั้งหมดนี้โรงเรียนต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการจัดการซึ่งถ้าเป็นผู้บริหารที่หวังผลด้านวิชาการอย่างเดียวถือว่าไม่จำเป็น โดยเฉพาะด้านกีฬาถึงแม้จะเก่งได้รางวัลอย่างไรก็ตามต้องใช้งบประมาณในการจัดการบริหารจำนวนมาก เข้าเรียกว่ายิ่งเก่งยิ่งเปลืองเพราะถ้าชนะในระดับจังหวัดต้องส่งแข่งระดับภาค ถ้าชนะระดับภาคต้องส่งแข่งระดับประเทศ ทุกขั้นตอนต้องใช้งบประมาณ จะเห็นได้ว่าผู้ฝึกสอนกีฬาหลายโรงเรียนประสบกับปัญหานี้ จะเจอวลีของผู้บริหาร เช่น "แข่งไปก็แพ้ส่งแข่งทำไม" "ไปแข่งก็เสียหน้าถ้าแพ้กลับมา" "แพ้แล้วไปแข่งเสียศักดิ์ศรี" เป็นต้น
ฟ้าขาว?? โรงเรียนอะไรอ่ะ ถ้าแต่หมายถึงโรงเรียนประจำจังหวัดไม่ใช่สีฟ้าขาวแน่นอน แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ขอบคุณที่ให้ความสนใจครับ[/color]
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 04 กันยายน 2012, 22:55:29 โดย lovinroom »
|
IP :
บันทึกการเข้า
|
รับงานโครงสร้าง รีโนเวท ต่อเติม ตกแต่ง รับทำทีละงานไม่รับงานซ้อน สนใจติดต่อได้ครับ 0926429923
|
|
|
|
a_pong
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี

ออฟไลน์
กระทู้: 1,754
|
 |
« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 02 กันยายน 2012, 10:43:20 » |
|
ผมคิดมานานแล้วตั้งแต่สมัยเรียนที่นั่น สมัยนั้นยาม้าระบาด (ยังไม่เปลี่ยนเป็นยาบ้า) มีช่วงหนึ่งสนามหญ้าไม่ให้เล่น หญ้ามันจะตาย (นานเลยกว่าจะเปิดให้เล่นได้) เด็กไปเตะบอลที่ไหนก็ไล่ สนามบาสมันว่างไปเตะบอลก็ไล่ ไปตรงไหนก็ไล่ บางทีโดนทำโทษอีก เพื่อนๆ หลายคนที่เคยเตะบอลด้วยกันก็ค่อยๆ ทยอยไปสูบม้ากันทีละคนสองคน แล้วก็รณรงค์กีฬาต้านยาเสพติดเพื่ออะไรครับ ผมว่าหญ้าที่ตายเทียบไม่ได้กับอนาคตของเด็กเลยนะครับ  ถูกต้องครับ.....
|
|
|
|
ผมเองครับ
ระดับ ป.ตรี
  
ออฟไลน์
กระทู้: 1,086
|
 |
« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 02 กันยายน 2012, 13:47:40 » |
|
ผมคิดมานานแล้วตั้งแต่สมัยเรียนที่นั่น สมัยนั้นยาม้าระบาด (ยังไม่เปลี่ยนเป็นยาบ้า) มีช่วงหนึ่งสนามหญ้าไม่ให้เล่น หญ้ามันจะตาย (นานเลยกว่าจะเปิดให้เล่นได้) เด็กไปเตะบอลที่ไหนก็ไล่ สนามบาสมันว่างไปเตะบอลก็ไล่ ไปตรงไหนก็ไล่ บางทีโดนทำโทษอีก เพื่อนๆ หลายคนที่เคยเตะบอลด้วยกันก็ค่อยๆ ทยอยไปสูบม้ากันทีละคนสองคน แล้วก็รณรงค์กีฬาต้านยาเสพติดเพื่ออะไรครับ ผมว่าหญ้าที่ตายเทียบไม่ได้กับอนาคตของเด็กเลยนะครับ  ถูกต้องครับ..... น่าเสียใจครับ ในฐานะบรรดาเรา...คนหนึ่ง สมัยก่อนยังเคยมีโปรแกรมศิลป์-พลานามัย เรามีนักกีฬาระดับเขตการศึกษา นักกีฬาเยาวชน(ฟุตบอล)ไปแข่งในระดับประเทศ มีนักกีฬาทีมชาติ เรียนอยู่ด้วยกัน ถึงวันนี้มันหายไป เหลือไว้เพียงตำนานของรุ่นพี่ๆ บรรดาศิษย์เก่าที่มีการแข่งขันกีฬาประเพณีเป็นประจำทุกปี ใช้เวลาแข่งขัน 4 เสาร์ และก็คงเป็นแห่งเดียวในประเทศไทย ที่ใช้ระยะเวลาแข่งขันกีฬายาวนานที่สุด
|
|
|
|
|
|
|
~SmR~
ชั้นประถม

ออฟไลน์
กระทู้: 347

|
 |
« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2012, 17:45:40 » |
|
ผมว่าสมัยนี้มันธุรกิจไปหมดแล้ว .. คุณว่าระหว่างโรงเรียนได้ชื่อว่า มีเด็กเรียนเก่งจำนวนมากที่สุดของจังหวัด กับ มีเด็กนักกีฬาจำนวนมากที่สุดในจังหวัด ถ้าผู้ปกครองเด็กทั่วไปอยากให้ลูกตนเองเข้าเรียนโรงเรียนไหน ?  แต่กีฬามันก็มีส่วนดีหลายๆอย่างมากมาย แต่โรงเรียนก็คงเลือกวิชาการมากกว่า เอาง่ายๆ โรงเรียนกีฬาจังหวัด , มหาวิทยาลัยพละศึกษา กับ โรงเรียนสา ......... , มหาวิทยาลัยแม่ ............ คุณว่าจำนวนนักเรียน นักศึกษา กับ ค่าเทอม แบบไหนที่พวกผู้บริหารโรงเรียนต้องการ 
|
|
|
|