Ironmaiden
ระดับ :ป.โท
ออฟไลน์
กระทู้: 4,531
|
|
« เมื่อ: วันที่ 11 สิงหาคม 2012, 10:04:27 » |
|
ถ้าถามอาจารย์มหาวิทยาลัยส่วนหนึ่งว่า ควรจะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยที่อาจารย์เหล่านั้นสอนหรือทำการวิจัยอยู่หรือไม่ คำตอบกี่ครั้งกี่ครั้งก็คือ ควรอย่างยิ่ง แต่ถ้าถามคานาโมริ ฮิรู นักธรณีฟิสิกส์ว่า ควรไปเรียนที่ CALIFORNIA INSTITUTE OF TECHNOLOGY (CALTECH) หรือ "แคลเทค" หรือไม่ เขาจะขอดูทรานสคริปต์และผลการสอบ SAT ก่อน "แคลเทคเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีสำหรับนักศึกษาที่เก่ง แต่ถ้าคุณไม่ได้เตรียมตัวมาอย่างดีแล้ว คุณจะไปไม่รอด"
แคลเทคอยู่ห่างจากลอส แอลเจลิสไปทางทิศเหนือประมาณ 16 กิโลเมตร โดยตั้งอยู่ที่ย่านชานเมืองซึ่งเป็นเขตที่อยู่อาศัยของชนชั้นกลางระดับบนในเมืองพาสซาเดนา ในเนื้อที่ 50 เฮคตาร์ที่ร่มครึ้มไปด้วยต้นไม้ดูสงบเงียบ อาจจะเป็นเพราะว่านักศึกษาที่มีอยู่ 2,000 คน ส่วนใหญ่อยู่ในห้องเรียนหรือในห้องทดลอง
นิตยสารนิวสวีค ยกย่องให้แคลเทคเป็นหนึ่งในสิบมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลก ในขณะที่คู่แข่งของแคลเทคคือ สถาบันเอ็มไอที ซึ่งมีนักศึกษามากกว่า 5 เท่า เป็นที่หนึ่งในเรื่องวิศวกรรม แคลเทคก็ไม่มีใครทาบได้ในเรื่องการวิจัยทางวิทยาศาสตร์
ความรู้ใหม่ ๆ ทางวิทยาศาสตร์เกิดขึ้นที่แคลเทค อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ละทิ้งความคิดเรื่องห้วงอวกาศที่หยุดนิ่ง แล้วยอมรับแบบจำลองจักรวาลที่แผ่ขยายตัวออกไปก็ที่นี่ ไลนัส พอลลิ่งค้นพบธรรมชาติของพันธะเคมี ซึ่งเป็นคำอธิบายว่า อะตอมรวมตัวกันเป็นโมเลกุลได้อย่างไรซึ่งเป็นทฤษฎีที่เป็นพื้นฐานของการผลิตสารสังเคราะห์ การค้นพบโพสิตรอน การประดิษฐ์เครื่องวัดแผ่นดินไหว ความสัมพันธ์ของโครโมโซมกับการถ่ายทอดพันธุกรรม และการกำหนด "ริคเตอร์" ขึ้นมาเป็นหน่วยวัดความรุนแรงของแผ่นดินไหว โดยชาร์ล ริคเตอร์
นักวิชาการบางคนเชื่อว่าแคลเทคเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในอเมริกา ที่แน่ ๆ ก็คือเป็นที่ที่สอบเข้ายากที่สุดแห่งหนึ่ง แต่ละทีมีผู้สมัครราว ๆ 1,900 คนแย่งกันเข้าไปเรียนชั้นปีที่หนึ่งที่สามารถรับได้แค่ 215 คน กระนั้นก็ตาม ความเก่งกาจก็ไม่ใช่หลักประกันว่าจะได้เขาเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ปีที่แล้วนักเรียนไฮสกูลหลายร้อยคนไม่สามารถสอบผ่านเข้าเรียนได้ ส่วนคนที่ได้รับการคัดเลือกก็มีคะแนน SAT เฉียด ๆ 1,400
หลังจากสอบผ่านเข้าไปแล้ว ก่อนที่จะเลือกเรียนวิชาเฉพาะ นักศึกษาทุกคนจะต้องผ่านวิชาบังคับคือ ต้องศึกษาวิชาคณิตศาสตร์เป็นเวลา 2 ปี วิชาฟิสิกข์ 2 ปีและเคมีอีก 1 ปี ถึงแม้ว่าจะเรียนหนัก แต่นักศึกษาในระดับปริญญาตรีซึ่งมีอยู่ประมาณ 800 คน ก็ได้ประโยชน์จากสัดส่วนนักศึกษา 3 คนต่ออาจารย์ 1 คน นอกจากนี้แคลเทคยังมีผู้ได้รับรางวัลโนเบลสอนและทำงานอยู่ถึง 21 คน
"แคลเทคไม่ได้เป็นเพียงห้องเรียนที่ดีที่สุดเท่านั้น ยังเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการทำวิจัยด้วย" YEH-NAI-CHANG ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์ และผู้เชี่ยวชาญด้านซุปเปอร์คอนดัคเตอร์วัย 31 ปีจากไต้หวันกล่าว "แคลเทคเป็นที่ที่นักศึกษาเอเซียจะหาความก้าวหน้าให้กับตัวเองได้อย่างไม่ยากเย็น เพราะว่ามหาวิทยาลัยมีทุนให้ และสนับสนุนการทำวิจัยส่วนตัวด้วย"
แม้ว่าจะอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยเซาทเทอร์น แคลิฟอร์เนีย แต่บรรยากาศของความสนุกสนานแบบยูเอสซีเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ยากที่แคลเทค นักศึกษาที่นี่ตั้งหน้าตั้งตาเรียนกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ถึงขนาดว่า ในช่วงการสอบ ทางมหาวิทยาลัยต้องกระจายเสียงเพลง THE RIDE OF THE VALKYRIES ทุก ๆ เช้าตอน 7 โมง เพื่อปลุกนักศึกษาซึ่งดูหนังสือจนหลับคาโต๊ะให้ตื่นทันเข้าห้องสอบ
ความกดดันจะมีมากแค่ไหนก็ตาม WEN HSICH นักศึกษาด้านวิศวกรรมไฟฟ้า วัย 20 ปีจากฮ่องกง ก็ยังสมัครเข้าเรียนที่แคลเทค และเป็นลูกศิษย์ของ TAI YU - CHONG ผู้เชี่ยวชาญด้านไมโครแมชชีนเนอรี่ อาจารย์และลูกศิษย์คู่นี้กำลังพยายามสร้างดิสก์ไดร์ฟขนาดจิ๋วที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่ถึงหนึ่งนิ้ว เขายอมรับว่า "มีคนจำนวนมากเห็นว่าเราทำตัวเหินห่างจากคนอื่น ๆ ความจริงแล้วใครก็ต้องการมีชีวิตทางสังคมทั้งนั้น แต่ว่าเราแทบจะไม่มีเวลาว่างเลย เรามีงานปาร์ตี้บ้างเหมือนกัน แต่การดื่มจนเมามายในวันสุดสัปดาห์ถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี
ทีมกีฬาของแคลเทคซึ่งมีตัวบีเวอร์ที่ขยันขันแข็งเป็นสัญญลักษณ์นำโชค ไม่ค่อยจะประสบชัยชนะมากนัก แต่ถ้าเป็นการประลองทางสติปัญญาละก็ แคลเทคมักจะไม่เป็นรองใคร ปี 1984 ในฤดูการแข่งขันฟุตบอลที่มีชื่อว่า โรส โบว์ ขณะที่ยูซีแอลเอนำอิลลินอยส์อยู่ 35-3 ก็มีมือดีเข้าไปเปลี่ยนวงจรไฟฟ้า แก้ข้อความบนสกอร์บอร์ดเป็น แคลเทค 38 เอ็มไอที 9 คนดูในสนามทุกคนรู้ว่าเป็นฝีมือของใคร และในวินาทีนั้น เครื่องเล่นเทปที่แอบต่อเข้ากับเครื่องขยายเสียงของสนามก็เล่นเพลง THE RIDE OF THE VALKYRIES
|